บอกต่อวิธีการดูแลผิวให้กระจ่างใส พร้อมบอกลาจุดด่างดำที่กังวลใจ

57 28
Jeban x Garnier

ใครมีปัญหาผิวแบบเราบ้าง พออายุเริ่มเพิ่มขึ้นใกล้จะแตะเลขสาม ผิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อย่างของเราจากที่ผิวมัน ตอนนี้ก็เริ่มที่จะมันลดลง เหมือนผิวดูแห้งๆ และผิวเวลาโดนแดดก็คล้ำเสียง่าย กว่าจะกู้ผิวกลับมาก็ใช้เวลาที่มาขึ้นกว่าเดิม แถมยังมีรอยดำที่ทิ้งไว้จากการเป็นสิวอีก และที่เด็ดสุดคือเริ่มมีกระสีน้ำตาลอ่อนๆขึ้นบริเวณโหนกแก้มใกล้ไรผม ทางเรายอมรับว่าตั้งตัวรับปัญหาแบบนี้ไม่ถูกเลยทีเดียว แม้จะทากันแดดตลอดก็ตาม โดยในช่วงเวลา 14 วัน ที่ผ่านมาเราลองปรับเปลี่ยนการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ซึ่งผลที่ได้นั้นน่าพอใจเลยค่ะ ลองไปดูภาพเปรียบเทียบกันค่ะ

จากรูปจะเห็นได้ว่าเมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์บูสเตอร์เซรั่ม และเซรั่มครีมคู่กัน พร้อมกับใช้เคล็ดลับเพิ่มเติมในระยะเวลา 14 วัน ผิวดูกระจ่างใสขึ้น และรูขุมขนดูเล็กลง ในส่วนที่เป็นกระสีน้ำตาลอ่อนๆนั้นก็ดูจางลงกว่าเดิม นอกจากนี้รอยสิวที่อยู่บริเวณกรอบหน้าก็จางลง บางรอยก็หายไป ซึ่งเป็นความต่างแตกที่สังเกตเห็นได้ และเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจเลยทีเดียว เราจึงอยากชวนทุกคนมาดูว่าในช่วงระยะเวลา 14 วันที่ผ่านนั้น เราใช้ผลิตภัณฑ์อะไร และมีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง  ลองไปดูกันค่ะ

𝐆𝐚𝐫𝐧𝐢𝐞𝐫

𝗕𝗿𝗶𝗴𝗵𝘁 𝗖𝗼𝗺𝗽𝗹𝗲𝘁𝗲 𝗩𝗶𝘁𝗮𝗺𝗶𝗻 𝗖 𝗕𝗼𝗼𝘀𝘁𝗲𝗿 𝗦𝗲𝗿𝘂𝗺

( 30 ml. 449 THB / 7.5 ml. 39 THB )

มาเริ่มตัวแรกที่บูสเตอร์เซรั่มที่มีจุดเด่นอยู่ที่เขามีส่วนผสมหลักที่น่าสนใจคือ “วิตามินซี” ที่ใครก็รู้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่นิยมนำมาใช้โดยการทาน และบำรุงผิวพรรณ ซึ่งในเซรั่มตัวนี้เขาใส่วิตามินซีที่มีความเข้มข้นถึง 30 เท่า เลยค่ะ ใส่มาแบบจุกๆ และไม่มีกั๊ก ด้วยความเข้มข้นขนาดนี้ จึงตอบโจทย์ปัญหาผิว เช่น จุดดำ รอยสิว และผิวหมองคล้ำ ได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมที่น่าสนใจ

  • วิตามินซี (3-O-ETHYL ASCORBIC ACID) : ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ

  • วิตามินบี 3 (NIACINAMIDE) : ช่วยในการปลอบประโลมผิว ผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ

  • วิตามินอี (TOCOPHERYL ACETATE) : ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ผิวดูเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย

  • กลีเซอรีน (GLYCERIN) : ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น

  • โซเดียม ไฮยาลูรอเนต (SODIUM HYALURONATE) : ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มเด้ง

  • วิตามินเอ (PHENYLETHYL RESORCINOL) : ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย

เซรั่มตัวนี้มาในรูปของดรอปเปอร์ที่ทำให้ในการใช้แต่ละครั้งสามารถกำหนดปริมาณการใช้ได้ และด้วยความเป็นแบบดรอปจึงทำให้เนื้อครีมไม่สัมผัสมือโดยตรงจึงไม่ปนเปื้อน ส่วนตัวเนื้อผลิตภัณฑ์มีความเหลวเกลี่ยง่ายซึมไว ไม่เหนอะหนะให้ความรู้สึกที่สบายผิว เมื่อทาลงบนผิวหน้าเราจะได้กลิ่นหอมอ่อนซึ่งเป็นกลิ่นที่มีความสดชื่น โดยเซรั่มตัวนี้เราจะใช้ทาทั้งตอนเช้า และกลางคืน หลังจากที่ล้างหน้าและเช็ดโทนเนอร์แล้วตามด้วยเซรั่มได้เลยค่ะ หลังจากนั้นสามารถบำรุงผิวในขั้นตอนอื่นต่อได้เลยค่ะ

𝐆𝐚𝐫𝐧𝐢𝐞𝐫

𝗕𝗿𝗶𝗴𝗵𝘁 𝗖𝗼𝗺𝗽𝗹𝗲𝘁𝗲 𝗩𝗶𝘁𝗮𝗺𝗶𝗻 𝗖 𝗖𝗿𝗲𝗮𝗺 𝗦𝗣𝗙𝟯𝟬/𝗣𝗔+++

( 50ml. 259 THB / 7ml. 15 THB )

ตัวที่สองเป็นตัวที่เราใช้ในช่วงเช้าหลังจากลงเซรั่มแล้ว นั่นคือ เซรั่มครีม ที่มีสารกันแดด SPF30/PA+++ ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดในช่วงที่เราออกนอกบ้าน ซึ่งตัวนี้เขามีสารสกัดเด่นๆที่น่าสนใจจากยูซุเลมอนญี่ปุ่น และวิตามินซีเข้มข้นสูง จึงช่วยผลัดผิวที่มีความหมองคล้ำให้กลับมาดูสดใส และด้วยความที่ตัวนี้เป็นเนื้อครีมจึงช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย   

ส่วนผสมที่น่าสนใจ

  • สารป้องกันแสงแดด (HOMOSALATE, OCTOCRYLENE, BUTYL METHOXYDIBENZOYLMETHANE, PHENYLBENZIMIDAZOLE SULFONIC ACID) : ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

  • วิตามินบี 3 (NIACINAMIDE) : ช่วยปลอบประโลมผิว ผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ

  • วิตามินอี (TOCOPHEROL) : เป็นแอนตี้ออกซิแดนซ์ ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ผิวดูเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย

  • วิตามินซี (ASCORBYL GLUCOSIDE) : ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่าง

  • ซาลิไซลิก แอซิด(CAPRYLOYL SALICYLIC ACID) : ช่วยในการผลัดผิวชั้นนอก ผิวดูกระจ่างใส 

ตัวนี้มาในรูปแบบกระปุก เมื่อเปิดออกมาจะพบครีมเนื้อสีขาวเนื้อเข้มข้นมีกลิ่นหอม แต่ตอนที่เกลี่ยนั้นค่อนข้างเกลี่ยง่าย และไม่ตกร่องรูขุมขน ไม่เป็นคราบ เมื่อทาเสร็จแล้วผิวจะดูขาวและผ่องขึ้น ซึ่งส่วนตัวชอบ เพราะลงแป้งแบบฝุ่นนิดหน่อยผิวก็ดูสุขภาพดีค่ะ

เคล็ดลับที่อยากบอกต่อ


มื่อใช้ผลิตร่วมกันระหว่างบูสเตอร์เซรั่ม และเซรั่มครีมแล้ว ผิวจึงรับการบำรุงด้วยวิตามินซีแบบเต็มที่ยิ่งขึ้น และยังให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี ซึ่งเมื่อผิวชุ่มชื้นแล้วเซรั่มที่ลงไว้จะซึมลงผิวได้ดี จึงทำให้ช่วยลดจุดด่างดำได้ไวขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ในบางครั้งที่เราไม่อยากแต่งหน้า ไม่อยากลงแป้ง และอยากพักผิวจากเครื่องสำอาง เราก็จะใช้บูสเตอร์เซรั่ม กับเซรั่มครีม ผิวก็จะมีความกระจ่างใสขึ้นระดับหนึ่ง ทำให้หน้าดูไม่โทรมหรือหมองคล้ำแม้จะไม่ได้แต่งหน้าค่ะ   

นอกจากจะใช้เป็นบูสเตอร์เซรั่มบำรุงผิวแล้ว ตอนกลางคืนเรายังเอาเซรั่มตัวนี้มาใช้กับครีมลดรอยสิว โดยลงเซรั่มที่มีความบางเบาก่อน และตามด้วยครีมลดรอยสิวอีกที เราว่ามันช่วยเสริมกันให้รอยมันดูจางเร็วขึ้นกว่าเดิมค่ะ และในตอนเช้าเราจะทาเซรั่มครีมหลังจากทาครีมลดรอยสิวอีกที เพราะด้วยครีมเขาทาแล้วผิวจะสว่างขึ้น จึงทำให้บริเวณที่มีรอยสิวที่เข้มดูอ่อนลงกว่าเดิมค่ะ

และในวันที่รู้สึกว่าหน้าดูเหนื่อยล้า และหมองคล้ำ ต้องการบำรุง เราจะใช้เซรั่มวิตามินซีการ์นิเย่ และโทนเนอร์ของคีลส์ที่ช่วยปลอบประโลมนั้น หยดใส่แผ่นมาส์กหน้าอัดเม็ดแล้วแช่ตู้เย็นไว้แปปนึงให้เย็นๆ  จากนั้นนำมามาส์กหน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที เมื่อดึงมาส์กออกผิวจะดูกระจ่างใสขึ้น และผิวก็แลดูฉ่ำน้ำดีด้วยค่ะ 

หวังว่าเคล็ดลับนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ

และ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจสามารถซื้อกันได้ที่

ขนาดปกติ : Watsons , Lotus’s, BigC , Lazada , Shopee

แบบซอง/ขนาดทดลอง : 7-11 , Lotus’s Go fresh, CJ express


cattysunnyday

cattysunnyday

ชื่อแคท และรักแมว
สภาพผิวขาดน้ำ และแพ้ง่าย
สายสกินแคร์
รักการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ
ติดต่อพูดคุยกันได้ที่ line id : cattysunny นะคะ

FULL PROFILE