เจาะลึกเส้นทางBrand Ambassadorแห่งวงการHigh Fashion

45 15
ชวนมาติดตามเรื่องราวน่าสนใจของ brand ambassador จาก brand แฟชั่นชั้นสูงกันค่ะ


รู้หรือไม่?  

การทำสัญญาเป็น ambassador ให้กับbrand ดัง เคยเป็นเรื่องที่คนดัง A List เมินมาก่อน


เรื่องนี้อาจจะทำให้คุณแปลกใจ เพราะการคว้าสัญญากับ brand แฟชั่นชั้นสูงแทบจะเป็นสิ่งกำหนดสถานะความโด่งดังทั้งวงการแฟชั่นและวงการบันเทิง เพราะมันสามารถการันตีความทรงอิทธิพลของคนดังที่ดึงดูดให้ brand ชั้นนำทุ่มเงินเพื่อแย่งตัวมาเซ็นสัญญาร่วมงานกัน หากสำรวจจากทำเนียบ A-Lister แล้ว มีศิลปินดาราเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตั้งท่าไม่ยอมรับงานนี้ ตัวอย่างคือ Adeleที่ยืนกรานว่าจะสร้างผลงานทางดนตรีเท่านั้น ไม่สนใจเรื่องการโฆษณาตัวเองผ่าน brand หรือsuperstar

เมื่อหลายปีก่อน การสร้างชื่อเสียงในฐานะ brand ambassador หรือที่ได้ยินบ่อยไม่แพ้กัน ในคำว่าface (หน้าตา) ของbrand, brand representative และ spokesperson เคยถูกมองว่าเป็นงานของเหล่า supermodel นี้ อย่างOmega แบรนด์นาฬิกาหรูที่คว้า Cindy Crawford มาเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 1995 จวบจนปัจจุบัน (เธอคือ brand ambassador ที่ยาวนานที่สุดของ brand) แต่ในช่วงเวบาเดียวกัน ในกลุ่มของนักร้องนักแสดงระดับtop หลายคนจะวางตัวออกห่างจากงานนี้

น่าแปลกรึเปล่าล่ะ? ลองมาฟังคำยืนยันของJennifer Lopez ในเรื่องทัศนคติที่แตกต่างจากอดีตดูสิ

   


Jennifer Lopez ผู้สร้างชื่อในฐานะfashion iconมายาวนานตั้งแต่ยุค 90sได้เล่าว่า


"ช่วงเริ่มแรกในชีวิตการงาน ฉันเลือกทำงานเป็นbrand ambassador ของบริษัทอย่าง L’Oréal และ Louis Vuitton ในขณะที่ศิลปนคนอื่นๆไม่ค่อยจะทำแบบนั้นกัน   มันเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับเหล่าศิลปินหรือนางเอกที่จะรับงานประเภทนี้"
"แต่ฉันเชื่อว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะได้เห็นคนที่มีรูปลักษณ์แบบตัวฉันปรากฏอยู่ในภาพโฆษณา  เพราะมันมักถูกนำเสนอแบบเดิมๆมาโดยตลอด  ในตอนนั้น สำหรับฉันแล้วมันสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นสาวละติน่าจากภาพเหล่านั้นบ้าง    ฉันคว้าโอกาสนี้มาและรู้ดีว่ามันคือสิ่งที่จะสร้างจุดเปลี่ยน"


การนำเสนอแบบเดิมๆที่ J Lo พูดถึง ก็คือการใช้ brand ambassador และ spokesmodel จากมาตรฐานโลกแฟชั่นสูงที่ขาดความหลากหลาย (diversity) นั่นเองค่ะ

เหตุผลหนึ่งที่งาน brand ambassador ยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนดัง A-List ในช่วงเวลานั้น ก็อาจจะมาจากการหวั่นเกรงว่าจะถูกตราหน้าว่าหิวเงินจนกระทบต่อภาพลักษณ์ แม้ว่าการตลาดแบบ Celebrity branding จะดำเนินมายาวนานก่อนยุค 90s แต่เมื่อสังเกตจากน้ำเสียงจิกกัดของ EW สื่อดังที่รายงานข่าวเรื่อง J Loเซ็นสัญญากับ LVMH ว่า เหล่าเพื่อนฝูงที่มาจากย่านBronx ที่เธอเติบโตมาจะรู้สึกยังไงที่เห็นเธอทำเงินเม็ดโตได้จากการยืนโพสข้างกระเป๋าหรู หรือแม้กระทั่งประชดว่า จะมีสักกี่คนจากละแวกชนชั้นแรงงานที่สามารถซื้อกระเป๋า LV ได้







ทั้งที่J Loโด่งดังและมีภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่สง่างาม, sexy และทรงอิทธิพลตามที่ดีไซน์เนอร์ปรารถนา แต่กลับมีข่าวลือว่า เธอแค่รับงานเพื่อหวังเรียกร้องขอสินค้า LV มาใช้ฟรีๆ ถ่ายแบบเสร็จก็โกยของกลับบ้านจน brand เอือม ไม่ยอมต่อสัญญา ทำให้ Marc Jacobs ที่ทำหน้าที่creative director ในขณะนั้นต้องออกมาปกป้องว่า
brand หยิบยื่นทุำอย่างให้เธอด้วยความเต็มใจ มีดีไซน์เนอร์คนไหนบ้างที่ไม่อยากให้J Lo ใส่เสื้อผ้าที่ตัวเองออกแบบ?


หลายปีที่ถูกปล่อยข่าวลือว่าทำตัวเป็นdiva นิสัยเสีย J Lo ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเธอคือของจริงและสร้างการยอมรับนับถือจากผู้คนมากมาย ล่าสุดเมื่อมีการประกาศว่าเธอคือ New Face Of Coach ก็ไร้เสียงติฉินนินทาตามมาเหมือนกับที่เธอต้องเคยเจอในอดีต

เป็น Brand Ambassador ทำเงินได้มากแค่ไหน?


วงการแฟชั่นชั้นสูงคือศูนย์รวมธุรกิจที่มีเงินหมุนเวียนมหาศาลไม่แพ้แวดวงอื่น ค่าตอบแทนจากงาน brand ambassador จะขึ้นอยู่กับระดับความเป็น superstarและเหลี่ยมมุมในการเจรจา มีรายงานว่า Brad Pitt คว้าไปถึง $7 ล้านจากข้อตกลเป็น face of Chanel No.5 ส่วน Nicole Kidman ที่เคยรับตำแหน่งเดียวกัน ฟันไปเต็มๆที่ตัวเลข $12 ล้าน หรือถ้าพูดถึงรุ่นเยาว์ลงมา Selena Gomez ที่อยู่ในlistของคนดังที่มีผู้ติดตามมากที่สุด ก็มีการยืนยันจากสื่อดังว่า เธอได้รับค่าตอบแทนจาก Coach ถึง $10 ล้าน(ปัจจุบันเธอมีผู้ติดตามบน Instagram 272 ล้านคน)
หากเป็นคนดังระดับ top ที่ทำสัญญากับbrandต่อเนื่องหลายปี ตัวเลขยิ่งพุ่งสูง ดังรายงานที่ว่า หลังจากCharlize Theron ร่วมงานกับ Dior มาเกิน11 ปีทำให้มูลค่าสัญญาสูงถึง $55 ล้าน

แม้จะเป็นการทำสัญญาผูกพันยาวและต้องยึดปฏิบัติตามกฎที่ได้ตกลงกับ brand เพื่อรักษาภาพลักษณ์ดีงามและไม่คอยเกี่ยงงาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโฆษณา, เตรียมตัวตัดชุดแบบ custom เพื่ออวดโฉมเลิศหรูบนพรมแดง, เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ หรือช่วยประชาสัมพันธ์brandผ่านช่องทางต่างๆ แต่การทำหน้าที่ brand ambassador ฟังดูเหนื่อยน้อยกว่าจากการตรากตรำถ่ายหนังหรือทัวร์คอนเสิร์ตเป็นเวลายาวนาน      ทั้งยังช่วยเสริมให้คนดังดู'แพง' มากขึ้นไปอีก    คุณอาจจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่คิดว่า  นี่คืองานที่น่าอิจฉาซะจริงๆ!




นำเสนอตัวตนโดดเด่นโดนใจดีไซน์เนอร์จนถูกยกให้เป็น muse




Rising Star  ตัวเลือกสดใหม่เจาะตลาด generation หนุ่มสาว



ในยุคแห่ง social media   สำหรับ  brand  ยักษ์ใหญ่ที่ต้องฟาดฟันกันเรื่องกระแสที่ช่วยผลักดันยอดขายให้พุ่งปรี๊ด  อาจจะเรยกว่าใครดีใครได้ก็ไม่ผิดนัก  จะเห็นได้จากการประกาศชื่อ Emma Raducanu  นักเทนนิสสาวมหัศจรรย์จากอังกฤษว่าได้รับการแต่งตั้งเป็น The New Face Of Dior   ก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟชั่นไม่น้อย  เพราะหลังจากที่ชนะรายการ  US Open   เธอได้เลือกใส่ minidress จาก Chanel  และเดินทางมาโชว์โฉมใน Met Gala  เป็นครั้งแรกร่วมทีมกับเหล่า ambassador  ของ Chanel ทั้ง Kristen Stewart, Lily Rose Depp และ Pharrell Williams     แต่เดือนต่อมา  Dior ก็เซ็นสัญญากับเธอสำเร็จ   ทั้งยังเปิดตัวบนพรมแดงงานปฐมทัศน์หนัง  James Bond ด้วยชุดราตรี  Dior ที่ทำให้เธอดูไม่ต่างจากดารา  Hollywood

Dior มีชื่อเสียงไม่แพ้ brand อื่นในการดึงตัวนางเอก A-List มาร่วมงาน  เรากำลังพูดถึง  Natalie Portman, Jennifer Lawrence และ Charlize Theron    ทุกคนมีรางวัล  Oscar การันตีสถานะความโด่งดัง    และเมื่อพูดถึง brand ambassador คนล่าสุดคือ Anya Taylor Joy  ก็ได้สร้างความตื่นเต้นกันไม่น้อยเลย  เพราะถึงแม้นางเอกวัย 25 ผู้นี้จะยังไม่คว้า Oscar   แต่ผลงานซีรีส์ Netflix ที่ทำให้เธอเนื้อหอมสุดๆในวงการนักสร้างหนัง   และยังได้รับความนิยมพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องทำให้ฟันธงได้ว่า   ไม่เพียงแต่จะก้าวไปอย่างสวยงามด้วยภาพนางเอกสายการแสดงสุดstrong  แต่เรื่องแฟชั่น& ความงามก็โดดเด่นไม่น้อยหน้านางเอกดังคนอื่นๆ

Dior เพิ่งจะประกาศข่าวเรื่องแต่งตั้ง Anya เป็น ฺbrand ambassador  เมื่อเดือนที่แล้ว  แต่ที่จริงได้ส่งสัญญาณมาพักใหญ่แล้ว      จากความสำเร็จของ The Queen's Gambit ทำให้เธอได้รับเชิญไปเดินพรมแดงงานประกาศรางวัลการแสดงรัวๆ   ทาง brand ได้นำเสนอcontent การเตรียมชุดสวยสำหรับ Anya ผ่านสื่อแฟชั่นชื่อดัง  แม้เธอจะสลับใส่ชุดจาก brand  อื่นบ้าง  แต่ก็เฉิดฉายในชุด Dior เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ Anya เคยเลือกชุดจาก brand ต่างๆ หมุนเวียนเปลี่ยนแนว ทั้ง Gucci, Chanel, Dolce & Gabbana ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น ซึ่งในช่วงปีหลังๆมานี้ จะพบว่า Dior ได้เจาะตลาดกลุ่มคนหนุ่มสาว หรือ Millennials จากเมื่อก่อนที่มีผู้ติดภาพความงามทรงสง่าดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ต่างจากคู่แข่งอีกหลายเจ้าที่จำเป็นต้อง reinvent ทิศทางในการดึงดูดความสนใจจากคนวัยรุ่นใหม่

คุณจะพบว่า Anya คือสาวสวยที่่สนุกกับแฟชั่นแบบไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ดู classic ราวกับนางเอก Hollywood ยุคทอง หรือลุคที่กล้าเสี่ยง และนั่นอาจจะเป็นคุณสมบัติสิ่งที่ creative director ทั้งฝ่ายแฟชั่นและฝ่ายเมคอัพกำลังตามหา



ภาพของ Anya ที่เดินออกจาก afterparty ที่จัดขึ้นสำหรับคนดังที่เข้าร่วมเดินพรมแดงEmmy Awards ก็เป็นอีกหนึ่งการวางแผนอย่างรัดกุมจากทีม Dior แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากทางเดินไปยังรถยนต์ มันอาจจะเป็นลุคที่ผู้คนเห็นอย่างเคยชินจากอิทเกิร์ลอย่าง Kendall Jenner หรือศิลปินสาวแซ่บอย่าง Halsey แต่เมื่อได้เห็นนางเอกดังในtheme ชุดชั้นในผ้าไหมสไตล์ย้อนยุคก็ได้สร้างความฮือฮา  เพราะมันไม่ใช่ลุคที่เราได้เห็นจากนางเอก A-Listบ่อยนัก





หากโด่งดังจากภาพลักษณ์ Fashion Icon  แม้จะมีข่าว'ถูกปลด' จากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ แต่ก็ move onเซ็นสัญญากับแบรนด์คู่แข่งได้แบบเชิดๆเริ่ดๆ


มีพบก็ต้องมีจาก แม้แต่นางเอก A-List ที่ร่วมงานกับbrand หรูมาหลายปีก็เคยตกเป็นข่าวถูกยกเลิกสัญญากะทันหันจนความสัมพันธ์น่าจะอยู่ในขั้นแตกร้าว นั่นคือกรณีของ Marion Cotillard และ Dior นั่นเองค่ะ

ไม่เพียงแต่จะเป็นตัวแทนของกระเป๋า Lady Dior มาตั้งแต่ปี 2008 ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา Marion ขึ้นชื่อเรื่อง brand loyalty นำหน้าใครๆ แม้พวกเราจะเข้าใจว่า อาจจะเป็นข้อปฏิบัติในสัญญาที่ brand ambassador จะต้องเตรียมตัวใส่ชุดสวยแบบ custom เพื่อประชาสัมพันธ์ brand ใน event ใหญ่ แต่ในบางปี Marion จะใส่ Dior ออกงานเล็กงานใหญ่ร่วมๆ 20 ครั้งเลยทีเดียว เธอยังได้รับเลือกให้เป็นผู้สวมใส่ชุดที่ Christian Dior เป็นผู้ออกแบบตัดเย็บที่เก็บรักษามาตั้งแต่ยุค 40s อีกด้วย




แต่เมื่อถึงปี 2017 ก็มีข่าวซุบซิบว่า สาเหตุที่ Marion ไม่ได้เลือกชุด Dior เปิดเทศกาลหนังเมือง Cannes เป็นเพราะเธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้าย หลังจากที่ได้รับข่าวว่า Dior ตัดสินใจปลดเธอจากหน้าที่ brand ambassador โดยที่เธอไม่รู้ตัวมาก่อน ๋ Hollywood Reporter ได้อ้างแหล่งข่าววงในว่า Maria Grazia Chiuri ที่เข้ามารับตำแหน่ง creative director คนใหม่ ต้องการ ambassador ที่เด็กกว่า เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ brand ทำให้ Marion ที่ร่วมถ่ายทำ campaignมาแล้ว15 งานต้องเสียความรู้สึก คำถามที่ตามมาก็คือ จากภาพลักษณ์เดิมที่เมื่อเอ่ยถึง Marion ทุกคนก็นึกถึง Dior จะส่งผลต่อเส้นทางของเธอในวงการแฟชั่นเช่นไร? ก้าวใหม่ของเธอต่อจากนี้คือ brand อะไรนะ?


ตามที่มีผู้คาดการณ์กันไว้ว่า Marion จะเลือกร่วมงานกับ brand สัญชาติบ้านเกิดอีกครั้ง คราวนี้ Chanel ประกาศก้องว่า เธอคือ  brand ambassador และ  new face of Chanel No.5  ที่นางเอกและพระเอกชั้นนำแตะมือเปลี่ยนหน้าที่กันมาแล้วหลายคน  และรับทรัพย์อื้อซ่ากันไปแล้วทั้งนั้น

ไม่เพียงแต่จะถ่าย campaign โฆษณาน้ำหอมสวยๆ แต่เธอจัดเต็มชุด Chanel บนพรมแดงที่ดูหลากหลาย ดังที่ได้เห็นในเทศกาลหนังเมือง Cannes ทั้งชุด metallic ระยิบระยับ ชุดเอี๊ยมสบายๆ และยังมีกางเกงนักปั่นจักรยานฉีกสไตล์ที่เคยเห็นจากตอนร่วมงานกับ Dior และน่าจะฟันธงได้ว่า Chanel ได้กลายมาเป็นตัวเลือกลำดับหนึ่งของ Marionไปแล้ว


Chanel ยกย่องความงามตามธรรมชาติในแบบฉบับสาวฝรั่งเศสของ Marion ไว้ช่างเกินต้านทาน ตรงกับประโยค "je ne sais quoi" หรือเลิศจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ซึ่งตอบโจทย์ความมีเอกลักษณ์ของน้ำหอม No.5


แม้จะไม่ใช่ดาวรุ่ง แต่ดีไซน์เนอร์หลายคนก็ได้ค้นพบแรงบันดาลใจจากคนดังที่มีบุคลิกงามสง่าอยู่เสมอ    การเลือก  brand ambassador ที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่นั้นไม่จำเป็นต้องมาในสไตล์ที่ดูเรียบหรูเสมอไป แต่บุคลิกจะตรงกับคอนเสปท์ที่ brand  มองหา และสามารถปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นไปตาม  season ต่างๆได้    บางครั้งคุณอาจจะได้เห็น Marion ในชุดที่ดูไม่แตกต่างจากสไตล์แบบ Kristen Stewart  แต่ฉายประกายออร่าที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป


ยุทธวิธี Break The Internet


บุคลิกสาวหัวขบถของ Kristen Stewart ถูกใจ Karl Lagerfeld มากจนดึงเธอมาร่วมงานด้วยตั้งแต่ปี 2013 แม้ว่าเขาจะล่วงลับไปแล้ว แต่เธอก็ยังยืนหนึ่งในฐานะ modern muse ของ Chanel เธอเปลี่ยนลุคมาแล้วหลายครั้ง ทำให้พวกเราคุ้นเคยกับความรู้สึกที่หักมุม วันหนึ่งเธออาจจะมาในสไตล์ androgynous แต่อีกวันก็เผยด้านที่feminineหวานละลาย

และแน่นอนว่า ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นเธอเลือกใส่ชุดจาก brand ที่ไม่ใช่ Chanel ออกงาน แม้จะใส่ brand อื่นๆสลับให้เห็นบ้าง แต่สไตล์ที่ชัดเจนของเธอชัดเจนอาจจะทำให้สงสัยว่า นี่เป็นอีกหนึ่งดีไซน์จาก Chanel หรือไม่? ยิ่งเป็นงานช้างอย่าง Met Gala, เทศกาลหนัง และงานประกาศรางวัลต่างๆ ก็ทำให้หลายคนฟันธงไปแล้วว่าต้องใส่ Chanel โดยไม่ต้องตามไอดี





แม้ว่า Kristen จะไม่ใช้ social media และถูกจัดให้เป็นคนดังที่หวงความเป็นส่วนตัว  แต่เธอก็เคยสร้างความเกรียวกราวในโลกออนไลน์จากการปรากฏตัวในเทศกาลหนังเมือง Venice     ทั้งๆที่พวกเราต่างรู้อยู่แล้วว่า  เธอมีขาเรียวเรียบเนียนน่าอิจฉา และยังเคยใส่ชุดสั้นออกงานมาแล้วหลายครั้ง   แต่เมื่อได้เห็นจัมป์สูทผ้าทวีดที่สั้นระดับ hot pants ที่นิยมในหมู่ไอดอลเกาหลีก็ต้องร้อง wow!

ขุดที่ดูจากบางมุมเหมือนกับใส่แค่เสื้อไม่มีท่อนล่างทำให้ นิตยสาร InStyle วิจารณ์ว่า นี่คือชุดจัมป์สูทที่สั้นที่สุดในโลก!    หลายคนมั่นใจว่า  นี่คือยุทธการโพรโมทด้วยการboostพลังคนดังนั่นเอง   Kristen ใส่สั้นบ่อยจนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่  แต่เมื่อขยับความยาวของชุดขึ้นไปอีก  สูทผ้าทวีดที่เป็น signatureของ Chanel ก็เปลี่ยนบรรยากาศให้ดูซุกซนยั่วเย้าจนกลายเป็น talk of the town      มีความเป็นไปได้ว่า ลุคนี้อาจจะดึงดูดความสนใจากชาวเน็ทได้ซะยิ่งกว่าชุดChanel haute couture ที่เธอใส่ถ่าย poster ประกอบหนัง Spencer ซึ่งใช้เวลาตัดเย็บนับพันชั่วโมง 




Global Brand Ambassador จากตะวันออกที่มาแรงฉุดไม่อยู่


จากความสำเร็จของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ที่ขยายอิทธิพลไปยังหนุ่มสาวทั่วโลกทำให้มีผู้ตั้งคำถามว่า จำเป็นมากแค่ไหนที่brandแฟชั่นชั้นสูงจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนทิศทางใหม่เพื่อคว้าใจนักซื้อวัยหนุ่มสาวด้วยการดึงคนดังจากแดนกิมจิมาผนึกกำลังทัพ brand ambassador? หรือแม้กระทั่งคำถามที่ว่า การเลือก brand ambassador คนดังสัญชาติตะวันตกไม่ดึงดูดใจเหมือนในอดีตเช่นนั้นหรือ?





allkpop ได้ประกาศว่า luxury brand ทั้งหลายได้ดึงตัวดารานักร้องเกาหลีมาแทนที่คนดังตะวันตก แต่การใช้คำว่าแทนที่อาจจะเกินจริงไปสักหน่อย เพราะแต่ล่ะ brand ได้คัดเลือก brand ambassador ที่หลากหลาย หรือที่มักเปรียบเปรยกับคำว่า 'สมาชิกครอบครัว'   แต่ล่ะคนจะได้รับตำแหน่งที่ brand มั่นใจว่าเหมาะสมกับภาพลักษณ์ และหาก brand ถูกใจมากๆ ก็อาจได้เซ็นสัญญามากกว่าหนึ่งประเภท เช่น เมคอัพ น้ำหอม กระเป๋า รวมถึงงาน collaboration ที่เปิดโอกาสให้คนดังเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบสินค้า  


เหล่าคนดังHollywood และ Europeก็ยังทำหน้าที่หน้าตาของ brand ไม่ได้เปลี่ยนแปลงนัก บางคนอยู่ประจำกับ brandเดิมมาหลายปี เพียงแต่ไม่ได้กลายเป็น trendingในโลกออนไลน์บ่อยๆเท่านั้น ส่วนดาวรุ่งที่เพิ่งแจ้งเกิดเปรี้ยงปังก็มีโอกาสเจรจา deal กับบริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่ถึงขนาดขาลง จนถูกแทนที่แต่อย่างใด


ในขณะที่คนดังจากเกาหลี จีน หรือญี่ปุ่นหลายคนจะได้รับแต่งตั้งตำแหน่ง global ambassador ทั้งร่วมถ่ายแบบโฆษณา  ได้รับการเชื้อเชิญให้ร่วมชมแฟชั่นโชว์หรืออีเวนท์ประชาสัมพันธ์brand และยังจัดเตรียมชุดแบบ custom เพื่อเดินพรมแดงกระทบไหล่คนดังระดับโลกไม่ต่างจาก brand ambassadorจากตะวันตก อย่างไรก็ตาม การทำงานของคนดังตะวันออกอาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง หากอำนาจการตัดสินใจยังขึ้นตรงอยู่กับต้นสังกัด ดังกรณี Lisa ที่ถูกค่ายห้ามไม่ให้ร่วมอีเวนท์ใน Paris Fashion Weekและ Milan    หรือจะเป็นความแตกต่างทางแนวคิดทางการเมืองที่ทำให้ ambassador เชื้อชาติจีนถอนตัวจากหลาย brand ที่ประกาศแบนฝ้ายจากซินเจียงจากการตั้งข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน   ในขณะที่ brand ที่ไม่แตะต้องประเด็นเปราะบางก็ยังได้ไปต่อ


เมื่อตั้งคำถามถึงระดับความสำเร็จของbrand ambassador  จากประเทศแถบเอเชีย  คุณอาจจะเคยได้ยินข่าวของสมาชิก BTS ที่เพียงแค่ใส่ชุด Louis Vuitton  ระหว่างการเดินทางด้วยเครื่องบิน   ภาพ airport style ก็ทำให้แฟนๆ หาซื้อไอเท็มเหล่านั้นจนหมดเกลี้ยง    มันฟังดูน่าทึ่งสุดๆ  เพราะพวกเค้าไม่ต้องถ่ายแบบนำเสนอภาพโฆษณาด้วยซ้ำ  แต่นั่นก็คงไม่ได้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับทุกคนที่ได้รับเลือกให้ทำหน้านี้

อีกหนึ่งในความสำเร็จระดับ sold out ที่น่าจะกำหนดมาตรฐานของ brand ambassador จากเอเชียคือผลงาน Kai x Gucci  เมื่อ Alessandro Michele นำแรงบันดาลใจจากหนุ่มหล่อแห่งวง Exo มาสร้างสรรค์ผลงานโกยยอดขาย เริ่มตั้งแต่แหวนเงิน แว่นตา  ล่าสุดก็ส่ง collection ที่สะท้อนตัวตนของ Kai ที่หลงไหล Teddy Bear ออกมายั่งกิเลสแฟนๆ บางประเทศต้องไปต่อคิวยาวเพื่อจับจองหน้า shop และขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นานเช่นกัน


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE