อัพเดท Night Routine ในช่วงนี้กัน สกินแคร์ที่ต้องมีในปี 2022
millymilk
56
19
สวัสดีค่ะทุกคน
พบกันกับมิ้ลอีกแล้ว ซึ่งวันนี้นั้นมิ้ลก็จะมาอัพเดท Night Routine
ในส่วนของท้ายปี 2021 จนลากยาว 2022 กัน ว่ามิ้ลใช้ตัวไหนบ้าง
ซึ่งบอกก่อนว่า อันนี้เป็นรูทีนในส่วนของกลางคืนเท่านั้นนะ
มิ้ลจะเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้น และเรื่องชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร
อายุก็จะเข้า 20 ตอนปลายแล้ว เรื่องสกินแคร์รูทีนจึงจำเป็นมากๆ
ละเลยไม่ได้จริงๆ อยากให้ทุกๆคน หันมาใส่ใจเหมือนกันกับมิ้ล
หลายๆตัว เพื่อนๆอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ และก็มีตัวใหม่มาอัพเดทเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
มาดูกันเลยว่า Night Routine ในช่วงนี้ของมิ้ลนั้นมีอะไรบ้าง
ในส่วนของ Night Routine ของมิ้ลตอนนี้ ก็เป็นนี่เลย
มี 4 ตัว ที่มิ้ลใช้เป็นประจำ ซึ่งเหมาะกับอากาศช่วงนี้ด้วยที่แห้ง และทำให้ผิวลอกได้ง่าย
มิ้ลคิดว่าต้องถูกใจเพิ่อนๆหลายคนแน่ๆ ใช้ได้ทั้งผิวแห้ง - ผิวมันเลยนะ
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลย
Kiehl’s Calendula Herbal-Extract Toner
โทนเนอร์ตัวโปรดของมิ้ล เป็นโทนเนอร์ที่ใช้บ่อยที่สุด แต่ชอบใช้ในก่อนนอน ในตอนกลางวันมิ้ลจะใช้โทนเนอร์อีกตัวนึง หลายคนจะเรียกว่าโทนเนอร์ดาวเหลือง หรือโทนเนอร์เก็กฮวย ด้วยสีและกลิ่นที่เหมือนมากๆ เป็นโทนเนอร์ตัวดังของ Kiehl’s เลยก็ว่าได้ ที่ชอบใช้ตัวนี้เพราะว่ารู้สึกโทนเนอร์เนื้อจะซึมซาบเข้าผิวหน้าได้ดี ช่วยปลอบประโลมผิว ที่เจอมลภาวะมาทั้งวัน ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ลดอาการระคายเคืองบนใบหน้าได้ดี โทนเนอร์ช่วยเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าที่ตกค้างจากการล้างหน้าที่ทำความสะอาดได้ไม่หมด และยังช่วยบำรุงไปในตัวอีกด้วย ในมลภาวะที่มีฝุ่น PM 2.5 หนาแน่น และยังต้องใส่หน้ากากอนามัยในทุกๆวัน การรีเช็คความสะอาดผิวจากฝุ่น และการปลอบประโลมผิวมิ้ลว่ามันจำเป็นมากๆ เลย ตัวนี้ผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย สามารถใช้ได้ด้วย
วิธีใช้ : ใช้คู่กับสำลี หรือจะใช้เป็นน้ำตบก็ได้ สามารถใช้ได้ทั้งเช้า - ก่อนนอน เป็นประจำทุกวัน
ขนาด 250 มล. ราคา 1,500 บาท
หาซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ Kiehl’s ในห้างสรรพสินค้าทั่วไป และออนไลน์
ตัวต่อมา
Cosrx Propolis Light Ampoule
ตัวนี้เป็นแอมพูลเนื้อเซรั่ม ตัวนี้ที่มิ้ลชอบเลยน้องช่วยลดการอักเสบบนผิวหน้าได้ดีมากๆ
มิ้ลชอบเป็นสิวอักเสบ หรือระคายเคืองบริเวณแก้ม แอมพูลจะช่วยทำให้ลดการอักเสบ บวม แดง ได้ดี
มีส่วนผสมของ Black Bee Propolis สูงถึง 83.25% ช่วยต่อต้านแบคทีเรีย ลดการอักเสบระคายเคือง ลดรอยแดง เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ตัวนี้ผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย ใช้ได้เหมือนกัน เพราะผลอดจากสารที่อาจจะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ดูอาจจะเข้มข้น จนเหมือนกับว่าจะเหนอะหนะ แต่จริงๆไม่เลย มีความเข้มข้นนิดๆ แต่ไม่รู้สึกหนักหน้า มิ้ลใช้ปริมาณ 1 ดรอป ต่อการใช้ 1 ครั้ง
วิธีใช้ : ใช้ครั้งละ 4-5 หยด ต่อการใช้ 1 ครั้ง หรือมากกว่านั้น ตามความต้องการ สามารถใช้ได้ทั้ง เช้า - ก่อนนอน
ขนาด 30 Ml ราคา 1057 บาท
หาซื้อได้ที่ Konvy ออนไลน์ และ Kis Beauty ทุกสาขา
และตัวต่อมา
ตัวนี้เป็นครีมที่ต้องมีจริงๆ อายุที่มากขึ้น ขาดไม่ได้จริงๆ
Drunk Elephant A-Passioni Retinol Cream
เรตินอลลูกรัก ด้วยส่วนผสม 1.0% Retinol เป็นปริมาณที่ิมิ้ลคิดว่าลงตัวที่สุดสำหรับผิวหน้ามิ้ลแล้ว
ช่วงแรกที่ใช้ อยากบอกว่าปรับตัวยากมาก ใน Night Routine ที่ต้องใช้ ต้องจัดสกินแคร์ใหม่หมดเลย
เพราะว่า เรตินอลค่อนข้างมีข้อจำกัดมากๆ คือถ้าใช้ร่วมกับ BHA หรือ Vit C ในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ช่วงแรกๆ มิ้ลคือยังจัดลำดับครีมไม่ถูก ใช้น้องช่วงแรก สิวบุกทั้งหน้า หน้าบอบบางสุด และในตอนกลางวันไม่ทากันแดด หน้าก็ไวต่อแสงด้วย ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ใช้เรตินอลเลย แต่ข้อดีก็มี และมิ้ลก็คิดว่ามากด้วย เจ้าน้องตัวนี้ช่วยชะลอริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนวัยอันควรได้ดี มิ้ลคิดว่ายิ่งใช้เร็วเท่าไร ยิ่งเป็นผลดี แต่เรตินอลไม่ควรใช้กับผู้ที่ตั้งครรภ์นะคะ ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอลเลย
และก็เมื่อใช้เรตินอลก็ควรหลีกเลี่ยงจากแสง งดหรือเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่กลางแจ้งน๊า
วิธีใช้ : ใช้ในปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว ทาให้ทั่วหน้า ใช้เฉพาะก่อนนอนเท่านั้น ไม่ควรใช้ในตอนกลางวัน ควรทาควบคู่ Niacinamide จะช่วยปลอบประโลมผิวได้ดียิ่งขึ้นจ้า
ขนาด 10 ml ราคา 1100 บาท
มิ้ลซื้อที่ Sephora น้าาาตัวนี้ ขวดเล็กแต่ใช้ได้นานมาก
และตัวสุดท้าย
เมื่อใช้ Retinol ก็ต้องคู่กับ Niacinamide
มิ้ลใช้ตัวนี้เลยจ้า จบครบมากๆ
Fyne Ectoin Reviving Intense Cream
เรียกได้ว่าเป็นครีมที่ควรมีจริงๆ ตอนแรกมิ้ลเห็นรีวิวแล้วแอบกังวลว่า คนผิวผสมแบบเรา จะใช้ได้ไหมนะ
แต่อากาศแห้งช่วงนี้ ผิวบริเวณจมูกก็ลอก เอาไงดี ลองหน่อยก็แล้วกัน
สรุปเลิฟมากจริงๆ เรียกว่าเป็นครีมอเนกประสงค์ได้ไหม ครีมบาล์ม ที่ใช้ได้หลายส่วนในร่างกายมาก ล่าสุดมิ้ลใช้ทาเซ็ปเดิร์มตรงบริเวณขอบๆของหนังศีรษะด้วยนะ
จากภาพซ้ายคือตอนแรก จะสังเกตได้ว่าหนังศีรษะจะเป็นสีแดงๆ ผิวบริเวณนั้นลอกและอักเสบ
และภาพขวาหลังใช้ได้ 3 วัน อาการอักเสบลดลงมากๆ ได้ผลดีมากๆค่ะ และตัวนี้เมื่อใช้คู่กับเรตินอลคือดีมากๆเลย ช่วยปลอบประโลมผิว ปกติเมื่อทาเรตินอลจะรู้สึกแสบๆผิว แต่เมื่อใช้คู่กับ Fyne Ectoin ก็ไม่รู้สึกถึงการระคายเคืองแล้ว ตัวครีมจะเน้นความชุ่มชื้น เสริมเกาะป้องกันผิว สามารถทาได้ทั่วทั้งใบหน้าเลย มิ้ลใช้ทาริมฝีปาก ข้อศอก หัวเข่าด้วย บริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นมากๆ ผิวบริเวณจมูก และแก้มข้างจมูก มิ้ลจะทาหนาเป็นพิเศษ เพราะผิวตรงนั้นแห้งมาก แล้วไปทำงานต้องใส่หน้ากากอนามัยทับจะเกิดการระคายเคือง บวมแดงได้ เนื้อครีมเข้มข้นมาก เพื่อนๆที่ผิวแห้งมิ้ลแนะนำเลยให้มีในกรุ แต่ถ้าเพื่อนๆที่ผิวมัน ผิวผสมแบบมิ้ลก็ใช้ได้เช่นกันนะ สามารถทาบางๆบนผิวได้ ด้วยตัวครีมเป็นเนื้อบาล์ม หลายคนอาจจะกังวลว่าจะล้างออกยากไหม มิ้ลคอนเฟิร์มเลยนะคะว่าล้างไม่ยาก ไม่ตกค้างบนหน้า ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตันด้วยจ้า และตามแบบฉบับของ Fyne ก็จะไม่เติมแต่งสารที่อาจจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวของเราได้
ส่วนผสมเด่นๆ ก็คือ
2% Ectoin ที่เด่นในเรื่องการปลอบประโลมผิว ช่วยเรื่องจุลินทรีย์ชีวภาพบนผิวเราช่วยให้ผิวมีความสมดุล แข็งแรง ลดโอกาสในการเกิดสิวให้น้อยลง
5% Niacinamide ส่วนผสมที่โด่งดังมากๆ ช่วยลดการระคายเคือง ปลอบประโลมผิวได้ดีสุดๆ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ผิวเป็นสิว ผิวระคายเคือง เหมาะมากๆ กับส่วนผสมนี้
วิธีใช้ : วอร์มเนื้อครีมลงบนผิวจนเป็นเนื้อบาล์ม ทาให้ทั่วผิวหน้า หรือบริเวณที่ต้องการ มิ้ลจะใช้ในก่อนนอน แต่สำหรับเพื่อนๆที่ผิวแห้งมากๆ สามารถใช้ได้ทั้งเช้า - ก่อนนอนเลยนะ
ขนาด 40 กรัม ราคา 1490 บาท
1 หลอดใช้ได้นานมากนะทุกคน
หาซื้อได้ที่ www.Fyneskin.com หรือ เสิร์ชใน Shopee / Lazada/Instagram : Fyneskin ได้เลย
หาซื้อง่ายมั้ก มีโปรบ่อยด้วย เลิฟสุด
วันนี้มิ้ลต้องขอตัวลาไปก่อน หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบกระทู้ Night Routine ของมิ้ลกันนะคะ
ใครใช้ตัวไหนแล้วชอบ มาแนะนำกันได้น๊าาา
ขอบคุณค่าาา ><