เทียบ ช็อตต่อช็อต Jungsaemool คุชชั่น 2 รุ่น

42 26
GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^

เฮโหลวววว 

วันนี้เรามาในเรื่องของงานผิว

ใครเป็นเหมือนเราบ้าง ที่ผิวเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ

บางช่วงผิวแห้ง บางช่วงผิวมัน ซึ่งบางทีเมคอัพหรือสกินแคร์ที่เราเคยใช้

บางทีก็ไม่ตอบโจทย์ผิวเราในช่วงนั้นเฉยเลย 


วันนี้เราเลยอยากมาเทียบช็อตต่อช็อต

กับคุชชั่นที่เราใช้ประจำ ซึ่งก็มีทั้ง 2 รุ่นที่เราสลับใช้ไปมา

คิดว่าใครๆก็ต้องรู้จักแบรนด์นี้ เพราะ เมคอัพของแบรนด์นี้

ส่วนใหญ่แล้วจะติดโทนเหลืองสไตล์สาวเอเชียแบบเราๆ

บอกตามตรงเลยว่าพอได้ลองแล้วก็ยกให้เป็นนัมเบอร์วัน

เพราะ หน้าไม่เทาเลยจ้าแม่ เอาล่ะ เกริ่นมาเยอะแล้ว

มาเริ่มกันเลย


Essential Skin Nuder Long Wear Cushion

คุชชั่นสำหรับผิวผสม-ผิวมัน จะมีความเนื้อกำมะหยี่

ไม่แมตและไม่วาวจนเกินไป แนว Velvet matte

ซึ่งปกติแล้วโทนผิวเราออกแนวขาวเหลือง เราใช้สี #Mediem 

จะเป็นโทนเดียวกับผิวเราเลย แต่ล่าสุดเรามีไปอาบแดดมาผิวเข้มขึ้นนิดหน่อย

แต่พอใช้โทนนี้ก็ยังถือว่า ยังเข้ากับสีผิว ไม่ลอย

มาด้วยตัวพัฟรูปแบบกลมๆ 

จิกสีตัวคุชชั่นได้ดี และนุ่มนิ่มไม่บาดหน้า

เกลี่ยบนผิวได้ง่าย ไม่เป็นคราบ 


สำหรับเราแล้วตัวนี้ให้การปกปิดแบบ Medium Coverage

ให้ความเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะดี ส่วนไหนที่อยากปกปิดมาขึ้น

สามารถใช้คอลซีลเลอร์ช่วยได้ แต่งานผิว คือ มีความผ่องเป็นธรรมชาติ

ไม่หนาโบ๊ะ แต่เน้นแนวงานผิว ดูสุขภาพดีมากกว่า 

ส่วนตัวเราชอบนะ ใช้ได้กับ Everyday look จะเหมาะมากๆ

หรือจะใช้กับออกงานก็อาจจะต้องมีบิ้วพวกรอยดำเพิ่มนิดหน่อย

แต่สำหรับเราแล้ว น้องทำออกมาได้ดีเลยเป็นงานผิวธรรมชาติ

พวกรูขุมขนเบลอหาย มีความแมตต์ แต่ไม่เยอะเกินคนผิวแห้งเป็นคราบ

ไม่หนา ไม่โป๊ะ ซึ่งก็เหมาะกับเทรนด์ช่วงนี้พอดีด้วย

ทั้งยังสบายผิว ไม่เหนอะหนะอีกด้วย อาจจะมีหน้ามันบ้างระหว่างวัน

แต่สามารถทัชอัพ ด้วยทิชชู่ ผิวก็กลับมาสวยเหมือนเดิมแล้ว


มาต่อที่ตัวต่อไปกันเลย

JSM Masterclass Radiant Cushion

คุชชั่นเนื้อฉ่ำโกลว์แบบสาวเกาหลี ใช้แล้วผิวปังมากก

มีความผิวฉ่ำโกลว์ ดูสุขภาพดีฝุดๆ ใครๆที่กำลังมองหาคุชชั่น

 แนว Glas Skin ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ


เราใช้สี #Y4 Sand ความรู้สึกส่วนตัว

เรารู้สึกว่าเข้ากับผิวของเราตอนนี้ได้พอดีเป๊ะเลย

ไม่ต้องเฉดผิวเพิ่ม แต่ถ้าเทียบแล้วจะมีความเข้มกว่าตัว Skin Nuder

เนื้อเกลี่ยง่าย เนียนกลืนกับผิวเลย

ตัวพัฟเป็นมุมสามเหลี่ยม สามารถเกลี่ยช่วงซอกจมูก

และบริเวณซอกมุมที่ใบหน้าได้ง่าย ส่วนตัวแล้วเราคิดว่า

ตัวนี้เน้นความปกปิดมากกว่าตัว Skin Nuder นะ

สังเกตจากพวกรอยกระ และจุดด่างดำต่างๆ หายกริบเลย


วิธีใช้ที่แบรนด์แนะนำ คือ แท้ป 1 ทีและเกลี่ยทั่วใบหน้า

บอกเลยว่า ให้ลุค Glass Skin ผิวเนียนฉ่ำวาวมาก รูขุมขนเบลอ

พวกรอยดำรอยแดงเล็กๆ คือ เก็บได้หมดเลย 

ถ้าส่วนไหนที่อยากเน้นปกปิดสามารถ เติมเพิ่มได้เลย

สำหรับเราคิดว่าตัวนี้เหมาะกับวันธรรมดา สบายๆที่ไม่ต้องออกแดดมาก

เพราะตัวนี้มีความฉ่ำ สำหรับใครที่อยู่ห้องแอร์ทั้งวันก็ไม่ต้องห่วงเลย

แต่ส่วนตัวเราถ้าหน้าวาวมากเกิน จะทัชอัพด้วยแป้งของ

 JSM Jung Saem Mool Skin Nuder Pact #Satinnude

นอกจากจะช่วยลดความมันยังช่วยให้ผิวดูโกลว์เป็นธรรมชาติอีกด้วย


เทียบสีแต่ละรุ่น

ถ้ามองด้วยตาเปล่าแทบแยกกันไม่ออกเลยค่ะว่าแตกต่างกันยังไง

แต่พอมาเทียบกับผิวหน้ารู้สึกได้เลยว่าสีแทบไม่ต่างกันเลย

สำหรับเรา ทั้งสองรุ่นสีเหมาะค่อนข้างเหมาะกับสาวเอเชีย

เพราะสีติดโทนเหลือง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวในแต่ละช่วงมากกว่า

ช่วงไหนผิวมันแนะนำให้ใช้ตัว Skin nuder แต่ถ้าช่วงไหน

รู้สึกผิวแห้งให้ใช้ตัว Masterclass แต่ทั้ง 2 ตัว การันทีเลย

ไม่ตกร่องแน่นอน เราให้คะแนน 10/10 นะ ต้องตำ

แนะนำให้ไปเทสสีคุชชั่นที่ชัอปก่อนน้า

ตำได้เลยที่ JSM ทุกสาขา

สำหรับวันนี้เราขอตัวลาไปก่อน

บ๊ายบายยย


Tataapwn

Tataapwn

💙สวัสดีค่า เราชื่อ ต๋า อายุ 28 ปี มือใหม่หัดรีวิว เป็นกำลังใจให้เราด้วยน้าาา
ผิวแห้ง ผิวขาวเหลือง

🌈ฝากติดตามเพจเราด้วยน้า เราอัพเดทความสวยความงามที่ FB Page : อยากจะรีวิว

✨contact
Line : tataatoothy

FULL PROFILE