ใน UK ได้จัดงาน "The Last Photos" แสดงภาพของผู้คนเรียงรายตามทาง ใครจะไปคาดคิดว่าภาพใบหน้าของผู้คนที่ยิ้มแย้มดูมีความสุขกว่าทั้ง 50 คน คือรูปใบสุดท้ายที่เขาได้ถ่ายเอาไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจลาลับโลกไปตลอดกาล

แกลลอรี่นี้ถูกจัดวางข้างถนนให้คนที่เดินผ่านไปมาได้เห็น โดยมูลนิธิป้องกันการฆ่าตัวตาย UK

มีคนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นทุกปี

ในหนึ่งอาทิตย์มีคนเสียชีวิตจากการตัดสินใจฆ่าตัวตายถึง 125 คน นับเป็นตัวเลขที่สร้างความตกใจมาก และยิ่งเห็นภาพถ่ายของคนทั้งห้าสิบก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย นั่นหมายความว่าเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ดูไม่มีเรื่องกังวลอะไร เขาได้เก็บงำเรื่องราว หรือเผชิญเรื่องทุกข์ยากอะไรมา

Ana คือหนึ่งในบุคคลที่สูญเสียสามีไปจากการฆ่าตัวตาย เธอพูดถึงงานแสดงภาพนี้ว่า "ฉันจะไม่มีทางลืมรอยยิ้มที่ช่างงดงามของคนเหล่านั้น ผู้คนที่งดงามที่มีอายุ เพศ ระดับสังคม และเชื้อชาติที่หลากหลาย พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการฆ่าตัวตายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน"

วันสุดท้ายมักไร้สัญญาณเตือน

ในนิทรรศการนอกจากจะแสดงรูปถ่ายแล้ว ยังมีเรื่องราวในวันสุดท้ายที่คนเหล่านั้นทำ ก่อนที่จะตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง

เช่น Peter ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายหลังจากผ่านดินเนอร์ที่ฉลองการแต่งงานครบ 33 ปีกับ Lisa ผู้เป็นภรรยา รูปใบสุดท้ายของ Peter ก็เป็นรูปที่ Lisa ถ่ายเอง

หรือ Lee อายุ 41 ปี เขาได้เสียชีวิตในวันที่มีช่วงเวลา "แสนวิเศษ" กับเพื่อนฝูง ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยการฆ่าตัวตาย ทั้งที่วันนั้นดูเป็นวันที่เขามีความสุข

แน่นอนว่าคนที่อยู่เคียงข้างจะต้องโดนครอบครัว ญาติ หรือเพื่อน พูดว่า 'เขาเป็นสามีของเธอนะ เธอใช้ชีวิตกับเขา เธอจะไม่เห็นได้ยังไงว่าเขามีสัญญาณอะไรแสดงออกมาก่อนหน้านี้' บางคนก็จะตำหนิ และคนเหล่านั้นก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร เพราะในการจากลาบางทีมักไร้ซึ่งสัญญาณเตือน

นิทรรศการนี้ทำให้ผู้คนได้เข้าใจมากขึ้นว่า คนที่เราเห็นว่าเขา "ดูปกติสุข" อาจกำลัง ทุกข์ทรมานกับชีวิต แต่ไม่อยากจะเล่าให้ใครฟัง หรือไม่อาจรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นโรคซึมเศร้า

เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าหนึ่งในเพื่อนที่สร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับคนรอบตัว จะเป็นคนเดียวกับคนที่ฆ่าตัวตายในวันเดียวกัน แคมเปญนี้ช่วยเพิ่มความตระหนักทำให้หลายคนหันมาใส่ใจโรคซึมเศร้ากับคนใกล้ตัวมากขึ้น และช่วยเหลือได้ทันท่วงที ที่เชื่อว่าสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง และช่วยอีกหลายชีวิตให้ไม่ต้องมีจุดจบอันน่าเศร้า

ที่มา: mirror, musebycl, dailymail