แม้สาวๆมากมายจะฝันถึงชายหนุ่มผู้อ่อนโยนสร้างความอบอุ่นประดุจไมโครเวฟ แต่ก็ยังมีอีกหลายเสียงที่แพ้ทาง bad boy ทั้งๆแค่มองตากันเพียงครั้งเดียวก็สัมผัสออร่าแสนอันตรายที่อาจจะพรากใจบางๆไป ก็ยังไม่สามารถต้านทานเสน่ห์แบบร้ายๆนี้ได้

ในชีวิตจริง สัญชาตญานเอาตัวรอดอาจจะบอกกับพวกเราให้หลีกหนี bad boy ไปให้ห่าง (หากไม่อยากเจ็บแบบไปวนลูป) แต่อย่างน้อย ขอแต่ได้เพ้อไปกับหนุ่มร้ายจากซีรีส์ดังก็คงจะสร้างความตื่นเต้นแทนกันได้

มาติดตามกัน bad boy เสน่ห์แรงจาก TV กันได้เลยค่ะ

Jamie Campbell Bower

อายุ = 33
เคยเดท = Bonnie Wright และ Lily Collins
สถานะปัจจุบัน =  In relationship

ใครบางคนเคยเล่าความรู้สึกที่มีต่อ Jamie Bower Campbell ว่า ถึงจะไม่ได้ติดตามผลงานของเขาคนนี้มาก่อนที่ Stranger Things แต่ก็สัมผัสกลิ่นอายของนักดนตรีสุดเซ็กซี่ได้เต็มเปี่ยม ทั้งดวงตาที่ชวนค้นหา ทรงผมยาวระต้นคอ และสไตล์การแต่งกายแบบ rocker หนุ่ม อาจจะทำให้คุณจินตนาการภาพของเขาวาดลวดลายกีตาร์อย่างเมามันบนเวที นั่นเป็นหนึ่งในทักษะหลากหลายของเขาเท่านั้น เขาได้ฝึกฝนการแสดงจาก National Youth Theatre พร้อมไปกับการฝึกฝนดนตรีมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กชาย ไม่ว่าจะเป็นไวโอลิน เปียโน กีตาร์ และการขับร้อง

แค่บรรยายคร่าวๆก็อาจจะรู้สึกว่า เส้นทางสู่ดวงดาวของ Jamie ไม่ได้ดูแปลกใหม่เกินกว่าเพื่อนนักแสดงร่วมวงการนัก ที่ผ่านมานั้น เขาอาจจะได้ร่วมในหนังฟอร์มยักษ์มาแล้วหลายครั้ง แต่มักจะได้รับบทบาทสมทบที่มี air time ไม่มาก เขามีออร่าความร้ายจนโผล่มาสร้างความเซอร์ไพรส์ในบทGellert Grindelwald วัยหนุ่มจาก Harry Potter รวมถึงบทแวมไพร์ฝ่ายโหดร้ายในหนังตระกูล Twilight

แต่แฟนๆของเขาก็อาจจะค้างคาใจว่า ด้วยเสน่ห์ร้ายเหลือขนาดนี้  เขาน่าจะได้รับบทที่เรียกได้ว่าเป็น  breakthrough ให้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบพระเอกชื่อดังได้อย่างเต็มตัวสักที    

และในที่สุด โอกาสที่เขาจะได้โชว์ความสามารถจนเปล่งประกายก็มาถึง   Vecna อาจจะเป็นสร้างความหวาดผวาจนหลายคนยกให้เป็นตัวร้ายที่น่ากลัวที่สุดแห่ง Stranger Things  แต่ในขณะเดียวกันก็กลายมาเป็น  character  ที่แฟนๆหลายคนชื่นชอบและยังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์หนังอย่างพร้อมเพรียง (แม้ว่าเราจะได้เห็นเขาในร่างปีศาจร้ายที่แต่ง special effect เป็นส่วนใหญ่)   ในชีวิตจริง หากถูกจ้องมองด้วยสายตาเลือดเย็นเช่นนี้อาจจะทำให้รู้สึกเย็นสันหลังวาบขึ้นมาได้  แต่คุณอาจจะพบว่า ดวงตาของเขานั้นทั้งมีพลังกดดันพร้อมกับท้าทายจนยากจะถอนสายตาไปได้

Jamieเผยถึงความพยายามเพื่อจะเข้าถึงบท Vecna ที่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองจนสามารถเอาชนะสิ่งที่เคยทำให้หวาดกลัวอย่างแมงมุม หลังจากที่ได้ลองใคร่ครวญว่า สิ่งมีชีวิตทั้งน้อยใหญ่ต่างก็แบ่งปันความรู้สึกและมีความสวยงาม การถ่ายทำซีรีส์ Stranger Things ทำให้เขาตัดสินใจซื้อแมงมุมแม่ม่ายดำบรรจุขวดมาจ้องมองอย่างหลงไหลครั้งละเป็นชั่วโมง

ฟังดูอาจจะดูแหวกแนวจนอาจจะทำให้นึกสงสัยถึงตัวตนที่แท้จริงของ Jamie แต่เขาเป็นผู้ชายอารมณ์ดีที่ส่งเสียงหัวเราะอยู่เสมอ แม้จะเป็นผู้ชายรูปร่างผอมแต่ดู healthy ดูได้จากผมบลอนด์เงางามที่ยาวปรกลงมาดูเป็นคลื่นสวยแบบไม่ตั้งใจ และริมฝีปากสีชมพูที่น่ามองยามเคลื่อนไหว เขาเคยประกาศชัดเจนว่า ช่วงที่ยังอายุน้อย ต้องเผชิญกับอาการติดยาเสพติดออย่างหนักหน่วงจนต้องถูกหามเข้าโรงพยาบาล แต่เขาก้าวออกจากเส้นทางที่ผิดพลาดมาเริ่มต้นใหม่และตัดขาดจากยาเสพติดได้เจ็ดปีครึ่งแล้ว

น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ Blood Moon ซีรีส์ตระกูล Game Of Thrones นั้นถูกพับโครงการไปทั้งๆที่ลงทุนสร้างตอนpilotไปแล้วด้วยงบประมาณหลายสิบล้านเหรียญ   แต่ผลงานที่ออกมาสร้างความผิดหวังให้กับผู้สร้าง เนื่องจากไม่เข้มข้นและมีความลึกล้ำทัดเทียม Game Of Thrones     Jamie ที่ผ่าน casting อยู่ในทีมนักแสดงซีรีส์เรื่องนี้จึงต้องพบกับความเสียใจที่ไม่ได้ไปต่อ  (โดยเฉพาะนี่คือผลงานฟอร์มยักษ์ที่สามารถพลิกโอกาสให้นักแสดงยกระดับความเป็นดาวดัง)  แต่เส้นทางใน Hollywood ของเขาไม่ได้หยุดที่ตรงนี้แน่ๆ   เพราะหลังจากการสร้าง Blood Moon ถูกยกเลิกไป   เขาก็ผงาดขึ้นมาสร้างชื่อเสียงจากบท Vecna ซึ่งน่าจะเพิ่มแแรงดึงดูดใจต่อนักสร้างหนังอีกหลายระดับ

ถ้าถามถึงเรื่องความสัมพันธ์  แฟนๆน่าจะจำภาพความน่ารักเมื่อเขาคบหากับ Lily Collins ที่ถูกยกมองว่าเป็นคู่รักที่แสนน่ารักกันได้ แม้จะรักๆเลิกๆ ไม่ต่ำกว่าสามครั้ง แต่เคมีที่เข้ากันล้นเหลือทำให้มีคนship คู่นี้จนรู้สึกเศร้าสร้อยเมื่อพวกเค้า move on  อย่างเด็ดขาด   Lily แต่งงานกับผู้กำกับหนัง   ส่วน Jamie  ก็มีความสัมพันธ์อีกหลายครั้ง จนมาพบกับเอเจนท์สาว Jess Moloney   แล้วเริ่มต้นคบหากันอย่างเปิดเผย  เธอคือคู่ควงของเขาในงานเปิดตัว  Stranger Things season 4 นั่นเอง 

Jamie อาจจะมีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจราวกับ bad boy ที่เดินออกมาจากจินตาการของใครหลายคน   แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นจดจำจากภาพตัวร้าย viral ถึงขนาดที่มีคนให้คำบรรยายสัปดนให้ (Vecnussy)   ทำให้ผู้คนได้เริ่มทำความรู้จักพระเอกสุด hot คนนี้มากขึ้น และได้พบว่าเขาใช้คำสรรพนามเรียกเพื่อนหนุ่มว่า darling ได้อย่างน่ารักน่าชัง  หรืออุทานเมื่อได้เห็นคลิปของแฟนว่า Ok Queen! รวมถึงใช้ slang ของ  Gen Z แบบไม่ขัดตา    ชวนหวั่นไหวทั้งลุคร้ายๆและตอนที่เผยความละมุน

Matt  Smith

อายุ = 39
เคยเดท = Daisy Lowe และ Lily James
สถานะปัจจุบัน =  In relationship (rumour)

Blood Moon อาจจะถูก cancel ไปแล้ว  แต่ spin-off ที่มาแรงที่สุดในนาทีนี้ย่อมเป็น  House Of The Dragon  เรตติ้งที่สูงลิบลิ่วพิสูจน์ถึงมนต์ขลังของ Game Of Thrones ได้อย่างไม่สามารถบิดพลิ้วไปได้   และหนึ่งในความโดดเด่นที่ทำให้แฟนๆต้องคลั่งไคล้ย่อมขาดผู้ชายคนนี้ไปไม่ได้เลย

ตอนที่ประกาศ casting list ของ House Of The Dragon ชาวเน็ทก็ถึงกับเปิด war กันสนั่นหวั่นไหวว่า การเลือก Matt มารับบทเจ้าชาย Daemon นั้นนับเป็นความผิดพลาดที่จะทำให้ซีรีส์ตุ้บแรง หรือว่าเป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยมที่จะช่วยกอบโกยเรตติ้งอีกหลายซีซัน ด้วยข้อโต้แย้งที่ว่าเจ้าชายนักรบแห่งตระกูล Targaryen ผู้นี้ได้รับคำบรรยายในบทประพันธ์ว่าเป็นหนุ่มผมสีเงินรูปงามที่ทั้งเลือดร้อนและดูอันตราย รูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากหนุ่มหล่อพิมพ์นิยม Matt ทำเกิดเสียงวิจารณ์ร้อนแรงว่า เขาหน้าตาแย่เกินไปจะรับบทนี้ แต่ก็ถูกตอกกลับว่า เรื่องของความหล่อนั้นเป็นมุมมองที่แตกต่างกันไปเฉพาะบุคคล อาจจะมีคนที่รู้สึกว่าเขาไม่ควรรับบทเจ้าชายที่ถูกยกว่าหล่อเหลาสะท้านใจ แต่ยังมีคนที่มั่นใจว่า เขาดูเซ็กซี่และน่าค้นหา ซึ่งดูเหมาะสมกับภาพลักษณ์ bad boy ของ Daemon เป๊ะ บางฉากแทบไม่ได้มีบทพูดสักคำ  แต่กลับแย่งซีน

ชื่อเสียงของ Matt ยิ่งลือลั่นเพียงแค่ตอนแรกที่ได้เผยโฉมหน้าใน  House Of The Dragon  และเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าชาวเน็ทจะยิ่งหลงไหลเขามากขึ้นเรื่อยๆ  จากเมื่อก่อนที่อาจจะมีผู้ที่แสดงความหวังว่า  เขาจะเฉิดฉายจากบทนี้ได้ไม่ต่างจากที่เคยสร้างความประทับใจใน  The Crown  แต่ผลตอบรับนั้นไปไกลจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าถล่มทลาย   หลายคนกล่าวตรงกันว่า ไม่เคยมอง Matt ในภาพหนุ่มหล่อเหลาเร้าใจ ไม่เคยชื่นชอบบลอนด์เฉดแพลตตินัมมาก่อน  และรู้สึกว่าคงต้องฝืนใจชมเจ้าชาย'หน้าแปลก'    ปฏิกิริยาของชาวเน็ทกลับเต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก   เขามีชื่อเสียงในฐานะพระเอกหนุ่มผู้มีเสน่ห์ร้อนแรงละลายใจแฟนๆไปซะแล้ว 

Daemon คือ hot topic ที่ชาวเน็ทจับมาวิเคราะห์กันแบบอินสุดๆ   ทั้งปล่อยสารพัด  meme ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลุค'คิ้วล่องหน'  หรืออ่านความหมายรอยยิ้มเย้ยหยันที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขาทุกครั้งที่ปรากฏตัว   แม้ว่าเขาจะอยู่ในกลุ่มพระเอกที่มีความหล่อที่แหกพิมพ์นิยมของวงการนี้ ถึงขั้นมีคนเปรียบว่า ugly-hot  แต่มันไม่ได้มีผลกระทบต่อกระแสความนิยมแต่อย่างใด   หากมองถึงการถ่ายทำซีรีส์ดังในseason ต่อไปในวันข้างหน้า  ก็น่าจะมั่นใจได้เลยว่าความโด่งดังของเขาจะพุ่งสูงลิบลิ่วยากจะหยุดยั้งได้  project เริ่ดๆต้องตามมาอย่างแน่นอน!

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนที่ Matt สร้างชื่อด้วยบท Doctor Who  อาจจะมีเพียงไม่กี่คนที่นึกภาพความคลั่งไคล้ของแฟนๆที่ระเบิดออกมาในรูปแบบของ thirst tweets  รวมถึงคำสารภาพว่า  ถึง Daemon จะเป็นตัวละครสุด toxic หยาบคาย เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง สร้างความเจ็บปวดให้กับคนใกล้ตัวอยู่เสมอ  แต่ก็ยังเชียร์สุดใจ หยุดตัวเองไม่ให้ปลื้ม bad boy คนนี้ไม่ได้จริงๆ  

แท้จริงแล้ว Matt เคยต้องเผชิญกับแรงกดดันจากผู้ชม Doctor Who ในอังกฤษที่ไม่ยอมรับเขาที่คว้าบทพระเอกมาได้ การเข้ามาแทนที่ David Tennant ที่โด่งดังมาก่อนหน้าเขาหลายปีทำให้หลายคนไม่พอใจ เพราะมองว่าเขาเป็นเพียงนักแสดงโนเนมไม่ควรค่าที่สวม character ในตำนาน และยังวิจารณ์ว่าเขาอายุน้อยเกินไป หน้าตาหล่อน้อยเกินไป แต่ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งยังจุดประกายความสำเร็จระดับ globalในปัจจุบัน หากไม่มีเจ้าแห่งกาลเวลาในวันนั้น เราอาจจะไม่ได้เห็น เจ้าชาย Daemon ดังวันนี้ เขาอาจจะไม่ได้คอยออกมาโต้ตอบถ้อยคำดูแคลนเรื่องรูปร่างหน้าตา แต่ shut down พลังงานด้านลบด้วยผลงานจนต้องพยักหน้ายอมรับกันว่า ของเค้าดีจริง!

นอกจากเสน่ห์ล้นจอ ดูเหมือนว่า Matt  จะมีอัธยาศัยน่ารักจนเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการ (paparazzi มักจะจับภาพเขาชนแก้วเบียร์กับเพื่อนที่ผับอังกฤษได้บ่อยๆ) ขอโฟกัสไปยังเพื่อนสาวนักแสดงที่ดูสนิทกันมากจนมีคนตาม ship  เกิดเป็นข่าวลือว่าพวกเค้าเป็นมากกว่าเพื่อน   ทั้งคู่จิ้น Claire Foy, Emilia Clarke, Anya Taylor Joy, Karen Gillan, Jenna Coleman     หากให้จินตนาการ ก็คงจะเป็นได้ว่า เขามีนิสัยใจคอที่ทำให้เพื่อนผู้หญิงรู้สึกอุ่นใจจนคบหากันแบบสบายๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องข่าวลือเรื่องเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ

แต่ถ้าเป็นประสบการณ์ความรัก  คงจะข้ามชื่อ Lily James ไปไม่ได้   พวกเค้าะมักสร้างเสียงกล่าวขวัญเรื่องการแสดงความรักที่น่าอิจฉา ภาพจูบร้อนแรงของพวกเค้าปรากฏบนพาดหัวแทบลอยด์มาแล้วหลายครั้ง   แต่เมื่อเวลาผ่านไปห้าปี ความสัมพันธ์ก็ถึงทางตันจนต้องเลิกรา

จากจุดเริ่มต้นแห่งความโด่งดังของThe Doctor คนที่ 11 Matt ได้ทะยานสู่ความ mass ด้วยภาพของเจ้าชายพระราชสวามีแห่ง The Crown แต่เมื่อสำรวจรายชื่อเวทีรางวัลที่ Matt ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนั้นอาจจะทำให้แฟนๆประหลาดใจ เพราะหากเปรียบเทียบกับความสามารถทางการแสดงที่แสนโดดเด่น เขายังเข้าชิงรางวัลไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในบท Doctor Who และเป็นการประกวดที่จัดจัดขึ้นในอังกฤษเท่านั้น แต่การสวมบทบาทเป็นเจ้าชาย Philip ส่งแรงผลักดันให้ Hollywood อ้าแขนต้อนรับเขาอย่างเต็มที่ พิสูจน์จากการเข้าชิงชัยในเวทีประกาศรางวัลชั้นนำ Emmy และ SAG แม้ว่าจะยังคว้ารางวัลมาไม่ได้ แต่น่าจะเป็นไปได้ว่า บทเจ้าชาย Daemon จะช่วยให้เขาครองรางวัลการแสดงจาก Hollywood ได้สำเร็จ เหมือนกับ Peter Dinklage ที่แสดงบท Tyrian Lannister จนกวาดรางวัลมาสะสมจนล้นตู้เก็บ

ความนิยมที่หลั่งไหลมาน่าจะเป็นสิ่งพิสูจน์ว่า  เสน่ห์ดึงดูดใจของผู้ชายไม่ได้มีเพียงเบ้าหน้าสุดเป๊ะหรือคะแนนจาก beauty standard เฉพาะบางรูปแบบเท่านั้น  แต่ charisma ที่โดดเด่นนั้นมีอิทธิพลต่อจิตใจแฟนๆมากมายจริงๆ

Cillian Murphy

อายุ =46
สถานะปัจจุบัน =  Married

bad boy ผู้เย็นชาเป็นอีกหนึ่ง character ที่ปรากฏอยู่ในนิยายรักที่ชูความ dominate ของเพศชาย และหากคุณกำลังหลงรักหัวหน้าแกงค์มาเฟียที่ทั้งดุดัน ลึกลับ ช่างบงการ ก็คงต้องโยนความหวังที่จะสัมผัสรักนุ่มฟูละมุนละไมทิ้งไปได้เลย

แต่เสน่ห์ bad boy แบบ Thomas Shelby ก็ตกแฟนๆไปได้อีกเพียบ และอาจจะทำให้บางคนนึกสงสัยว่า หากได้เจอกับผู้ชายแบบเขาในชีวิตจริงแล้ว จะเลือกชิ่งหนีอย่างว่องไว หรือว่าจะเดินหน้าสานความสัมพันธ์ทั้งๆที่รู้ว่ากำลังพาใจตัวเองเข้าไปเสี่ยงรับความเจ็บปวดดีนะ?

เรื่อง type ผู้ชายนั้นเป็นเรื่องนานาจิตตัง    อาจจะมีเสียงชื่นชมถึงความเซ็กซี่ของ Tommy ดังกระหึ่ม ทั้งองหลังเค้าโครงหน้าที่มีโหนกแก้มสูงและดวงตาสีฟ้าลึกล้ำที่ยากจะอ่านความในใจภายใน และยังมีทรงผม the texturised crop ที่เป็นเอกลักษณ์นั่นอีก     เขาดูเป็นชายที่มากไปด้วยความมั่นใจ แต่ไม่ได้ล้นจนน่าหมั่นไส้เหมือนกับพวกหลงตัวเอง  หน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้นำทำให้ต้องประมวลความคิดอย่างรอบคอบดูพึ่งพาได้  เขาอาจจะดูแข็งกร้าว แต่ก็เลือกโอกาสเพื่อแสดงความอ่อนโยนต่อคนรัก   และแน่นอนว่า passion  ที่เร่าร้อนของมาเฟียคนนี้อาจจะทำให้แฟนๆรู้สึกจิ้นไม่ไหว อยากจะเป็นผู้หญิงของเขาบ้าง

แต่บางคนก็อาจจะเห็นต่าง  หลายครั้งเรามักจะได้พบคำวิจารณ์ว่าเขาดูเย็นชาไร้วิญญาณ โดยเฉพาะดวงตาที่ดึงดูดให้ตกในภวังค์ แต่ก็ชวนผวา  ดูcreepy มากกว่าsexฺy   บางคนก็ให้คำนิยามว่า นี่คือ vibe แบบ creepy hot ที่หาซ้ำได้ยาก   แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า  รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเขาช่างเข้ากับความเป็น  Tommy แบบหาใครมาแทนไม่ได้

Cillian ที่อยู่นอกจอเคยมีวัยหนุ่มที่โลดโผน เขาผ่านเข้าไปเรียนกฎหมายในมหาวิทยาลัยดังของ Ireland แต่ไม่มีกะจิตกะใจทุ่มเทให้กับการเรียนเพราะรู้แก่ใจว่านี่ไม่ใช่ทางเลือกที่เขาต้องการ และหันมาสนใจเข้าร่วมชมรมการแสดงของมหาวิทยาลัยจนกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพนักแสดงชั้นนำในปัจจุบันนี้ แต่เขาก็ยอมรับแบบไม่รักษาภาพลักษณ์ว่า แรงจูงใจแรกนั้นไม่ได้มาจากความหลงไหลในการแสดงหรือความฝันที่จะเป็นพระเอกดัง แต่เขาแค่อยากจะสนุกกับpartyและผู้หญิงสวยๆต่างหาก!


เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เขาก็ได้สร้างความสัมพันธ์มีทั้งความ private และมั่นคงแบบไม่ค่อยจะได้ยินกันบ่อยนักในวงการนี้ เขาพบกับศิลปินสาว Yvonne McGuinness มาก่อนจะมีชื่อเสียง และคบหาเรียนรู้กันมาอีกหลายปีกอนจะเข้าพิธีวิวาห์เมื่อ 18 ปีก่อน ปัจจุบัน เขาคือคุณพ่อของลูกชายวัยทีนทั้งสองคน และใช้ชีวิตอยู่ Dublin ที่ห่างไกลจากดราม่าความวุ่นวายของ Hollywood

แม้ว่า characterจากซีรีส์ดังจะใช้ชีวิตที่รอบล้อมไปด้วยสิ่งยั่วยุและพฤติกรรมที่หมินเหม่ต่อศีลธรรม แต่ Cillianในชีวิตจริงๆดูห่างไกลจากคำว่า bad boy เขาหวงความเป็นส่วนตัวสุดๆ และอาศัยกับครอบครัวอย่างสันโดษ ไม่ได้โยกย้ายไปที่ LA เหมือนกับนักแสดง Hollywood คนอื่นๆ เพราะยึดมั่นว่าจะต้องใช้เวลากับครอบครัวให้มากที่สุด เขาอธิบายว่า จะไม่สร้างเรื่องอื้อฉาว ไม่มีพฤติกรรมส่ำส่อน และไม่เหลวไหลปล่อยตัวให้เมาจนควบคุมตัวเองไม่ได้ นานๆครั้งก็จะไปออกรายการโทรทัศน์เพื่อโพรโมทผลงาน แต่พยายามเลี่ยงจะพูดถึงชีวิตส่วนตัวนอกเหนือการทำงาน เขาไม่ใช่ประเภทที่enjoy ที่ต้องตกเป็นเป้าสนใจ แม้จะยินดีพูดคุยกับแฟนๆที่เข้ามาทักทาย แต่ไม่ปลื้มที่มักจะถูกแอบถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตก่อน

Cillian อาจจะไม่อินกับความสนใจที่หลังไหลเข้ามาพร้อมกับผลงานการแสดงที่ประสบความสำเร็จ แต่หากเป็นเรื่องงาน เขาพร้อมทุ่มพลังให้จนหมดตัว ล่าสุดคือ การกลับมาร่วมงานกับ Christopher Nolan ใน Oppenheimer คราวนี้เขาขึ้นแท่นพระเอกนำที่ต้องประชันฝีมือกับนักแสดงระดับ A List อีกหลายคน ระหว่างการถ่ายทำหนังก็มีผู้คาดการณ์ไว้ว่า เราอาจจะได้เห็นชื่อ Cillian ในรายชื่อผู้เข้าชิง Oscar สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยมก็เป็นได้