เรื่องน่ารู้จากเวที Miss Universe

Miss Universe คนแรกของโลก

Armi Helena Kuusela บุตรสาววัย 17 ปีของชายชาติทหาร Finland ที่เข้าร่วมสู้ศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างชื่อลือลั่นไปทั่วโลกหลังจากพิชิตตำแหน่ง Miss Universe คนแรกในประวัติศาสตร์(และยังอายุน้อยที่สุดอีกด้วย) นอกจากมงกุฎและรางวัลอีกมากมาย เธอก็ได้รับโอกาสเดินทางเข้าร่วมอีเวนท์ทั่วโลก และทำให้พบกับเจ้าของโรงแรมชาวFilippinaที่หลงไหลในตัวเธอถึงขั้นที่ติดตามไปยังประเทศต่างๆ เหตุนี้เอง ทำให้เธอผู้เป็น Miss Universe คนแรกของโลกที่สละมงกุฎก่อนจะหมดวาระ แล้วตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับนักธุรกิจหนุ่มที่ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นตอนจบแบบหักมุมก็คงไม่เกินไป!

แม้จะเป็นการจัดการประกวดครั้งแรก  แต่ก็มี impact ต่อคนในสังคมไม่น้อยเลย  เมื่อเดินทางกลับ Finland  ผู้คนก็แห่แหนมาต้อนรับด้วยความยินดี   เธอได้รับบทนางเอกหนัง Maailman kaunein tyttö  หรือแปลได้ว่า ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก เป็นผลงานที่สร้างขึ้นมาจากประวัติชีวิตของเธอ(หรือแสดงเป็นตัวเอง!)  ด้วยความเนื้อหอม รัฐบาลจึงร้องขอให้เธอเข้าร่วมมหกรรมกีฬา Olympics  และเดินทาง world tour ในฐานะทูตสันถวไมตรีขององค์กร

การแต่งงานกับผู้ชายเสื้อชาย Asian ใน USAถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในยุคนั้น เพราะกว่าจะมีการยกเลิกกฎหมายห้ามคนผิวขาวมีเพศสัมพันธ์หรือสมรสกับคนผิวสีอื่นก็เข้าสู่ปี 1967 (ดาราเชื้อสาย Asian บางคนต้องมีความสัมพันธ์ข้ามเชื้อชาติแบบหลบๆซ่อนๆ) แม้ Armi จะมาจาก Finland แต่เธอก็กลายมาเป็น celebrity จากการประกวดขององค์กร American นั้นก็อาจจะทำให้มีผู้ที่มองความสัมพันธ์ของพวกเค้าในแง่ลบ อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และงานการกุศลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่หลากหลาย ส่งผลให้เธอได้รับการยกย่องและรางวัลจากหลายหน่วยงาน รวมไปถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์กุหลาบขาวแห่ง Finland ยศอัศวินชั้นหนึ่ง

Miss Universe  ที่ทำลายสถิติคะแนนสูงที่สุด 

แฟนนางงามอาจจะนึกถึง Paulina Vega   Miss Universe ประจำปี 2014 ที่เคยได้รับคะแนนจากกรรมการสูงถึง 9.9    แต่สถิติคะแนนที่ยากจะโค่นมาจาก Lara Dutta     Miss India ที่มงลงแบบแทบจะนอนชิลๆมาเลย  เพราะมีกรรมการหลายคนที่ให้คะแนนเธอสูงถึง 9.99!

 ในปี  1994   การประกวด  Miss Universe จะมาในรูปแบบ transparent ด้วยการประกาศคะแนนให้เห็นแจ่มแจ้งทุกรอบ   ทั้งยังเจาะจงว่า กรรมการคนใดให้คะแนนกันมากน้อยแค่ไหน และยังสรุปรายชื่อนางงามผู้นำกลุ่มลำดับต้นๆมาให้เรียบร้อย  ซึ่งทุกรอบ  จะมีกรรมการที่ให้คะแนน  Miss India ถึง 9.9-9.99  แม้จะมีกรรมการคนอื่นที่ให้คะแนนน้อยกว่า แต่ผลคะแนนเฉลี่ยในรอบชุดว่ายน้ำและชุดราตรีจะอยู่ราวๆ 9.4  ทำให้พุ่งสู่ตัวเก็งด้วยคะแนนนำลำดับ 1   แต่เมื่อถึงรอบตอบคำถามอันแสนสำคัญ เธอก็ฟาดปังๆด้วยคะแนน 9.99 จากกรรมการ 4คน  OMG!  ( คนที่เหลือก็ให้คะแนนสูงลิบลิ่วเช่นกัน) 

Top 3 ประเทศที่มงลงบ่อยที่สุด

หลายคนคงคาดเดากันได้ง่ายดายว่า  นี่เป็นองค์กรสัญชาติอเมริกัน   ประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติย่อมได้เปรียบในการเฟ้นหานางงามมาชิงมงกุฎ   น่าจะครองแชมป์มงลงมากที่สุดอรึเปล่านะ?   คำตอบก็คือ ตอนนี้ยังใช่ แต่ก็ไม่ได้นำขาดลอย และอาจมีโอกาสถูกแซงได้เหมือนกัน

The United States  8 คน

Miss Universe จาก USA ในช่วงหลังๆมีความโดดเด่นเรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติของตัวแทน รวมถึงprofile ที่ดึงดูดใจ มีสาวงามที่มาจากสาขาอาชีพต่างๆ เช่น ผู้สื่อข่าว นักกฎหมาย นักวิทยาศาสตร์ ร้อยเอกหญิง เป็นต้น แต่นับตั้งแต่ที่สาวหน้าหวาน Olivia Culpoพิชิตตำแหน่งในปี 2012 ตัวแทนจาก USA ก็เข้ารอบ 10คนมาแล้วหลายครั้ง หรือเฉียดขนาดถึงรอบจับมือมาแล้ว แต่ Miss Universe คนที่ 9 ก็ยังไม่ปรากฏตัว

และเมื่อสำรวจหาชาติที่มงลงมากเป็นรองลงมาก็พบว่าเป็นสายแข็งแห่งวงการนางงามที่พวกเราต่างคุ้นเคย!

Venezuela  7 คน

สำหรับแฟนๆนางงาม ตลอดระยะเวลาหลายปี Venezuela คือคู่แข่งที่น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเป็นความงามที่โดดเด่น  performance ที่สร้างความฮือฮาแบบ show stopper  รวมถึง outfit บนเวทีที่มักจะเรียกเสียงชื่นชมแบบ WOW หนักๆจากผู้บรรยายและฝูงคนจากที่นั่งคนดู      แม้แต่แฟนนางงามต่างประเทศก็ยังจดจำ Miss Universe  จากประเทศนี้กันได้    สำหรับความจริงจังในการเฟ้นหานางงามเพื่อเป็นตัวแทนร่วมประกวดในระดับโลก Venezuela ก็มีชื่อเสียงมายาวนานเรื่องโรงเรียนนางงามที่เปิดหลักสูตรฝึกฝนกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย   ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนส้นสูง วิธีเคลื่อนไหวสะโพกและไหล่ให้ได้องศาสุดเป๊ะ  การแต่งหน้าทำผมด้วยตัวเองและอีกสารพัดคุณสมบัตินางงาม   รวมถึงรูปแบบการ 'ส่งออก' นางงามหรือการอพยพไปต่างประเทศแล้วเข้าประกวดเป็นตัวแทนให้กับชาติอื่นที่เริ่มมาตั้งแต่ยุค 2000s     ส่วนนางงามต่างประเทศก็เคยทุ่มเก็บตัวฝึกฝนที่ Venezuela    Miss Philippines ไปได้ถึงตำแหน่งรองอันดับ 1 บนเวที Miss Universe 1999  ส่วนMiss Dominican Republic วัยเพียง 18 ก็คว้ามงกุฎในปี 20003 หลังจากการบินมาเทรนที่ประเทศนี้  

ด้วยภาวะเศรษฐกิจล่มสลาย แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Miss Venezuela ก็ไม่ได้การันตีว่านี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยพลิกชีวิตจนกลายเป็นดวงดาวอันเจิดจรัส เพราะการจ้างงานลดน้อยถอยลงจนสาวงามต้องเดินทางไปแสวงหาโอกาสในวงการfashionและประกวดนางงามที่ต่างประเทศ แต่การประกวดนางงามก็ยังได้รับความนิยมอย่างสูง แน่นอนว่า Miss Universe ก็ยังเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สาวๆใฝ่ฝัน ซึ่งมงไม่ได้มาลงที่ Miss Venezuelaมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วค่ะ เฉียดฉิวเข้ารอบสามคนสุดท้ายก็ในการประกวดปี 2018ที่บ้านเรานั่นเอง

Puerto Rico 5 คน

อีกหนึ่งชาติสายแข็งจากเวที Miss Universe จากประวัติการส่งนางงามเข้ามาติดรอบลึกบ่อยๆ  มงลงไป 5 ครั้ง และได้รับอันดับรองแบบไม่แผ่ว พอได้เห็น Puerto Rico เข้ารอบสิบคนเมื่อไร กองเชียร์ต่างชาติต้องแอบกดดันกันบ้างล่ะ      

Miss Universe ที่ตัวสูงที่สุด

เคยเข้าใจมาตลอดว่า   Miss Universe ที่สูงที่สุดคือ Miss Namibia ที่มาคว้าตำแหน่งที่บ้านเราเมื่อ 30 ปีก่อน   จากหลายๆภาพที่คนอื่นจะต้องเงยหน้ามองเธอ   จากส่วนสูง ทำให้เราเดาไปว่า เธอมีส่วนสูงเกิน 183 cm  ตามที่ระบุใน profile ซะอีก

แต่ Miss Dominican Republic   ผู้ชนะจากปี  2003  เฉือนไปนิดหน่อย  เธอมีส่วนสูงราวๆ 185  cm   ถึงเพื้อนนางงามจะมีแต่คนตัวสูงๆกันทั้งนั้น เธอก็ยังสูงปรี๊ดโดดเด่นอยู่ดี  ผู้ดำเนินรายการชายยังยิงมุกออกมาว่า  ยืนอยู่ใกล้ๆกับเธอแล้วรู้สึกเตี้ยไปเลย

บาง source จะระบุว่าเธอสูงถึง 188  cm  แต่ตอนที่ออกรายการTV ของอเมริกา ตัวเธอซึ่งในขณะนั้นมีอายุ 18 ปีได้ระบุไว้ว่า สูง 6'1  

Miss Universe ที่ถูกเจ้าขององค์กร fat-shame

น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของ Alicia Machado Miss Universe ปี 1996 จาก Venezuela ได้กลายมาเป็นข่าวที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควร แม้จะไม่ได้มี social media platform แต่เธอก็ได้รับแรงกดดันให้รีบลดน้ำหนัก และยังถูกข่าวลือโจมตีว่า ผู้จัดจะบีบให้เธอลงจากตำแหน่ง แล้วให้รองอันดับ 1 ที่ผอมเพรียวก้าวมาทำหน้าที่แทน!

จากส่วนสูง 171 cm  มีรายงานว่า น้ำหนักตัวเธอขึ้นไปจาก 53 kg ไปที่ 67 kg ซึ่งทั้งตัวผู้บริหารMiss Universe และเทรนเนอร์ก็ยืนยันว่า เป็นตัวเลขที่ไม่สามารถยอมรับได้สำหรับโลกนางงาม และมันก็กลายมาเป็น weight gain scandal ที่ยังมีถูกพูดถึงในปัจจุบัน

แน่นอนว่า ตัวเธอย่อมทุกข์ใจกับกระแสโจมตีเป็นอย่างยิ่ง  แต่วิธีที่ Donald Trump เลือกรับมือสถานการณ์นี้คือการเรียกสื่อร่วมร้อยมาร่วมเป็นสักขีพยานชมเธอเข้า gym รีดส่วนเกิน เขาประกาศสนับสนุนเธอให้กลับมาผอมอย่างเต็มที่ นอกจากจะประกาศในแถลงข่าวว่าเธอชอบกินมากจนน้ำหนักขึ้นพรวด ก็ได้เรียกตัวเทรนเนอร์มาช่วยให้เธอลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน   แต่ Alicia  เผยว่า ลับหลังสื่อ  Trump เคยจิกกัดเธอว่าเป็น  Miss Piggy และเครื่องจักรกินล้างผลาญ  และยืนยันว่า เธอต้องฝืนใจออกกำลังโชว์ผู้สื่อข่าวแบบหน้าชื่นอกตรม แม้จะบอกกับ Trump ว่าไม่อยากจะทำเรื่องที่หน้าอับอายออกสื่อเลย แต่อีกฝ่ายหาได้รับฟัง  

Miss Universe ที่สละมงท่ามกลาง scandal

ผู้หญิงจากประเทศ Russia มีชื่อเสียงเรื่องความงามมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เมื่อบวกกับค่านิยมความงามที่เกิดจากการปลูกฝังให้ผู้หญิงดูแลตัวเองอย่างเข้มข้น นั่นอาจจะทำให้เกิดความสงสัยว่า เหตุใดเราจึงไม่ได้ยินกระแสของ Miss Russia ในเวที Miss Universe มากนัก ในนางแบบสาวสวยสัญชาติ Russian ก้าวมาสร้างชื่อเสียงระดับ top model กันหลายคน แม้แต่วงการกีฬาหลากหลายชนิด เราก็ยังได้พบกับผู้เข้าแข่งขันตัวแทนจาก Russia ที่สวยอย่างกับ Barbie มาแล้วหลายครั้ง


หลายคนเชื่อว่า ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง USA และ Russia อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดใจรับนางงามแดนพี่หมี อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาอำนาจในโลกนางงาม แต่มงก็เคยลงที่ Miss Russia มาแล้ว!

Oxana Fedorova นักศึกษาปริญญาโทที่มีความงามตรึงตราใจแฟนๆนางงามอาจจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Miss Universe หนึ่งเดียวจาก Russia* หากเธอไม่ถอนตัวออกมากลางคัน ส่วนสาเหตุที่เธอโบกมือลาตำแหน่งในฝันของผู้หญิงจำนวนมากมายนี้ก็ตามมาพร้อมกับข่าวลือที่สร้างความคลางแคลงใจ

*Natalie Glebova หรือ ฟ้า Miss Universe ที่ชาวไทยชื่นชมนั้นเกิดและเติบโตที่ Russia ก็จริง แต่ครอบครัวก็ได้ย้ายไปอาศัยใน Canada ตอนที่เธออายุ13 และเข้าประกวดในนามของ Miss Canada    ด้วยความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของสาว Russian ก็ทำให้ทั้งสองถูกเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยครั้ง  เมื่อตอนที่โคจรมาพบกันในระหว่างการสัมภาษณ์ Natalie ยังออกตัวว่า แฟนนางงามทั้งเปรียบเทียบและวิจารณ์ว่าเธอเลียนแบบ fashion style ของ Oxana ด้วยซ้ำ

ย้อนไปก่อนที่เธอจะพิชิตมงกุฎเลอเลิศนี้ Oxana ต้องพบกับความกดดันเรื่องอุปสรรคการพิจารณาวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าสู่ USA แม้จะได้รับวีซ่าในที่สุด แต่ก็หมิ่นเหม่ถึงขั้นที่เหลือเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเพื่อเตรียมตัว (เธอไม่สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ เพราะเชื่อว่ามีโอกาสที่ได้รับวีซ่าไม่ทันเพราะสถานทูตปิด) แม้แต่ชุดราตรีสีขาวที่สวมใส่ในวันสำคัญก็มาถึงเพียงแค่สองวันก่อนขึ้นประกวด แต่เมื่อได้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดของการประกวด กลายมาเป็นสาว Russian คนแรกได้รับชัยชนะในรายการนี้ได้เป็นเวลา119 วัน ก็มีการประกาศว่า เธอจะลงจากตำแหน่งและส่งมงกุฎต่อไปยัง รองอันดับ 1 จาก Panama

ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ Oxana ต้องเผชิญกับข่าวลือเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นคำกล่าวหาว่าเธอไม่ยินยอมปฏิบัติหน้าที่ Miss Universe หรือแอบไปแต่งงาน หรือแม้แต่ตั้งครรภ์ แต่เธอได้ออกมายืนกรานปฏิเสธ และอธิบายว่า เธอเต็มใจจะคืนมงกุฎเพราะต้องทุ่มเทให้การศึกษาเพื่อดีกรีทางกฎหมาย แต่ในเวลาต่อมา เธอได้เผยถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องการยุติบทบาท Miss Universe นั่นคือการเข้าร่วมสัมภาษณ์ในรายการของ Howard Stern พิธีกรปากกล้าที่ยิงคำถามจาบจ้วงเธอเรื่องใต้สะดือ ยกตัวอย่างการถามเรื่องขนาดอวัยวะเพศผู้ชายว่าสำคัญหรือไม่ ชอบแบบขลิบหรือไม่ขลิบ เสียความบริสุทธิ์ไปเมื่อใด จะมี sex กับผู้ชายผิวดำหรือเปล่า แม้ว่าเธอจะยืนยันว่าไม่ขอตอบคำถามเรื่องsex เขาก็ไม่ยอมหยุด และยังแดกดันเรื่องทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของเธอ และ objectify เธอราวกับว่าเธอเป็นแค่วัตถุทางเพศ เมื่อล่ามแปลคำถามที่ไม่ให้เกียรติกันให้เธอฟัง เธอก็ได้พยายามหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อน แต่รู้สึกย่ำแย่มาก  ในปัจจุบัน หาก Miss Universe ถูกคนแปลกหน้าถามเรื่องsex ด้วยน้ำเสียงดูหมิ่นเช่นนี้ รับรองว่าเรื่องใหญ่แน่นอน!

(อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้อยู่ในกลุ่ม anti-Trumpและยืนยันว่า ได้รับการดูแลจากผู้บริหารผู้นี้เป็นอย่างดี)

"สิ่งที่ผลักดันให้ฉันสละมงกุฎและกลับมาเรียนต่อคือรายการ The Howard Stern Show รูปแบบรายการมีความขัดแย้งกับแนวคิดจริยธรรมของฉัน ภาพลักษณ์ของฉัน และภาพลักษณ์ของบ้านเกิดของฉัน"

"ผู้คนมากมายรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในรายการว่ามันฉาวโฉ่ขนาดไหน ไม่มีใครเตือนฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย ถ้าฉันรู้ว่าแนวรายการเป็นแบบนี้ ฉันไม่มีวันเข้าร่วมแน่นอน"


ตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมประกวด Oxana เป็นตำรวจหญิงที่ให้ความสำคัญในการศึกษา เธอจบปริญญาเอกสามปีหลังจากที่ได้รับตำแหน่ง Miss Universe และได้รับยศพันตำรวจตรีและทำอาชีพอาจารย์มหาวิทยาลัย รวมถึงสานต่อความสำเร็จจากงานในวงการบันเทิง ทั้งยังเป็นทูต Unicef และ ก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กๆด้อยโอกาส หรือกล่าวได้ว่า เธอมี profile นางงามสุดเป๊ะนั่นเอง

เหตุการณ์นี้อาจจะผ่านไปยี่สิบปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนจุดประเด็นคำถามถึงเหตุผลที่แท้จริงที่เธอยุติสัญญากับ Miss Universe  ในขณะที่เธอยืนยันว่า เป็นการตัดสินใจจากการฟังเสียงที่เรียกร้องในหัวใจ เธอเลือกการศึกษาที่มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งและชีวิตที่มีความสุขที่บ้านเกิด  แต่กูรูนางงามรายหนึ่งได้เผยว่า   เขาได้ล่วงรู้ข้อมูลมาจาก Paula Shugart  ประธาน Miss Universe ว่า  Oxana ไม่ซื่อตรงต่อองค์กรจนถูกริบมงกุฎ  เธอได้ร้องขอเพื่อเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่ Russia   แต่เมื่อผู้บริหารเรียกตัวให้เธอกลับมาทำหน้าที่ เธอได้ปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า ยายกำลังป่วยหนัก แต่มีข้อสงสัยบางอย่างจนองค์กรได้ว่าจ้างนักสืบเอกชนให้ติดตามสืบหาเรื่องราวที่แท้จริง แล้วค้นพบว่าOxanaใช้ชีวิตอยู่กับชายรุ่นใหญ่ที่ร่ำรวย   เป็นผลให้ผู้บริหารเรียกตัว Miss Panama รองอันดับ 1บินมาที่ New York และประกาศส่งต่อมงกุฎต่อหน้าสื่อ โดยมี Trump รับหน้าที่สวมมงกุฎให้เธอด้วยตัวเอง


เรื่องราวความจริงเบื้องหลังจะเป็นเช่นใด แต่นี่ก็ถือเป็นตำนานของ Miss Universe ที่ยังถูกนำมาเล่าขานเสมอ