เล่าประสบการณ์ (ภัย) ใกล้ตัวที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม!!
Tourny
39
17
สวัสดีค่าา
วันนี้ไม่ได้มารีวิวสกินแคร์🤣 แต่ขอมารีวิวสิ่งที่ตัวเองไปเจอมาค่าา อาจยาวหน่อยแต่เป็นความรู้แน่นอน!!! ไปเริ่มกันเลยย
เริ่มจากเมื่อกลางเดือนทัวปวดท้องน้อยมากๆ แถมมีเลือดออกจากช่องคลอดด้วย เลยตัดสินใจไปตรวจภายในที่โรงพยาบาล
ตอนไปตรวจครั้งแรกนึกว่าตัวเองปัสสาวะเป็นเลือด
เลยได้ยากระเพาะปัสสาวะอักเสบมาทาน
สรุปคือยังไม่หายปวด!! เลยเอ๊ะใจแปลกๆลองสังเกตดู มันมีเลือดออกจากช่องคลอดนี่ไม่ใช่ปัสสาวะเป็นเลือดก็เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลอีกรอบ
ทัวเลยไปตรวจภายใน ทุกอย่างดูปกติไม่มีเนื้องอก ไม่เป็นซีสต์ แต่!!!! เป็นถุงน้ำรังไข่ หรือ ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ PCOS (Polycystic ovary syndrome) ซึ่งเกิดจากที่ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ มีฮอร์โมนเพศชายเยอะ สังเกตง่ายๆ มีขนแขน เป็นต้น หน้ามัน แต่ทัวไม่เคยเอ๊ะใจมากเรื่องขนเพราะไม่ได้ขนแขนเยอะขนาดนั้น (สามรถหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Google ได้เลยนะคะ บทความในเว็บโรงพยาบาลเยอะมากก)
ที่หลักๆที่เป็นได้ง่ายมากเกิดจาก “น้ำหนัก” ใช่ค่ะทุกคน “น้ำหนัก” สาวๆที่ BMI เกินเกณฑ์เสี่ยงมากๆที่จะเป็น เรื่องนี้ก็อึ้งเพราะไม่นึกว่าจะส่งผลต่อรังไข่ด้วย
มีอาการยังไงบ้างถึงตัดสินใจไปตรวจภายใน?
ทัวมีอาการปวดท้องน้อย บางทีปวดจี๊ดๆ ไม่ได้อาการเหมือนปวดประจำเดือนนะคะ ปวดเหมือนมดลูกจะฉีกแบบนั้นเลย ปวดตุบๆตลอดเวลา(ทนได้เพราะไม่หนักมากแต่แค่รำคาญเพราะไม่สบายตัวเลยค่ะ) แต่ที่ปวดหนักๆที่บอกไปจะนานๆมาที 1 ชม. อาจจะมา 1-2 ครั้ง และก็มีเลือดออกในช่องคลอดค่ะ ตอนปัสสาวะจะมีหลุดๆมาบ้าง แต่ชัดสุดเวลาเราทำความสะอาดเหมือนตอนเป็นประจำเดือนเลย เลยตกใจมากตอนนั้น โทรปรึกษาคุณแม่แล้วรีบไปโรงพยาบาลเลย (ระหว่างวันลองใส่ผ้าอนามัยไม่มีเลือดออกนะคะ)
ถ้าเป็นเกิดผลกระทบอะไรบ้าง? แล้วจะหายมั้ย?
อันดับแรกๆเลย มีโอกาสที่จะมีลูกยาก แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเทคโนโลยีเยอะไปหมดซึ่งก็จะช่วยได้
อันดับสอง เสี่ยงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก อันนี้น่ากลัวมาก แต่!! สาวๆที่อ่านอย่าพึ่งตกใจค่ะ มันไม่ได้จะเป็นง่ายขนาดนั้นนน แค่เราดูแลตัวเองก็ลดโอกาสได้แล้วค่า
ภาวะนี้สามารถหายได้ค่าไม่ต้องห่วง คุณหมอแนะนำอย่างเดียวเลยวิธีธรรมชาติคือให้ “ลดน้ำหนัก” พร้อมกับทานยาตามที่หมอสั่ง
จากที่สอบถามคุณหมอมา คุณหมอให้ยามาทานค่ะ คุณหมอพูดยื่นคำขาดว่าจะหยุดยาได้มีแค่ 3 ข้อเท่านั้น!!!
1. แก่ (อันนี้ตัดไปเลยอายุพึ่งจะ 25 เอง แต่ก็เริ่มรู้สึกเมื่อยๆแล้ว🤣)
2. มีลูก (แพลนยังไม่มีเพราะสามียังไม่โผล่มาในชีวิตเลยค่ะ เลยตัดข้อนี้ไป แอบเศร้า)
3. ผอม (ข้อนี้คือจี้ที่สุดแล้วค่ะ คุณหมอสั่งให้ลด!!)
เบื้องต้นลองสังเกตอาการตัวเองดูนะคะ ทัวเองอยากไปตรวจมาสักพักก่อนจะเกิดอาการนี้อีก เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ปวดท้องประจำเดือนหนักมากกก ถ้าไม่ทานยาคืออยู่ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย แล้วเป็นมานานแล้วด้วย
เบ็ดเสร็จทัวเสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 6 พันได้ค่ะรวมค่ายาแล้ว ไหนๆก็ตรวจภายในแล้วเลยตรวจมะเร็งปากมดลูกไปเลย ถ้าใครไปตรวจปกติไม่ตรวจมะเร็งปากมดลูกอาจจะถูกลงนะคะ ราคาแต่ละที่ไม่เหมือนกันนะคะ อยู่ที่โรงพยาบาลที่เราไปตรวจค่า ทัวตรวจโรงพยาบาลใกล้ๆที่พักเพราะเดินทางสะดวก
เปิดปี 65 มาเป็นประสบการณ์ที่อึ้งมากค่ะ แต่ก็โล่งในไป 1 เปราะเพราะตัวเองกังวลกลัวเป็นเนื้องอกมาก ด้วยที่เราปวดท้องประจำเดือนมานาน🥲
แนะนำให้สาวๆไปตรวจปีละ 1 ครั้งนะคะ ไม่เจ็บเลยค่า ไม่ต้องอายเลย ชิวมากก ท่องไว้ว่าคุณหมอไม่ได้เห็นน้องสาวเราแค่คนเดียวค่ะ คุณหมอเห็นมาเยอะแล้วไม่ต้องอาย อย่ารอให้มีอาการแล้วไปตรวจนะคะ
สำหรับสาวๆที่แว้บๆเข้ามาอ่านแล้วเกิดความสงสัยว่า
ถ้าเอ๊ะเราจะมีลูกแต่ลดน้ำหนักไม่ทันหละ จะมีได้มั้ย?
คำตอบคือมีได้ค่ะ มีไข่เยอะก็ดีอย่าง แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะมีโอกาสติดมากขึ้นนะคะ เพราะแต่ละฟองไม่เหมือนกันเลย คุณหมอเลยแนะนำทัวว่าถ้าอยากมีก็จะให้มาฉีดยากระตุ้นไข่ค่ะ
ภาวะนี้จะแตกต่างจากคนปกติ
เช่น
คนปกติ 5-6 วันถ้าทำการบ้าน จะเป็นช่วงที่มีโอกาสติดค่ะ ใน 1 เดือน
ถ้าคนที่มีภาวะนี้อาจจะลดลงมาเป็น 3-4 หรือ 2-3 วันที่จะมีโอกาส
(อันนี้เป็นเพียงยกตัวอย่าง แล้วขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนนะคะ แนะนำปรึกษาคุณหมอดีกว่าค่ะ)
ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะคะสาวๆ ภัยใกล้ตัวจริงๆ นี่ขนาดยังหาสามีไม่ได้ พอไปเล่าให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็สั่งให้ลดกลัวจะไม่มีหลานให้อุ้ม😂 แม่!!! ยังหาว่าที่สามีไม่ได้เลย อยากมีหลานแล้วหรอออ
สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะคะ ช่วงนี้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เดี๋ยวถ้ามีประสบการณ์อะไรจะมาเล่าใหม่ค่า
ฝากกดติดตามกันด้วยน้าา❣️
❣️แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ
บายบาย~❣️