พาไปทำ Double Bright Treatment ทรีทเม้นท์ตัวใหม่ล่าสุดจาก Dermalogica
Wanviset 49 19 WITH <strong>Dermalogica</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)
แม้ว่าเราจะให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้าด้วยการทาสกินแคร์เป็นประจำ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในบางครั้งการทาสกินแคร์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่ผิวเสียสมดุล หมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง มลภาวะ ความเครียด ฯลฯ
ดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำทรีทเม้นท์ตัวใหม่ล่าสุดจาก Dermalogica อย่าง "Double Bright Treatment" ที่โดดเด่นเรื่องการขจัดและป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมและแสงแดดรวมถึงรอยดำจากสิว อีกทั้งยังช่วยลดเลือนความเข้มของเม็ดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรง พร้อมไฟท์กับ Everything Jingle Bell ที่ถาโถมเข้ามาอย่างกับกองทัพ Thanos!!
ดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำทรีทเม้นท์ตัวใหม่ล่าสุดจาก Dermalogica อย่าง "Double Bright Treatment" ที่โดดเด่นเรื่องการขจัดและป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมและแสงแดดรวมถึงรอยดำจากสิว อีกทั้งยังช่วยลดเลือนความเข้มของเม็ดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรง พร้อมไฟท์กับ Everything Jingle Bell ที่ถาโถมเข้ามาอย่างกับกองทัพ Thanos!!
Cleansing Steps
เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าโดยการทำ Double Steps Cleansing เพื่อล้างเมคอัพและทำความสะอาดใบหน้าก่อนเริ่มทำทรีทเม้นท์ด้วย ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน
- ขั้นตอนที่ 1 : Pre-Cleanse เป็นการใช้ออยล์เนื้อบางเบาทำความสะอาดผิว ที่ผสานสารสกัดจากธรรมชาติ Olive, Apricot Kernel,Kukui Nut, Borage Seed และ Rice Bran oils ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางค์บนใบหน้า แถมกลิ่นยังหอมผ่อนคลายแบบสุดๆ เลยหละ
- ขั้นตอนที่ 2 : ล้างทำความสะอาดผิวหน้าตามสภาพผิว ขั้นตอนนี้ทาง therapist จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวแล้วมิกซ์เข้าด้วยกัน อย่างเราที่ผิวผสมจึงใช้ Skin Resurfacing Cleanser, Daily Microfoliant และ Calming Botanical Mixer(Salon Only) แล้วตีเป็นฟองโฟมนุ่มๆ แล้วนวดทำความสะอาดอย่างแผ่วเบาทั่วใบหน้า
Exfoliating (ขั้นตอนการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ)
ขั้นตอนนี้จะใช้ Purifying Masque Exfoliant(Salon Only) มาส์กโคลนผลัดเซลล์ผิวในรูปแบบ Chemical ที่ผสานทั้ง AHA และ BHA ในความเข้มข้นถึง 8.4% ทำงานร่วมกับโคลนเขียวจากฝรั่งเศส ชาร์โคล ชาเขียวช่วยดูแลผิวที่เป็นสิว พร้อมดูดซับความมันและเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว
Finger Pressures(การนวดกดจุด)
Step ต่อมาจะเป็น ขั้นตอนการนวดกดจุด ซึ่งทาง Therapist จะใช้ Soothing Addictive Oil ในการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ, ลดแรงตึงผิวหน้า, กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการทำงานของระบบน้ำเหลือง นอกจากนี้สกัดจาก Essential Oil ธรรมชาติยังช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ ทำให้ปลอดโปร่งโล่งสบาย
MASK
มาต่อกันที่ Step มาสก์หน้า ที่ส่วนตัวต้องยอมรับว่าเป็นครั้งแรก ที่เราได้รับประสบการณ์การมาสก์หน้าที่มีขั้นตอนมากถึง 3 ลำดับโดยเริ่มจาก :
- ขั้นตอนที่ 1 : ทา Powerbright Ionactive Serum(Salon Only) เพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
- ขั้นตอนที่ 2 : ทา Conductive Masque Base(Salon Only) เบสมาสก์ที่ช่วยล็อคความชุ่มชื่นก่อนการมาส์กหน้า
- ขั้นตอนที่ 3 : Cooling Contour Masque(Salon Only) มาสก์ยางสูตรพิเศษที่ช่วยมอบความกระจ่างใสให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยลดเลือนริ้วรอย และปลอบประโลมผิว
5 Steps Skincare
ปิดท้ายด้วยขั้นตอนการลง Skincare แบบจุกๆ ถึง 5 ขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การใช้ Antioxidant Hydramist โทนเนอร์สูตรเฉพาะของทางแบรนด์ในรูปแบบสเปรย์ที่มีอณูขนาดเล็กเพื่อปรับสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ปรับสภาพผิว คืนความกระชับผิว และปลุกผิวให้พร้อมต่อต้านอนุมูลอิสระ
ตามด้วยการใช้ BioLumin-C Eye Serum เซรั่มรอบดวงที่อัดแน่นไปด้วย Vitamin C และ Red Seaweed ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนเส้นริ้วรอย และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้รอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้นทาง Therapist จะทา BioLumin-C Pro Serum(Salon Only) ที่ใช้นวัตกรรม ultra-stable Vitamin C complex ซึ่งเป็นวิตามินซีที่มีความเสถียรสูง ทำงานร่วมกับ Bio-technology เพื่อนำพาวิตามินซีในปริมาณสูงให้ซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเผยผิวกระจ่างใสขึ้น เพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่นให้แก่ผิว
ต่อด้วยการเสริมความชุ่มชื้นด้วย BioLumin-C Gel Moisturizer มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจลที่อุดมไปด้วยสาร Vitamin C เข้มข้นรวมถึง Verbascum Thapsus Flower Extract สารสกัดจากดอกไม้สะท้อนแสงพันธุ์หายากและ Pumpkin Enzymes เพื่อมอบความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกตามกระบวนการธรรมชาติ เผยผิวใหม่ที่สดใสและเรียบเนียนยิ่งขึ้น
และปิดท้ายด้วยการ Invisible Physical Defense Sunscreen ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ทางแบรนด์เลือกใช้ Physical Sunscreen ในขนาดโมเลกุที่เล็กและละเอียดมากๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยกันรังสี UV และ Blue Light ได้แล้ว ความเด็ดคือเป็น Physical Sunscreen ไม่กี่ตัวที่ทาแล้วไม่ Tone Up ผิวให้ขาวลอย เนื้อสัมผัสบางเบา สบายผิวแบบสุดๆ
ตามด้วยการใช้ BioLumin-C Eye Serum เซรั่มรอบดวงที่อัดแน่นไปด้วย Vitamin C และ Red Seaweed ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนเส้นริ้วรอย และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้รอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้นทาง Therapist จะทา BioLumin-C Pro Serum(Salon Only) ที่ใช้นวัตกรรม ultra-stable Vitamin C complex ซึ่งเป็นวิตามินซีที่มีความเสถียรสูง ทำงานร่วมกับ Bio-technology เพื่อนำพาวิตามินซีในปริมาณสูงให้ซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเผยผิวกระจ่างใสขึ้น เพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่นให้แก่ผิว
ต่อด้วยการเสริมความชุ่มชื้นด้วย BioLumin-C Gel Moisturizer มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจลที่อุดมไปด้วยสาร Vitamin C เข้มข้นรวมถึง Verbascum Thapsus Flower Extract สารสกัดจากดอกไม้สะท้อนแสงพันธุ์หายากและ Pumpkin Enzymes เพื่อมอบความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกตามกระบวนการธรรมชาติ เผยผิวใหม่ที่สดใสและเรียบเนียนยิ่งขึ้น
และปิดท้ายด้วยการ Invisible Physical Defense Sunscreen ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ทางแบรนด์เลือกใช้ Physical Sunscreen ในขนาดโมเลกุที่เล็กและละเอียดมากๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยกันรังสี UV และ Blue Light ได้แล้ว ความเด็ดคือเป็น Physical Sunscreen ไม่กี่ตัวที่ทาแล้วไม่ Tone Up ผิวให้ขาวลอย เนื้อสัมผัสบางเบา สบายผิวแบบสุดๆ
Result...
เราได้เก็บภาพก่อนและหลังทำ Dermalogica Double Bright Treatment แบบหน้าสดเหมือนปลาในตลาดมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันแบบชัดๆ ซึ่งจากการสังเกตุด้วยตาของเรารู้สึกว่าหลังทำ..ความมันบนผิวลดลงพอสมควร อีกทั้งโทนผิวโดยรวมยังดูสว่างขึ้น ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความชุ่มชื้น และไม่ทำให้ผิวแห้ง-ลอก หรือระคายเคือง
ซึ่งส่วนตัวแล้วเราชอบผิวตัวเองตอนหลังทำมากๆ และผิวแบบนี้จะอยู่กับเราไปอีก 2-3 วันเลยทีเดียวหละ(ถ้าไม่ซนหาเรื่องตากแดดหรือสร้างความระคายเคืองให้ผิวอะนะ) โดยสนนราคาค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 บาท(ขึ้นอยู่กับคอร์สที่เลือก) ใช่ฮะ! คุณอ่านไม่ผิดราคาเท่านี้จริงๆ ตอนเรารู้ราคาคือแบบ OMG นี่มันคือทรีทเม้นท์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาแถมยังได้ใช้ไอเทมระดับ PRO ที่ไม่มีจำหน่ายทั่วไปบนเคาน์เตอร์ Dermalogica แต่จะมีเฉพาะ Salon เท่านั้น!
ซึ่งส่วนตัวแล้วเราชอบผิวตัวเองตอนหลังทำมากๆ และผิวแบบนี้จะอยู่กับเราไปอีก 2-3 วันเลยทีเดียวหละ(ถ้าไม่ซนหาเรื่องตากแดดหรือสร้างความระคายเคืองให้ผิวอะนะ) โดยสนนราคาค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 บาท(ขึ้นอยู่กับคอร์สที่เลือก) ใช่ฮะ! คุณอ่านไม่ผิดราคาเท่านี้จริงๆ ตอนเรารู้ราคาคือแบบ OMG นี่มันคือทรีทเม้นท์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาแถมยังได้ใช้ไอเทมระดับ PRO ที่ไม่มีจำหน่ายทั่วไปบนเคาน์เตอร์ Dermalogica แต่จะมีเฉพาะ Salon เท่านั้น!