รวมแง่คิดเรื่อง Beauty จากKim K
candy 36 10ปล่อยวางเรื่องความไม่perfect ในวัยหลักสี่ แต่หลังจากลูกเข้านอนแล้วขอเวลาทำเลเซอร์
นักข่าวจากนิตยสาร Allure ต้องตกตะลึงเมื่อค้นพบพิธีกรรมความงามของเจ้าแม่ internet home laser treatments กลางดึกกันเลยทีเดียว!
"ฉันใส่ใจซิคะ เรื่องความดูดีเนี่ย ฉันเอาใจใส่ให้มันมากจริงๆ"
"ฉันคงจะใส่ใจเรื่องนี้มากกว่าคน 90%บนโลก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับแม่ที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน หรือตอนที่ขมีขมันเข้าเรียน ซึ่งฉันต้องทำสองอย่างนี้ไปพร้อมกัน ฉันจะทำทรีทเมนท์เพื่อความงามในช่วงกลางดึก ฉันจะยิงเลเซอร์หลังจากที่ทุกคนในบ้านเข้านอนแล้ว"
"ฉันปล่อยวางเรื่องความไม่สมบูรณแบบได้แล้ว และฉันก็ไม่ได้หมกมุ้นเหมือนแต่ก่อน ฉันเกบียดมือของตัวเองมาก มันทั้งเหี่ยวย่นและน่าเกลียด แต่ชั้นได้ผ่านการใช้ชีวิต ฉันเปลี่ยนผ้าอ้อมและกอดลูกๆด้วยมือคู่นี้ ฉันจึงยอมรับพวกมันได้ เมื่ออายุมากขึ้นก็ไม่ได้ว่าฉันจะหยุดความมุ่งมั่นเพื่อความสมบูรณ์แบบ แต่ฉันก็ได้ตระหนักว่า โอเค สุขภาพของฉันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด"
"มันเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายได้ เพราะถึงฉันจะปล่อยวางได้แล้ว ฉันก็ยังทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองดูอ่อนเยาว์และรู้สึกอ่อนเยาว์"
สิ่งที่ยอมทำได้เพื่อคงความอ่อนเยาว์ไว้ให้นานที่สุด
เมื่อไม่นานมานี้ Kim ได้กลายเป็นหัวข้อข่าวอีกครั้ง หลังจากให้สัมภาษณ์กับ The New York Times เพื่อโพรโมท SKKN By Kim skincare line ราคาครบเซ็ท $630 ที่เจ้าตัวยืนกรานว่า ตั้งราคาไว้ขนาดนี้เพราะใช้ส่วนผสมอย่างดี เลือกสรรแต่สิ่งที่ใช้เองจริงๆ เพื่อยืนยันว่าเธอแคร์เรื่องความอ่อนกว่าวัยมากขนาดไหน เจ้าตัวก็ได้พูดเล่นๆว่า
"ถ้าบอกฉันว่า ถ้าอยากจะดูอ่อนกว่าวัยแล้วจะต้องกินอึทุกวัน ฉันก็อาจจะกินมัน อาจจะนะ"
แต่เมื่อถูก Allure ตั้งคำถามเรื่องคำพูดนี้อีกครั้งว่า เธอจะยอมไปไกลได้แค่ไหนเพื่อความหน้าเด็ก ก็ได้รับคำตอบว่า
"ตอนนั้นฉันพูดไปขำๆ แต่มาลองคิดกันจริงๆ ถ้ามีคนบอกว่ากินอึทุกวันแล้วจะดูหน้าเด็กลง ฉันก็คงจะกินมันจริงๆ"
แต่เธอยืนยันว่า คงไม่กล้ากินเป็นชาม
"คงจะแค่กัดสักคำ ฉันว่ากินเป็นชามไม่ไหวหรอก ร่างกายคนเราคงไม่สามารถรับปริมาณเป็นชามได้"
"แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่สามารถแยกแยะว่ามันไม่ healthyมากแค่ไหนหากยึดติดจนไม่ยอมแก่ ฉันอายุ 41 แล้ว ฉันก็อยากจะดูงามสมวัย พอทำมากจนฉุดไม่อยู่ ฉีดมากไป ตึงมากไป ศัลย์มากไป มันจะกลายเป็นเรื่องเสียหายเลยล่ะ "
Energy เปลี่ยนไปเมื่อกลายเป็นสาวผมบลอนด์
"พอผมเป็นสีบลอนด์ energyฉันก็เปลี่ยนไปเลย เหมือนกลายเป็นคนละคน"
"ฉันแสบซ่ามากขึ้น บลอนด์แล้วฉันมั่นใจมากขึ้น พอกลับไปเป็นสาวบรูเน็ท ฉันก็กลายเป็น boss หรือจะเป็นตอนที่ทำเล็บปลอมยาวๆ ฉันก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเหมือนกัน ความมั่นใจของฉันพุ่งขึ้นอีกหลายขีด ซึ่งจริงๆฉันไม่ชอบเล็บยาวเอาซะเลยนะ แต่นานๆครั้ง ฉันก็ต้องการ energy แบบ boss สุดเผ็ดแซ่บบ้าง แต่เมื่อต้องเขียนรายงานส่ง ฉันก็ต้องเรียกร้องให้ถอดเล็บออกไปซะ ฉันพิมพ์งานไม่ได้"
เปลี่ยนข้อกล่าวหาเรื่อง photoshop เป็นการโพรโมทแบรนด์
คุณผู้ชมคงมองออกว่า สำหรับผู้มีสถานะ The Internet Queen อย่าง Kim แม้ถูกยกให้เป็น trendsetter ทรงอิทธิพลแห่งยุค digital แต่ก็จับจ้องด้วยสายต่จับผิดทุกความเคลื่อนไหว เธอถูกโจมตีเรื่อง photoshop ภาพให้ดูสวยเป๊ะเหนือ beauty standard หลายครั้งหลายหน(รูปร่างแบบนาฬิกาทราย เอวมด ขาเรียวยาว) ชาวเน็ทยังกล่าวหาว่า เธอเป็นแบบอย่างยอดแย่ต่อผู้ติดตามที่จะเอาแต่เลียนแบบ และหมกมุ่นกับกับรูปลักษณ์จนเอาแต่ edit ภาพตัวเองเพื่อโชว์ความงามที่เป๊ะตามเทรนด์
แม้จะมีผู้ออกมาแย้งว่า เรื่อง photoshop หรือใช้ app ปรับแต่งภาพให้ดูผอมลง ผิวสวย หรือเติม makeup ให้ดูโดดเด่นมากขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องแหกกรอบ ไม่ได้มีแต่ Kimเท่านั้นที่แต่งภาพตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นเซเลบหรือคนธรรมดาก็ดาวน์โหลดแอพแต่งภาพช่วยเสริมความงามเพื่อ share คนอื่นเห็นกัน หาก Kim เลิกทำก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเลิกตามไปด้วย แต่กระนั้น สื่อก็มักพาดหัวข่าวด้วยคำกล่าวหาจากชาวเน็ทเรื่องสิ่งผิดปกติจากภาพ social media ของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบ้านเบี้ยว สัดส่วนที่ผิดแปลกไป หรือมุมกล้องที่ทำให้รูปร่างดูแตกต่างกับตัวจริง ดังในกรณีข้อกล่าวว่า Kim รีทัชเอวตัวเอวให้คอดกิ่วจนสะดือหาย หรือหนักกว่านั้นก็มีคนฟันธงว่า เจ้าตัวผ่านทำศัลฺยกรรมสะดือมาแล้ว!
ที่ผ่านมา หากมีคนจับผิดเรื่องรีทัช Kim อาจจะลบภาพออก หรือไม่ก็ปล่อยทิ้งไว้แบบไม่ยี่หระอะไร แต่คราวนี้ เธอสวนกลับด้วยการเชิญชวนให้มาช็อป Skimsซะเลย!
"ไม่มั่นใจเรื่องสะดืองั้นเหรอ? ทำไมไม่ลองเข้ามาหากางเกงชั้นในเอวสูงเริ่ดๆจะได้ช่วยพรางสะดือหย่อนยานใน skims.com เหมือนกับฉันล่ะ ยินดีจ้ะ"
มีเหตุการณ์ที่ถูกเรียกว่า Photoshop scandal เกิดขึ้นกับ Kim หลายครั้ง เธอเคยชี้แจงเรื่องรีทัชภาพลูกและหลานๆ ดังเหตุการณ์ที่เคยตัดต่อใบหน้าของน้อง True ลูกสาว Khloe มาใส่ตัวของน้อง Stormi เพราะ Kylie ไม่โอเคที่จะให้แชร์ภาพนั้นของลูกสาว แต่เพราะน้อง Chicago ที่ถ่ายรูปคู่กันแต่งตัวเข้ากับ Pink theme บน Instagramพอดี แล้วชาวเน็ทตาไวสังเกตเห็นจากภาพอื่นว่า ในภาพที่ปรากฏเป็นน้อง True นั้น ที่จริงแล้วเป็นน้อง Stormi ที่ถูกตัดต่อต่างหาก หรือแม้แต่เรื่องการรีทัชลายพื้นพรมในโรงแรมจากภาพเปิดตัวความสัมพันธ์กับ Pete Davidson ที่ชาวเน็ทถามหาเหตุผลว่าจะเปลี่ยนลายไปทำไม?
ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวได้แจงชัดเจนว่า ได้จ้างคนสนิทมาดูแลเรื่อง filter ภาพบน social media ซึ่งเป็นงานแบบ full time เต็มรูปแบบ ซึ่งเป้าหมายคือการจัดระเบียบให้ภาพมี mood ตรงตามที่เธอต้องการ ไม่ปะปนไร้ทิศทางนั่นเอง
ไม่ได้ชักจูงให้ใครต้องลดน้ำหนักตาม
เมื่อ Kim ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อจะใส่ชุดในตำนานของ Marilyn Monroe เพื่อเดินพรมแดง MET Galaให้ได้ ก็ต้องทุ่มเทลดน้ำหนักจนรีดออกไปได้ถึง 7 kg ภายในระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ (เนื่องจาก Marilyn มี body type แตกต่างจาก Kim มาก) เธอทั้งไม่แตะน้ำตาลและคาร์บและสวมชุดซาวน่าเรียกเหงื่อวันละสองครั้ง จนในที่สุดก็สามารถดึงชุดขึ้นพ้นสะโพกได้ และเมื่อสร้างเสียงฮือฮาบนพรมแดงได้สมใจก็ประกาศว่า จะฉลองด้วยการกินพิซซ่าและโดนัทให้เต็มที่! แต่ปฏิริยาจากโลกออนไลน์นั้นปะปนกันไปทั้งแง่บวกและลบ นางเอกสาว Lili Reinhart และชาวเน็ทจำนวนมากตำหนิเธอว่า การเชิดชูวิธีไดเอทแบบสุดโต่งเพื่อจะสวมชุดให้พอดีนั้นเป็นเรื่องผิดมหันต์ และยังมีผู้ที่มองว่า เธอกำลังโอ้อวดเรื่องการลดน้ำหนักจนอาจจะเป็นการชักนำให้คนเห็นดีเห็นงามทำตามจนเสี่ยงเป็นโรคปฏิเสธอาหาร
กระแสถล่มนั้นแรงพอจะทำให้ Kim ออกมาชี้แจง เธอยืนยันว่า การใส่ชุดของ Marilyn ก็ไม่ต่างจากนักแสดงที่แสดงบทบาทของตัวละครที่มีรูปร่างแตกต่างไปจากตัวตนจริงๆ
"ฉันคิดว่า โอเค ถ้าChristian Bale ลดน้ำหนักจนผอมเพื่อแสดงหนังได้ และสังคมก็ยอมรับด้วย หรือRenée Zellweger ก็ยังเพิ่มน้ำหนักให้อวบขึ้นเพื่อบทหนัง มันก็เป็นอะไรที่เหมือนกันกับสิ่งที่ฉันทำค่ะ"
"ฉันไม่ได้บอกว่า เฮ้ ทุกๆคน มารีดน้ำหนักในเวลาสั้นๆกันสักหน่อย"
trainer ของ Kim ได้ออกมาโต้ตอบดราม่าเรื่องการลดน้ำหนักแบบผิดๆว่า คนอื่นเข้าใจผิดว่า พวกเค้าคร่ำเคร่งอดอาหารจนน้ำหนักลดฮวบในเวลาสามสัปดาห์ แต่ที่จริงแล้ว Kim ทุ่มเทสุดตัว นอกจากจะคุมอาหารด้วยวิธี real balanced diet ก็ยังเข้า gym และชี้ว่า มันเป็นไปได้ที่จะลดน้ำหนัก ไป 20lbs แบบดีต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม Kim ได้ยอมรับถึงผลกระทบจากการใช้วิธีคุมอาหารอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเธอมีโรคประจำตัวเป็นสะเก็ดเงิน ก็อาจจะเกิดอาการข้ออักเสบสะเก็ดเงินตามมาด้วย จากปกติที่จะกินอาหารแบบ plant based มานาน แต่เพื่อให้ลำน้ำหนักให้ได้อย่างรวดเร็ว จึงกลับไปกินเนื้อตามprogram และเกิดอาการข้ออักเสบจนไม่สามารถขยับมือได้ หลังจากรับ steroid จากแพทย์ แล้วกลับไปกินแต่พืชผักเหมือนเดิม อาการจึงทุเลาลง
ล่าสุด เธอเผยว่า ลดน้ำหนักไปได้ราว 9.5 kg จากการมากินเพื่อสุขภาพ และรู้สึกได้ถึพลังกระปรี้กระเปร่า อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งงดน้ำตาลแฃะอาหารขยะให้ได้มากที่สุด จากที่กินของทอดเยอะๆก็เปลี่ยน lifestyleไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเธอออกทริปไปชายทะเลสวยงามกับKhloe(ซึ่งผอมลงในเวลาไล่เลี่ยกัน) ก็ทำให้บรรดาสื่อพาดหัวข่าวเรื่องรูปร่างหลังลดน้ำหนักของพวกเธออย่างพร้อมเพรียง
No filler, No Eyelash extensions
นักข่าวจาก Allure พยายามคาดคั้น Kim ว่า เธอทำอะไรกับหน้ามาบ้าง (จากการตั้งข้อสันนิษฐานเรื่องรูปลักษณ์ที่ดูต่างออกไปจากในอดีต) และได้ยินเสียงยืนกรานตอบกลับมาว่า เคยฉีด Botox บริเวณหน้าผาก กึ่งกลางระหว่างคิ้วเท่านั้น แต่ตอนนี้เพลาๆมือลงไปเยอะ
"ไม่เคยฉีด filler ทั้งแก้มและปาก"
"ไม่เคยต่อขนตามาก่อน ปัดมาสคาร่าเพียงนิดเดียวมาให้สัมภาษณ์"
นักข่าวได้ยินแล้วก็พยายามต้อนให้Kimยอมรับ เพราะเห็นขนตายาวเฟื้อยของ Kim แบบใกล้ชิดแล้วไม่อยากจะเชื่อว่ามาจากธรรมชาติ 100% เมื่อพยายามส่องก็ยังไม่แน่ใจ แต่พิจารณาแล้วว่า คิ้วของเธอดูคมเข้มเป็นของจริง ดังนั้นขนตาก็ร่าจะจริงเหมือนกัน
(เรื่องขนตายาวเป็นธรรมชาติของ Kim นั้นเคยมี makeup artist ชื่นชมไว้ก่อนแล้วว่าทั้งยาวทั้งงอนเด้งจนไม่ต้องทำอะไรมากมายเลย)
รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนผิด หรือต้องรับผิดชอบกับเรื่องการตั้งมาตรญานความงามที่ยากจะบรรลุและจับต้องไม่ได้หรือไม่?
"ถ้าฉันทำมันได้ ก็แสดงว่า มันสามารถเข้าถึงได้ มีมาตรฐานความงามอยู่มากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นGwen Stefani, Jennifer Lopez หรือ Marilyn Monroe ลุคที่อินกันมากตอนที่ฉันยังเป็นวัยรุ่น คือสาวผอมเพรียวผมบลอนด์" แต่เธอก็ได้พบเห็นสาวละติน่าคมเข้มอย่าง Salma Hayek ที่มาพร้อมกับส่วนเว้าส่วนโค้ง ซึ่งเข้ากับแนวครอบครัว Kardashian
"ฉันไม่เคยมีทัศนคติที่ว่า เมื่อได้เห็นคนที่ออก TV หรือถ่ายแบบ magazines แล้วมานั่งเลือกว่าอยากจะเอาอย่างคนไหน ฉันยึดมั่นเสมอว่า จงเป็นตัวของตัวเอง เสาะหาความงามจากทุกๆสิ่ง"
ยินดีเมื่อสักวันหนึ่งชื่อเสียงที่รุ่งโรจน์จะจืดจางหายไป
"มันคงเป็นเรื่องดีงาม หากได้เกษียณตัวเองในฐานะKim K แล้วก็ทำหน้าที่นักกฎหมายต่อ แต่ถ้าทุกอย่างสิ้นสุดลง ฉันก็คงมีความสุขไม่ต่างกัน"
"ฉันอยากจะให้คนอื่นๆ เดินจากไปด้วยความคิดว่า เธอก็เป็นคนดีนะ เธอทำอะไรดีๆไว้หลายอย่าง"