HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN | กันแดดไฮบริดสูตรคลีน เนื้อบางเบาที่สุด ณ ​โมเม้นท์นี้!!

ในเมื่อพระอาทิตย์ไม่เคยปราณีใครดังนั้นกันแดดคือไอเทมที่ขาดไม่ได้และทุกคนควรต้องทา แถมในช่วงนี้เราก็จะได้เห็นข้อมูลจากหลายแหล่งที่พูดถึงปริมาณการทากันแดดที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง ซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าควรทาปริมาณ 2 ข้อนิ้วทั่วใบหน้าและอีก 2 ข้อนิ้วสำหรับลำคอ แต่พอเอาเข้าจริงไม่ใช่กันแดดทุกตัวที่จะทำได้แบบนั้น ไหนจะเนื้อสัมผัสที่ทั้งหนาและหนืด เกลี่ยยาก เป็นขุย เป็นคราบขาวและปัญหาอื่นๆ อีกเพียบ

ประจวบเหมาะกับที่ทางแบรนด์ส่ง HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN กันแดดสูตรคลีนที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV สูงปรี๊ด อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและส่วนผสมเกินต้าน แถมยังทำเนื้อสัมผัสได้บางเบาราวกับน้ำ ทำเอาเราอดไม่ได้ที่จะหยิบมาป้ายยาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันฮะ

HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN 

(30ml./1,490.-)

อย่างที่เราเกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วว่า HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN เป็นกันแดดสูตรคลีนตามคอนเซ็ปท์ "CLEAN BEAUTY" ที่ไม่มีสารกว่า 1,500 รายการที่เป็นอันตรายกับผิว อีกทั้งยังปราศจากส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว แต่ที่เหนือชั้นไปกว่านั้นคือเป็นกันแดดที่ใช้เทคโนโลยี UV Filter แบบเอ็นแคปซูเลชั่น

Encapsulated UV Filter คืออะไร ?

ซึ่งจากข้อมูลที่หาได้เราเข้าใจว่าเทคโนโลยี Encapsulated UV Filter นั้นคือการห่อหุ่ม Chemical UV Filter ด้วยชั้นของ Lecithin เพื่อป้องกันไม่ให้ไปจับพันธะและทำปฏิกิริยากับ Physical UV Filter ด้านนอก ทำให้ลดการ Degradation และยังมีรายงานว่าความเสถียรของ Encapsulated UV Filter นั้นสูงกว่ารูปแบบปกติ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการยึดเกาะอยู่บนผิวได้นานขึ้นด้วย ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยสูง ไม่สะสมในชั้นใต้ผิวหนัง

Texture

อีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่อง Texture (เนื้อสัมผัส) ซึ่งทางแบรนด์เบลนด์เนื้อ HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN ออกมาได้บางเบาราวกับน้ำ(โดยที่ในสูตรไม่มีแอลกอฮอล์อยู่เลย) ทาแล้วซึมลงสู่ผิวไวมาก ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะไว้บนผิว แถมยังไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้นและไม่ทิ้งคราบขาวให้รำคาญใจ โดยรวมนับเป็นเนื้อกันแดดที่ดีติดอันดับต้นๆ ที่เราเคยใช้มาเลยหละ ทำให้การทากันแดดในปริมาณ 2 ข้อนิ้วเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว

Active Ingredients

นอกจากความบางเบาของเนื้อสัมผัสที่สร้างความประทับใจให้เราแล้ว ในแง่ของประสิทธิภาพและสารบำรุงผิวก็จัดว่าไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน ด้วยสารกันแดดแบบไฮบริดที่ทางแบรนด์ใส่เข้ามาไม่ว่าจะเป็น Avobenzon, Octocrylene, Micro Titanium Dioxide, Octisalate และ Micro Zinc Oxide คาดหวังในเรื่องการปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB และ Blue Light ได้อย่างไม่มีข้อกังขา

แถมยังเสริมทัพด้วยสารบำรุงผิวอย่าง Glycine Soja Phytoplacenta Extract, Sodium Hyaluronate, Niacinamide และ Royal Jelly ที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น ป้องกันการทำลายผิวจากรังสี UV และยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย

Let's Apply

เรื่องความบางเบาจะให้เม้าท์ให้ฟังอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เอาเป็นว่าเราลองใช้จริงให้ดูเลยดีกว่าว่า HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN นั้นจะบางเบาขนาดไหน...

จะเห็นว่า...ผิวหลังจากที่ทากันแดดนั้นใกล้เคียงกับผิวก่อนหน้ามากๆ ไม่รู้สึกถึงความเหนอะหนะบนผิวเลย แต่ในขณะเดียวกันกลับรู้สึกถึงความชุ่มชื้นที่เคลือบบางๆ อยู่บนผิว แถมยังไม่ทำให้หน้าขาวลอย แม้ว่าจะใช้ Physical UV Filter  ซึ่งน่าจะเกิดจากการใช้ Micro Titanium Dioxide และ Micro Zinc Oxide ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติมากๆ นั่นเองฮะ อีกจุดหนึ่งที่ชอบคือไม่เป็นขุยทำให้การทาในปริมาณเยอะ หรือทาซ้ำระหว่างวันทำได้ง่ายสุดๆ เลยหละ

ดยรวมเราคิดว่า HER HYNESS ROYAL HYA WATER SUNSCREEN เป็นกันแดดอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำออกมาได้ดีมากในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการปกป้องผิวจาก UV ที่ยอดเยี่ยม, การใช้เทคโนโลยีเอ็นแคปซูเลชั่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ UV Filter, การเลือกใช้ส่วนผสมที่เข้าไปเสริมในแง่การปกป้องผิวจากรังสี UV แถมไม่มีทั้งแอลกอฮอล์ ซิลิโคน นำ้หอม (แต่คือไม่เหม็นเคมีเหมือนกันแดดทั่วไปเลยนะ) และที่สำคัญคือเนื้อสัมผัสอันบางเบาดุจน้ำที่ถูกอกถูกใจมนุษย์ผิวผสมแบบเราเป็นที่สุด

เอาหละเราก็ได้พูดถึงจุดที่ชอบไปหมดแล้วและคิดว่าเพื่อนๆ น่าจะได้ยินหลายท่านพูดเหมือนกัน เราจึงขอเสริมข้อสังเกตุส่วนตัวของเราเพิ่มแล้วกันฮะ ด้วยความที่เนื้อกันแดดมีความบางเบามากๆ ทำให้การคอนโทรลนั้นยากพอสมควร(โดยเฉพาะการจับให้น้องอยู่นิ่งๆ เพื่อขอถ่ายภาพ) ดังนั้นถ้าจะปั๊มออกมาเยอะๆ แล้วแต้ม 5 จุดแล้วทาเราว่าไม่น่าทัน วิธีที่เวิร์คสำหรับเราคือปั๊มทีละปั๊มแล้วทาทีละแอเรียฮะ

แต่แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดเห็นส่วนตัวและผลลัพธ์ที่ Based-on สภาพผิว, การดูแลตัวเอง, ไลฟ์สไตล์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกันไปกันไปตามแต่ละบุคคล / ส่วนคำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะระคายเคืองหรือไม่นั้น เราไม่สามารถตอบได้เนื่องจากอาการแพ้-ระคายเคืองนั้นมีปัจจัยการเกิดที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ดังนั้นก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตามเราแนะนำให้ทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอเพื่อสังเกตุอาการแพ้ก่อนใช้บนใบหน้าขอรับ