ฮัลโหลทุกคนนน

วันนี้อยากจะแชร์ประสบการณ์การซื้อแป้งพัฟ

ที่ซื้อมาแล้วแทบจะร้องกรี๊ดไปสิบตลบ!! เพราะมันดี มันจึ้งมากก!! 

เริ่มเลย~

 

ก่อนหน้านี้เฟิร์สมีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และโดนทักว่าหน้าโทรมบ่อยมาก

 จนเป็นกังวลก็เลยคิดว่าไม่ได้หล่ะ ฉันจะต้องกลับมา shine bright ให้ได้!!

 

เป็นเหตุให้ได้ไปตำแป้งตัวนี้มาเลยค่ะ 

  Dr. PONG ZERO PORE Blurring K - Powder  

 โดยเฟิร์สขอเรียกย่อๆ ว่า

  “ แป้งเบลอรูขุมขน ”  

 

ก่อนหน้านี้เฟิร์สก็ถูกใจกับตัวแป้งแอร์พอร์ตของแบรนด์นี้ไปแล้ว 

เดี๋ยวคราวนี้จะมาลองแป้งเบลอรูขุมขนตัวนี้ให้ดูค่ะ ว่าควรตำหรือพอแค่นี้!!!

ตัวตลับแป้งน่ารักปุกปิ้ก วัสดุไม่ก๊องแก๊งค่ะ

พกติดกระเป๋าระหว่างวันได้เลย

ปริมาณ 9 กรัม ราคา 299.-

เปิดเข้ามาด้านในจะเจอชั้นพัฟ แยกกับตัวแป้งอีกที

 เฟิร์สชอบมากๆ ค่ะ รู้สึกว่าทำให้ดูน่าใช้ และสะอาดดีด้วยค่ะ

พัฟฟองน้ำที่ให้มาขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป

 ตัวพัฟมีความนุ่มฟูในระดับนึง ใช้งานได้จริง ไม่บาดผิว

 และช่วยเกลี่ยเนื้อแป้งได้ดี

 

ตัวตลับมีกระจกมาพร้อมในตัวเลย

 ทำให้ใช้สะดวก พกพาระหว่างวันได้ค่ะ

 

 : มาถึงตัวเนื้อแป้ง จะมี 3 สีด้วยกันคือ : 

21 LIGHT BEIGE : สำหรับผิวขาวมาก

23 SILK ROSE : สำหรับผิวขาว

33 CLASSIC SAND : สำหรับผิวสองสี

 

ของเฟิร์สใช้สี #23 ค่ะ สีเข้ากับผิวพอดีเลย 

โดยสีแป้งเค้าจะออกไปทางโทนขาวอมชมพู ไม่ติดเหลือง 

ทำให้ไม่วอก ไม่ลอยด้วยค่ะ เนื้อแป้งเค้ามีความละเอียด บางเบา

 ช่วยกระจายแสงได้ดีทำให้ผิวเราดูไบร์ทขึ้น และยังใช้เทคโนโลยี 

Micro blurring ช่วยเบลอรูขุมขนเราให้นวลเนียน

ด้วยอนุภาคขนาดเล็กของตัวแป้งนั่นเองค่ะ

 

เดี๋ยวเฟิร์สจะเริ่มลงแป้งให้เห็นกันชัดๆ เลยว่า

 เจ้าแป้งเบลอรูขุมขนตัวนี่จะเบลอจริงสมชื่อหรือไม่!!

 : สังเกตผิวหน้าปัจจุบันก่อนนะคะ : 

 จะเห็นว่าหน้ามันมากรูขุมขนหน้าแก้มก็คือชัดมาก เป็นตัวการที่ทำให้ผิวเรา

ดูไม่เรียบเนียนเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีรอยแดงจากสิว

ลองปาดเนื้อแป้งจะเห็นว่าบางเบามากๆ 

แต่วิธีใช้จริงๆ แนะนำให้ใช้วิธีการตบเบาๆ ย้ำๆให้ทั่วหน้านะคะ

จะได้ผิวที่เนียนละเอียดมากขึ้นค่ะ

เฟิร์สจะลองลงให้ดูครึ่งหน้าเพื่อเปรียบเทียบ 

ตัวแป้งเค้าให้สัมผัสที่บางเบา ไม่หนา ทำให้เวลาเกลี่ยง่าย

มือใหม่สามารถใช้ได้ค่ะ ข้อดีของเนื้อแป้งแบบนี้คือ

สามารถทาทับระหว่างวันได้ โดยไม่เป็นคราบ ไม่ไหลไม่เยิ้มนั่นเองค่ะ

 หน้าด้านที่ลงแป้งไปแล้วจะเห็นเลยว่าผิวดูไบร์ทขึ้นมาทันที  

แต่ยังคงให้ความเป็นผิว ดูธรรมชาติ ไม่ใช่ขาวหลอกตาขึ้นมา

 ส่วนเจ้ารูขุมขนตัวร้ายคือแทบจะไม่เห็นเลย

 ทำให้ผิวดูเนียนขึ้นมากกว่าด้านที่ยังไม่ได้ทาแบบเห็นได้ชัด

 ในส่วนของรอยแดง อาจจะไม่สามารถปกปิดได้หมด

 เพราะไม่ใช่แป้งผสมรองพื้น ใครที่รอยแดงเยอะๆ อาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยค่ะ

 

 หลังลงทั้งหน้าจะเห็นเลยว่าผิวดูสว่าง 

ดูสดใส ไม่โทรม ให้ความเป็นธรรมชาติ

 : ความรู้สึกหลังใช้ : 

เป็นแป้งที่หยิบมาใช้บ่อยมาก

 เพราะด้วยความที่เนื้อแป้งเบาสบายไม่หนักหน้า 

และที่สำคัญคือคุมมันได้ดีมากๆ คนหน้ามันแบบเฟิร์สคือรอด

 ใช้กับสภาพอากาศเมืองไทยคือเอาอยู่เลยค่ะ 

นอกจากนี้อีกอย่างที่ทำให้ตัดสินใจเลือกแป้งเบลอรูขุมขนตัวนี้มาใช้ก็คือ 

มั่นใจในแบรนด์คุณหมอ ที่คิดค้นมาแล้วว่าคนเป็นสิว ผิวมันใช้ได้

 เพราะไม่อุดตัน ไม่ทำให้เป็นสิว ปราศจากน้ำหอม สารกันเสีย

และพาราเบน คนผิวบอบบางแพ้ง่ายแบบเฟิร์สเลยสบายใจค่ะ

 และตั้งแต่ใช้มาก็รู้สึกว่าไม่ได้ทำให้สิวขึ้นเพิ่ม

 แต่ทั้งนี้ยังต้องหมั่นล้างหน้าให้สะอาดด้วยค่ะ

 

  นี่คือ finish look ของวันนี้ค่ะ  

 ที่ใช้แป้ง Dr.Pong แป้งเบลอรูขุมขน 

ตบทับ ผิวดูเนียนมาก ถ่ายรูปแล้วผิวโดนไฟคือดูผิวสวยขึ้นมาอีก

 รู้สึกอินเลิฟเจ้าแป้งตัวนี้มาก

เอาเป็นว่าเฟิร์สสรุปได้ตามนี้ค่ะ ควรตำ

 แป้งเบลอรูขุมขนตัวนี้ ยิ่งคนหน้ามัน เป็นสิว ผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ลองค่ะ

เพราะคุมมันดีมาก แป้งติดทน และยังให้ความรู้สึกสบายผิว

นอกจากนี้คนเป็นสิวก็สามารถใช้ได้ เพราะไม่อุดตันด้วยค่ะ

ใครที่สนใจเฟิร์สแปะพิกัดให้ตามนี้เลย

​

Shopee / Lazada : Dr. Pong shop 

xoxo