วิธีใช้ครีมนวดผม (Hair Conditioner) , การสระผมแบบ co-washing คืออะไร
nana_narak 49 19 GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^ปกติเราจะใช้ครีมนวดผม (Hair Conditioner) เป็น step ที่สอง หลังจากที่สระผมด้วยแชมพูแล้ว ในขณะที่แชมพูทำหน้าที่ชะล้างสิ่งสกปรก เหงื่อ เซลผิวที่ตายแล้ว และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เราใส่ไว้บนเส้นผมของเรา ครีมนวดผม (Hair Conditioner) จะมีหน้าที่ทำให้ผมมีความนุ่มขึ้น ง่ายต่อการหวี จัดทรงได้ง่ายและป้องกันเส้นผมจากการเสียหายและแตกปลาย
ส่วนมากแชมพูจะใช้สารเคมีที่ระคายเคืองต่อรากผมและหนังศีรษะ การใช้แชมพูสระผมอย่างเดียวอาจทำให้ผมแห้ง ด้านไม่เป็นประกาย และจัดทรงยาก
ครีมนวดผม (Hair Conditioner) ประกอบด้วย fatty alcohols, humectants, และ oils ที่จะทำให้ผมนุ่มและยืดหยุ่นครีมนวดผมบางรุ่นอาจใส่โปรตีนลงไปทำให้ช่วยผสานผมที่แตกปลาย และอาจใส่ thickening agents ซึ่งจะทำให้ผมมี volume
ผมแห้ง ผมเสีย อาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้เนื่องจากมีประจุเป็นลบ ส่วน ingredients ของครีมนวดผมมีประจุเป็นบวก ดังนั้นเมื่อเราใช้ครีมนวดผมจะให้ประจุไฟฟ้าลบล้างกันทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตน้อยลง บางคนไม่เก่งเรื่องฟิสิกส์นักอาจจะงงว่าไฟฟ้าสถิตเป็นอย่างไร เรามีรูปมาให้ดูกันดังด้านล่าง
เมื่อเราเลือกครีมนวดผม สำคัญมากเลยคือควรเลือกให้เหมาะกับชนิดผมของเรา ครีมนวดผมสูตรต่างกันก็มีประโยชน์แตกต่างกัน และมีผลข้างเคียงแตกต่างกันอีกด้วย
วิธีใช้ครีมนวดผม (hair conditioner)
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ในการใช้ครีมนวดผมของคุณ:
- หลังจากทำการสระผมด้วยแชมพูแล้ว ล้างแชมพูด้วยน้ำให้สะอาด
- ใช้ครีมนวดพอประมาณ
- ทาไปที่ปลายผมให้ทั่ว สำหรับคนผมยาวให้ทาที่ผมตั้งแต่บริเวณระดับปลายคางจนถึงปลายผม หลีกเลี่ยงการทาไปที่หนังศีรษะเพื่อป้องกันการแพ้ แต่หากครีมนวดผมของคุณอ่อนโยนพอและคุณไม่แพ้ครีมนวดผมชนิดนั้นคุณอาจใช้กับผมทั่วศีรษะเลยก็ได้
- ใช้ร่องนิ้วหรือหวีผมซี่ห่างๆ หวีผมให้ครีมนวดผมสัมผัสกับผมได้ทั่วถึง
- ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที
- แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ใครควรใช้ครีมนวดผม?
ใครก็ตามที่สระผมควรใช้ครีมนวดผมด้วย ในขณะที่ตามธรรมชาติแล้วศีรษะของเราได้สร้างครีมนวดผมแบบธรรมชาติออกมาเรียกว่า sebum แต่แชมพูได้ชะล้างมันออกไปในขณะที่เราสระผม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีผมแห้ง หรือคนที่ทำผม (ทำสีผม ดัดผมด้วยความร้อน ) ควรที่จะใช้ครีมนวดผมเป็นประจำ แม้บางคนไม่ได้ทำผมแต่ใส่หมวก หรือรัดผม คาดผม พอนานๆไปสิ่งเหล่านี้อาจทำให้แกนผมเสียหายได้ ทำให้ผมกลายเป็นผม
เลือกครีมนวดผมให้เหมาะกับผมของคุณ
เวลาเลือกครีมนวดผม ควรเลือกให้เหมาะกับชนิดของเส้นผม และสไตล์การทำผมของคุณ ผมที่มี textures แตกต่างกันต้องการส่วนผสมของครีมนวดที่แตกต่างกัน ถ้าคุณไดร์ผมทุกวัน หรือทำสีผมบ่อยๆ คุณจะต้องการครีมนวดที่ให้ความชุ่มชื่นมากเป็นพิเศษ
Color treated hair คนทำสีผม
ถ้าผมของคุณโดนกัด ทำสีผม หรือ ดัด บ่อยๆ จะทำให้ผมสึกกร่อนหรือฉีกขาด ให้มองหาแชมพูและครีมนวดที่ให้ความชุ่มชื่นและสารบำรุงสูง อีกทั้งไม่ทำให้สีผมซีดเร็ว
Textured hair คนผมเส้นใหญ่
สำหรับคนที่มีผมหนาเส้นใหญ่กว่าคนอื่นๆ คุณต้องมองหาครีมนวดที่เข้มข้น จะช่วยบำรุงและปกป้องผมของคุณได้ดีกว่า
Curly hair คนผมดัด
ถ้าคุณดัดผม ผมของคุณมีแนวโน้มที่จะแห้งและหยิก คุณอาจต้องการครีมนวดที่อ่อนโยน เพื่อใช้ให้ทั่วศีรษะ ใช้หวีที่มีซี่ห่างหวีผมหลังใช้ครีมนวด
ผมข้างเคียงและข้อควรระวัง
การใช้ครีมนวดผมอาจมีผลข้างเคียงบ้างในบางคน ถ้าคุณเป็นคนที่เป็นสิวง่าย ในขณะที่ใช้ครีมนวดผมให้ใช้อะไรรวบผมไว้ไม่ให้ไปสัมผัสกับผิวของคุณ แม้ว่าผลข้างเคียงจะน้อยแต่ก็ให้ระวังไว้หากครีมนวดผมนั้นระคายเคืองต่อหนังศีรษะของคุณก็ไม่ควรให้ครีมนวดผมนั้นสัมผัสกับหนังศีรษะของคุณ และที่เสี่ยงที่สุดก็คือระวังอย่าให้เข้าตาหรือจมูกเพราะอาจทำให้ระคายเคืองต่อตาและเยื่อจมูก
วิธีใช้ครีมนวดผมคู่กับน้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าว (เช่นเดียวกัน almond oil, avocado oil, jojoba oil ) เป็นที่นิยมที่จะถูกเลือกใช้เป็นตัวบำรุงผมแทนครีมนวดผม น้ำมันหลายๆตัวไม่เป็นอันตรายและให้ผมดีคุณสามารถลองได้หากต้องการการบำรุงจากธรรมชาติ
ข้อดีของน้ำมันเหล่านี้คือไม่ต้องเสี่ยงกับสารปรุงแต่งต่างๆเช่นสี และน้ำหอม แต่ข้อเสียคือมันอาจจะทำให้ผมของคุณมีความมันและหนักมากขึ้น การใช้น้ำมันเหมาะสำหรับการบำรุงผมแบบหนักๆ นานๆครั้ง ลองใช้ดูแล้วดูว่ามันมีผลอย่างไรบ้างต่อผมของคุณ และดูให้แน่ใจว่ามันเป็นน้ำมันบริสุทธิ์ 100% (สามารถอ่านได้จากฉลาก)
การสระผมด้วยครีมนวดผมอย่างเดียว
ในบางคนที่มีผมแห้งมากๆ เลือกที่จะสระผมโดยไม่ใช้แชมพูเลย วิธีนี้เรียกว่า co-washing co-washing อาจจะอ่อนโยนต่อผมโดยเฉพาะผมที่มีสภาพที่ใกล้จะแตกแล้ว แต่มันจะสะสมพวกส่วนผสมของครีมนวดและอื่นๆบนเส้นผมมากเกินไป ควรสระผมด้วยยาสระผมทุกๆ 2 สัปดาห์เพื่อ clear สิ่งสะสมนี้ co-washing ค่อนข้างปลอดภัยและน่าทดลอง นอกจากนั้นแล้วในปัจจุบันมีแชมพูที่อ่อนโยนต่อเส้นผมออกมามากพอสมควรการเลือกใช้แชมพูปราศจากซัลเฟตก็ช่วยหลีกเลี่ยงการทำลายเส้นผมได้มากและใช้ได้บ่อยครั้งขึ้น
บทสรุป
มีครีมนวดผมหลายแบบให้เลือกในท้องตลาด เลือกใช้ครีมนวดผมให้เหมาะแก่ผมของคุณ แม้ว่าจะไม่เหมือนครีมบำรุงผิวทั่วๆไปแต่เราก็ขอแนะนำให้คุณใช้ครีมนวดผมเป็นประจำเพื่อให้ผมมีสุขภาพดีแข็งแรง
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดเราขอแนะนำครีมนวดผมดีๆ 2 รุ่นที่ไม่มีส่วนผสมจากสารเคมีที่เป็นอันตรายแต่ยังอัดแน่นไปด้วยสารบำรุงเส้นผมที่มีคุณภาพ
1.Takane Activated Charcoal Conditioner
ครีมนวดผม Takane Activated Charcoal นอกจากช่วยให้ผมนุ่มสลวยแล้วยังควบคุมความมันของเส้นผมและหนังศีรษะ ผมไม่ร่วง และลดการเกิดรังแคอีกด้วยปราศจากส่วนผสมของ Paraben, Sulfate, Silicone, Mineral Oil
Actived Ingredients:
- Activated Charcoal Powder ดีท็อกซ์และล้างสารพิษ ลดความมันของหนังศีรษะและเส้นผมได้อย่างรวดเร็ว
- Olive Oil ฟื้นฟูความชุ่มชื่นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมแข็งแรง
- Vitamin E เคลือบความชุ่มชื้นเข้าไปในเส้นผม เพื่อช่วยปรับสภาพ หากใช้เป็นประจำจะช่วยจัดการกับเส้นผมที่แห้งให้เป็นเส้นผมที่แข็งแรง นุ่มลื่น และเงางาม
- Aloe Vera LEAF Extract ช่วยคงความชุ่มชื่นภายในเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูบำรุงผมที่แห้งเสียให้กลับมาเงางาม
- Argan Oil กำจัดรังแค และลดอาการหนังศรีษะแห้งลอกเป็นแผ่น บำรุงผมแห้งแตกปลาย
- Eucalyptus Oil มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคและป้องกันการเกิดของเชื้อรา มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบของหนังศีรษะทำให้ลดอาการคันหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี
- Spearmint Oil เสริมรากผมให้แข็งแรง ป้องกันผมร่วง
- Green Tea Extract กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและ จัดการผมร่วง เร่งผมยาวเร็วขึ้น
- Oat Kernel Extract สารสกัดจากข้าวโอ๊ด ดูแลเส้นผมเพื่อปรับปรุงสภาพ ผมแห้ง ผมเสีย
- Rosmarinus Leaf Extract แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง และทำให้ผมนุ่ม
- Sage Extract แก้อาการแพ้ แก้อักเสบ ลดน้ำมันบนผมและหนังศีรษะ ลดรังแค
2.Takane Apple Cider Vinegar & Argan Conditioner
ครีมนวดผม Takane Apple Cider Vinegar & Argan Conditioner มีส่วนผสมของน้ำมันและสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากส่วนผสมของ Paraben, Sulfate, Silicone หรือ Mineral Oils. ช่วยปรับให้ผมนุ่ม ฟื้นฟูผมเสียแ
Actived Ingredients:
- Apple Cider Vinegar ปกป้องและฟี้นฟูสุขภาพเส้นผม ทำให้หนังศีรษะไม่แห้งกร้านซึ่งเป็นตัวการของการเกิดรังแค
- Moroccan Argan Oil ปรับสภาพเส้นผมให้นุ่มลื่นเป็นประกาย และลดอาการหนังศรีษะแห้งลอกเป็นแผ่น บำรุงผมแห้งแตกปลาย
- Green Tea Extract กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและ จัดการผมร่วง เร่งผมยาวเร็วขึ้น
- Almond Oil ช่วยบำรุงเส้นผม ลดผมร่วง แก้ไขผมเสีย
- Jojoba Oil ให้ความชุ่มชื่่นแก่เส้นผมและหนังศีรษะ
- Olive Oil ฟื้นฟูความชุ่มชื่นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมแข็งแรง
- Hydrolyzed Yeast Protein ลดความมันบนหนังศีรษะ
- Coconut Oil ปกป้องเส้นผมไม่ให้สูญเสียโปรตีน และยังมีวิตามินอี ที่ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื่นไม่หลุดลอกเป็นขุยง่าย
- Vitamin E เคลือบความชุ่มชื้นเข้าไปในเส้นผม เพื่อช่วยปรับสภาพ หากใช้เป็นประจำจะช่วยจัดการกับเส้นผมที่แห้งให้เป็นเส้นผมที่แข็งแรง นุ่มลื่น และเงางาม
- Vitamin B5 หนังศรีษะจะชุ่มชื้น หมดปัญหาหนังศรีษะแห้งตกสะเก็ด ช่วยกระตุ้นการเกิดผมใหม่
- Avocado Oil บำรุงรักษาเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม เพิ่มความชุ่มชื้น หวีง่ายไม่พันกัน ให้เส้นผมมีน้ำหนักจัดทรงง่าย
- Phyllanthus emblica extract (มะขามป้อม) ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก นุ่มสลวยเป็นเงางาม
- Ginseng Extract ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของเซลล์บริเวณหนังศีรษะ ทำให้รากผมได้รับสารอาหารส่งผลให้รากผมมีการตื่นตัว
- Castor Oil แก้ปัญหาผมเสีย ผมนุ่นสลวย
- Salvia Sclarea Oil กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยให้ผมดกดำเงางาม
หาซื้อครีมนวดผมทั้ง 2 รุ่นได้ที่ร้าน Matsumotokiyoshi , Lazada, Shopee, Line ID:@tokyosquare
#ยาสระผมปราศจากซัลเฟต #ยาสระผมที่ไม่มีซัลเฟต #แชมพูปราศจากซัลเฟต #takanethailand #แชมพูทากาเนะ #แชมพูtakane #แชมพูลดผมร่วง #แชมพูลดผมมัน