Review - OLAPLEX กู้ชีวิตผมเสีย หัววุ้น
rabbitllcute.telling
47
27
จำได้หรือไม่ช่วงชีวิตหนึ่ง ที่รู้สึกว่า ฉันจะต้องทำสี ดัดผม ยืดผม อัพเดทแฟชั่นทุกเดือนอารมณ์จะฟินๆ แต่หนังศรีษะเป็นยังไงค่อยว่ากัน
คือเราเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่กับช่วงนั้นเยอะมากติดต่อกันหลายปีทั้งสุดปัง สุดพังทุกช่องทางจริงๆ แวะไปย้อนอดีตกันหน่อย
ทุกเฉดที่สามารถบรรเลงลงไปได้ คือคันมือมากแล้วชอบเพราะทำสีเองด้วยชอบที่จะผสมสีใหม่ๆ ลองผิดลองถูกทุกวิธีทาง
โดยเฉพาะการฟอก รักมากก รักการฟอกผม คือดูจากสีจะเห็นเลยว่าเป็นคนทำโทนสว่าง ค่อยข้างบ่อย สว่างจนขาวสุดกันไปเล้ยยยย
เนื่องจากทุกเหรียญมีสองด้านเสมอด้านบนเป็นภาพที่รวบรวมสิ่งที่ประสบความสำเร็จทั้งหมดไว้ที่พอนึกถ่ายเก็บได้
มาดูเหรียญอีกด้านกันบ้าง
มองผ่านๆอาจจะมองว่าสวยงามดี แต่ดูเส้นผมดีดีจ้า หัววุ้นนนน แล้วแม่
การฟอกผมแนะนำให้ศึกษาจากผู้ที่เชียวชาญหรือทดสอบก่อนว่าเราสามารถทำเองได้ไหมนะคะ ไม่แนะนำให้ทำเองทั้งหมด เพราะบางคนแพ้มากก็มี
การแก้ปัญหาเวลาผมพังที่โบ๊ททำมาตลอดคือ "ก็ตัดมันเลยซิคะ!!"
เรามาถึงจุดที่วันนึงมันสั้นจนไม่มีอะไรให้สามารถตัดได้แล้วนอกจากโกน และต้องแก้ปัญหาด้วยการลงสีดำทับเพื่อให้เส้นผมดูหนาขึ้นและสามารถออกไปทำงานได้
สุดท้ายตัดสินใจ ศึกษาตัวที่สามารถกู้ชีพผมอย่างจริงจัง พร้อมทั้งดูแลหนังศรีษะของเราไปด้วย ก็มาลงเอยที่ OLAPLEX ยอมรับว่าตอนแรกไม่อินเลยวันนี้จะมาคุยให้ฟังว่าการเดินทางของเส้นผมของเราไปทางไหนต่อ
⚡️⚡️⚡️⚡️⚡️⚡️
ในทุกตัวของ OLAPLEX จะมี
Bis-Aminopropyl Diglycol Dimaleate (บีชอมิโนโพที่ ไดไกรโคร ไดมาเลท)
ช่วยฟื้นบำรุงคืนความแข็งแรงและความสมบูรณ์ให้กับเส้นผม เชื่อมบอนด์ และปกป้องเส้นผมระหว่างทำสารเคมี ฟอกผม ทำสี ดัดผม ยืดผม
ไปดูตัวที่เราหยิบมาฝากวันนี้กัน
NO.3 Hair perfector 1,400 -
ตัวดังเลยถ้าจะพูดถึง OLAPLEX ไม่พูดถึงคนนี้ก่อนไม่ได้ นางเป็นทรีตเมนต์เข้มข้น ที่ช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงและดูสุขภาพดีอีกครั้ง ช่วยลดเรื่องการชี้ฟู ผมแตกปลาย ต่างๆ ใช้ได้กับเส้นผมทุกประเภท เมื่อก่อนช่วงที่ชอบทำสีผมจัดๆ กัดเอง กัดแบบสุดซอยกัดจนผมเป็นวุ้นแบบหวีไม่ได้ต้องตัดทิ้งอย่างเดียว นางช่วยชีวิตเราไว้มากกกกกกกกกกก
วิธีใช้
ปริมาณกะตามชอบ แต่ต้องไม่น้อยกว่าเหรียญสิบนะ ลงไปให้ทั่วหนังศรีษะจนปลายผมเลย บนพื้นผมที่หมาดๆ หมาดนะไม่เปียก Please** จากนั้นทิ้งไว้ 10-15 นาทีเป็นอย่างน้อยใครจะไว้นานกว่านี้ก็แล้วแต่เลย จากนั้นล้างน้ำออก แล้วสระผมลงครีมนวดปกติ
ผลลัพธ์
ผมนิ่มขึ้นมากทิ้งตัวสวยงามหวีลื่นขึ้นเยอะคนที่ผมสุขภาพดีอยู่แล้วใช้ตัวนี้อาจจะยังไม่ว้าว เราเองมาว้าวววตอน หัววุ้นนี่เหละค่ะ อกอีแป้นจะแตก ถึงมีชีวิตรอดสามารถหวีผมไดร์ผมไปทำงานทำการได้
หลังจากติดใจตัวแรกจึงเป็นที่มาของอีก 2 เซียนที่เพิ่มมาในกรุ NO.6, NO.7
NO.6 Bond Smoother 1,400 -
NO.7 Bonding Oil 1,400 -
วิธีใช้
ทั้งสองตัวคือ Leave-in คือใช้ในขั้นตอนหลังสระผม จะก่อนหรือหลังไดร์ผมก็ได้ และยังสามาถใช้ในขณะที่ผมเราแห้งได้ด้วย อาววซี๊ยยย
แล้วจะใช้ทำไมทั้งสองตัว ???? - ตอนแรกเราก็สงสัยความต่างคือ เนื้อผลิตภัณฑ์ ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพของเส้นผมมากขึ้น
NO.6 Bond Smoother
เค้าจะเป็นเนื้อครีมช่วยลดการชี้ฟูได้ถึง 72 ชม. เหมาะกับผมเส้นใหญ่และผมที่ต้องการความกระชับอยู่ทรง กลิ่นหอมผู้ดี
NO.7 Bonding Oil
มาในรูปแบบของเซรั่มเนื้อออย์ เนื้อเบามากกก เหมาะสำหรับผมเส้นเล็ก ผมดัด ผมที่ไม่ต้องการความมีน้ำหนักมาก อันนี้ไม่อวยนะ ส่วนตัวเป็นคนผมเส้นเล็กมาก เวลาใช้ออยมันจะมีปัญหาว่าหัวมัน ลีบ!! ตกบ่ายเอาละ เป็นแพะเลย แต่!!! คนนี้ไม่เป็น หัวเราไม่แบนเลิฟมากกกก
และวิธีสำคัญใช้รวมกันไปเลยซิคะ !! อัตราส่วน 1:1 ลงให้ทั่วจรดปลายผมก่อนไดร์ผม ผมไม่ฟื้นชาตินี้ไม่รู้จะไปฟื้นชาติไหนแล้ว เราใช้จนจะหมดแล้ววววววเนี่ย ดูววววว ปีกว่านะ set นี้ คุ้ม !!!
ออกเงินเองเจ็บเอง สวยเอง อวยตัวเองด้วยยย 😂 ใครมีอะไรอยากแชร์เพิ่มเติมแวะมาพูดคุยกันน้าา