รีวิว BIODERMA Sensibio Defensive จากใจคนผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ใช้แล้วเวิร์กมั้ย?!
turtle.yolq 71 33 Jeban x BIODERMAไทยชนะ หมอชนะ เราชนะ ก็มีจนเต็มเครื่องแล้ว แต่เมื่อไหร่ ‘ผิว’ ของเราจะชนะบ้าง?
บางครั้งอาจเป็นเพราะผิวแพ้ง่าย ยังไม่ได้รับการแก้ไขที่ตรงจุดจากสาเหตุ!
ก่อนอื่นชาวผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือระคายเคืองง่ายแบบเรา เคยสังเกตกันมั้ยว่า ทำไมผิวเราถึงอ่อนแอ เดี๋ยวก็แดง แสบ คัน ผดผื่นขึ้น ลอกเป็นขุย ฯลฯ ง่ายกว่าคนรอบข้าง
คำตอบคือ หากไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์หรือความผิดปกติของโครงสร้างภายในผิวหนังจนทำให้เกิดอาการแพ้สารบางชนิดก็อาจเป็นไปได้ว่า ปัจจัยภายนอกอย่างสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะแสงแดด มลภาวะต่างๆ หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์ โดยไม่ระมัดระวัง พบสารเคมีรุนแรงมาทำร้ายปราการผิวอย่างต่อเนื่องจนเกิดความเสียหาย ผิวก็อาจจะแสดงอาการ แพ้ง่าย หรือ ระคายเคืองง่าย ออกมาได้เหมือนกัน
(+ ต้องไม่ลืมแยกให้ออกด้วยว่า ผิวแพ้ และระคายเคืองต่างกันยังไงจะได้หาวิธีแก้ไขได้ตรงจุด!)
อย่างเราเอง พื้นฐานเดิมเป็น คนผิวผสม ค่อนข้างบอบบาง ระคายเคืองง่ายอยู่แล้ว (หลังล้างหน้าส่วนใหญ่เราจะมีรอยแดงขึ้นบริเวณผิวหน้าบ่อยๆ ไม่แสบ ไม่คัน เลยไม่ค่อยสังเกตตัวเองเท่าไหร่ แหะๆ จนสังเกตจากผิวคนอื่นก็เริ่มเอ๊ะ! เอ๊ย์ย์ย์!) พอมาสายรีวิวจะมีบางช่วงที่ต้องสัมผัส ทดลองเปลี่ยนสกินแคร์บ่อยอย่างรวดเร็ว 7-14 วัน แล้วบางครั้งก็ไม่ได้ระวังไปเจอกับตัวแรงหรือน่าจะแพ้เข้าให้ ผลก็เลยออกมาประมาณนี้ ทั้งแสบ แดง คัน
ช่วงที่ผ่านมาซักพักใหญ่จะเห็นว่า เรารีวิวสกินแคร์น้อยลง เพราะอยากใช้เวลากับสกินแคร์แต่ละตัวก่อนจะเปลี่ยนหรือหยิบมาพูดถึง อย่างน้อย 14-28 วัน ให้เวลาได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น (หาข้อมูลผลิตภัณฑ์แบบละเอียด + ทาบริเวณซอกคอหลังใบหูซัก 3-5 วันก่อนทาบนผิวหน้าจริง) ก่อนจะตัดสินใจไปต่อหรือพอแค่นี้
เขาว่า แดงเป็นนักสู้ และหนทางของนักสู้มันไม่ง่าย 55555
เพราะงั้นเลยมีให้เลือกแค่ 2 ทาง ระหว่างจะยอมแพ้ เลี่ยงผลิตภัณฑ์แทบทุกชนิด กับ สู้ต่ออย่างถูกวิธี เพื่อให้หนทางนี้ยังคงก้าวต่อไปได้อย่างสวยงาม (อะ ล้อเล่น! เพื่อให้ผิวไม่อ่อนแอ แพ้ง่าย หรือ ระคายเคืองง่ายอีกต่อไป ก็ต้องทำความเข้าใจ และปรับตัวให้ผิวสุขภาพดี ลดโอกาสเสี่ยงแพ้หรือระคายเคืองอีก การดูแลผิวให้แข็งแรงที่สาเหตุเลยเป็นเรื่องสำคัญ)
BIODERMA Sensibio Defensive
(40ml/940.-)
หนึ่งในวิธีดูแลผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ระคายเคืองง่ายที่ช่วยได้ตรงจุด คือ การเลือกผลิตภัณฑ์มาดูแลผิว ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของปลอบประโลมผิว ให้ผิวคืนสู่ความสงบได้รวดเร็วมากขึ้นมากกว่า (เหมือนเป็นการแก้ที่ปลายเหตุซะมากกว่า) เลยขอมาแนะนำ BIODERMA Sensibio Defensive ครีมบำรุงตัวใหม่ของ BIODERMA ที่ช่วยปลอบประโลมผิว และฟื้นปราการผิวให้แข็งแรงจากภายใน เรียกว่าเป็นตัวช่วยจัดการปัญหาผิวแพ้ง่ายที่สาเหตุ ด้วย DEFENSIVE TECHNOLOGY
1) ปกป้องผิวขั้นสุด - จากมลภาวะ และสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก
2) ฟื้นบำรุง – ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชั่วโมง คืนปราการผิวให้แข็งแรง สุขภาพดี
3) ปลอบประโลมผิวแพ้ - ช่วยปลอบประโลมได้ทันทีที่ใช้ และยาวนานตลอดวัน
เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยธรรมชาติ และผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย จากมลภาวะหรือสิ่งกระตุ้นต่างๆ
ผลจากการทดสอบโดยผู้ใช้จริง:
- 97%* ของผู้ใช้ รู้สึกได้ทันทีหลังทาครีมว่า ได้รับการปลอบประโลม สบายผิว ผิวแพ้ได้รับการปกป้อง
- 97%** ของผู้ใช้ รู้สึกว่าผิวทนต่อมลภาวะ และสภาวะแวดล้อมมากขึ้น
- ผิวชุ่มชื้นนานต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง 100% รู้สึกว่าผิวแพ้ ระคายเคืองลดลง
Reference
*Capsaïcin test, on 22 subjects.
**Use test, % of satisfaction, on 33 subjects for 28 days.
ส่วนประกอบหลักของ
BIODERMA Sensibio Defensive
จะทำงานเป็น 3 กลไกสำคัญ
1) ปกป้องขั้นสุด : ใช้ Carnosine (มีงานวิจัยรองรับในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ+ต้านไกลเคชั่น) และ วิตามินอี มาเป็นตัวหลักในการต้านอนุมูลอิสระ และลดความเสียหายจากปัจจัยภายนอก เช่น รังสียูวี มลภาวะ สารเคมี ฯลฯ มากถึง 75% + Rhamnose ป้องกันผิวจากแบคทีเรีย ลดโอกาสผิวอักเสบ
2) เสริมเกราะป้องกันผิว : Palmitoyl Tetrapeptide-10 เป็นไลโปเปปไทด์ที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของไขมัน เอนไซม์ และโปรตีนทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของเกราะป้องกันผิวหนัง งานวิจัยพบว่า เป็นโปรตีนที่สามารถเสริมสร้างปราการผิวได้มากกว่า 46%
3) ปลอบประโลมจากภายใน ลดความไวต่อสิ่งเร้า : Red Sage Polyphenols ช่วยปลอบประโลมผิว ลดโอกาสตอบสนองต่อการระคายเคืองได้ถึงเส้นใยประสาท
นอกจากนี้ก็จะมีพวกให้ความชุ่มชื้นๆ จากตัวอื่นๆ เช่น Glycerin, BG, Squalane Mangifera Indica (Mango) Seed Butter, Glycine Soja (Soybean) Oil ฯลฯ เท่าที่ลองดูคร่าวๆ แล้วไม่มีสารแต่งสี แต่งกลิ่น หรือสารเคมีรุนแรงที่อาจส่งผลอันตรายใดๆ ต่อผิวนะคะ
เนื้อสัมผัส :
ครีมสีขาวดูเข้มข้น แต่เนื้อเบา นุ่ม ปาดแล้วเหมือนจะละลายซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายกว่าที่คิด และยังคงเหลือความชุ่มชื้นส่วนหนึ่งมาปกคลุมไว้บนผิวบางส่วน ด้วยความที่นางเคลมว่า ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชั่วโมง บางทีจะงงหน่อยว่า ครีมเนื้อไม่หนักผิวเลย ปกติถ้าไม่ใช่เนื้อเจล คือจะเกาะคลุมเก็บความชุ่มชื้นไว้จนผิวฉ่ำพอสมควร แต่ตัวนี้ไม่เป็นน้า
เราผิวผสม ลองใช้ตัวนี้ตัวเดียวอยู่ห้องแอร์ตลอดวัน ยังแอบงงว่าครีมยังอยู่มั้ย แต่อยู่ครบ 12 ชั่วโมงก็ยังคงชุ่มชื้นอยู่เด้อ เป็นความพอดีที่ลงตัว ใครที่อยากทาทั้งเช้าและก่อนนอน ลงก่อนแต่งหน้า ผิวแห้ง-ผิวผสมไม่มีปัญหาเลย ทา BIODERMA Sensibio Defensive ซักพัก เรื่องกลิ่นส่วนตัวดมแล้วไม่ได้กลิ่นอะไรนะคะ อาจจะเพราะไม่ได้ใส่สารแต่งกลิ่นมาด้วย
หลังจากที่เราได้ลองใช้ BIODERMA Sensibio Defensive
ครีมบำรุงที่เขาว่า ช่วยปลอบประโลมผิว ฟื้นปราการผิวแข็งแรงจากภายใน จัดการปัญหาผิวแพ้ง่ายที่สาเหตุ มาประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีช่วงที่ก่อนหน้านั้นเราหน้าแหก ระคายเคืองสุดๆ มาจากการใช้ยา Tretinoin 0.5% แบบไม่ระวัง (ไม่เคยหยุดหาทำเลยจริงๆ ;w;) ใช้อะไรก็แสบหน้า แดงไปหมด เราลองค่อยๆ ลดความถี่และหยุดใช้ + มาใช้ Sensibio Defensive ของ BIODERMA ส่วนตัวชอบที่ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน แต่ไม่เหนอะหนะ หรือหนักผิว เบาสบาย เรื่องของผลลัพธ์...
ผ่านมาสัปดาห์นึง จะเห็นว่า ผิวดีขึ้น มีความแข็งแรงมากขึ้น อาการระคายเคืองลดลง ผิวไม่แดงง่าย แต่ถ้าแต่งหน้าจะเห็นว่า ผิวยังคงลอกอยู่
สัปดาห์ที่สอง ผิวเริ่มเข้าสู่โหมดปกติ มีความแข็งแรง เนียนนุ่มชุ่มชื้น และอิ่มฟู อาการลอก คัน และอื่นๆ ที่แสดงถึงการระคายเคืองหายไปแทบจะ 100% ผิวยังคงมีการระคายเคืองอยู่บ้าง เมื่อสัมผัสกับสารเคมีรุนแรงหรือสิ่งกระตุ้นบางอย่าง แต่รู้สึกเหมือนช่วยลดระยะเวลาในการที่ผิวฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาสุขภาพดีได้ค่อนข้างไวขึ้น