Jeban's LAB คลีนซิ่งออยล์ VS คลีนซิ่งบาล์ม ตัวไหนล้างเมคอัพสะอาดกว่ากัน
sweetsong13 49 27
หนึ่งในไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่เลิฟการแต่งหน้า นั่นก็คือ Remover หรือ Cleanser สำหรับล้างเครื่องสำอางนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นไอเท็มที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้!
แต่งหน้ามาทั้งวัน ถึงเวลาทำความสะอาดผิว ถ้าคลีนไม่ดี ไม่สะอาดพอ ก็อาจทำให้ผิวอุดตันกลายเป็นสิวขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นคลีนเซอร์ที่ใช้ต้องมั่นใจว่าจะล้างเมคอัพได้สะอาดจริง
ซึ่งตัวล้างเมคอัพมีหลายแบบแต่คลีนซิ่งออยล์และคลีนซิ่งบาล์ม จะมีข้อดีคือไม่ต้องใช้สำลีในการรบกวนใบหน้า และล้างหน้าได้สะอาดกริ๊บ (?) เราก็เลยจับมาเทสต์ซะเลยว่าจะสะอาดกันจริงมั้ย?
แต่งหน้ามาทั้งวัน ถึงเวลาทำความสะอาดผิว ถ้าคลีนไม่ดี ไม่สะอาดพอ ก็อาจทำให้ผิวอุดตันกลายเป็นสิวขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นคลีนเซอร์ที่ใช้ต้องมั่นใจว่าจะล้างเมคอัพได้สะอาดจริง
ซึ่งตัวล้างเมคอัพมีหลายแบบแต่คลีนซิ่งออยล์และคลีนซิ่งบาล์ม จะมีข้อดีคือไม่ต้องใช้สำลีในการรบกวนใบหน้า และล้างหน้าได้สะอาดกริ๊บ (?) เราก็เลยจับมาเทสต์ซะเลยว่าจะสะอาดกันจริงมั้ย?
ไอเท็มที่ใช้ทดสอบ
แบรนด์ที่ใช้เทสต์เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ถ้าพูดถึงคลีนซิ่งออยล์หรือคลีนซิ่งบาล์ม ก็ต้องมีชื่อพวกนางถูกกล่าวถึงตลอดดด เพลงเลือกเลยเอา 3 ตัวฮิต ของแต่ละแบบมาทดสอบ
คลีนซิ่งออยล์
คลีนซิ่งบาล์ม
แบ่งการทดสอบเป็น 2 แบบ คือทดสอบกับเมคอัพแน่นๆ และการแต่งหน้าแบบปกติ ไปดูกันเล้ยยย :D
ทดสอบกับเครื่องสำอางที่แน่นขั้นสุด!
ก่อนอื่นปาดเครื่องสำอางที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนและความแน่น ได้แก่ Peripera Ink Tint Serum, รองพื้น Estee Lauder Double Wear, ครีมบลัช Cult Beauty และอายไลน์เนอร์มิสทีน กับแขนทั้งสองข้าง รวมเป็น 6 ที่ เพื่อเทสต์คลีนซิ่งทั้ง 6 ตัว
- ทดสอบคลีนซิ่งทั้ง 6 ตัวด้วยการแบ่งแขน 2 ข้าง ข้างซ้ายทดสอบคลีนซิ่งออยล์ และข้างขวาทดสอบคลียซิ่งบาล์ม คลีนซิ่งออยล์ 1 ปั๊ม และคลีนซิ่งบาล์ม 1/4 ช้อนชา
- ใช้สองนิ้วนวดวนเป็นเวลา 1 นาที
- ผสมน้ำเล็กน้อยแล้วนวดต่ออีก 1 นาที
- ล้างน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง
เฉลยคลีนซิ่งแต่ละตำแหน่ง
V
V
จะเห็นได้ว่าเมคอัพแน่นๆ อย่างลิปทินต์กับอายไลน์เนอร์ ไม่มีคลีนเซอร์ตัวไหนที่จะสามารถกำจัดพวกนางได้หมดเลย ฉะนั้นเวลาแต่งตาด้วยอายไลน์ หรือลิปที่แน่นๆ ก็ควรใช้ Eye & Lip Remover เฉพาะจุดเพื่อความชัวร์ และความปลอดภัยของดวงตา
ส่วนฝั่งคลีนซิ่งบาล์ม CLINIQUE และ BANILA CO สามารถคลีนเมคอัพแน่นๆ ออกได้เกือบหมด! รองลงมาจะเป็นคลีนซิ่งออยล์จาก DHC และตามด้วย THREE กับ shu uemura มาแบบสูสี สุดท้ายน้อง ELEMIS ที่คลีนเมคอัพออกได้น้อยสุด
ส่วนฝั่งคลีนซิ่งบาล์ม CLINIQUE และ BANILA CO สามารถคลีนเมคอัพแน่นๆ ออกได้เกือบหมด! รองลงมาจะเป็นคลีนซิ่งออยล์จาก DHC และตามด้วย THREE กับ shu uemura มาแบบสูสี สุดท้ายน้อง ELEMIS ที่คลีนเมคอัพออกได้น้อยสุด
ทดสอบกับเครื่องสำอางบนหน้า
มาทดสอบกับการแต่งหน้า Daily Life กันบ้าง ซึ่งสาวๆ 3 คนนี้แต่งหน้าโดยมีการลงรองพื้น+บลัชออนฝุ่น+แป้งสมรองพื้น+ลิปสติก ที่เหมือนกัน ใช้ชีวิตปกติทำงานในออฟฟิศ และผ่านไป 8 ชั่วโมงก็มาคลีนผิวพร้อมกัน
ขั้นตอนการทดลอง
- ใช้นิ้วนวดวนเป็นเวลา 1 นาที ผสมน้ำเล็กน้อยแล้วนวดต่ออีก 1 นาที
- ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด
- ซับหน้าให้แห้ง
- ใช้คลีนซิ่งวอเตอร์เช็ดหน้า 2 แผ่น แผ่นละครึ่งหน้า
Clinique VS Banila Co
คุณอลิซตัวแทนสาวผิวผสมนิดหน่อย ที่ใช้คลีนซิ่งบาล์มในการคลีนผิวหน้าเท่านั้น หน้าฝั่งซ้ายใช้ CLINIQUE และหน้าฝั่งขวาใช้ BANILA CO บริเวณตาจะใช้ Eye Remover ต่างหาก เพราะเป็นคนตาระคายเคืองง่าย
- เนื้อสัมผัส: บาล์มของ BANILA CO จะมีความนุ่มกว่า CLINIQUE เล็กน้อย
- ผิวหลังใช้: พอล้างเสร็จแล้ว ผิวแทบไม่ทิ้งความมันหลงเหลือยู่เลย ผิวนุ่มพอประมาณ ไม่แห้งกร้าน ผิวด้านที่ใช้ CLINIQUE จะเนียนนุ่มกว่าเล็กน้อย
- กลิ่น: ไม่ค่อยมีกลิ่นทั้งคู่
DHC VS THREE
คุณแบมบูตัวแทนวิชวลจากจีบัน มีผิวผสมไปทางมัน หน้าฝั่งซ้ายใช้คลีนซิ่งออยล์ DHC และหน้าฝั่งขวาใช้ THREE และพร้อมคลีนตาที่ทามาสคาร่ากับอายไลน์เนอร์ด้วยออยล์!
- เนื้อสัมผัส: DHC เหลวกว่า ต้องรีบโปะลงหน้า และถูง่าย ส่วน THREE เนื้อมีความเข้มข้นกว่า พอลงบนผิวไม่หนัก และออยล์เนื้อแน่น
- ผิวหลังใช้: ผิวนุ่มลื่นทั้งคู่ แต่รู้สึกว่าฝั่ง THREE จะล้างเครื่องสำอางได้ดีกว่านิดหน่อย
- กลิ่น: DHC มีกลิ่นบางเบามากๆ เหมาะกับคนไม่ชอบน้ำหอม ส่วน THREE จะเป็นกลิ่นซิตรัส มีความ Aroma ช่วยผ่อนคลายได้
Elemis VS shu uemura
คุณเพลงตัวแทนสาวผิวมัน หน้าฝั่งซ้ายใช้คลีนซิ่งออยล์ shu uemura และฝั่งขวาใช้คลีนซิ่งบาล์ม ELEMIS
- เนื้อสัมผัส: shu uemura จะเป็นเนื้อใสค่อนข้างเหลว ส่วน ELEMIS ถึงจะเป็นคลีนซิ่งบาล์มแต่เป็นเนื้อแบบเจล เมื่อถูแล้วจะกลายเป็นเนื้อออยล์
- ผิวหลังใช้: ผิวนุ่ม ไม่แห้งตึง และไม่มันทั้งสองฝั่ง แต่ ELEMIS ผิวจะนุ่มกว่านิดหน่อย
- กลิ่น: shu uemura สดชื่นมีความรู้สึกผ่อนคลาย ส่วน ELEMIS จะหอมสดชื่นอ่อนๆ
เช็คผิวว่าสะอาดจริงมั้ย ด้วยการเช็ดคลีนซิ่งวอเตอร์ 1 รอบ ได้ผลแบบนี้!
ปกติแล้วเวลาแต่งหน้าเราต้อง Double Cleansing คือล้างด้วยคลีนซิ่งบาล์ม, ออยล์, น้ำ แล้วตามด้วยโฟมล้างหน้า แต่! จะรู้ได้ไงว่าคลีนซิ่งอันนั้นคลีนเมคอัพได้สะอาดจริง? หลังล้างน้ำเปล่าเราก็เลยเช็คด้วยคลีนซิ่งวอเตอร์กัน แผ่นละครึ่งหน้า
จะเห็นได้ว่า THREE แทบไม่เหลืออะไรติดแผ่นสำลีเลย DHC และ shu มีเมคอัพเหลือใกล้เคียงกัน เช่นเดียวกับ BANILA CO และ CLINIQUE ส่วน ELEMIS นั้นนน.. เหลือเมคอัพเยอะสุดไปเลยจ้า
จะเห็นได้ว่า THREE แทบไม่เหลืออะไรติดแผ่นสำลีเลย DHC และ shu มีเมคอัพเหลือใกล้เคียงกัน เช่นเดียวกับ BANILA CO และ CLINIQUE ส่วน ELEMIS นั้นนน.. เหลือเมคอัพเยอะสุดไปเลยจ้า
ตารางสรุปผลคลีนซิ่งออยล์และบาล์ม
การทำความสะอาดของคลีนซิ่งออยล์และบาล์มแต่ละตัว ก็มีความแตกต่างกันนิดหน่อย แต่ที่เหมือนกันคือใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง ยังคงความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นให้กับผิวไว้ แต่ไม่ทำให้มันเพิ่ม ที่สำคัญคือต้องล้างด้วยโฟมล้างหน้าตามทุกครั้ง!
และแต่ละแบรนด์ก็จะมีวิธีใช้ที่แตกต่างกัน เราควรใช้ตามที่แบรนด์เคลมไว้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อนๆ อยากลองใช้ตัวไหนก็ลองเลือกตามชอบได้เลย แนะนำไปลองเทสต์กลิ่นและเนื้อสัมผัสกันที่เคาน์เตอร์ก่อนก็ดีน้าา ครั้งหน้าเราจะมาเทสต์อะไรให้ดูอีกอย่าลืมติดตามกันนะค้าา <3
และแต่ละแบรนด์ก็จะมีวิธีใช้ที่แตกต่างกัน เราควรใช้ตามที่แบรนด์เคลมไว้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อนๆ อยากลองใช้ตัวไหนก็ลองเลือกตามชอบได้เลย แนะนำไปลองเทสต์กลิ่นและเนื้อสัมผัสกันที่เคาน์เตอร์ก่อนก็ดีน้าา ครั้งหน้าเราจะมาเทสต์อะไรให้ดูอีกอย่าลืมติดตามกันนะค้าา <3