รีวิว รองพื้นงานผิวสวยในดวงใจ NARS LIGHT REFLECTING FOUNDATION
Minniie.Mew 45 24
สวัสดีสาว ๆ จีบันทุกท่านค่ะ ปกติแล้วสาว ๆ ที่ชอบการเมคอัพ คงจะมีแบรนด์ในดวงใจกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ? อย่างมิ้วเองก็มีแบรนด์ที่เลิฟที่สุดใน 3 โลกอย่าง NARS ค่ะ เริ่มแรกคือชอบบลัชออนก่อน แล้วก็ค่อย ๆ ขยับมาใช้ลิปสติก ไปจนถึงรองพื้น แล้วก็แป้ง Translucent ของเขากันเลยทีเดียว แต่ไอเทมที่ประทับใจสุด จนไม่อยากเปลี่ยนไปใช้ของแบรนด์อื่นแล้ว ก็คือ "รองพื้น" นั่นเองค่ะ จริง ๆ ก่อนหน้านี้มิ้วมีรองพื้นของ NARS รุ่น Radiant Longwear ที่ใช้อยู่เป็นประจำ จนมาล่าสุด ตั้งแต่ต้นปี 2022 เป็นต้นมา มิ้วได้ไปที่เคาน์เตอร์ของ NARS แล้วได้ลองเนื้อรองพื้นรุ่นที่ออกมาใหม่ในตอนนั้นอย่าง Light Reflecting แล้วคือทึ่งกับ Finishing Skin มาก ๆ เลยไม่รอช้า เงินในบัญชีเข้าปุ๊บก็สอยมาเลยค่าาาา~
ปกติมิ้วใช้แป้ง NARS Reflecting Setting Powder อยู่แล้ว บวกกับตอนนั้นตลับที่ใช้อยู่ใกล้จะหมดพอดี ก็เลยจัดมาพร้อมกันเลยค่ะ จะว่าไปดูจากชื่อรุ่นของรองพื้นตัวนี้ เค้าก็เหมือนพัฒนามาจากแป้งโปร่งแสงตัวนี้นั่นแหละค่ะ ความพิเศษของเค้าคืออะไร เดี๋ยวไปขยายความกัน
NARS LIGHT REFLECTING FOUNDATION
หลัก ๆ แล้วก็ตามชื่อเลยค่ะว่าเป็นรองพื้นที่ช่วยสะท้อนแสงให้มาตกกระทบบนผิว ทำให้ผิวสวยเป็นธรรมชาติ เหมือนเปล่งประกายจากภายในยังไงยังงั้น จำได้ว่าตอนลอง BA บอกว่าเค้ามีส่วนผสมของสกินแคร์ช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวดูสดใสขึ้นด้วย มิ้วมีถามไปเหมือนกันว่า Finishing Skin จะออกมาเหมือน NARS Sheer Glow รึเปล่า เขาก็ตอบว่าไม่เหมือนกันนะ ตัวนั้นจะเน้นทำให้ผิวดูชุ่มชื้น มีความ Dewy มากกว่า แต่ตัวนี้ได้ผิวที่เป็นธรรมชาติมากกว่าค่ะ
อยากจะเม้ามอยให้ฟังมากเลยว่าตอนที่มิ้วลองเนื้อรองพื้นตัวนี้ (ก่อนจะตัดสินใจซื้อในเวลาต่อมา) หน้าฝั่งนึงมิ้วก็ทารุ่น Light Reflecting ส่วนอีกฝั่งนึงก็ทา Sheer Glow ค่ะ แต่ใช้สี Mont Blanc เหมือนกันนะ จากนั้นก็ไปเดินเล่นต่อ จนถึงตอนถอดแมสก์ เพื่อนที่มาด้วยกันเค้าชอบฝั่งที่ทา Sheer Glow มากกว่า แต่ส่วนตัวมิ้วเองกลับชอบอีกฝั่งมากกว่า เพราะรู้สึกว่ามันคืองานผิวที่ธรรมชาติ ดูสุขภาพดีเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเยอะจริง ๆ ผลก็เลยมาออกที่รองพื้น NARS Light Reflecting ด้วยประการฉะนี้ 5555555
อยากจะเม้ามอยให้ฟังมากเลยว่าตอนที่มิ้วลองเนื้อรองพื้นตัวนี้ (ก่อนจะตัดสินใจซื้อในเวลาต่อมา) หน้าฝั่งนึงมิ้วก็ทารุ่น Light Reflecting ส่วนอีกฝั่งนึงก็ทา Sheer Glow ค่ะ แต่ใช้สี Mont Blanc เหมือนกันนะ จากนั้นก็ไปเดินเล่นต่อ จนถึงตอนถอดแมสก์ เพื่อนที่มาด้วยกันเค้าชอบฝั่งที่ทา Sheer Glow มากกว่า แต่ส่วนตัวมิ้วเองกลับชอบอีกฝั่งมากกว่า เพราะรู้สึกว่ามันคืองานผิวที่ธรรมชาติ ดูสุขภาพดีเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเยอะจริง ๆ ผลก็เลยมาออกที่รองพื้น NARS Light Reflecting ด้วยประการฉะนี้ 5555555
เนื้อรองพื้นเค้าจะไม่ได้ออกเหลวเกินไปนะคะ ยังคงเกลี่ยง่าย กระจายตัวได้ทั่ว และปกปิดได้ดีเลย แต่ถ้ามีสิวเม็ดเป้ง ๆ ก็ต้องมีพึ่งคอนซีลเลอร์กันไปตามระเบียบค่ะ
กล่าวถึง Setting Powder กันสักเล็กน้อย แม้ว่าทุกวันนี้มิ้วจะไม่ค่อยได้ใช้รองพื้นบ่อยนัก (ที่ซื้อมาเพราะความอยากล้วน ๆ) แต่แป้งตัวนี้ก็ยังเอามาใช้ในชีวิตประจำวันเป็น Daily Items อยู่นะ ชอบตรงที่เค้าโปร่งแสงจริง ไม่มีสี เวลาเซตผิวแล้วไม่ดูแมตต์เท่าไหร่ แต่ได้ความโกลว์ ๆ ดูเป็นธรรมชาติ เอามาเซตรองพื้นแทนแป้งฝุ่นหรือใช้ทัชอัพในระหว่างวันก็ได้
แต่เอาจริง ๆ มิ้วก็ไม่ค่อยชอบพัฟที่เค้าให้มาเท่าไหร่ มันดูเปราะบางเหลือเกินค่ะ นี่ก็เลยใช้แปรงปัดแทน สำหรับมิ้วเป็นวิธีที่เวิร์กกว่ามาก
แต่เอาจริง ๆ มิ้วก็ไม่ค่อยชอบพัฟที่เค้าให้มาเท่าไหร่ มันดูเปราะบางเหลือเกินค่ะ นี่ก็เลยใช้แปรงปัดแทน สำหรับมิ้วเป็นวิธีที่เวิร์กกว่ามาก
อยากให้ดู Before & After กันสักหน่อย กับผิวหน้าสด ๆ และผิวที่ลงรองพื้น + เซตแป้งเรียบร้อยแล้ว เห็นความต่างในเรื่องของการปกปิดและอำพรางรูขุมขน แต่ผิวก็ดูใสเป็นธรรมชาติขึ้นจริง ๆ แบบไม่ได้เหมือนใส่ Filter ให้ดูเวอร์นะ...
เอาเป็นไม่ต้องสาธยายเยอะ ให้ภาพด้านบนเป็นตัวบอกไปเลยดีกว่า!!!
เอาเป็นไม่ต้องสาธยายเยอะ ให้ภาพด้านบนเป็นตัวบอกไปเลยดีกว่า!!!
ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน สรุปกันสั้น ๆ ได้ใจความเลยค่ะ ว่าชอบรองพื้น NARS LIGHT REFLECTING FOUNDATION ตัวนี้มาก จะเรียกว่าตอนนี้มิ้วกลายเป็นสาวกของแบรนด์ NARS ก็ไม่ผิดนัก เมื่อก่อนมิ้วก็คิดว่าเราจะลงทุนใช้รองพื้นแบรนด์แพง ๆ ไปทำไมกัน แต่ตอนนี้ตอบได้ชัดเจนเลยค่ะ ว่าคงไม่มีรองพื้นแบรนด์ไหน ๆ ที่ให้ผลลัพธ์งานผิวที่ออกมาเพอร์เฟคแบบนี้แน่ ๆ แต่ใด ๆ ก็คือมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราจะใช้ด้วยนะ สำหรับมิ้วจะถูกจะแพงไม่สำคัญค่ะ สำคัญที่ต้องมีความปลอดภัยเรื่องส่วนผสม และการได้ใช้ทักษะในการแต่งหน้าตัวเองและคนอื่นให้ออกมาสวยก็เป็นอันใช้ได้
สุดท้ายหวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ทุกคนฟินกันถ้วนหน้า แล้วกลับมาพบกันใหม่นะคะ บ๊ายบาย~