#สายเที่ยว เลวาพาเที่ยวดอยอ่างขาง สวยงามตามคาดหวังตามสายสโลว์ไลฟ์เที่ยวน้อยแต่ฟินนะ!

สวัสดีค่าทุกๆคน หลายท่านคงจะเห็นว่าวา

ชอบเที่ยวสายธรรมชาติ ป่า เขาต่างๆมากๆ

 ที่จริงภาคเหนือเป็นภาคที่วาและที่บ้านวาชอบไปมากที่สุดเลยค่ะ

 ไปทุกปี ไปทั้งปี ชอบมากๆ และแน่นอนว่าเรื่องเล่าระหว่างทางมีเยอะแยะหลายสถานที่เลยค่ะ ลืมบอกไปเลยว่าเป็นสาย #ขับรถเที่ยว นะคะ 

ไม่ใช่สายนั่งเครื่อง เพราะชอบแวะเที่ยวจังหวัดอื่นๆระหว่างทางด้วยค่ะ

 ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกครั้งที่ออกเดินทาง 

ทำให้ใจเรารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาเยือน

แน่นอนค่ะ ทริปนี้ก็มาเหนืออีกเช่นเคย มายาวเกือบ 2 สัปดาห์เลยค่ะ 

แต่จะเล่ายาวก็กลัวจะมาเกินไป วาเคยขอยก 1 สถานที่ท่องเที่ยวสุดสวย 

ถ่ายมุมไหนก็ฟินแม้คนเยอะมาให้เพื่อนๆได้ชมกันค่ะ

 วาเคยไปที่นี่มา 2-3 คัร้งตั้งแต่สมัยมัธยมต้นด้วย 

วันนี้ได้มีโอกาสมาเยือนอีกครั้ง เลยขอนำมาป้ายยาพาเที่ยวกันค่ะ 

สวยไม่แพ้ที่ไหนเลยจริงๆ มาดูบันทึกการเที่ยว

 #ดอยอ่างขาง 

แบบคนเยอะ เดินแปปเดียวเน้นกินและเสพวิวกันเลย >>

ทริปนี้เป็นทริปที่เราตั้งใจไปแคมป์ปิ้งกันที่ 

ดอยหลวงเชียงดาวค่ะ วาติดรถมากับแก๊งค์น้าๆ 

หรือที่คุ้นเคยกันในนามของแก๊งค์ สว. นั่นเอง 

เป็นกลุ่มเพื่อนที่ชอบเที่ยว เที่ยวกับพวกเค้าแต่ละที

ก็มีแต่ความเฮฮากันเสมอค่ะ รถของวามากัน 4 คน

 เดินทางมาถึงก่อนเลยหาที่เที่ยวกันไปพลางๆ 

นอนบ้านเพื่อนเจอวิวแบบนี้ชวนให้ไม่อยากออกเดินทางเลยค่ะ 

อยากนอนดูวิวยามเช้าจนพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้าซะอย่างนั้น

เราเดินทางขึ้นดอยอ่างขางในเช้าวันอาทิตย์

ที่ผู้คนต่างขึ้นกันมาแบบเนืองแน่น

 กลุ่มวาพักใกล้กับทางขึ้นดอยที่เป็นเส้นโค้งอันตรายเยอะ 

และเป็นเส้นที่เค้าไม่ค่อยแนะนำกันค่ะ 

แต่เส้นนี้ใกล้กว่า+คนขับของเราชินทางและเราอยากแวะชมวิวที่แคมป์สนซึ่งเป็นทางก่อนถึงอุทยานแห่งชาติดอยอ่างขาง เราเลยเลือกเดินทางไปทางนี้แทน...

ขึ้นมาถึงจุดชมวิวแคมป์สน ด้วยความที่เป็นวันหยุด 

เราเลยเจอกับผู้คนมากมายที่ตั้งแคมป์กันอยู่ 

มาถึงคือมองเห็นแต่หมอกขาวๆค่ะ 

เพลงหมอกจางๆหรือควันดังขึ้นในหัวทันที 

แน่นอนว่าเรากิวกันมากและแวะทานโจ๊กอุ่นๆตรงร้านที่จุดชมวิวนี้เลย

 แอบเก็บภาพสวยๆมาฝากกันค่ะ 

เอาจริงไม่ได้คิดว่าจะรีวิวเลยไม่ได้ถ่ายแบบละเอียดมากนัก

 แต่บอกเลยว่าวิวสวยมาก ผู้คนก็อัธยาศัยดี

 ไม่ยืนบังกัน ทำให้ได้ภาพที่สวยดั่งตาเห็น 

แต่วาถ่ายไม่ค่อยติดทะเลหมอกนะคะ

 เพราะแสงแดดด้านหลังก็แรงเช่นกัน 

แต่ภาพจากตาเห็นสวยงามยิ่งกว่าภาพที่มาฝากแน่นอน

เมื่อเราอิ่มกันแล้วก็พร้อมออกเดินทางขึ้นดอยอ่างขาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวนี้มากนัก ก่อนถึงรถเราก็แวะเติมเสบียงค่ะ ไม่พลาดที่จะซื้อสตรอว์เบอร์รี่ที่ชาวดอยเค้ามาขายกัน บอกเลยว่าตรงนี้เค้าลดแลกแจกแถมกันแบบสุดๆ

มาถึงแล้วค่ะกับดอยอ่างขาง เสียค่าเข้าด้วยนะคะ 

วาจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่คิดต่อหัวค่ะ หลักสิบ 

คุ้มกับการเข้าชมแน่นอน เข้ามาถึงตามคอนเซ็ป

คือเราอยากถ่ายกับซากุระ และพวกพญาเสือโคร่ง

 เนื่องจากเรามากันหลายรอบแล้วเลยไม่ได้เดินชมจนทั่วสวนแล้วค่ะ

 อีกอย่างคือคนเยอะมากๆเพราะเป็นวันหยุดด้วย 

เลยเอาภาพตรงสวนพญาเสือโคร่ง

และดงกะหล่ำปลีมาฝากพอหอมปากหอมคอ 

ซึ่งเอาจริงๆแค่นี้ก็ฟินแล้ว ไม่อยากไปไหนเลย สวยมากๆ

แต่ละมุมมีความยูนีค ถ่ายยังไงก็สวย สีดอกพญาเสือโคร่งคือชมพูเข้มกว่าซากุระ ทำให้ถ่ายแล้วติดสีสันที่สดใสสวยงามตามภาพถ่ายนี้เลยค่ะ

แน่นอนว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ เราหิวกันมาก

 และเราก็ไปฝากท้องกับร้านค้าของอุทยานเพราะอยากสนับสนุน 

และอาหารของร้านอาหารอุทยานคืออร่อยมากกก!! 

แนะนำแบบสุดๆ ถ้ามาไม่ต้องไปทานที่ไหนเลยค่ะ

 วาจำพิกัดไม่ได้ แต่ถ่ายไว้ว่าอยู่ตรงป้ายสวย 80 ปีนี้เลย 

เมนูเป็นแนวอาหารไทยนะคะ ราคาไม่แพงจานละ 1xx บาทโดยประมาณ 

อร่อยทุกจาน ผักสด หวาน กรอบ !! ดีทุกเมนู 

ที่สำคัญคือให้มาเยอะมากก ทุกเมนู Recommended ไปหมดเลย 

เพราะทานมา 2 ครั้งแล้วก็ยังไม่เจอเมนูที่ไม่อร่อย5555 

อวยเวอรืไปรึเปล่าเรา แต่เรียกว่าถูกจริตวาและที่บ้านมากๆค่ะ 

ราคาหมดนี่หมดไปไม่ถึง 2,000 บาทเลยนะคะ 

พันนิดๆแบบต้นๆเลย จำราคาไม่ได้ อรอ่ยเหาะสุดๆ ถ้ามาอีกต้องมาซ้ำแน่ๆ

ก่อนกลับเราแวะสวนส้มตรงทางลงเขาค่ะ 

บอกเลยว่ามีรถหลายคันจอดกันเลย

 เพราะเบรคไหม้กันแบบกลิ่นคลุ้งมากค่ะ 

แน่นอนถ้าขึ้นทางไร่ส้มคือทางที่ชันและโค้งหักศอกเยอะมาก เค้าแนะนำว่าถ้าไม่ชินทางไม่ควรขึ้นทางนี้นะคะ ไปเก็บส้มกัน ราคาของการเก็บในสวนจะแพงกว่าซื้อตรงข้างทางประมาณกิโลละ 20฿ นะคะ ไม่รู้ตอนนี้ราคาเป็นยังไงบ้างแล้ว

จบกันไปกับทริปสั้นๆที่สายเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์อย่างวาชอบมากๆ 

เพราะเป็นสายดื่มด่ำค่ะ เที่ยวทีเกือบเดือน แต่คือฟิน 

ชาร์จแบตแบบล้นๆกลับมาทุกที ที่เล่ามานี้คือทั้งวันของวาแล้วนะ

 เวลาส่วนมากเอาไว้กับการกินและมองวิว นั่งปล่อยใจ 

ปล่อยความคิดลอยไปกับลมหนาวแบบฟินๆ ชิลๆ ไม่รีบร้อนใดใดค่ะ

 เป็นอะไรที่ดีมากเลยนะคะ วาเคยเที่ยวกับเพื่อนๆวัยเดียวกัน 

เราก็อัดแน่นเต็มโปรแกรม 1 Day แบบล้นๆ ทั้งคาเฟ่ ทั้งที่เที่ยว 

ทั้งร้านอาหาร อันนั้นสนุกแบบได้ใช้ energy 

แต่ส่วนตัววาชอบเที่ยวแบบสายผู้ใหญ่สโลว์ไลฟ์มากกว่า

 เหมือนเราได้พักแบบใจมันฟูมากๆจริงๆ

ที่จริงวาไม่ได้กะจะมาเขียนรีวิวอะไรเลย แต่ด้วยความที่อยากแนะนำให้ลองเที่ยวไทยแบบพักกาย พักใจดู ยิ่งในช่วงที่มีเรื่องให้ต้องคิดเยอะแยะมากมายแบบนี้ การเที่ยวคือการเยียวยาจิตใจที่ดีที่สุดของวาในเวลานี้เลยค่ะ

สุดท้ายนี้ วาหวังว่าหลายคนคงจะ enjoy ไปกับทริปเที่ยวดอยอ่างขาง 

แบบสายเที่ยวน้อย เน้นดื่มด่ำบรรยากาศแบบวานะคะ 

ถ้าใครอยากให้วารีวิวที่เที่ยวเพิ่มเติม คอมเมนต์กันมาได้เลยน้า ~