Netizen ถกเดือด Wonder Girls คือผู้บุกเบิกความสำเร็จของK Pop ใน USA จริงหรือ??

38 13
กระแส Hallyu  ในช่วงเวลาสองทศวรรษที่ผ่านมาเป็นแรงขับเคลื่อนอันทรงพลังที่ทำให้ประเทศเกาหลีใต้ผงาดขึ้นมาประสบความสำเร็จถล่มทลายในระดับ international  

แต่ก่อนหน้าที่เราจะได้เห็นศิลปิน K-Pop ในรายชื่อผู้เข้าชิงจากการประกาศรางวัลดนตรีชั้นนำใน USA และเทศกาลดนตรีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Coachella ฝั่งเกาหลีก็เคยผ่านช่วงบุกเบิก เมื่อค่ายยักษ์ใหญ่ทุ่มสุดตัวเพื่อจะส่งศิลปินที่สุดhotแห่งยุคอย่าง Boa, Se7en และ Wonder Girls ไปdebut ที่อเมริกา แต่ลงเอยด้วยความผิดหวังจนสร้างเสียงวิจารณ์ไปต่างๆนานา

ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน Rolling Stoneได้คาดการณ์ไว้ว่า ศิลปินK-Pop 10 วงที่มีศักยภาพสูง ประกอบได้ด้วย 2NE1, BIGBANG, Girls' Generation, Wonder Girls, After School, Beast, Ailee, Sistar, SHINee และ miss A จะสามารถทลายกำแพงที่กีดกันดนตรีจากเอเชียเพื่อก้าวเข้ามากวาดความสำเร็จในตลาดดนตรี USA

แต่คำทำนายนั้นก็ไม่กลายมาเป็นความจริง...



แต่เสียงตอบรับจากตลาดตะวันตกยังห่างไกลกับความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ที่เกาหลีและประเทศอื่นๆในเอเชีย  ทำให้สังคมออนไลน์เกาหลีที่เชิดชูกับความสมบูรณ์แบบจนขึ้นชื่อลือชาได้ร่วมมาวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆที่ทำให้ศิลปิน K-Pop ยังก้าวไปไไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้   หนำซ้ำยังยังเปิดโอกาสให้บรรดา haters ตามมาเยาะเย้ยว่า fail  ได้อย่างน่าอับอาย

หลายคนชี้ว่า จริตของผู้บริโภคใน USA แตกต่างจากชาวเอเชียนมากเกินไป ยกตัวอย่างจากการโพรโมทผลงานของศิลปิลค่าย SM Town ที่เปิดคอนเสิร์ต Madison Square Garden กรุง New York แม้นิตยสาร Billboard จะเปรียบเทียบการแสดงของวง Girls’ Generation ว่าเป็น American Dream Come True จากเสียงวิจารณ์ด้านบวก และenergy สุดคลั่งไคล้ของผู้ชม แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีหลายเสียงที่เหน็บแนมว่า girl group ที่มีสมาชิกถึง9คน ดูไม่ต่างจากกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ที่ชวนสับสนว่าใครเป็นใคร แม้ราวๆ 10 ปีก่อน K-Pop จะเริ่มได้รับความนิยมในแถบอเมริกาใต้ขึ้นมาแล้ว แต่สำหรับ USA ก็ยังมีคนมองว่า นี่คือดนตรีที่แบบเฉพาะกลุ่ม fanbase ส่วนใหญ่คือชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียนและชาวเอเชียนและดูจะเป็นเรื่องยากจะดึงดูดผู้ฟังที่นิยมดนตรีแบบ American mainstream


แต่ทุกวันนี้  คำปรามาสดังกล่าวเริ่มจางหายไปเรื่อยๆ...


จากในอดีตที่มีผู้มองว่า การยกระดับ K-Pop ให้กอบโกยความสำเร็จจากตลาดประเทศตะวันตกนั้นยังคงเป็นเพียงความฝันที่ยกจะเป็นจริง แต่การพัฒนายุทธวิธีรูปแบบต่างๆเพื่อพิชิตชาร์ทเพลง USA ก็ประสบผลในที่สุด ทั้ง BTS, BLACK PINKและเหล่าไอดอลรุ่นใหม่ได้สร้างผลงานให้โลกได้ประจักษ์แล้วว่า พวกเค้าได้ทลายกำแพงอุปสรรคจนทำให้แฟนเพลงต่างเชื้อชาติต่างภาษาหันมาจดจำเนื้อเพลงภาษาเกาหลีและสนับสนุนผลงานไม่แพ้ 'ติ่ง'จากเอเชียที่ตกหลุมรัก K-Pop กันไปก่อนหน้า


แต่ความสำเร็จถล่มทลายของไอดอลชื่อดังก็ได้กลายมาเป็นหัวข้อถกเถียงไม่มีที่สิ้นสุด   ใครกันแน่ที่เป็นผู้บุกเบิกเปิดเส้นทางให้กับ K-Pop ให้สร้างชื่อเสียงเกรียงไกรไปถึงระดับโลก?

บอส JYP  ประกาศขอบคุณ Wonder Girls ที่เป็นผู้บุกเบิกเส้นทางความสำเร็จให้ไอดอลรุ่นหลังอย่าง Stray Kids ส่งผลงานผงาดขึ้น Billboard 200 chart

พัค จินย็อง โพรดิวเซอร์ดังผู้ก่อตั้งค่าย JYP  เคยเปรียบเปรยไว้ว่า  สาวๆ Wonder Girls ก็เหมือนกับลูกสาวคนโตของครอบครัว JYP  สายใยความผูกพันอาจจะแตกต่างไอดอลวงอื่นๆ  เพราะสนิทสนมมากถึงขั้นที่เคยร่วมกินรามยอนนอนในบัสระหว่างออกทัวร์มาแล้ว    แม้เวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนจนมีไอดอลหน้าใหม่เแจ้งเกิดในวงการอีกมากมาย   แต่เขาก็เผยความรู็สึกว่า จะเก็บพวกเธอไว้ในใจในฐานะคนพิเศษเสมอ





แต่เมื่อพัค จินย็องได้ใช้พื้นที่ทาง social media ประกาศของคุณ Wonder Girls ที่ช่วยเปิดทางให้กับ Stray Kids ฮูแบ generation ที่ 4 ที่พาเอาผลงานเพลงพุ่งขึ้นอันดับ 1 ชาร์ท Billboard top 200 นับเป็นเวลาเกือบ13 ปีหลังจากที่ girl group ระดับตำนานเคยสร้างชื่อจาก Nobody ที่ขึ้นชาร์ท Billboard top 100 กลับกลายเป็นว่า บรรยากาศที่ดูชื่นมื่นกลับมีดราม่าตามมามา!

แน่นอนว่า ความโด่งดังของ Nobody ย่อมตราตรึงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ K-Pop จำนวนมากมายที่เติบโตมาพร้อมกับการร้องท่อนฮุกที่แสนจะติดหูนี้    แต่ Netizens จำนวนไม่น้อยต้องรู้สึกขุ่นเคืองใจ  เมื่อได้เห็นผู้ก่อตั้ง JYP ให้เครดิตกับ Wonder Girls เพียงกลุ่มเดียว โดยที่ไม่ให้ความสำคัญกับศิลปินชื่อดังรายอื่นๆมีบทบาทในการสร้างชื่อเสียงระดับ global ให้กับดนตรี K- Pop      


แฟนๆถาม  เอา BTS ไปไว้ที่ไหน?

เมื่อประกาศยกย่องชื่นชมศิลปินที่ปั้นมากับมือ มันก็ไม่ใช่เรื่องชวนประหลาดใจแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นเรื่องเครดิตความสำเร็จ มันอาจจะกลายเป็นเรื่อง'กระตุกต่อมหงุดหงิด' ของแฟนๆบางส่วนที่ฟันธงว่า กว่าที่เหล่าK-Popจะได้รับความนิยมเหมือนกับทุกวันนี้ ก็มาเป็นผลแห่งความพยายามของศิลปินและทีมงานเบื้องหลังอีกหลายคน

โดยเฉพาะ netizens ที่ฟันธงว่า boy band ระดับโลกอย่าง BTS ต่างหากที่คือผู้พลิกโฉมวงการK-Popอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าค่ายยักษ์ใหญ่จะทุ่มเทส่งศิลปินไปเดบิวท์และโพรโมทผลงานที่ USA กันสักเท่าไร กระแสตอบรับที่ได้กลับไม่สวยสดงดงามตามที่คาดหวัง

แต่เมื่อถามถึงความสำเร็จของ  BTS    หลายคนอาจจะเปรียบเทียบว่าพวกเขาคือนักสร้างประวัติศาสตร์  ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย  คอนเสิร์ตที่มีผู้ชมหลักหมื่นในประเทศตะวันตก  การเข้าชิงรางวัลดนตรีประชันกับศิลปินระดับโลก   ดึงดูดให้สื่อตะวันตกหลายเจ้าเข้าร่วมวิเคราะห์ว่าพวกเค้าก้าวมากอบโกยความสำเร็จในระดับโลกได้อย่างไร    คงไม่ใช่คำพูดเลื่อนลอยหากจะบรรยายว่า  BTS ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับดนตรี K-Pop และกลายมาเป็นต้นแบบให้กับเด็กรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันจะเอื้อมให้ถึงความสำเร็จที่ BTS ทำไว้ได้
เส้นทางสู่ดวงดาวๆของหนุ่มๆบังทันที่ไม่ได้สวยหรูตามที่พวกเราคุ้นเคยกันจากเรื่องราวของศิลปินจากค่ายเพลงทรงอิทธิพลระดับ big three   แฟนเพลงในเกาหลีไม่ได้ตอบรับพวกเค้าอย่างอบอุ่นมาตั้งแต่ต้น และต้องเผชิญกับคำปรามาสบั่นทอนกำลังใจ  แต่ก็ได้จับมือกันก้าวข้ามกำแพงอุปสรรคสุดท้าทายจนมาถึงระดับ top ได้อย่างภาคภูมิใจ    พวกเขาเคยส่งผลงานเพลงขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard 200  และ Billboard hot 100 มาแล้วหลายครั้ง  และปรากฏตัวในสื่อชั้นนำทั้ง TV  และนิตยสาร  หลายคนที่ไม่ได้สนใจดนตรีK-Pop  ก็ยังได้ยินชื่อเสียงของหนุ่มๆบังทัน  

 และนี่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ BTS Army ทวงถามหาการให้เครดิตเรื่องความสำเร็จใน  US chart   
 
Sunmi  ชี้ BTS คือศิลปินที่ทำให้  K Pop  โลดแล่นบนชาร์ทเพลงอเมริกัน

ไม่ต่างจาก  Jihyo แห่ง 
TWICE  ที่ให้เครดิตและขอบคุณ BTS ที่เปิดประตูโอกาสให้รุ่นน้องได้สร้างชื่อเสียงในอเมริกา



Netizens ขุด  พัค จินย็องยอมรับเรื่องการเดบิวท์ของ Wonder Girls 'แป้ก'ใน  USA
พัค จินย็องได้เปิดเผยประสบการณ์ทุ่มสุดตัวเพื่อส่ง  Winder Girls ไปเดบิวท์ที่  USA ว่า  เขาต้องดูแลพวกเธอด้วยตัวเองราวกับเป็นผู้จัดการส่วนตัว  ตะลอนใช้ชีวิตบนbus เพื่อแนะนำตัวกับสื่อต่างๆและโพรโมทผลงานให้คนอเมริกันเปิดใจยอมรับ     แต่เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นดั่งที่คาดหวังไว้   สิ่งที่รอพวกเค้าคือเสียงทับถมจากชาวเน็ทและบรรดาสื่อที่ไม่ลังเลจะหยิบประเด็นนี้มาขยี้ตลอดระยะเวลาหลายปี   และในที่สุด เขาก็ยอมรับว่า    พาสาวๆไป fail ในUSA จนถูกรุมโจมตีซ้ำเติมว่าทุ่มเทความพยายามไปอย่างสูญเปล่า  ทุกวันนี้ก็ยังต้องต้องก้มหน้าก้มตารับกับเสียงวิจารณ์นั้น

ดราม่านี้จึงทำให้เขาถูกขยี้เรื่องเดิมอีกครั้ง...

แต่ชาวเน็ทหลายคนโต้ว่า ไอดอลgenerationที่ 2 ต่างหากที่เป็นผู้บุกเบิกความสำเร็จระดับโลกตัวจริง


Netizen บางคนชี้ว่า หากจะให้ยกย่องให้ Wonder Girls เป็นศิลปินที่เปิดประตูสูความสำเร็จใน USA ให้กับศิลปินรุ่นน้องเพราะส่งเพลงดังขึ้น ก็ควรจะยกชื่อของ BoA ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปิน K-Pop คนแรกที่มีผลงานเพลงขึ้นชาร์ทนี้

รวมถึงความเห็นจากแฟนเหนียวแน่นของK-Pop นับตั้งแต่ยุคแรกๆKorean Wave เข้ามาสั่นสะเทือนอุตสาหกรรมบันเทิงเอเชียว่า   ความสำเร็จของไอดอลในทุกวันนี้เกิดมาจากการผนึกกำลังของซอนแบตั้งแต่ generation ที่ 2 ต่างหาก

แม้ไอดอลK-Pop ในยุคนี้จะไม่เป็นที่รู้จักใน USA หรือยุโรปมากนัก   แต่สร้างfanbase สุดแข็งแกร่งจากฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  รวมถึงมหาอำนาจอย่างญี่ปุ่นและจีน   และกลายมาเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ผลักดันให้ค่ายเพลงทุ่มเทเพื่อส่งศิลปินไปเดบิวท์ที่ USA    แม้จะเคยถูกเหน็บแนมว่า  เป็นความทะเยอทะยานที่ทำให้ต้องเสียแรงเปล่า   เพราะไม่ว่าจะดึงโพรดิวเซอร์หรือนักออกแบบท่าเต้นที่ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกมาร่วมงาน  ก็ยังไม่สามารถตีตลาดอเมริกันได้     แต่ในที่สุด  K-Pop ที่เคยถูกมองว่ามีความแตกต่างจากจริตผู้ฟังในโลกตะวันตกจนเกินไป  ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และขยายเป้าหมายออกไปเรื่อยๆ

วง Gen 2 ชื่อดังเคยโพรโมทใน  USA ไม่ต่างจาก Gen หลังๆ


การโพรโมทใน USA ของไอดอล generationที่ 2 มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกับปัจจุบัน เริ่มจากวิธีที่ดู basic อย่างการตระเวนให้สัมภาษณ์และแสดงดนตรีผ่านรายการ talk show   


รวมถึงงานเพลง featuring กับศิลปินดังสัญชาติอเมริกัน และเกิดพัฒนาการชัดเจนในยุคปัจจุบัน เมื่อ superstar ฝั่งอเมริกาได้แสดงออกชัดเจนว่าให้ความสนใจมากมายเพื่อการสร้างผลงาน collaboration กับศิลปิน K-Pop แตกต่างจากในอดีตที่หลายคนมองว่า ฝ่ายค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีต้องทุ่มเทเพื่อดึงตัวศิลปินดังสัญชาติตะวันตกมาร่วมงานเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ฟังในระดับ global แต่ตอนนี้ superstar ย่อมเล็งเห็นผลประโยชน์ที่มากกว่าส่วนแบ่งรายได้ เพราะผลงาน collaboration นี้อาจหมายถึงการเปิดตลาดใหม่ๆ นั่คือกองทัพแฟนคลับขนาดมหึมาของไอดอลเกาหลีที่เฝ้ารอสนับสนุนผลงานของพวกเค้าอยู่นั่นเอง

ในช่วงเวลาที่ 2NE1 ยึดครองตำแหน่ง girl group ที่ร้อนแรงที่สุดในวงการ K-Pop   สื่ออเมริกันให้ความสนใจกับพวกเธอไม่น้อยเลย  ไม่ว่าจะเป็น Forbes, Billboard และ WSJ ที่ขอสัมภาษณ์และยกให้พวกเธอเป็น  The Next Big Thing   ที่จะสร้างความสำเร็จในอเมริกาได้ก่อนไอดอลวงอื่น     ทั้งยังได้รับความสนใจจากโพรดิวเซอร์ดังอย่าง Will.i.am  และมีJeremy Scott  แห่ง Moschino  รับหน้าที่ดูแลเรื่อง style  สร้างความคาดหวังสูงลิบลิ่ว  แต่เพราะสารพัดปัญหาที่รุมเร้าก็ทำให้พวกเธอต้องแยกย้ายจากกันไปท่ามกลางความโศกเศร้าของแฟนๆ

พัฒนาการของ K Pop ในช่วงเวลาสองทศวรรษนี้ทำให้ชาวอเมริกันเริ่มคุ้นเคยกับศิลปินจากเกาหลี  ไม่เพียงแต่จะโพรโมทผลงานใน talk show   แต่ยังมี award show   แต่ยังมีเทศกาล Coachella ที่ถ่ายทอดไปทั่วโลก   นับตั้งแต่  Epik High ได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงดนตรีในปี 2016  ก็ติดตามมาด้วยศิลปินชื่อดังอย่าง  BLACK PINK, 2NE1, Aespa และ Bibi    จุดประกายความคาดหวังให้แฟนจำนวนมากมายที่เฝ้ารอจะได้เห็นศิลปิน K-Pop ชื่อดังบนเวที Coachella ในครั้งต่อไป
 


หลายคนฟันธง PSY ได้สร้างปรากฏการณ์จนโลกตะวันหันมาชื่นชมK Pop


หากเปรียบเทียบ PSY กับซีรีส์เกาหลี    ความสำเร็จของเขาก็คงไม่ต่างจาก Squid Game  ที่ปังในระดับ fever กันทั่วโลก  ไม่ว่าคุณจะชอบดนตรี K-Pop  หรือไม่     ก็ย่อมเคยพานพบกับช่วงเวลาที่ Gangnam Style สิงสู่อยู่ในระบบประสาทหูแบบไม่สามารถสลัดไปง่ายๆ   ท่าเต้นควบม้าฮี้ๆกลายมาเป็นต้นแบบให้ชาวเน็ทสร้างคอนเทนท์กันนับไม่ถ้วน   ชาว Hollywood ปลื้มปริ่มจนเชื้อเชิญให้เขาไปร่วม party   ยิ่งเป็น  award show ยิ่งลุกเต้นให้พรึ่บ


หลายคนเชื่อว่า   ปรากฏการณ์ที่ Psy ได้สร้างไว้ก็เปรียบเหมือนกับ legacy ให้กับเด็กรุ่นหลัง   เพราะโลกได้ประจักษ์แล้วว่า  K-Pop สามารถเข้าถึงผู้คนมากมายโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เนื้อร้องภาษาอังกฤษ  ทั้งท่าเต้นและดนตรีที่ 'ย่อยง่าย' ดึงดูดให้แฟนๆเสพติดอย่างง่ายดาย      จากเดิมที่คนเกาหลียังมองว่า ช่างเป็นเรื่องยากที่จะพา K-Pop ไปสู่ความ mainstream ที่ USA    แต่หลังจากที่ Gangnam style ได้สร้างปรากฏการณ์viralไว้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น  ย่อมสามารถเปิดใจให้หลายคนอยากจะเข้ามาลิ้มลองเสน่ห์ของ K-Pop  มากขึ้น    ไม่ต่างจากความสำเร็จของ Squid game ที่ทำดึงดูดผู้ชมจากต่างประเทศให้เข้ามาหาความเพลิดเพลินใจกับซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่นๆด้วย


หนึ่งในความห็นที่น่าสนใจมาจาก netizen เกาหลีรายหนึ่ง ที่เปรยอย่างเอือมระอาว่า

"ประเทศเราช่างหมกมุ่นกับการประชันขันแข่งว่าใครจะทำได้ก่อนเป็นอันดับ1"


ในขณะที่การให้เครดิตนั้นมีความหมายกับหลายคน แต่อุตสาหกรรมบันเทิงที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจนสร้างมูลค่ามหาศาลในระยะเวลาไม่นาน คงไม่ได้มาจากศิลปินเพียงกลุ่มเดียวหรือไม่กี่กลุ่มที่แบกรับความคาดหวังเรื่อง'โกอินเตอร์' แต่มีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ K-Pop ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นแตกต่างจากในอดีต

การถกเถียงว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้บุกเบิกให้ดนตรี K-Pop ประสบความสำเร็จใน USA จึงฟังคล้ายๆว่า หากเป็นแฟนของศิลปินรายใด ก็คงต้องอวยว่าพวกเค้านั่นแหละที่เป็นผู้มาก่อนกาล!

แล้วคุณล่ะ  คิดว่าใครคือศิลปินที่เป็น game changer ที่ทำให้ดนตรี K-Pop เปรี้ยงปังระดับ mainstream?


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE