Review || มาย้อมผมตาม Personal color ด้วย Hello Cream จาก Mise En Scène กัน
Mini_Meen 48 27 JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!🧡 สวัสดีค่าาาา ~ อันยองงงง 🧡
วันนี้ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ที่จะได้มารีวิวการเปลี่ยนสีผม !
ผลิตภัณฑ์ในวันนี้ก็คือ HELLO CREAM X BLACKPINK จาก miss en scene นั่นเอง
นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่จากเกาหลี ที่มาในรูปแบบของเจลครีมเปลี่ยนสีผมแล้วนั้น เค้ายังทำมาเพื่อตอบโจทย์ personal color ด้วยนะ ซึ่งจะทำให้สีผิว สีผม และการแต่งตัวของเรา เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดด้วยล่ะ
🧡 พร้อมแล้วก็มาเร่ิมกันเลยยยย บอกเลยว่าง่ายมากๆ ทำเองได้สบายๆ เลยนะ 🧡
personal color
เมื่อพูดถึง personal color หลายๆ คนคงนึกถึงการสังเกต undertone ของตัวเองกันเนาะ ว่ามีสีไปทางไหน ซึ่งหลักๆ แล้วก็จะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ ด้วยกันค่ะ ได้แก่
🧡 warm undertone 🧡
ที่จะมีเส้นเลือดออกไปทางสีเขียว เมื่อออกแดดนานๆ ผิวจะคล้ำ และผิวจะดูสว่างขึ้นเมื่ออยู่กับสีทอง
💙 cool undertone 💙
ที่จะมีเส้นเลือดไปทางสีม่วง เมื่อออกแดดแล้วผิวจะแดง และผิวจะสว่างขึ้นเมื่ออยู่กับสีเงิน
จากที่สังเกตตัวเองทั้งจากการดูเส้นเลือด ดูการออกแดด หรือแม้แต่การเอาเครื่องประดับมาทาบที่ตัว ก็คือดูยากมากๆ เลยค่ะ ว่าจะไปทางไหน เพราะเส้นเลือดเราเองก็คือมีทั้งสองสีเลย 5555 แล้วถ้าใส่เครื่องประดับสีทองจัดๆ เหลืองมากๆ คือดูแก่ไปเลย หรือถ้าจะใส่สีเงินก็แปลกๆ รู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับการใส่สีทองอ่อนๆ ที่ออกจะไปทางสีเงินมากกว่า รวมถึงเวลาเลือกรองพื้นก็คือยากมากๆ ไม่เหลืองไป ก็ชมพูไป ทาแล้วไม่หน้าหมองก็หน้าเทา เลยคิดว่า personal color ของตัวเองน่าจะเป็นกลางๆ หรือที่เรียกกันว่า
💚 neutral undertone 💚
โดย personal color ก็จะแบ่งลึกลงไปอีก ที่เปรียบเทียบเข้ากับฤดูกาลค่ะ ตั้งแต่ autumn, spring, summer และ winter (เพื่อนๆ ลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูน้า)
และด้วยความที่คิดว่าตัวเองเป็น neutral undertone นี่ล่ะค่ะ ทำให้ลองเลือกเจลครีมเปลี่ยนสีผมที่เหมาะกับทุกโทนผิว อย่างสี "Mute Brown" ค่า
🧡 สภาพผม 🧡
เป็นคนผมหยักศกค่ะ เส้นผมไม่เล็ก ไม่ใหญ่ แต่ค่อนข้างฟู หนังศีรษะมัน ผมธรรมดาค่อนไปทางแห้งเล็กน้อย ตอนนี้ผมยาวประมาณหน้าอกค่ะ กำลังเลี้ยงไว้เพื่อเอาไปบริจาค :)
ก่อนหน้านี้เคยใช้ mise en scene สูตร HELLO BUBBLE X BLACKPINK มาก่อน โดยใช้สี matt ค่ะ ไม่ได้ลงตัว primer ใดๆ เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกซึ่งสีก็ติดดีมากๆ เลย ไว้จะเอามาเปรียบเทียบกับสูตรเจลครีมให้อ่านกันตอนท้ายนะคะ
🧡 รีวิว 🧡
จากการร่วมกิจกรรมกับจีบัน เราก็ได้เลือกสี 8MB Mute Brown มาค่ะ เพราะคิดว่าน่าจะเข้ากับตัวเองมากที่สุด เป็นสีน้ำตาลอมเหลือง ออกจะตุ่นๆ หน่อย ดูละมุม สุภาพดีค่ะ
บริเวณกล่องก็จะมีรายละเอียดไว้เยอะเลยค่ะ ทั้งสีผมที่จะได้ รายละเอียดของที่มี วิธีการใช้งาน รวมถึงการทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้งานค่ะ
ส่วนด้านหลังกล่องก็จะมีรายละเอียดเป็นภาษาไทยแปะอยู่ อาจจะมีรายละเอียดไม่เยอะเท่าแต่ก็สามารถทำตามได้ไม่ยากเลย
🧡 เปิดกล่องมาก็คืออุปกรณ์พร้อมเลย! มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. Colorant - สี 8MB Mute Brown มีลักษณะเป็นเนื้อครีมคล้ายกับครีมนวดผม
2. Oxidant พร้อมกับหวี - เนื้อจะมีความเป็นเจลใส
3. Wrapping Ampoule
4. Salon plus damage care treatment - ทรีตเม้นท์บำรุงผมหลังการเปลี่ยนสีผม
5. ผ้าคลุมและถุงมือ
🧡 ส่วนอุปกรณ์เสริมที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ
1. หวี
2. กิ๊บหนีบผม
3. ครีมหรือน้ำมันสำหรับทาบริเวณรอบๆ กรอบหน้า ใบหู ท้ายทอย เพื่อป้องกันการเปื้อนของสีที่จะติดบนผิวหนัง
🧡 วิธีทำ 🧡
ต้องบอกว่าง่ายมากๆ ค่ะ เพราะในคู่มือที่ให้มา มีภาพประกอบไว้ชัดเจน เข้าใจง่าย ซึ่งถ้าเราไม่มั่นใจก็สามารถกลับไปอ่านที่ข้างกล่องประกอบกันได้
เราจะมาแชร์ทริกที่ช่วยให้การย้อมผมง่ายขึ้น สีติดกันทั่วถึง และไม่เปื้อนผิวกัน
1. หวีผมให้เรียบร้อย - บอกเลยว่าจำเป็นมากกกกกก ควรจะหวีผมออกให้เรียบร้อย ไม่ควรให้ผมพันกัน เพราะหากผมยุ่ง เวลาเราย้อมผมคือจะทำให้สีไม่สม่ำเสมอได้
2. แบ่งผม ติดกิ๊บ - พอหวีผมให้ไม่พันกันแล้วก็แบ่งผมเป็นช่อๆ เพื่อให้ง่ายต่อการย้อมผม ส่วนตัวเราจะแบ่งออกเป็น 5-6 ช่อ ยิ่งช่อเล็ก ยิ่งดี เราจะได้ย้อมได้ทั่วทั้งหัว
3. ทาครีม - เมื่อเตรียมผมเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือการนำครีมหรือน้ำมันมาทาบริเวณกรอบหน้าค่ะ การทาผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมัน จะช่วยให้สีไม่ติดบนผิวเรา ทำให้ล้างสีออกจากผิวได้ง่ายขึ้นด้วย ถ้าใครใช้สีเข้มๆ แนะนำเลยน้า
4. ใส่ผ้าคลุมและถุงมือ
🧡🧡🧡🧡🧡
เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็มาต่อที่การย้อมผมกัน ทำตามนี้ได้เลยน้า
1. ผสม 01 Colorant + 03 Wrapping Ampoule ลงไปในขวด 02 Oxidant จากนั้นปิดฝา แล้วค่อยๆ เขย่าเบาๆ ให้ทุกอย่างเข้ากันดี จากนั้นค่อยน้ำหัวแปรงที่ให้มา เปลี่ยนเข้ากับฝาปกติ
2. เริ่มจากผมส่วนท้ายทอยก่อนค่ะ ค่อยๆ ไล่จากปลายผม เว้นโคนไว้ประมาณ 1 นิ้วก่อน จากนั้นก็ทำไปเรื่อยๆ ทีละช่อ
3. เมื่อครบทุกช่อแล้ว กลับมาเก็บช่วงโคนผม โดยเริ่มจากท้ายทอย ไล่ขึ้นไปจนถึงกลางศีรษะ
4. ถ้าเหลือเจลครีมในขวด ให้บีบออกมาเก็บรายละเอียดต่างๆ ให้เรียบร้อยค่ะ ทั้งบริเวณลูกผม หลังหู และอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสีผมทุกเส้นจะสม่ำเสมอ เราก็ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ เก็บให้ละเอียด
5. หวีผมแล้วนวดๆ อีกครั้ง ก่อนจะทิ้งไว้ 25-30 นาที
6. พอครบเวลาแล้วก็สระผมด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยแชมพูปกติ สระให้สะอาดแล้วต่อด้วยทรีตเม้นท์
7. ซับผมให้หมาด บำรุงผมต่อด้วย mise en scene - perfect serum styling และเป่าผมให้แห้ง
เย่ แค่นี้ก็เรียบร้อยยยยยยย
🧡 ความประทับใจ 🧡
ปรบมืออออออ ต้องบอกว่าใช้ง่ายมากๆ ค่ะ ทุกอย่างมีขั้นตอนชัดเจน มือใหม่ก็ทำได้ :)
🧡 สีสวยมากกกกกกกก ติดทนดี ให้สีผมที่สม่ำเสมอ
🧡 กลิ่นไม่ฉุนจนแสบจมูก มีความเคมีนิดๆ แต่ไม่แสบตา แสบจมูกเลยค่ะ
🧡 อาจจะมีแสบหนังศีรษะนิดๆ หลังจากการที่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ซึ่งความแสบๆ ยิบๆ นี้ไม่ได้รุนแรงอะไร
🧡 แพคเกจคิดมาแล้ว ใช้งานง่าย
🧡 สำหรับผมยาวประมาณเรา และผมไม่หนามาก ใช้แค่ 1 กล่อง คือพอดีเลย เหลือนิดหน่อยเอาไว้สำหรับเก็บรายละเอียดได้
🧡 ทรีตเม้นท์คือดีมากกกกกกกกก หอมมากกกกกกก ผมนุ่มมากกกกกกกก
เปรียบเทียบรุ่น
🧡 HELLO BUBBLE + HELLO CREAM 🧡
เลือกยากมากค่ะ 5555 ขอไม่เลือกแล้วกันนะ คือชอบทั้งคู่เลย ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันนิดหน่อย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าแล้วแต่ความชอบเลยค่ะ เพราะเอาจริงๆ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต่างกันเลย
🧡 HELLO BUBBLE - เราว่าใช้งานง่ายกว่า พอเป็นโฟมๆ มันแทรกซึมได้ง่าย ซอกซอนทุกมุม พอมีโฟม เราสามารถมองเห็นได้ง่ายๆ ว่าจุดไหนเราทำไปแล้ว จุดไหนยังไม่ทำ เนื้อไม่เหนียว ด้วยความที่มี base เป็นน้ำ ทำให้นวดไปกับผมได้ดี แต่พอโฟมหมด สีแอบไหลออกมาเยอะ ต้องใช้ในปริมาณพี่พอเหมาะ และคอยเช็ดอยู่เรื่อยๆ ระหว่างที่รอ
🧡 HELLO CREAM - ด้วยความเป็นเนื้อเจลครีม ทำให้ไม่เลอะเทอค่ะ สีติดอยู่กับผมได้ไม่ไหลย้อย แต่ความยากคือมีความเหนียว พอทาลงไปบนผมแล้วหนืดมากๆ ต้องใช้หวีช่วย ไม่งั้นผมเป็นสังกะตังได้ง่ายๆ เลย ซึ่งเมื่อหวียาก ก็แอบต้องออกแรงเยอะในการสางค่ะ ซึ่งพอหนืดมากๆ และด้วยความเป็นครีม ทำให้อาจจะมองไม่เห็นว่าจุดไหนที่เรายังเก็บไม่หมด อาจจะต้องเช็คกันดีๆ เพื่อให้สีผมสม่ำเสมอค่ะ
อย่างที่บอกเลยค่ะ ว่าเลือกยากมาก 55555 ข้อมูลตรงนี้ก็ขอฝากไว้ให้เพื่อนๆ เอาไปลองตัดสินใจกันดูน้า
ฮี่ๆ ก่อนจะจากกันไป มาดู before / after กันค่ะ
จะเห็นว่าก่อนทำ คือโคนชัดมาก 55555 ทิ้งไว้ 2-3 เดือนได้ สีเก่าคือ Matt ค่ะ สำหรับผมเรา สีนี้จะออกโทนอมแดงนิดนึง ส่วนสี Mute Brown ก็คือออกโทนเหลืองชัดเจนขึ้นเลยค่ะ พอออกแดดสียิ่งชัดเจนเลย ชอบมากๆ รู้สึกว่าพอเปลี่ยนสีผมปุ๊บ ลุคก็แอบเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน
วันนี้ก็คงไปก่อนแล้วน้าาาาา ใครใช้สีไหน ชอบสีไหน ก็มาแชร์กันได้นะคะ อยากลอง 555555
ขอบคุณกิจกรรมดีๆ จาก บ้านจีบันและ mise en scene นะค้าาาาา
บัยสสสสสสสสสสส์
🧡🧡🧡🧡🧡