ติดตามชีวิต Miss Universe: อำลาตำแหน่งแล้วทำอะไรต่อ?

40 14


คุณอาจจะเคยได้ยินมาว่า  ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันถึงตำแหน่ง beauty queen แห่งเวที Miss Universe มาตั้งแต่ยังเป็นสาวน้อยวัยไร้เดียงสา  ซึ่งคงไม่น่าแปลกใจนักว่า เหตุใด จึงมีผู้ยกให้ Miss Universe  เป็นต้นแบบที่วร้างแรงบันดาลใจ   ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด  ผู้ชนะจากเวทีนี้ก็จะยังได้รับคำชื่นชมให้เป็น 'ผู้หญิงที่งดงามที่สุดในโลก' ที่ไม่เพียงแต่จะโดดเด่นด้วยความงามภายนอก แต่ยังมีคุณสมบัติสวยหรูที่ทำให้ผู้คนตกหลุมรัก    สำหรับบางประเทศ  การคัดเลือกสาวงามเพื่อทำหน้าที่ตัวแทนประเทศเข้าแข่งขันชิงชัย Miss Universe สร้างกระแสความสนใจอย่าง  จนถูกเปรียบความสำคัญในระดับวาระแห่งชาติ

สาวงามที่ครอบครองมงกุฎอันเปล่งประกายนี้ต่างพูดตรงกันว่า ชีวิตของพวกเธอได้เปลี่ยนแปลงไปภายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แต่สงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า แต่ล่ะคนจะต่อยอดความสำเร็จจากตำแหน่ง Miss Universe กันเช่นใด

มาติดตามกันได้เลยค่ะ!

 Iris Mittenaere

แม้จะไม่ได้มาจากชาติที่คลั่งนางงาม แต่ก็ต่อยอดความสำเร็จจนกลายเป็น influencer ชื่อดัง
สังเกตกันรึเปล่าว่า นางงามจากยุโรปมักจะไม่ติดอันดับตัวเก็งที่จะเข้ามาฟาดฟันเพื่อคว้ามงกุฎ Miss Universe แตกต่างจากการประกวดในช่วงบุกเบิกในยุค 50s - 60s ที่ 'มงลง'นางงามจากทวีปนี้กันหลายครั้ง สำหรับชัยชนะของ Iris Mittenaere นักศึกษาทันตแพทย์ศาสตร์จาก Lille คือการครองตำแหน่งครั้งที่สองของสาวงามฝรั่งเศสในรอบ 63 ปี รวมถึงเป็น Miss Universe จากทวีปยุโรปคนแรกนับจาก Miss Norway ในปี 1990 แฟนๆการประกวดหลายคนมองว่า เธอคือม้ามืดที่หักปากกาเซียนผู้มาแบบเงียบๆแล้วspeed เข้าสู่รอบจับมือ แต่ทั้งคุณสมบัติจากความงาม, performance, การตอบคำถาม และโพรไฟล์ที่โดดเด่นนั้นทำให้หลายคนยอมรับว่า 'สมมง'จริงๆ


เรายังจำคำสัมภาษณ์ของ Iris หลังพิชิตมงกุฎ Miss Universe ได้ว่า คนฝรั่งเศสไม่ได้ติดตามการประกวดเวทีนี้ (หรือเวทีไหนๆ) กันมากนัก และน่าจะสันนิษฐานได้ไม่ยากว่า ประเทศแถบยุโรปไม่ได้อินกับนางงามกันมากเหมือนกับประเทศในแถบอเมริริกาใต้ ฟิลิปปินส์ รวมถึงบ้านเรา คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเปิดประเเด็นสนทนาเรื่องความคลั่งไคล้นางงามกับคนฝรั่งเศสแล้วอีกฝ่ายจะแสดงท่าทางงุนงงใส่ เพราะยังมีอีกหลายคนที่มองการประกวดนางงามด้วยอคติว่า เป็นธุรกิจที่สร้างความสำเร็จกับการตีค่าตีราคาร่างกายผู้หญิง จนเกิดการถกเถียงมายาวนานว่า นี่เป็นเรื่องของ empower หรือ sexual objectification ?

เมื่อได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Miss Universe จากประเทศที่ไม่ได้คลั่งไคล้เรื่องนางงามนัก ก็อาจจะทำให้มีบางคนคิดว่า Iris อาจจะค่อยๆเงียบหายไป แต่ความจริงก็คือ เส้นทางการ invent ตัวเองของสาวฝรั่งเศสคนนี้อยู่ในระดับปังมากกกกกก

ยังไงน่ะเหรอ? 

แม้จะเธอจะเคยออกตัวว่า ชาวฝรั่งเศสไม่ค่อยติดตามประกวดนางงามกันเท่าใด แต่เมื่อได้รับตำแหน่ง สื่อก็ฮือฮากันไม่ใช่เล่นเลย ยิ่งได้เดินทางกลับบ้านเกิด ผู้คนก็หลั่งไหลไปต้อนรับเธออย่างมืดฟ้ามัวดิน แม้จะได้อยู่ฝรั่งเศสไม่นานเพราะต้องเดินทางกลับอเมริกาเพื่อทำหน้าที่ Miss Universe แต่หลังจากโบกมือลาตำแหน่ง เธอก็ได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยหลากหลายโพรเจคท์จนโด่งดังในระดับเซเลบ ทั้งได้รับเชิญให้เข้าร่วมรายการ TV และกลายมาเป็น TV personality ที่ผู้ชมคุ้นหน้าคุ้นตาในช่วงหลายปีมานี้  ส่วนผลงานจากโลก social media ก็รุ่งมากถึงขนาดที่ Forbes ฝรั่งเศสจัดให้เธอเป็นหนึ่งในห้า digital influencers ที่ประสบความสำเร็จ
  นอกจาก Iris จะได้รับเชิญให้เป็นกรรมการหรือผู้แข่งขันในรายการดังต่างๆ   เธอยังได้รับการคัดเลือกให้เป็น brand ambassador ของ Morgan เป็นเรื่องปกติที่เราจะได้เห็น Irisในอีเวนท์เลิศเลออย่างพรมแดงเทศกาลหนังเมือง Cannes หรือ front row ใน Paris fashion week      แม้ว่าจะบอกลาตำแหน่งไปหลายปี เธอก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมของ Miss Universe มาแล้วหลายครั้ง   อย่างการทำหน้าที่พิธีกร  Miss Universe Philippines 2022    ที่เธอได้ถ่ายทอดให้ผู้ติดตามกว่าสามล้านคนได้เห็นการทำงานที่ฉากด้านหน้าสวยหรู  แต่มีความกดดันมากมายอยู่เบื้องหลัง ทั้งการเตรียมคำเนินรายการภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาที่ 2ของเธอในการถ่ายทอดสดให้ไหลลื่นเต็มไปด้วยความมั่นใจ   การสร้างประสิทธิภาพจากผลงานที่แข่งกับเวลา  เราจะได้พบกับปัญหายิบย่อยต่างๆ เห็นทั้งหน้าสดไม่ปรุงแต่ง การพยายามยัดร่าง(ที่ผอมบางอยู่แล้ว)ลงไปในชุดตัวจิ๋วที่เจ้าภาพจัดให้เลือก แม้แต่ชุดประจำชาติPhilippines ที่ทำให้เธอต้องทำใจยอมรับว่า ความสวยต้องแลกกับความอกทนกับความเจ็บปวด   เมื่องานจบแล้ว  แม้จะมีความสุขซาบซึ้งไปกับผู้ชนะ เธอถึงกับประกาศออกมาว่าร่างแหลก!


Iris เคยเปิดใจว่าการทำหน้าหน้าที่ Miss Universe ได้มอบประสบการณ์อันล้ำค่าของชีวิต แต่เธอก็รู้สึกแปลกอยู่บ้างที่ถูกดูแลแบบประกบไม่ห่างราวกับเป็นเเด็ก เมื่อได้อิสระกลับคืนมา เธอก็ริเริ่มโครงการต่างๆด้วยความไฟแรงสุดๆ งานเพื่อสังคมในการดูแลช่องปากก็ยังเดินหน้าต่อ แล้วยังมีการเขียนหนังสือชีวประวัติเพื่อบอกเล่าเส้นทางสู่ตำแหน่งและนำเสนอข้อแนะนำในการสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองให้กับผู้อ่าน เธอพบรักกับเจ้าของ agency ที่ดูแล digital influencers และจับมือกันนำเสนอ content แต่ถึงจะได้รับความนิยมอย่างสูง เธอก็ต้องผจญกับ haters ที่คอยตามจองล้างจองผลาญไม่ต่างจากเซเลบคนอื่น และยอมรับว่า ไม่สามารถทำใจให้เคยชินกับความ toxic นี้ได้สักที 




Paulina Vega

เซ็นสัญญากับ modeling agency เข้าสู่วงการ fashion

เธอคือหนึ่งใน  Miss Universe ที่ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องความสวยเป๊ะจนมีแฟนๆติดตามมาถึงทุกวันนี้  ในวัยเพียง 21 ปี เธอเอาชนะการประกวด beauty queen จากเวทีดังในยุคที่  Donald Trump ยังเป็นผู้จัด และสร้างความฮือฮาด้วยคะแนนที่สูงที่สุดถึง 9.9 ในทุกรอบ!   

แต่การเซ็นสัญญาเป็นนางแบบกับ agency ใน New York นั้นโหดหินไม่ต่างจากการประกวดนางงามเลย เธอเผยว่า ตอนที่น้ำหนักตัวขึ้นเพียง 1kg คนจาก agency ก็ทำให้เธอตกตะลึงด้วยคำพูดว่า เธอไม่ได้มีรูปร่างนางแบบทั่วไปที่ต้องผอมบางอีกต่อไป และถูกจัดเข้าในกลุ่มนางแบบ plus size ทั้งๆที่เธอคุ้นเคยกับวงการ modeling มาตั้งแต่ 8 ขวบ แต่การสานต่อความฝันที่อเมริกานั้นกลับทำให้เธอรู้สึกสับสนว่าจะไปต่อกับวงการนี้ดีหรือไม่



Paulina ยืนยันว่าเธอตัวเองในแบบที่เป็นอยู่ และจะไม่ปล่อยให้ตัวเลขสัดส่วนเป็นนิยามคุณค่าตัวตนของเธอ   และตัดสินใจจะร่วมงานกับแบรนด์ที่ไม่กดดันให้นางแบบต้องคอยรักษาความผอมจนสุดโต่ง

"ฉันเชื่อว่าความงามของรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เป็นทุกอย่าง มันไม่ควรจะเป็นจุดศูนย์กลางในเรื่องการงานของคุณ ไม่ควรจะเป็นสิ่งที่คุณให้ความสำคัญกว่าอย่างอื่น ไม่ควรจะเป็นสิ่งที่คุณเอแต่หมกมุ่นครุ่นคิดและทุ่มเทพลังงานให้ไป มันไม่ healthy เลย เมื่อฉันอายุ 60 ปี ฉันก็จะมีรูปร่างหน้าที่เปลี่ยนไปจากตอนนี้มาก หากฉันเอาแต่จดจ่อกับเรื่องนี้ ตัวฉันจะกลายไปเป็นอย่างไรเมื่อความงามสูญสลายไป?"



แม้จะเป็น Miss Universe ในยุค Trump  แต่เธอไม่ใช่ beauty queen ลูกรักของอดีจประธานาธิบดีผู้อื้อฉาวแต่อย่างใด     จุดเด่นในการแสดงออกทางการเมืองที่ขัดเจนของ Paulina ทำให้เกิดดราม่าหนักหน่วง  หลังจากเธอได้วิจารณ์นโยบายกีดกันอพยพจาก Mexico ซึ่งTrump ให้ความเห็นว่าในการหาเสียงว่าเป็นต้นเหตุของการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและก่ออาชญากรรมข่มขืนจนสมควรต้องก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดน   เธอจึงได้แสดงความรู้สึกว่า มันแสดงถึงความไม่เป็นธรรมและสร้างความเจ็บปวด และได้ส่งแรงใจสนับสนุนไปยังชาว Latin    แต่ถึงกระนั้น เธอก็ถูกคนจากประเทศบ้านและ Mexico กดดันให้คืนมงกุฎ  เพราะไม่พอใจที่จะเห็นสาวงาม Latina ทำงานภายใต้การควบคุมจากเจ้าของเวทีที่เหยียดหยามชาว Mexican      Paulina เลือกที่จะรักษาตำแหน่งต่อไปด้วยเหตุผลว่า  ตัวองค์กรนั้นมีการทำงานแยกออกจากผู้เป็นเจ้าของ และยังมีความโดดเด่นเรื่องการสนับสนุนงานการกุศลในหลายประเทศทั่วโลก    การตัดสินใจของเธฮก็ทำให้อดีตผู้นำปากกล้าโจมตีอย่างไม่ไว้หน้าว่า   เป็นการกระทำแบบปากว่าตาขยิบ  ทั้งที่แสดงออกว่าไม่ชอบใจในสิ่งที่เขาพูด แต่กลับไม่สละตำแหน่งไป   อย่างไรก็ตาม    กระแสความขัดแย้งจากความเห็นเรื่องผู้อพยกชาว  Mexican ของ Trump ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมีความเสี่ยงว่าจะถูกต่อต้านจนสถานีโทรทัศน์จะไม่ยอมถ่ายทอดการประกวด  ไม่ว่า Trump จะให้เหตุผลอย่างไรก็ตาม  หลายฝ่ายก็เชื่อว่านี่เป็นเหตุผลที่บีบให้เขาต้องขายMiss Universe  องค์กรนี้ก็ถูกเปลี่ยนมือไปยัง  WME-IMG  จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน Paulina อายุ29 ปี นอกจากจะทำงานนางแบบและงานพิธีกร TV ใน Colombia  ก็ได้ก่อตั้ง Mind Naturals ธุรกิจ skincare ที่เน้นความสวยที่เป็นธรรมชาติจากภายใน  ยืนยันจากความงามอ่อนวัยราวกับยังเป็นวัยรุ่น!  เธอยังรับหน้าที่ brand ambassador ให้กับนาฬิกา TAG Heuer มาหลายปี  เมื่อส่องดูจำนวนผู้ติดตามบน Instagram ถึง6 ล้านก็น่าจะการันตีว่าเธอยังเป็นนางงามในดวงใจแฟนๆเสมอ


Demi-Leigh Tebow (นามสกุลเดิม Nel-Peters)


พบรักกับนักกีฬาดังชาวอเมริกันและเดินหน้าเรื่องงานเพื่อสังคมเต็มตัว

ช่วงไม่นานที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้ยินข่าว Marc Anthony superstar เพลง Latin  ประกาศหมั้นหมายกับรองอันดับ 1  Miss Universe ปี 2021   แต่เธอไม่ใช่นางงามคนแรกที่พบรักกับคนดังชาวอเมริกัน     เพราะ Demi-Leigh Nel-Peters  จาก South Africa ก็ได้จุดประกายความสนใจจากสื่อด้วยการเข้าพิธีวิวาห์กับนักอเมริกันฟุตบอลชื่อดังเมื่อสองปีก่อน  
ช่วงการประกวดและขึ้นครองตำแหน่ง Miss Universe    campaign โดดเด่นของ Demi-Leigh คือ Unbreakable ที่ช่วยสร้างเสริมความปลอดภัยให้กับผู้หญิงโดยมีแรงบันดาลใจประสบการณ์จริงที่เคยถูกผู้ร้ายใช้อาวุธปล้นระหว่างอยู่ในรถ  เมื่อเธอได้พบรักกับ Tim Tebow นักกีฬาหนุ่มที่มีโด่งดังเรื่องทักษะในสนามและมีชื่อเสียงทางด้านการเป็นคริสเตียนอย่างแรงกล้าเช่นเดียวกัน พวกเค้าได้เดินหน้าทำงานเพื่อสังคมภายใต้Tebow Foundation เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสขึ้นมาหลายโครงการ  ทั้งการก่อตั้งสถานช่วยเหลือเด็กที่ถูกทอดทิ้งใน South Africa   โรงพยาบาลที่ดำเนินรักผ่าตัดรักษาเด็กใน Philippines รวมถึงการทำหน้าที่บอร์ดบริหารของ Her Song องค์กรเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์  

Demi ตระหนักว่า แม้ความสำเร็จจากการประกวดนางงามจะทำให้เธอปลาบปลื้มใน แต่มงกุฎที่สวยงามก็เป็นสิ่งที่เข้ามาในชีวิตเพียงเวลาสั้นๆ ไม่จีรังยั่งยืน เธอจึงได้ใช้ชื่อเสียงของ Miss Universe สร้าง Everlasting  campaign ใหม่เพื่อช่วยเหลือเด็กๆที่ถูกล่วงละเมิดและแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และในวันเกิดของเธอ ก็ได้ระดมเงินเพื่อขยาย campus ในกรุง  Manila  เพื่อเป็นสถานที่ช่วยเหลือเด็กๆที่ตกเป็นเหยื่อทางเพศ

Zozibini Tunzi
เข้าร่วมแสดงในหนัง Hollywood ฟอร์มยักษ์


เป็นเพราะการเข้ารับตำแหน่งของสาวงามจาก South Africa ตรงกับวิกฤติโรคระบาดของโลก  นอกจากเธอจะกลายมาเป็นMiss Universe ที่รักษาตำแหน่งได้นานที่สุด ก็ต้องปรับตัวปรับใจกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  แทนที่จะได้เดินทางไปทำภารกิจทั่วโลก เธอกลับต้องกักตัวในอพาร์ทเมนท์ ไม่ได้พบปะผู้คนอยู่พักใหญ่ ความอึดอัดคับข้องใจอันนี้จุดประกายให้สร้าง  virtual network จากการติดต่อผู้คนจากสายงานต่างๆเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตและเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเรื่องCOVID  จนกระทั่งมาตรการการป้องกันโรคติดต่อเริ่มผ่อนคลายลง  เธอจึงได้เริ่มเฉิดฉายสมกับตำแหน่ง Miss Universe




Zozibini ได้รับความนิยมสูงมากที่บ้านเกิด  แม้เธอจะใส่หมวกปิดหน้ายังไง คนรอบข้างก็ยังสังเกตเห็นเธอได้  นั่นรวมถึงกลุ่มคนที่ยกให้เธอเป็นฮีโร่สาวที่เปลี่ยนมุมมองเรื่อง beauty standard ที่ยังมีความยึดติดกับความงามแบบ European และการเหยียดหยาม black beauty และแม้ว่าเธอจะต้องสะเทือนใจกับถ้อยคำเหยียดผิวอย่างรุนแรงจาก haters แต่แรงสนับสนุนที่ทรงพลังกว่าต่างหากที่ทำให้เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

"เหตุผลที่ฉันเข้าร่วมประกวดนั้นไม่ใช่ว่าฉันเชื่อว่าตัวเองเป็นคนที่สวยมากที่สุดใน South Africa  หรือสวยที่สุดในจักรวาล แต่ฉันปรารถนาจะใช้ตำแหน่งนี้เพื่อเป็นปากเป็นเสียงในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และในขณะเดียวกันก็แสดงความคิดสร้างสรรค์ได้ด้วย"

หลังจากส่งต่อตำแหน่งให้ Miss Universe คนต่อไป เธอก็ยังเป็นคนดังเนื้อหอมที่บ้านเกิด และเปิดเผยความสามารถที่แฟนๆไม่คาดถึง นั่นคือการขับร้องเพลงได้อย่างไพเราะเหมือนนักร้องมืออาชีพ เมื่อได้โชว์น้ำเสียงผ่าน Instagram ทั้งแฟนๆและคนดังวงการดนตรี South Africa ก็ได้เข้ามาชื่นชมและช่วยลุ้นว่า เธอจะสานต่อความฝันที่จะเป็นนักร้องให้สำเร็จ แต่สิ่งที่สร้างความsurprise ให้กับแฟนๆก็คือ การเข้าร่วมแสดง The Woman King หนังที่บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของนักรบชาว African ที่มีสุดยอดนางเอกอย่าง Viola Davis นำแสดง แม้เป็นไปได้ว่า เธออาจจะได้รับบทสมทบที่ไม่เด่นมาก แต่ก็ถือเป็นประตูโอกาสที่อาจจะนำไปสู่การทำงานใน scale ที่ใหญ่ขึ้นไปในอนาคต


ในบ้านเราอาจจะเรียกZozi ว่าเป็นนางงามสาย speech จากผลงานสร้างความประทับใจในรอบตอบคำถาม แต่นั่นไม่ใช่ platform แห่งเดียวที่เธอได้พิสูจน์ถึงทัศนคติและความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง จนถึงทุกวันนี้ เธอจะได้รับเชิญจากการประชุมระดับนานาชาติเพื่อร่วมเป็นวิทยากรปาฐกถาในหลากหลายประเด็นปัญหาสังคม รวมถึงการร่วมงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แบบลงภาคสนาม บอกเลยว่า activist นั้นโดดเด่นมากจริงๆ


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE