เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างอ่อนโยนด้วยสารสกัดจากลูกยอ จาก Celimax
Minipp
36
18
WITH <strong>Celimax</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)
สกินแคร์บำรุงผิวที่มาจากสารสกัดจากธรรมชาติ “ลูกยอ” หรือ “Noni”
ได้ลองแล้วผลลัพธ์ของผิวดีจนอยากมาบอกต่อค่ะ ลูกยอที่สกัดมาอยู่ในรูปแบบของโทนเนอร์และแอมพูล 2 ตัวนี้บอกเลยว่าใช้คู่กันแล้วปังมาก อ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย และเติมความชุ่มชื้นได้ดีสุด ๆ
ที่ต้องเป็นสารสกัดจาก “ลูกยอ”
ก็เพราะเป็นตัวที่สามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยปรับสมดุลให้ผิว ทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
สำหรับตัวแรกที่เริ่มใช้หลังล้างหน้าเสร็จก็คือ
The Real Noni Balancing Toner
โทนเนอร์เช็ดผิว ที่ช่วยรีเช็คความสะอาดบนผิวอีกรอบหลังล้างหน้าเสร็จ
มีส่วนผสมของลูกยอ 80.1% ทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุจากธรรมชาติอีก 300 ชนิด ใช้เช็ดหลังล้างหน้าเสร็จเพื่อปรับสมดุลผิวให้พร้อมต่อการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
คุณสมบัติหลัก ๆ คือการช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคืองและชะลอการเกิดริ้วรอย ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีในภาพรวม โดยที่ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
เนื้อโทนเนอร์จะเป็นน้ำสีเขียวใส บางเบา ซึมไวมาก ๆ แต่ยังทิ้งความชุ่มชื้นไว้บนผิวอยู่ มาในขวดใหญ่มากกกก ใช้งานง่ายด้วยการเทใช้คู่กับสำลีแล้วเช็ดลงบนผิว หรือใครจะสะดวกใช้เป็นน้ำตบเลยก็ได้เหมือนกัน
ส่วนตัวต่อมาที่ชอบมากก็คือ
The Real Noni Energy Ampoule
เป็นแอมพูลที่ช่วยฟื้นฟูผิว
ตัวนี้มีสารสกัดจากลูกยอ 71.77% รวมกับวิตามินและแร่ธาตุจากธรรมชาติอีก 300 ชนิด เป็นตัวที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีมาก ๆ
พอขึ้นชื่อว่าแอมพูลก็คือสกินแคร์ที่ค่อนข้างเข้มข้น ช่วยกู้ผิวอย่างเร่งด่วน ตัวนี้จะเด่นชัดมาก ๆ ในเรื่องของการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู ชะลอการเกิดริ้วรอย และช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวมีความกระชับและยืดหยุ่น ช่วยให้ผิวที่ดูโทรมหรือเหนื่อยล้าดูมีชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น
เนื้อแอมพูลเป็นสีเขียว เข้มเข้น เกลี่ยง่าย ที่มิ้นท์ชอบตัวนี้มาก ๆ เพราะขวดของเค้ามีหัวดรอปเปอร์ที่เป็น Automatic dropper ในทุกครั้งที่เปิดให้ ตัวดรอปเปอร์จะกะปริมาณผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการใช้งานไว้ให้แล้ว ทำให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องมานั่งกะปริมาณเอาเอง
ที่สำคัญคือทั้งตัวโทนเนอร์และแอมพูลนี้มาจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสม SLS ทำให้ไม่อุดตันผิว และเหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย
- ขั้นตอนการใช้ -
เริ่มจากตัวโทนเนอร์ใช้เป็นตัวแรกหลังล้างหน้าเสร็จ ซึ่งมิ้นท์จะใช้คู่กับสำลีค่ะ เพื่อที่จะได้รีเช็คผิวได้ว่าเราทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดพอไหม ตอนที่ใช้หลังเช็ดเสร็จถ้าผิวหน้าเราไม่สะอาดจะเห็นเลยว่ามีคราบสีดำติดออกมาอยู่เลย เรียกได้ว่าขั้นตอนการใช้โทนเนอร์เช็ดผิวนี่ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ในการทำความสะอาดผิวหน้าเลย
ต่อมาก็คือการลงบำรุงผิว ตามมาด้วยตัวแอมพูล มิ้นท์แนะนำให้เริ่มใช้แค่ 1 ดรอป ตามที่หัวดรอปเปอร์เค้ากะมาให้ก่อนนะคะ เพราะสำหรับมิ้นท์ที่ผิวมัน รู้สึกว่าแค่ดรอปเดียวก็เพียงพอทั่วผิวหน้าแล้ว ชุ่มชื้นกำลังดีเลย ตัวมิ้นท์เองใช้คู่หูเซ็ตนี้คู่กันทั้งเช้า-ก่อนนอนเลยค่ะ แค่ว่าก่อนนอนบางคืนอาจจะมีเพิ่มปริมาณแอมพูลจาก 1 ดรอป เป็น 2 ดรอป เพื่อความชุ่มชื้นและการบำรุงแบบจัดเต็ม
- ความรู้สึกหลังใช้ -
จากใช้มาประมาณ 1 อาทิตย์ เริ่มจากตัวโทนเนอร์เลยคือมีเนื้อที่บางเบา สามารถที่จะเช็ดความสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวหลังจากการล้างหน้าได้ดีมาก ซึ่งอีกวิธีที่น่าลองคือการเทโทนเนอร์บนสำลีแล้วเอามาแปะเป็นแผ่นมาส์กค่ะ ไว้มิ้นท์จะลองทำช่วยที่หน้ามีอาการแพ้ดู สิ่งที่รู้สึกใช้แล้วว้าวของโทนเนอร์ตัวนี้คือเรื่องของความชุ่มชื้น โทนเนอร์บางตัวเช็ดแล้วเหมือนใช้น้ำเปล่า แต่ตัวนี้คือชุ่มชื้นจริง ๆ จับแล้วหน้ามีความหนึบนิด ๆ เหมือนลงสกินแคร์เลย
หลังจากลงเช็ดโทนเนอร์เสร็จในช่วงที่ผิวหน้ายังหมาด ๆ อยู่ ให้รีบลงแอมพูลตามเลยทันที ใช้แค่ดรอปเดียวในตอนเช้าก็เพียงพอแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าแอมพูลตัวนี้ค่อนข้างเข้มข้น เพราะทาแล้วต้องทิ้งเวลาไว้สักพักให้ซึมเข้าผิว แต่ความรู้สึกที่ได้คือผิวชุ่มชื้นมาก เพราะฉะนั้นสาวผิวแห้งหรือใครที่อยากใช้มากกว่า 1 ดรอป มิ้นท์แนะนำว่าให้ค่อย ๆ ลงทีละรอบจะดีกว่าค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้อย่างชัดเจนเลยคือผิวที่ดูสุขภาพดีและดูอิ่มฟูขึ้นมาก ๆๆๆๆๆ ใช้แล้วไม่แพ้ไม่ระคายเคือง ผิวฟู ดูสุขภาพดี
สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปกดสั่งซื้อได้ง่าย ๆ ที่ Shopee : celimax.thailand ได้เลยค่ะ
เค้ามีสินค้าตัวอื่น ๆ ที่เป็นสารสกัดมาจากลูกยออีกด้วยน้า ลองเข้าไปชมกันได้ค่ะ
หวังว่าทุกคนจะชอบกระทู้นี้นะคะ ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าน้า
#celimax #celimaxthailand #เซลลีแมกซ์ #รีวิวcelimax #CelimaxNoni