เจาะดราม่า Nepo Babies
candy 35 20
ทายาทของคนดังที่ก้าวสู่เส้นทางเดียวกันกับพ่อแม่หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ nepo babies มักดึงดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เสมอ แต่พวกเค้าจึงต้องเผชิญกับแรงกดดันจากดราม่าเด็กเส้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้
เพราะอะไร หลายคนจึงรู้สึกไม่ชอบใจกับเส้นทางของ nepo babies และพวกเค้าเหล่านั้นจะรับมือกับการจับผิดเช่นไร มาติดตามกับเราสิคะ!
เพราะอะไร หลายคนจึงรู้สึกไม่ชอบใจกับเส้นทางของ nepo babies และพวกเค้าเหล่านั้นจะรับมือกับการจับผิดเช่นไร มาติดตามกับเราสิคะ!
เมื่อ nepo baby ยืนกรานว่าไม่ได้พึ่งพาความดังของพ่อแม่เพื่อให้ได้งานในวงการ
Lily Rose ลูกสาวคนสวยของ Johnny Depp และ Vanessa Paradis ได้สร้างเสียงวิจารณ์อื้ออึงจากบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร Elle เมื่อเธอได้รับคำถามถึงการใช้เส้นสายเข้าสู่เส้นทางบันเทิง
"สำหรับฉันแล้วมันเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่จะประเมินใครต่ำลงจากความคิดที่ว่า พวกเค้ามีงานมีการทำได้เพราะว่าเป็นทายาทใคร มันฟังดูไม่มีเหตุผลเลย ถ้าหากว่าพ่อแม่ใครเป็นหมอ แล้วถ้าคนเป็นลูกเดินรอยตามมาเป็นหมอเหมือนกัน ก็คงไม่มีใครมาบอกว่า เธอเป็นหมอได้เพราะพ่อแม่เป็นหมอ เพราะที่จริงแล้ว มันไม่ใช่เลยจ้ะ ฉันเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์และรับการเทรนจนเป็นหมอได้ต่างหาก"
" ดูเหมือนว่าโลก internet จะใส่ใจเรื่องทำนองนี้กันซะเหลือเกิน พวกเค้านึกอุปาทานเกี่ยวกับเรากันไปเองและเรื่องที่เรามาสร้างชื่อเสียงมาด้วยวิธีแบบไหน ฉันบอกได้อย่างเต็มปากว่า ไม่มีสิ่งใดที่ช่วยให้ได้งาน นอกเสียจากว่าคุณเป็นคนที่ใช่สำหรับงานนั้น"
"โลก internet สนใจว่าครอบครัวของเราเป็นใครซะยิ่งกว่าว่าใครเป็นคนที่คัดเลือกเรามาทำงานเหล่านี้ เราอาจจะเริ่มจากประตูสู่โอกาสที่ช่วยให้ก้าวสู่ความสำเร็จ แต่ก็ต้องพยายามสร้างโอกาสให้ตัวเองด้วย นับจากจุดนั้นก็ต้องใช้ความพยายามมากเหมือนกัน"
คุณน่าจะคาดเดาได้ง่ายว่า ปฏิกิริยาตอบรับจากสื่อและชาวเน็ทดูจะไม่สวยงามนัก เมื่อใดก็ตามที่ ลูกหลานคนดังประกาศก้องว่า ทุ่มเทพยายามอย่างหนักเพื่อจะสร้างชื่อเสียงด้วยตัวเอง สิ่งที่ตามมาคือกิริยากลอกตารัวๆและเสียงเย้ยหยันว่า พวกเค้าไม่ยอมรับกับฉายา nepo baby ทั้งๆที่เห็นกันชัดเจนว่าใช้ทางลัดเพื่อเข้าวงการได้ง่ายดายกว่าใครคนอื่น แม้แต่คนที่มีพรสวรรค์เปล่งประกาย แต่กว่าจะมีคนค้นพบและผลักดันจนประสบความสำเร็จก็ต้องผ่านอุปสรรคหนักหน่วงมามากมาย
ทายาทคนดังจำนวนไม่น้อยยังถูกกล่าวหาว่าช่วงชิงโอกาสของผู้ที่มีความสามารถตัวจริง เพราะชาวเน็ทเห็นพ้องต้องกันว่า nepo babies ไม่ได้มีความโดดเด่นหรือสร้างความประทับใจสมกับกระแสอวยจากการโพรโมท และดูเหมือนว่าจะได้รับการประเมินค่าไว้สูงเกินไป เหตุผลที่ได้งานก็เพียงเพราะสื่อมักให้ความสำคัญเรื่องนามสกุล และพาดหัวข่าวด้วยการเปรียบเทียบพวกเค้ากับพ่อแม่ที่โด่งดัง ทั้งๆที่รู้กันดีว่า มันเป็นเรื่องหายากเพียงใดที่จะได้เห็น nepo babies ก้าวมาอยู่ใกล้เคียงกับความสำเร็จในระดับที่พ่อแม่ได้สร้างไว้ได้
“เธออยากจะเล่าเรื่องแสนเศร้าอะไรก็ตามให้ฉันฟังก็พร่ำไปเหอะ(ถึงแม้ว่าลงท้ายแล้วเธอสามารถกลับไปร้องห่มร้องไห้อยู่บนโซฟาของพ่อเธอในบ้านหรูที่มาลิบูได้เสมอ) แต่ลองนึกดูสิว่า ถ้าเธอไม่มีแม้แต่เงินจะจ่ายค่าไฟลท์เพื่อเดินทางกลับไปหาครอบครัวที่บ้านเกิดน่ะมันจะรู้สึกยังไง? ถ้าต้องรอคอยยาวนานคราวละหลายชั่วโมงเพื่อลองเสื้อผ้าและเข้า casting แล้วต้องมาเห็นเด็กเส้นที่ลุกจากเบาะรถ Mercedes อุ่นๆมาเดินเฉียดพร้อมกับทีมคนขับรถ เพื่อน ผู้ช่วยส่วนตัวและเอเจนท์ที่ต้องมาคอยช่วยดูแลเรื่องสุขภาพจิตน่ะ"
"เธอคิดภาพไม่ออกสักนิดเลยว่าจะต้องทุ่มเทขนาดไหนกว่าที่คนอื่นจะให้ความเชื่อถือ มันต้องใช้เวลาหลายปีเลยนะ เธอได้มันมาโดยไม่ต้องทำอะไรมาตั้งแต่เริ่มต้น"
Vittoria ขยายความต่อว่า เธอเข้าใจว่าความเหลื่อมล้ำนี้ไม่ใช่ความผิดของ nepo babies แต่ขอให้นึกถึงใจคนอื่นบ้าง
"ฉันมีเพื่อนที่เป็น nepo babies ที่ฉันรู้สึกนับถืออยู่หลายคนนะคะ แต่ฉันรับไม่ได้ที่เห็นเธอเปรียบเทียบตัวเองกับคนอย่างฉัน ฉันไม่ได้เกิดมานอนบนหมอนที่นุ่มสบายพร้อมกับวิวสวยที่หน้าต่าง ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ผิด แต่กรุณาสำนึกและตระหนักถึงบ้างว่าเธอน่ะเริ่มต้นมาจากจุดไหน"
"ฉันมีเพื่อนที่เป็น nepo babies ที่ฉันรู้สึกนับถืออยู่หลายคนนะคะ แต่ฉันรับไม่ได้ที่เห็นเธอเปรียบเทียบตัวเองกับคนอย่างฉัน ฉันไม่ได้เกิดมานอนบนหมอนที่นุ่มสบายพร้อมกับวิวสวยที่หน้าต่าง ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ผิด แต่กรุณาสำนึกและตระหนักถึงบ้างว่าเธอน่ะเริ่มต้นมาจากจุดไหน"
วงในขอแชร์ประสบการณ์
Nyagua Ruea ยกมือเป็นตัวแทนนางแบบผิวดำในวงการ high fashion เพื่อบอกเล่าถึงความเหลื่อมล้ำเรื่องเส้นสายว่า พวกเธอเคยผ่านประสบการณ์รอคอยเพื่อcasting และ fitting เสื้อผ้าถึง 8 ชั่วโมงแต่ลงท้ายกลับถูกยกเลิกงาน และนางแบบทั้งหลายก็เคยเห็นพวกนางแบบ nepo เดินเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ดและผู้ช่วยและคนอื่นๆแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้ออกมา ในงานเดียวกัน พวกเธอจะถูกนัดหมายให้มาก่อนนางแบบ nepo อย่างต่ำๆ 3 ชั่วโมง
Anok Yai นางแบบชาวอังกฤษเชื้อสายซูดานได้แสดงความรู้สึกกับประเด็นนี้เช่นกัน
"ฉันรู้ล่ะว่าพวกลูกหลานอภิสิทธิ์ชนจะรู้สึกเครียดหากไม่ถูกจองคิวรับงานเพราะมันจะส่งกระทบต่ออาชีพ ในขณะที่เราๆต้องวิตกกังวลว่าเดือนนี้จะส่งเสียดูแลพ่อแม่หรือส่งค่าเทอมให้น้องเรียนได้รึเปล่า"
"ฉันพูดได้อย่างภูมิใจว่า เมื่อได้เห็นคนที่ได้ดีจากการใช้เส้นสายก็ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจแม้แต่น้อย ฉันมั่นใจว่าความสามารถและจรรยาบรรณในการทำงานจะทำให้ฉันไขว่คว้าถึงจุดที่ฉันปรารถนา
สิ่งที่รบกวนจิตใจของฉันคือ เมื่อกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในวงการ(เช่น แบรนด์ ผู้อำนวยการ บรรณาธิการ เป็นต้น) ต่างแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว
และสำหรับพวกอภิสิทธิ์ชน ฉันไม่ได้บอกว่าการมีอภิสิทธิ์เป็นเรื่องแย่ มันเป็นโชคดี ขอให้ประสบความสำเร็จแล้วกัน"
"และฉันรู้ค่ะว่าพวกเธอน่ะทำงานหนักและต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆเหมือนกับพวกเราทั้งหลาย แต่ให้ตายสิ ถ้าเธอรู้สักนิดว่าพวกเราต้องผ่านนรกอะไรมาบ้างเพื่อจะได้มาอยู่จุดเดียวกันกับเธอ ซึ่งเป็นเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว"
Anok ได้เล่าคร่าวๆเกี่ยวกับประสบการณ์ความยากลำบากในการสร้างชื่อเสียงในวงการ แม้จะเป็นที่รู้จักจากภาพ viral และกระแสฮือฮานี้ทำให้ดูเหมือนจะได้เปรียบที่จะผ่าน casting งานต่างๆ แต่เธอมาที่อเมริกาแบบถังแตกด้วยเงินติดตัวไม่ถึงร้อยเหรียญ ต้องดิ้นรนเพื่อเป็นที่พึ่งพาให้กับครอบครัว ในขณะที่ต้องประหยัดสุดชีวิต แต่เอเจนท์กลับบอกให้สร้างภาพที่ดูหรูหราเพราะใครๆก็คิดว่าเธอสร้างรายได้จากการเป็นนางแบบดาวรุ่ง ทั้งๆที่เธอมีสถานะหน้าใหม่ในวงการเท่านั้น
เธอเคยถูกมองข้ามเพราะใครบางคนที่ดูสำคัญกว่าก้าวเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกัน ทั้งเคยเจอประสบการณ์เลวร้ายอย่างหมดสติเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและถูกช่างภาพจิกเรียกเธอว่ายายแมลงสาบ แต่ต้องพยายามเรียนรู้ด้วยตัวเองทุกอย่าง ทั้งศึกษาจากsupermodels ชมภาพยนตร์มากๆ ฝึกเดิน โพส พูด เพื่อจะสร้างความโดดเด่นสะดุดตาจากกลุ่มนางแบบและในที่สุดก็ก้าวมาอยู่จุดนี้ได้โดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่
"ฉันรู้ล่ะว่าพวกลูกหลานอภิสิทธิ์ชนจะรู้สึกเครียดหากไม่ถูกจองคิวรับงานเพราะมันจะส่งกระทบต่ออาชีพ ในขณะที่เราๆต้องวิตกกังวลว่าเดือนนี้จะส่งเสียดูแลพ่อแม่หรือส่งค่าเทอมให้น้องเรียนได้รึเปล่า"
"ฉันพูดได้อย่างภูมิใจว่า เมื่อได้เห็นคนที่ได้ดีจากการใช้เส้นสายก็ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจแม้แต่น้อย ฉันมั่นใจว่าความสามารถและจรรยาบรรณในการทำงานจะทำให้ฉันไขว่คว้าถึงจุดที่ฉันปรารถนา
สิ่งที่รบกวนจิตใจของฉันคือ เมื่อกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในวงการ(เช่น แบรนด์ ผู้อำนวยการ บรรณาธิการ เป็นต้น) ต่างแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว
และสำหรับพวกอภิสิทธิ์ชน ฉันไม่ได้บอกว่าการมีอภิสิทธิ์เป็นเรื่องแย่ มันเป็นโชคดี ขอให้ประสบความสำเร็จแล้วกัน"
"และฉันรู้ค่ะว่าพวกเธอน่ะทำงานหนักและต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆเหมือนกับพวกเราทั้งหลาย แต่ให้ตายสิ ถ้าเธอรู้สักนิดว่าพวกเราต้องผ่านนรกอะไรมาบ้างเพื่อจะได้มาอยู่จุดเดียวกันกับเธอ ซึ่งเป็นเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว"
Anok ได้เล่าคร่าวๆเกี่ยวกับประสบการณ์ความยากลำบากในการสร้างชื่อเสียงในวงการ แม้จะเป็นที่รู้จักจากภาพ viral และกระแสฮือฮานี้ทำให้ดูเหมือนจะได้เปรียบที่จะผ่าน casting งานต่างๆ แต่เธอมาที่อเมริกาแบบถังแตกด้วยเงินติดตัวไม่ถึงร้อยเหรียญ ต้องดิ้นรนเพื่อเป็นที่พึ่งพาให้กับครอบครัว ในขณะที่ต้องประหยัดสุดชีวิต แต่เอเจนท์กลับบอกให้สร้างภาพที่ดูหรูหราเพราะใครๆก็คิดว่าเธอสร้างรายได้จากการเป็นนางแบบดาวรุ่ง ทั้งๆที่เธอมีสถานะหน้าใหม่ในวงการเท่านั้น
เธอเคยถูกมองข้ามเพราะใครบางคนที่ดูสำคัญกว่าก้าวเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกัน ทั้งเคยเจอประสบการณ์เลวร้ายอย่างหมดสติเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและถูกช่างภาพจิกเรียกเธอว่ายายแมลงสาบ แต่ต้องพยายามเรียนรู้ด้วยตัวเองทุกอย่าง ทั้งศึกษาจากsupermodels ชมภาพยนตร์มากๆ ฝึกเดิน โพส พูด เพื่อจะสร้างความโดดเด่นสะดุดตาจากกลุ่มนางแบบและในที่สุดก็ก้าวมาอยู่จุดนี้ได้โดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่
Nepotism มีจริงหรือไม่? คุณอาจจะมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นหากย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนตอนที่ Gigi Hadid ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นได้อย่างแจ่มแจ้งที่เธอเดินแบบบนรันเวย์ได้ไม่ดีนัก นั่นเป็นเพราะว่าไม่มีใครสอนเธอมาก่อน (ในขณะที่หลายแบรนด์ cast เธออย่างไม่เกี่ยงเรื่องทักษะmodeling) และ internet ก็ตอบโต้อย่างเจ็บแสบด้วยคำว่า We know. เป็นทิวแถว Gigi ใช้เวลาพักหนึ่งกว่าที่จะแสดงพัฒนาการชัดเจนบนรันเวย์ และในเวลาต่อมา Naomi Campbell ได้เผยว่า Bella ได้ขอร้องเธอให้สอนเทคนิคการเดินแบบให้กับพี่สาวด้วย และเธอก็เต็มใจสอนพวกเธอกลางห้องโถงโรงแรมท่ามกลางสายตาผู้คน
อย่างไรก็ตาม Gigi ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนดังที่ไม่ยอมรับคำว่า nepo baby
"ตอนที่ฉันเริ่มต้นเข้าวงการ ก็เกิดความรู้สึกผิดเรื่องอภิสิทธิ์ของตัวเอง"
Gigi ให้เครดิตพ่อแม่ที่เริ่มต้นมาจากศูนย์และใช้ความมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จ และทำให้เธอใช้เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจในการพยายามทำงานเพื่อเชิดชูสิ่งที่พ่อแม่ได้สร้างมา
"มีผู้หญิงมากมายหลายคนจากทุกมุมโลกที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาดเพื่อหาเงินส่งไปให้ครอบครัวของพวกเธอ ซึ่งมันเป็นสิ่งมี่แม่ของฉันเคยทำเช่นเดียวกัน ฉันต้องการจะยืนเคียงข้างพวกเธอและทำให้พวกเธอมองฉันด้วยความนับถือ และเพื่อให้เข้าใจกันดีว่า ฉันไม่เคยพยายามเบียดบังความสนใจหรือแย่งที่ของพวกเธอเลย"
ความฝันจะเป็นเชฟของ Brooklyn Beckham ที่ทำให้เจอ troll ไร้ที่สิ้นสุด
เส้นทางอาชีพของลูกชายคนโตแห่งตระกูล Beckham ถูกจับจ้องมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กที่กำลังแตกเนื้อหนุ่ม เริ่มจากการเข้าร่วม Arsenal academy ทำให้แฟนๆให้ความสนใจว่าเขาจะเฉิดฉายพรสรรค์ทางฟุตบอลเหมือนกับพ่อหรือไม่ แต่สื่อกลับรายงานว่า เขาไม่สามารถโชว์ผลงานได้ถึงมาตรฐานนักฟุตบอลทีมเยาวชนและต้องออกจาก academy ไม่กี่ปีต่อมา เขาก็เผยถึงความหลงไหลในศิลปะการถ่ายภาพและเข้าเรียนระดับปริญญาตรีในโรงเรียนดีไซน์ชั้นนำใน New York ทั้งยังได้รับโอกาสฝึกงานกับ Rankin ช่างภาพระดับโลก และคว้าโอกาสในการโชว์ฝีมือถ่ายภาพให้กับ Burberry รวมถึงจัดจำหน่าย photobook
แต่อาชีพช่างภาพนี่เองที่ทำให้ชาวเน็ทหันมาโจมตี Brooklyn อย่างไม่ปราณี พวกเค้าฟันธงว่า เขาใช้ชื่อเสียงเงินทองและ connection ของพ่อแม่เป็นบันไดสร้างชื่อเสียงทั้งๆที่ไร้พรสวรรค์จนตัดโอกาสช่างภาพที่มีความสามารถตัวจริง ชาวเน็ทเชื่อว่าหากไร้การผลักดันจากพ่อแม่ผู้มีอิทธิพลในวงการ ย่อมเป็นเรื่องยากที่ Brooklyn จะคว้าโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่และเป็นผู้ช่วยของช่างภาพผู้โด่งดัง หลังจากเรียนถ่ายภาพไปได้ไม่ถึงหนึ่งปี เขาก็ดรอปออกมา ส่วน photobook ก็ถูกเย้ยหยันว่าเป็นผลงานสุด basic จนทำให้ช่างภาพมืออาชีพหลายคนออกมา review ชัดเจนว่า skill ของเขายังอยู่ในระดับ beginner ที่ยังต้องเรียนรู้ข้อบกพร่องอีกมาก จากยอดขายต่ำเตี้ย ไม่น่าจะคุ้มกับงบโพรโมท ทำให้ haters นำเรื่องนี้มาขยี้แบบไม่ปล่อย
ล่าสุด ความฝันจะเป็นเชฟระดับยอดเยี่ยมก็ทำให้เขาถูก troll ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนดังจะสร้างชื่อเสียงจากฝีมือการทำอาหาร Chrissy Teigen มีทั้งรายการอาหารและทำหนังสือสูตรจานเด็ด ไม่ต่างจาก Stanley Tucci ที่มีชื่อเสียงเรื่องทำอาหารอิตาเลียน หรือแม้แต่ Gwyneth Paltrow ที่มักจะถูกมองอย่างหมั่นไส้แต่หนังสือทำอาหารของเธอก็ได้รับ review ที่ดีจากสื่อและผู้อ่าน อย่างไรก็ตาม เมื่อ Brooklyn ประกาศว่าค้นพบ passion ใหม่ และขอทุ่มเทเพื่อจะได้เป็นยอดเชฟ ปฏิกิริยาตอบรับจากโลกออนไลน์ก็เต็มไปด้วยเสียงเย้ยหยัน ถึงขนาดว่าสื่อดังหลายเจ้าทั้งอังกฤษและอเมริกันก็ร่วมจิกกัดแบบไม่ไว้หน้า
แม้ชาวเน็ทจะไม่เคยชิมอาหารฝีมือของ Brooklyn แต่เมื่อได้เห็นเขาโชว์ skill ทำแซนด์วิชในรายการ TV ที่ผลลัพธ์ออกมาดูน่ากระอักกระอ่วนมากกว่าชวนให้ลองลิ้มชมรส เขาก็ถูกกกล่าวหาว่าใช้เส้นสายของพ่อแม่สร้างชื่อในฐานะเชฟ ทั้งๆที่ฝีมือยังไม่ได้อยู่ในระดับมือสมัครเล่นที่เข้ามาแข่งขันในรายการทำอาหาร หนำซ้ำยังมีคนปรามาสว่า นี่คงไม่แคล้วเหมือนกับช่วงที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพ หายเห่อเมื่อใดก็หากิจกรรมใหม่ทำต่อ ยังไงพ่อแม่ก็ช่วยดันทุกงานอยู่แล้ว
แต่ถึงจะถูกล้อเลียนหนักขนาดไหน Brooklyn ก็ยังนิ่งเฉย ไม่โต้ตอบข้อกล่าวหาเรื่อง nepo baby แต่อย่างใด
แม้ชาวเน็ทจะไม่เคยชิมอาหารฝีมือของ Brooklyn แต่เมื่อได้เห็นเขาโชว์ skill ทำแซนด์วิชในรายการ TV ที่ผลลัพธ์ออกมาดูน่ากระอักกระอ่วนมากกว่าชวนให้ลองลิ้มชมรส เขาก็ถูกกกล่าวหาว่าใช้เส้นสายของพ่อแม่สร้างชื่อในฐานะเชฟ ทั้งๆที่ฝีมือยังไม่ได้อยู่ในระดับมือสมัครเล่นที่เข้ามาแข่งขันในรายการทำอาหาร หนำซ้ำยังมีคนปรามาสว่า นี่คงไม่แคล้วเหมือนกับช่วงที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพ หายเห่อเมื่อใดก็หากิจกรรมใหม่ทำต่อ ยังไงพ่อแม่ก็ช่วยดันทุกงานอยู่แล้ว
แต่ถึงจะถูกล้อเลียนหนักขนาดไหน Brooklyn ก็ยังนิ่งเฉย ไม่โต้ตอบข้อกล่าวหาเรื่อง nepo baby แต่อย่างใด
คุณน่าจะเคยผ่านหูผ่านตา video content ที่ influencer ไถ่ถามผู้คนที่ขับรถราคาแพงว่าทำมาหากินอะไรจึงรวยถึงขนาดนี้มาแล้ว ไม่กี่เดือนก่อน Tiktoker รายหนึ่งก็เรียกให้ Brooklyn จอดรถ McLaren P1 มูลค่าเกินหว่าล้านดอลลาร์เพื่อเฉลยเรื่องการงาน (เขายืนยันว่าไม่รู้ว่า Brooklynเป็นคนดัง บังเอิญเจอกันเท่านั้น)
และคำพูดของทายาทตระกูล Beckham ก็กลายเป็นไวรัล เพราะเขาตอบด้วยรอยยิ้มสบายๆว่า
"ผมเป็นเชฟ"
เมื่อถูกถามต่อว่า เป็นเชฟที่เก่งที่สุดในโลกหรือไร (จึงซื้อรถแพงขนาดนี้ได้) คำตอบก็คือ "ผมกำลังพยายามอยู่" และแนะนำให้คนที่ฝันอยากจะเป็นเชฟให้เริ่มต้นด้วยการทำตามเสียงหัวใจในสิ่งที่ชอบ
คงไม่ต้องสงสัยว่า ผู้ที่มองเขาด้วยอคติเป็นทุนเดิมต่างเข้ามาถล่มว่า Brooklyn ไร้คุณสมบัติใดๆที่จะอ้างตัวว่าเป็นเชฟ เขาอาจจะเดินสายถ่ายทำรายการอาหารเพื่อเรียนรู้เทคนิคจากเชฟระดับตำนาน หรือมีเงินเหลือเฟือที่ช่วยให้เข้าถึงทุก source เพื่อจะพัฒนาฝีมือในครัว แต่การประกาศตัวว่าเป็นเชฟหลังจากที่เรียนรู้การทำอาหารด้วยตัวเองในช่วง quarantineเพียงไม่นาน และไม่ได้ปรุงเมนูที่เผยให้เห็นความสามารถที่เกิดจากเคี่ยวกรำฝึกฝนก็ทำให้หลายคนมองว่า นี่ไม่ต่างจากการเย้ยหยันมืออาชีพที่ต้องฟันฝ่าความเหนื่อยยากจากการทำงานในครัวที่โหดราวกับการต่อสู้ในสนามรบ
บางคนก็เสนอแนะว่า หากเขาอยากใช้เส้นสายเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง ก็ควรบากหน้าไปขอคำแนะนำจาก Gordon Ramsay เชฟเซเลบที่เป็นเพื่อนสนิทของครอบครัว และฝึกงานในภัตตาคารอย่างจริงจัง ไม่ใช่การแชร์วีดีโอทำอาหารออก social media ซึ่งในหลายๆครั้ง อาหารที่เขานำเสนอก็จะถูกจับผิดว่าดูไม่น่าอร่อยหรือดู basic แบบที่ใครก็ทำได้ ไม่ได้สมกับฝีมือเชฟตามที่เขาว่าไว้
Brooklyn ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความกดดันจากการเป็นทายาทนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลกไว้ว่า
"ผมมีความวิตกกังวลมากมาย และพยายามจะเป็นให้ได้เหมือนกับพ่อ แต่มันก็มาถึงจุดที่ผมรู้สึกว่า อยากจะสร้างชื่อเสียงที่เผยตัวตนของผมด้วยการพยายามทุ่มเทอย่างหนัก ผมราศีมีนน่ะครับ เป็นคนอ่อนไหว"
เขาได้แก้ไขความเข้าใจของผู้คนใหม่เรื่องการเคลมว่าเป็นเชฟ
"ผมไม่ใช่เชฟมืออาชีพแต่อย่างใด ผมไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น ไม่มีทาง พ่อของผมรู้อย่างแน่วแน่ว่าเขาอยากจะทำอะไรมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่ผมทำอาหารมาไม่ถึงสามปีซะด้วยซ้ำ"
"มันไม่เป็นไรหรอก ถ้าหากตัวเราอยู่ในวัย 25 26 หรือ 30 แล้วก็ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ คุณพอเข้าใจใช่ไหม?"
สื่ออังกฤษไม่เคยออมแรงให้กับครอบครัวนี้ อย่างนักข่าวคารมจัดจ้าน Dan Wootton ที่โจมตี Victoria และ David อย่างเจ็บแสบว่า พวกเค้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ภาพลักษณ์ครอบครัวที่แสนผูกพันสมัครสมานต้องพังทะลายหลังจากที่เกิดดราม่าขัดแย้งกับลูกสะใภ้ นั่นเป็นเพราะว่าพวกเค้าช่วยกันปั้นลูกชายให้เป็นปีศาจหิวแสงจนมีชื่อเสียงโด่งดังแต่ไร้ความสามารถ
เขากรีดครอบครัว Beckham ไว้ว่า
"ผมเกรงว่า Victoria คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองและสามีที่ได้ร่วมกันทำให้ Brooklyn ดูเป็นพวกที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณพ่อแม่"
"มันอาจจะฟังใจร้าย แต่เราต่างก็รู้กันอย่างถ้วนหน้าว่าไม่มีเหตุผลใดที่ช่วยผลักดันให้ Brooklyn Beckham มีชื่อเสียงได้นอกจากนามสกุลของเขา ตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็ก บ้านนี้ก็ปลูกฝังให้เขาทะนงตนว่าเขาควรค่าจะเป็นคนดังที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก"
"ทั้งๆที่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะมีความสามารถและความมุ่งมั่นเป็นพลังขับเคลื่อนที่ช่วยให้มีสถานะคนดังระดับ A List มันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเค้า สิ่งสำคัญมีแต่ตัวเลขที่เพิ่มทวีทาง social media ดังที่ได้เห็น Victoria และ David ช่วยกันปั้นลูกให้โลกรู้จักผ่าน Instagram
"ใช่แล้ว พวกเค้าไม่ใส่ใจเลยว่า งานอดิเรกของ Brooklyn ที่นำเสนอต่อสาธารณชนนั้นเป็นเรื่องขายขี้หน้า"
นักข่าวยังวิจารณ์แรงขนาดนี้ ชาวเน็ทยิ่งฟาดใส่ไม่ยั้ง โดยเฉพาะ Victoria ที่ถูกลากมาถากถางราวกับโกรธกันมาตั้งแต่ชาติไหน!
เขากรีดครอบครัว Beckham ไว้ว่า
"ผมเกรงว่า Victoria คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองและสามีที่ได้ร่วมกันทำให้ Brooklyn ดูเป็นพวกที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณพ่อแม่"
"มันอาจจะฟังใจร้าย แต่เราต่างก็รู้กันอย่างถ้วนหน้าว่าไม่มีเหตุผลใดที่ช่วยผลักดันให้ Brooklyn Beckham มีชื่อเสียงได้นอกจากนามสกุลของเขา ตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็ก บ้านนี้ก็ปลูกฝังให้เขาทะนงตนว่าเขาควรค่าจะเป็นคนดังที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก"
"ทั้งๆที่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะมีความสามารถและความมุ่งมั่นเป็นพลังขับเคลื่อนที่ช่วยให้มีสถานะคนดังระดับ A List มันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเค้า สิ่งสำคัญมีแต่ตัวเลขที่เพิ่มทวีทาง social media ดังที่ได้เห็น Victoria และ David ช่วยกันปั้นลูกให้โลกรู้จักผ่าน Instagram
"ใช่แล้ว พวกเค้าไม่ใส่ใจเลยว่า งานอดิเรกของ Brooklyn ที่นำเสนอต่อสาธารณชนนั้นเป็นเรื่องขายขี้หน้า"
นักข่าวยังวิจารณ์แรงขนาดนี้ ชาวเน็ทยิ่งฟาดใส่ไม่ยั้ง โดยเฉพาะ Victoria ที่ถูกลากมาถากถางราวกับโกรธกันมาตั้งแต่ชาติไหน!