คู่รัก สุด iconic แห่งยุค Y2K

29 10
ชวนกันรำลึกความหลังจากเรื่องราวคู่รักที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรม popในยุค Y2K   และสถานะในปัจจุบันของพวกเค้าจะเป็นเช่นไร   มาติดตามกันสิคะ    

Jennifer Lopez  Puff Diddy


สถานะปัจจุบัน   

หญิง: พบความสุขสมหวังจากความรักที่หวนคืนกับพระเอก A List
ชาย:   เข้าสู่ทำเนียบ  playboy ตัวพ่อของ Hollywood  มีลูกถึง  7 คน

หากพูดถึงความรักของ J Lo ที่กลายเป็นกระแสร้อนแรงมากที่สุด หลายคนคงนึกถึง Bennifer 1.0 ที่เกิดสปาร์คกันในกองถ่ายหนังปี 2002 และกลายมาเป็นคู่รัก superstar ที่ผู้คนคอยเกาะติดแบบหมกมุ่นจนหยุดไม่ได้ แต่ก่อนหน้านั้น เธอเคยมีความสัมพันธ์ระดับ high profile กับ Puff Diddy จนถูกยกให้เป็นคู่รักที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงก้าวสู่สหัสวรรษใหม่ เธอมักจะควงคู่อออกงานกับด้วยแฟชั่นแมทช์กับแฟนหนุ่มแร็พเพอร์ เธอยังประสบความสำเร็จจากผลงานดนตรีที่มีกลิ่นอาย urban แต่ในขณะเดียวกัน นักร้องสาวละติน่าสุดแซ่บต้องพบกับการเพ่งเล็งและข้อกล่าวหาว่าพยายามเลียนแบบและขโมยวัฒนธรรมของคนผิวดำไม่ต่างจากที่พี่น้อง KarJenner

คู่นี้วนเวียนตามพาดหัวข่าวกอสสิปจากความสัมพันธ์แบบรักๆเลิกๆ หลังจากเหตุการณ์ฉาวระดับ peak ในปี 1999 เมื่อได้ไปเกี่ยวข้อกับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในคลับที่เป็นต้นเหตุของการยิงปืนจนมีผู้บาดเจ็บสามราย แต่กลับเผ่นจากสถานที่เกิดเหตุ แต่หนีไม่พ้นจนมุมการเข้าจับกุมของตำรวจ แม้ภายหลัง J. Lo จะพ้นข้อกล่าวหา แต่ก็มีเสียงร่ำลือมาตลอดว่า ความทรงจำที่หลอกหลอนที่ต้องถูกส่งตัวเข้าตารางชั่วคราวทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเค้าเกิดปัญหา เดี๋ยวรักเดี๋ยวดีกัน  ในที่สุดก็ตัดสินใจแยกทางกันอีกสองปีต่อมา


Diddy ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเจ้าชู้ แม้ว่าเขาจะคบหากับ Cassie นักร้องสาวที่อายุน้อยกว่ามาเกินสิบปี แต่ก็เป็นความสัมพันธ์แบบ on and off และมีเสียงเล่าลือว่าสาเหตุที่พวกเค้าตัดสินใจเลิกกันแบบลาแล้วลาลับคือความไม่ซื่อสัตย์ของฝ่ายชายนั่นเอง หลายคนฟันธงจากโพสต์ทาง social media ของฝ่ายหญิงที่ประกาศถึงความโล่งใจที่กลับมาโสดและไม่ต้องมากังวลว่าจะถูกนอกใจอีก Diddy หันมาคบกับผู้หญิงที่เคยตกเป็นข่าวว่าเป็นมือที่สามในช่วงที่คบกับ Cassie อย่างไม่ปิดบัง ทำให้หลายคนมองว่า นี่ไม่ต่างจากการควงกิ๊กมาเยาะเย้ย เขายังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอายุน้อยอีกหลายคน ถึงขนาดว่าคนเก่าและคนใหม่พยายามแย่งชิงตำแหน่งตัวจริง   เปิดศึกฉะกันทาง social media จนเดือดพล่าน

เมื่อปีที่แล้วเขาก็ได้ประกาศต้อนรับลูกสาวทายาทลำดับ 7 โดยไม่เปิดเผยว่าแม่ของเบบี้เป็นใคร แต่ก็มีการระบุตัวตนภายหลังว่าเป็นสาวสวยที่อายุพอๆกับลูกชายคนโตของเขา และเธอก็ตั้งท้องในขณะที่เขากำลังคบหากับแร็พเพอร์สาว Yung Miami แต่เธอก็ไม่ได้ตีโพยตีพายว่าถูกนอกใจ เพราะตกลงว่ามีความสัมพันธ์แบบเปิด ไม่หวงห้ามหากจะไปมีอะไรกับคนอื่น

Diddy ในวัยที่ขึ้นหลัก 5 ยังรักษาภาพลักษณ์ playboy ไว้อย่างเหนียวแน่น




ฝ่าย J Lo เแต่งงานมาแล้วสี่ครั้ง บวกกับเฉียดๆจะแต่งกับนักกีฬาชื่อดังมาแล้ว นั่นทำให้หลายฝ่ายมองว่า เธอโหยหาความสัมพันธ์ที่จริงจังยั่งยืนและพยายามตามหาตัวจริงที่จะใช้ชีวิตแก่เฒ่าไปด้วยกัน แต่เธอก็ต้องพบกับความผิดหวังเรื่อยมา ในที่สุดความรักที่เคยหลุดลอยไปก็ได้หวนกลับคืน เธอเริ่มต้นใหม่กับ Ben Affleck ผู้ชายในอดีตที่กลายมาเป็นอนาคต สร้างเสียงกล่าวขวัญจากเรื่องราวความรักที่ไม่ต่างจากพล็อทนิยาย และแฟนๆของเธออาจจะหวังว่า เธอจะไม่ต้องรับมือกับปัญหาความสัมพันธ์เหมือนครั้งที่รักกับ Diddy จากที่เธอเคยแชร์ประสบการณ์ในอดีตว่า ไม่เคยจับ Diddy เรื่องนอกใจได้อย่าคาหนังคาเขา แต่ก็รู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ซื่อสัตย์ และยอมรับว่า ข่าวลือเรื่องที่เธอไล่ตามหาเขาตามห้องโรงแรมนั้นมีส่วนจริง นิสัยติดเที่ยวเตร่ยามค่ำคืนของเขาทำให้เธอต้องใคร่ครวญอย่างหนักว่า ต้องการจะลงเอยเป็นผู้หญิงที่เอาแต่วิตกกังวลอยู่ที่บ้านว่าพ่อของลูกไปอยู่ที่ไหนยามดึกจริงหรือ? หนำซ้ำยังมีปัญหาใหญ่อีกอย่าง นั่นคือความสัมพันธ์ของเขากับ Kim Porter หญิงคนรักเก่าที่เขาฝังใจ นอกจากเธอจะรักกับเขามาหลายปีก็ยังมีลูกด้วยกันถึงสามคน เขาติดเธอยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหน โทรจิกวันละหลายสิบครั้ง (ใครที่ไหนจะทนได้!) หลายปีต่อมา เขาก็ยอมรับว่า ตอนที่คบหากับ J. Lo ก็ยังตัดใจจาก Kim ไม่ได้ และใช้ความสัมพันธ์กับ superstar สาวเป็นเครื่องมือเรียกร้องความสนใจจากอดีตคนรักและหวังว่าเธอจะวิ่งกลับมาหา หลังจากที่ J. Loและ Diddy เลิกกันไปได้สองปี Diddy ก็เอาชนะใจ Kim สำเร็จ เธอยอมกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ แต่ก็จบด้วยการแยกทางอีกครั้ง


พฤติกรรมและ mindset ของฝ่ายชายฟังแล้วอาจจะเหลือรับสำหรับหลายคน แต่ J. Loก็ไม่ได้ผูกใจเจ็บจากเรื่องราวครั้งเก่า ยามได้พบหน้ากันก็ทักทายอย่างชื่นมื่น และเคยพูดคุยผ่าน live อย่างสนุกสนาน




Britney Spears & Justin Timberlake


สถานะปัจจุบัน   

หญิง: หลังจากต้องฝ่าฟันปัญหาชีวิตที่หนักหนาสาหัส ก็ปลดปล่อยตัวเองจาก conservatorship และแต่งงาน
ชาย: สร้างชื่อเสียงจนได้รับความนิยมมาหลายปี แต่ก็ถูกรื้อฟื้นเรื่องวีรกรรมในอดีตจนต้องประกาศขอโทษอดีตคนรัก
พวกเค้าคือคู่รักทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุค   ด้วยศักดิ์ศรีเจ้าหญิงเพลง pop  และเจ้าชาย  boy band   พลังสนับสนุนของแฟนๆจึงหนักแน่นเหลือเกิน    แต่เพียงไม่กี่ปีผ่านไป  เมื่อความรักได้แปรเปลี่ยน    Britney ตกเป็นจำเลยสังคมจากข้อกล่าวหานอกใจหนุ่มแสนดี     ฝ่าย Justin ได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังจากผลงานเพลงยอดฮิตที่ไม่ได้ระบุชื่อตรงไปตรงมา แต่บอกใบ้เต็มๆนถึงความแค้นที่ถูกนอกใจ  และให้สัมภาษณ์ถึงความเจ็บปวดจากความรักอยู่หลายครั้ง   เขาเปิดเผยมีความสัมพันธ์ทางร่างกายกับ Britney ไปแล้ว  มันไม่ต่างจากการประจานหักหน้าอดีตคนรักที่เคยยืนยันว่าต้องการรักษาความบริสุทธิ์ไว้  จนทำให้เธอต้องออกมาชี้แจงว่า  เธอตัดสินใจมี sex กับแฟนหนุ่มเพราะรักเขาล้นใจ แต่สังคมกลับไม่ได้ยินดียินร้ายกับพฤติกรรมของฝ่ายชาย  หันมาโจมตีฝ่ายหญิงด้วย slut-shaming   จนกระทั่งไม่นานนี้เองที่สารคดีตีแผ่ชีวิตที่ดิ่งสู่ความมืดหม่นของ  Britney ได้ปลุกกระแสต่อต้าน Justin ขึ้นมา  และทำให้เขาต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการส่งคำขอโทษไปยังอดีตแฟนสาวและ Janet Jackson ที่เคยต้องสังเวยชื่อเสียงกับเหตุการณ์ฉีกเสื้อบนเวที   Half Time Super Bowl
ใครๆก็ต่างฟันธงว่า  หญิงสาวที่ปรากฏตัวในวีดีโอ Cry Me A River คือการสื่อให้โลกได้รู้ว่า   Britney คือหญิงร้ายที่นอกใจ  Justin   แม้แฟนๆจะทักท้วงว่า นี่คือการบอกเล่าเพียงฝั่งเดียว และใช้ชื่อเสียงของผู้หญิงมาช่วยสร้างกระแสจนเพลงพุ่งขึ้นลำดับ top chart   และไม่ต่างจากการหงายการ์ดเหยื่อผู้ถูกกกระทำเพื่อแก้แค้นอดีตแฟนให้อับอาย     ตัว Britney ที่ปิดปากเงียบกับ  MV นี้มานานก็ได้ออกมาเปิดใจหลังจากที่เธอได้รับอิสรภาพจาก conservatorship ว่า   หมวกของนางเอก MV นั้นช่างดูคุ้นตา

"โอ้ บ้าไปแล้ว นั้นมันฉันนี่นา" เธอเหน็บแหนม

บอกได้ว่า กระแสต่อต้านครั้งนั้นทำให้ Justin ที่รักษาภาพลักษณ์ศิลปินหนุ่มผู้เป็นแบบอย่างที่ดีมานานต้องเก็บตัวเงียบไปอีกนาน    


Nick Lachey & Jessica Simpson


สถานะปัจจุบัน เคยแต่งงานกันแต่ก็เลิกรากันไปแต่หย่าร้างกันในเวลาเพียง 3ปี

ฝ่ายหญิง: ใช้ชีวิตกับสามีและลูกๆดูมีความสุข  แต่สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดเผยความจริงสุดฉาว
ฝ่ายชาย:  หลังจากแต่งงานครั้งที่สอง ก็ใช้ชีวิตคู่กับภรรยาอย่างมีความสุขจนถึงปัจจุบัน
Justin และ Britney อาจจะถูกยกให้เป็น  The It Couple  แห่งวงการเพลง pop   แต่คู่ Jessica Simpson  และ  Nick Lachey ก็สร้างเสียงกล่าวขวัญอย่างล้นหลามเช่นเดียวกัน  และความดราม่าก็ public ซะจนผู้คนอินราวกับเป็นเรื่องตัวเอง      ไม่ต่างจากคู่แรก   เธอคือนักร้องสาวบลอนด์สุด hot  ส่วนเขาเป็นสมาชิก boy band ที่หล่อเร้าใจ    และยิ่งถูกจับตามองเมื่อฝ่ายหญิงยืนยันว่า จะรักษาความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงาน    และยังตัดสินใจถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตคู่แบบข้าวใหม่ปลามันผ่าน  reality show ออกมาโกยเรตติ้งทางช่อง  MTV     และทำให้พวกเค้าตกเป็นเป้าความสนใจจากผู้คนในสังคมจากภาพสามีภรรยาคลั่งรัก   แต่จริงๆแล้ว  ระหว่างถ่ายทำพวกเค้าต้องฝืนทำท่าทางรักกันล้นเหลือทางหน้ากล้องทั้งๆที่ความสัมพันธ์เริ่มเกิดปัญหา    แต่งงานไปเพียง 3 ปี  Jessica ก็ยื่นขอหย่า  ซึ่งในขณะนั้น Nick  เชื่อว่า แรงกดดันจากการถ่ายรายการ  TV ทำให้ชีวิตแต่งงานของพวกเค้าต้องเข้าสู่ทางตัน  ในขณะที่สื่อตีข่าวว่า   ตัวเขาต่างหากที่บีบคั้นอดีตภรรยาจนทนไม่ไหว   เนื่องจากไม่พอใจที่เธอสามารถทำเงินได้มากกว่าและมีชื่อเสียงในวงการแซงหน้าเขาซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากกระแสความนิยม boy band ที่เริ่มถดถอยลงไปทำให้รู้สึกอิจฉาจนต้องระบายใส่เธอ
หลายปีต่อมา Jessica ได้เขียนหนังสือเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตว่า  ความไม่เข้าใจกัน และตัวเธอที่ขาดความมั่นใจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตคู่คลอนแคลน   จากนั้นจึงทิ้งระเบิดตู้มใหญ่ด้วยการยอมรับว่า     เธอแอบมีความสัมพันธ์กับ Johnny Knoxville พระเอกที่ประชันบทบาทด้วยกันในหนัง Dukes of Hazzard ทั้งๆที่อีกฝ่ายก็มีภรรยาอยู่แล้ว   พวกเค้าได้คอยให้คำปรึกษาและปลอบใจกันกันเรื่องการแก้ไขปัญหาชีวิตคู่และแสดงท่าทีน่าสงสัยจน Nick ตามมาจับผิดเธอถึงกองถ่าย  พวกเค้าแอบติดต่อกันผ่านการส่งข้อความ  แต่เมื่อเธอตัดสินใจจบชีวิตการแต่งงานกับ Nick  เธอก็ไม่ได้รอคอยให้ Johnny กลับมาโสดเพื่อคบกันอย่างเปิดเผย  เพราะJohnny ยังลังเลที่จะแยกทางกับภรรยา   เมื่อเขาตัดสินใจได้ มันก็สายเกิน เพราะเธอได้ล้มเลิกความคิดที่จะสานความสัมพันธ์กับเขาไปแล้ว



Jessica ยังบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นลังจากเธอทำร้ายจิตใจอดีตสามีว่า เขาไม่สามารถปล่อยมือจากเธอได้ และโผล่มายังบ้านพ่อแม่ของเธอเพื่อขอโอกาสเขาปรับปรุงตัวและเริ่มต้นกันใหม่ เพราะเขารักเธอเหลือเกิน แต่เธอก็เชื่อว่า คำว่ารักนั้นไม่เพียงพอ ทั้งสองคนจะต้องชื่นชอบในตัวตนของอีกฝ่าย เขาจึงได้เรียกทีมงาน reality show กลับมาเพื่อถ่ายทำรายการเพื่อประกาศให้โลกได้รับรู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่ถูกเธอทิ้งไป เมื่อเธอได้เห็นว่า เขาได้นำเสนอตัวเองในฐานะเหยื่อผู้ถูกกระทำ ส่วนเธอคือคนแก่ตัวร้ายกาจ จึงได้รู้ว่าเขาเกลียดชังเธอ แต่ในเวลาต่อมา เขากลับส่งวีดีโอเพลง What’s Left of Me ที่บรรยายความเจ็บปวดที่ทำให้แทบไม่เป็นผู้เป็นคนเพราะผู้หญิงไร้หัวใจทอดทิ้งไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องการเธอกลับคืนมา Jessica ก็รู้ว่า  เขาพยายามทำให้เธอเจ็บปวด เธอไม่รู้ว่าจะชดใช้ให้เขาเช่นไร จึงลงเอยด้วยการนัดพบและมี sex กัน แต่การชดเชยความผิดด้วยการพลีกายให้เขาระบายความโกรธเกลียดส่งผลในแง่ลบ ทำให้เธอรู้ตัวว่า จะไม่ได้พบ Nick อีกแล้ว




ถึงจะเจ็บหนักจากชีวิตคู่ที่พังทลาย แต่ฝ่ายชายก็เริ่มต้นความสัมพันธ์กับ Vanessa Minnillo VJ สาวสวยแห่ง MTV หลังจากที่เลือกเธอมาสวมบทภรรยาที่หมดใจในวีดีโอเพลง What's left in me (หรือแสดงเป็น Jessica นั่นเอง!) จนทำให้ Jessica ช็อคที่เขาสามารถ move on อย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่เธอเป็นคนสลัดเขาทิ้ง พวกเค้าคบหาดูใจกันหลายปีและแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ ส่วน Jessica พบรักกับอดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล NFL หลังจากสละโสดรอบสอง เธอก็ดูเงียบหายจากวงการบันเทิงไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นข่าวตามหน้าสื่อกอสสิป และมีชื่อเสียงจากการสร้างแบรนด์แฟชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม




Hillary Duff & Aaron Carter  

สถานะปัจจุบัน  แยกย้ายกันไปคนละเส้นทางหลังจากเลิกรากันช่วงวัยรุ่น

ฝ่ายหญิง:  กลายเป็นนางเอกแม่ลูกสาม ผ่านการแต่งงานมาแล้วสองครั้ง
ฝ่ายชาย: มีภาพลักษณ์หนุ่มเจ้าปัญหามาตลอดระยะเวลาหลายปี ก่อนจะจบชีวิตอย่างน่าใจหาย  
ตำนานรักไอดอลที่อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกใจหาย    พวกเค้าเริ่มคบกันตอนอายุ  13 ปีเท่านั้น   แน่นอนว่ายังเด็กขนาดนี้จึงจะไม่ได้แสดงความรักลึกซึ้งออกสื่อรัวๆ    ทั้งสองต่างสร้างชื่อโด่งดังมาตั้งแต่เด็กตาแป๋วจึงได้รับเสียงเชียร์จากเหล่า FC ที่เอ็นดูความรักแบบ puppy love   แต่เมื่อพวกเค้าเริ่มจะโตขึ้นมาอีกนิด ก็กลายเป็นข่าวฮือฮาจากดราม่ารักสามเส้า    นอกจากพฤติกรรมคบซ้อนของ  Aaron จะทำให้แฟนๆต้องเจ็บใจแทน Hilary   สิ่งที่ทำให้หลายคนรับไม่ได้ก็คือ  ผู้หญิงที่เขาเข้าไปพัวพันนั้นคือ Lindsay Lohan ที่เคยสนิทสนมกับ Hilary นั่นเอง   และไม่ต้องสงสัยว่าเรื่องนี้จะสร้างรอยร้าวให้กับ teen queens ทั้งสองจนมองหน้ากันไม่ติดไปอีกนาน

หลายปีต่อมา Aaron ได้เผยเรื่องราวในวัยรุ่นว่า คบกับ Hilary มาราวๆปีครึ่งก็เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา จึงหันไปสนิทสนมกับ Lindsay แต่แล้วเขาไม่อยากไปต่อ จึงกลับมาหา Hilary แต่เพราะยังเด็กอยู่มาก จึงไม่สามารถรักษาความรักไว้ได้

"ผมนอกใจ Hilary ไปหาเพื่อนสนิทของเธอ มันไม่ใช่เรื่องที่ชวนภูมิใจ ผมทำให้เธอใจสลายและผมก็เสียใจในเรื่องนั้น"

หลายปีต่อมา Hilary ได้อธิบายความรู้สึกที่มีต่ออดีตวัยหวานว่า เมื่อได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว อะไรที่เกิดขึ้นในวัยเด็กก็ให้แล้วกันไป และก็มันสิ้นสุดไปแล้ว

แต่ดูเหมือนว่า มันเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับ Aaron ที่จะลืมเธอไปได้ เขาเตือนใจชาวเน็ทว่า อย่าได้ทำตัวย่ำแย่เหมือนกับเขาจนทำให้สูญเสียคนที่เป็นรักแท้ไป เขาสามารถใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อปรับปรุงตัวเพื่อให้เธอกลับคืนมา และยังให้สัมภาษณ์ว่า ถึงจะเหินห่างกันไปจนเหมือนคนไม่รู้จัก แต่หากได้รับโอกาสแก้ตัว เขาจะทุ่มเทให้เธอหันกลับมามอบไมตรีให้อีกครั้ง

แต่ Hilary ก็ move on ไปไกลจนไม่ได้หวั่นไหวกับการประกาศความในใจจาก Aaronแล้ว

ปัญหาชีวิตที่รุมเร้าทั้งเรื่องความเจ็บป่วยทางจิตใจ  อาการติดยาเสพติด  สถานะทางการเงิน และความขัดแย้งกับสมาชิกครอบครัวทำให้  Aaron ดูผิดแผกไปจากช่วงที่ยังรุ่งโรจน์เมื่อยังเป็นวัยรุ่นอย่างสิ้นเชิง  แม้จะพยายามแก้ไขปัญหาเพื่อชีวิตที่เข้ารูปเข้ารอย  เมื่อปีก่อนเขาก็ประกาศว่า ไม่ได้แตะต้องสารเสพติดมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว  แต่ข่าวการเสียชีวิตกะทันหันของ Aaron ก็ทำให้หลายคนต้องอึ้ง   หลังจากแม่บ้านพบร่างที่ไร้ชีวิตของศิลปินหนุ่มวัย 34 ในอ่างอาบน้ำที่บ้าน    ตำรวจได้เผยว่ามียาตามใบสั่งแพทย์อยู่ในห้องนอนของเขา ราวกับจะบ่งชี้สาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจากการเสพยาเกินขนาด  แต่เมื่อต้นปี  แม่ของ  Aaron ได้เปิดเผยภาพสุดช็อคจากห้องน้ำที่ Aaron เสียชีวิต  เธอโจมตีตำรวจที่ไม่ยอมสืบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของลูกชายเพียงเพราะเขาเคยมีประวัติการเสพยาและความเจ็บป่วยทางจิตใจ   ทั้งๆที่มีความเป็นไปได้ว่า เขาจะถูกฆาตกรรมจากพิรุธต่างๆที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ   ทางครอบครัวยังมีความเชื่อว่า เขาไม่ได้เสพยา แต่ถูกพ่อค้ายาขู่ฆ่า  และเรียกร้องให้ผู้รักษากฎหมายเข้ามาสืบสวนอย่างเต็มที่อีกครั้ง




ในสายตาของผู้คน พวกเค้าเป็นอดีตคู่รักวัยใสที่เลือกเดินคนละเส้นทาง แต่เมื่อฝ่ายหนึ่งจากไปไม่มีวันกลับ Hilary ได้แสดงความเศร้าเสียใจที่เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิตต่อหน้าสายตาผู้คนที่จ้องมอง และเผยความในใจว่า เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น เธอมีความรักให้เขาอย่างลึกซึ้ง และขอให้เขาไปสบาย แต่กลับมีเรื่องราวหักมุม เมื่อสื่อดังนำเสนอข่าว สำนักพิมพ์วางแผนจะตีพิมพ์หนังสือ memoir ที่ Aaron ซุ่มจัดทำกับนักเขียนมาถึงสามปีเพื่อให้เข้ากับกระแสความอาลัย แต่หนังสือเล่มนี้มาพร้อมกับเนื้อหาชวนอึ้ง เพราะมีคำกล่าวอ้างว่า Aaron และ Hilary เสียความบริสุทธิ์ให้กันในขณะที่อายุยังน้อย ไม่ต้องแปลกใจว่า Hilary จะโต้กลับด้วยความโมโห เธอประนามสำนักพิมพ์ว่า คนเสียชีวิตไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ สำนักพิมพ์กลับฉวยโอกาสกอบโกยประโยชน์โดยไม่สนใจจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและความน่าเชื่อถือของผลงานนี้ มันเป็น clickbait เพื่อหากำไรที่น่ารังเกียจ เลือดเย็น และไม่เคยแจ้งให้เธอรับรู้มาก่อน ในภายหลัง สำนักพิมพ์ที่ถูกโจมตีว่าหิวเงินไม่เลือกเวลาก็ตัดสินใจเลื่อนการปล่อยตัวหนังสือบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ Aaron ออกไป






ดาราเด็กถูกจัดให้เป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางต่อสิ่งยั่วยุที่ดึงให้ก้าวสู่ทางผิด ทั้งยังยังเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยทางจิตใจ เนื่องจากสภาพแวดล้อมสังคมการทำงานที่ไม่เหมาะสมกับวัย แทนที่จะได้ใช้ชีวิตที่สดใสตามปกติและได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนฝูงรอบข้าง พวกเค้ากลับถูกบีบให้ต้องรีบโตก่อนวัย ต้องทุ่มเทเวลาทำงานจนเหน็ดเหนื่อย ยิ่งโด่งดังก็กลายเป็นเป้าหมายที่ถูกตามจับผิดและโจมตี หลายคนมีปัญหาเรื่องความเชื่อใจผู้อื่น ความโดดเดี่ยว และความเจ็บปวดฝังใจจากประสบการณ์ถูก abuse แล้วลงเอยการตัดสินใจที่ผิดพลาดจนชีวิตตกต่ำ เกิดกรณีซ้ำซากจนถูกเปรียบเทียบว่าเป็นคำสาปดาราเด็ก แต่ดูเหมือนว่า Hilary Duff จะรอดพ้นคำสาปนั้นมาได้ เธอเผยว่า ก่อนจะมีอายุครบ 20 เธอได้จัดระเบียบชีวิตด้วยการจบความสัมพันธ์กับเพื่อนที่มีพฤติกรรม toxic แม้จะรู้สึกถึงแรงกดดันจากความคาดหวังของคนอื่น เธอก็พยายามตั้งสติประคับตัวเองไม่ให้หลงทาง ในวันนี้เธอก็ยังโลดแล่นในวงการ TV หลังจากที่ซีรีส์ Younger ที่ออนแอร์มาเป็นเวลา 7 ซีซันได้อวสานไป เธอก็เริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะนักแสดงนำซีรีส์ How I Met Your Father พ่วงกับหน้าที่โพรดิวเซอร์ ด้านชีวิตส่วนตัวก็ไปได้สวย เธอผ่านการแต่งงานแล้วสองครั้ง สามีคนปัจจุบันเป็นโพรดิวเซอร์ดนตรีที่ร่วมงานกันในอัลบั้มเพลงของเธอเมื่อปี 2015 และคอยอัพเดทเรื่องราวดีๆในชีวิตครอบครัวอยู่เรื่อยๆ





Freddie Prinze Jr. & Sarah Michelle Gellar


สถานะปัจจุบัน  แต่งงานกันท่ามกลางกระแสคู่จิ้น และรักกันอย่างมั่นคงมานานกว่า  20 ปี

ฝ่ายหญิง: มีผลงานการแสดงสม่ำเสมอ
ฝ่ายชาย: หันมาจับงานสายวิเคราะห์มวยปล้ำ

ชีวิตรักของคู่นี้อาจจะฟังดูโลดโผนน้อยที่สุดในกลุ่ม Hollywood couple ที่เราหยิบยกมาบอกเล่า ทั้งสองต่างสร้างชื่อเสียงโด่งดังจากหนังทีนที่กำลังบูมสุดๆช่วง 90s-2000s ทั้งแนวเลือดสาดและแนว romance ชวนจิกหมอน มีจุดเริ่มต้นด้วยความเป็นเพื่อนจากการร่วมงานกันในหนัง I Know What You Did Last Summer ต่างฝ่ายต่างก็ออกเดทกับคนอื่นและไม่ได้มีโมเมนท์แบบหลงรักกันกลางกองถ่ายแต่อย่างใด รู้จักกันมา 3 ปีก็ก็พบกับจุดเปลี่ยนจนรู้ใจตัวเองว่าอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นมากกว่าเพื่อน ซึ่งมันเป็นเป็นเรื่องของความบังเอิญ พวกเค้ามีแผนจะไปดินเนอร์แบบกลุ่มสามคน แต่เพื่อนอีกคนไม่สามารถมาตามนัดได้ จึงมาเจอกันแบบสองต่อสอง เปิดโอกาสให้พูดคุยทำความรู้จักตัวตนกันยาวๆ และ click กันจนเปลี่ยนสถานะเป็นคนรู้ใจไปโดยปริยาย พวกเค้าไม่ได้คบกันแบบหลบๆซ่อนๆ แต่ชัดเจนกับความสัมพันธ์โดยไม่หวั่นที่จะเสียความนิยม โดยเฉพาะฝ่ายชายที่ถูกยกให้เป็น Heartthrob ที่ทำให้บรรดา fangirls คลั่งไคล้       Freddie พูดแบบขำๆว่า ตอนที่เริ่มคบหาดูใจกันใหม่ๆ เขายังหนุ่มแน่นและดูดี เครื่องตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติของเขาจึงเต็มไปด้วยข้อความจากสาวๆ (น่าจะเป็นการตัดพ้อด้วยความน้อยใจ)



ความสัมพันธ์ของพวกเค้าก้าวหน้าไปรวดเร็วมาก คบกันเพียงปีเดียวก็ประกาศหมั้นหมายและแต่งงานกันในปีต่อมา Freddie เผยว่า ก่อนหน้านี้ ทั้งสองไม่ได้เชื่อมั่นในการแต่งงานแต่อย่างใด แต่เมื่อเขาพบรักแท้ จึงเอ่ยปากขอเธอแต่งงานออกไปตามสัญชาตญาณ และโชคดีที่เธอก็คิดแบบเดียวกัน ชีวิตรักของพวกเค้าถือเป็นเรื่องหายากของ Hollywood เพราะจะน้อยครั้งที่จะได้เห็นคนดังที่รักกันตั้งแต่หนุ่มสาวและแต่งงานสร้างครอบครัวที่แสนสุขปลอดภัยจากข่าวเตียงหักยาวนานกว่าสองทศวรรษ

Freddie "เมื่อเราแก่ตัวลง เส้นผมของผมหงอกยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ ผมมองเห็นภาพพวกเราอยู่ด้วยกันบนเกาะสักแห่ง มีผิวสีแทน อ้วนจ้ำม่ำและมีความสุข"
Sarah Michelle  "วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนมันบินไปได้ ฉันขอเพียงให้มั่นใจได้ว่า  ฉันจะเป็นร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญและทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น  จะปกป้องไม่ให้สิ่งใดมารบกวนและอยู่กับคนที่ฉันรักเสมอไป"

ชีวิตครอบครัวของพวกเค้าค่อนข้าง low key  ไม่ค่อยเปิดเผยใบหน้าลูกๆมากนัก  แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความรักหวานชื่นที่ไม่ผันแปรไปตามกาลเวลาจนถูกสื่อทาบทามให้แชร์วิธีครองรักให้ยืนยาวอยู่บ่อยๆ    หากเป็นเรื่องการงาน บางคนอาจจะเข้าใจว่าพวกเค้าค่อยๆ fade ตัวไปจากวงการ   เพราะไม่ได้สร้างกระแสฮือฮาเหมือนกับสมัยที่เป็นดาราวัยรุ่น  แต่ Sarah ก็ยังมีผลงานการแสดงสม่ำเสมอ   ส่วน Freddie ที่เป็นแฟนตัวยงของมวยปล้ำ WWE ก็เคยคว้าโอกาสร่วมทีม creative ของกับองค์กร และยังจับไมค์ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการมาแล้ว    เขาหลงไหลมวยปล้ำอาชีพมากซะจนสร้างสถานี Wrestling With Freddie. เพื่อถกเรื่องมวยปล้ำทาง Podcast   


Reese Witherspoon & Ryan Phillippe

สถานะปัจจุบัน  หย่าร้างกันหลังจากมีข่าวลือว่าฝ่ายชายนอกใจ  


ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย: move on ไปมีรักใหม่และร่วมเลี้ยงดูลูกๆด้วยกันจนโตเป็นหนุ่มเป็นสาว

ความสำเร็จหนังทีนในยุคนั้นทำให้เกิดกระแสคู่จิ้นตามมาหลายครั้ง  แต่ในกรณีของ Cruel Intentions  นั้นแตกต่างไป  เพราะตัวพระเอกนางเอกนั้นคบกันจริงจังถึงขั้นหมั้นหมายก่อนจะได้ร่วมออดิชั่นซะอีก   อาจจะเป็นไปได้ว่าความรักนอกจอของพวกเค้าทำให้เคมีที่พร่างพรูบนหน้าจอดูสมจริงจนผู้ชมไม่ใส่ใจกับความซ้ำซากของพล็อทเรื่อง   แม้มันจะไม่ใช่หนังที่สร้างรายได้ถล่มทลาย แต่ก็ยังตราตรึงในความทรงจำของผู้ชมอีกมากมายและถูกหยิบยกมาพูดถึงเรื่อยมา     Reese และ Ryan ผงาดสู่เส้นทางนักแสดงดาวรุ่งที่เนื้อหอมดึงดูดใจนักสร้างหนัง   เมื่อพวกเค้าควงคู่เดินพรมแดงด้วยกันก็ดูโดดเด่นจากออร่า A List    แม้จะอายุเพียงยี่สิบต้นๆ ก็ถูกฟันธงแล้วว่าจะเป็น the next big thing     เสียงกล่าวขวัญเรื่องคู่รักสุด hot ยิ่งอื้ออึงยิ่งขึ้นเมื่อพวกเค้าประกาศแต่งงานหลังจาก  Cruel Intentions  ออกฉายไปไม่กี่เดือนเท่านั้น

แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป 7 ปี ก็มีข่าวลือออกมาหลายครั้งว่า เบื้องหลังภาพสามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียวนั้นเกิดเป็นพายุโหมกระหน่ำทำให้ชีวิตคู่คลอนแคลน ในขณะที่ Reese ได้ก้าวไปใกล้โอกาสยิ่งใหญในชีวิตนักแสดงจากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่จากผลงานนำแสดงหนัง Walk The Line สามีของเธอได้แสดงออกอย่างปลาบปลื้มยินดีมากมายเมื่อเธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำจนดูจะสยบข่าวลือเตียงหักไปได้บ้าง แต่เมื่อเธอคว้า Oscar มาได้สำเร็จ ก็ยิ่งทำให้เสียงซุบซิบหนาหูว่า Ryan เกิดความเครียดที่ภรรยาประสบความสำเร็จข้ามหน้าข้ามตา เธอติดอันดับนางเอกค่าตัวสูงที่สุดในยุคนั้นและยังได้รับรางวัลชั้นนำมาการันตีอนาคตอันเรืองโรจน์ในวงการ ส่วนเขายังมีชื่อเสียงระดัับกลางๆจนถูกมองว่า ถูกรัศมีอันเจิดจ้าของภรรยาบดบังไปหมด และประเด็นที่ฉาวยิ่งกว่า ก็คือข่าวลือชู้สาวของเขากับ Abbie Cornish นางเอกที่เคยร่วมถ่ายทำหนัง Stop-Loss ด้วยกัน




หลังจากที่ Reese คว้า Oscar ไม่กี่เดือน  สามีภรรยาชื่อดังก็ประกาศแยกกันอยู่ แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้แล้ว แต่กระแสกดดันก็พุ่งไปทางฝ่ายชายและนางเอกเพื่อนร่วมงานที่สื่อปูดข่าวว่าเป็นมือที่สาม ในขณะที่เขาก็ยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้นอกใจ Reese   เพียงไม่นานหลังจากกลับมาโสดเต็มตัว เขาก็เปิดตัวความสัมพันธ์กับ Abbie ราวกับไม่เกรงคำครหา   คงไม่ต้องแปลกใจว่า ทั้งคู่ต่างได้รับผลกระทบหนักเมื่ถูกตราหน้าว่าเป็นชายชั่วหญิงโฉดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนางเอกขวัญใจประชาชน      Ryan ชี้แจงออกสื่อว่า ชีวิตคู่ของเขามีปัญหามานานก่อนที่จะพบ Abbie และเธอก็ไม่ได้เป็นสาเหตุของการหย่าร้างดังที่ใครๆสันนิษฐาน  ส่วน Abbie ได้เก็บตัวเงียบไประยะหนึ่งจนกระทั่งวันเวลาได้ทำให้กระแสต่อต้านเบาบางลงไป   แต่ความรักครั้งใหม่ก็จบลงแบบเจ็บๆในเวลาสี่ปี โดยที่ฝ่ายหญิงได้ส่งตัวแทนออกมาแถลงการณ์ว่า เธอเป็นฝ่ายยุติความสัมพันธ์และย้ายออกจากบ้านของเขา ท่าทีไร้เยื่อใยของอดีตแฟนสาวทำให้ Ryan ออกมาโอดครวญว่า หลังจากถูกสื่อยำเละเรื่องการหย่าร้างกับ Reese คราวนี้ก็ถูกโยนความผิดซ้ำเติมจนรู้สึกเหนื่อยใจ


เรื่องสาเหตุที่แท้จริงของการหย่าร้างของ Ryan และ Reese อาจจะถูกมองเป็น scandal ที่หลายคนยังค้างคาใจ   แต่หากเป็นเรื่องของการทำหน้าที่พ่อแม่  ทั้งสองได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ทและสื่อมาโดยตลอด   ทั้ง Ava และ Deacon ดูสนิทสนมกับพ่อแ ทำให้หลายคนเชื่อว่า พวกเค้าสามารถก้าวข้ามอคติที่เกิดจากความขัดแย้งในอดีตเพื่อช่วยกันเลี้ยงดูลูกๆที่ต้องไปๆมาๆระหว่างสองบ้าน  จนกระทั่งเด็กๆได้เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวและก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยดัง    นานๆครั้งก็แชร์ภาพพ่อแม่ลูกพร้อมหน้าพร้อมตา  

คู่รักสุด iconic  อาจจะไม่ได้ลงเอยด้วยความสุขสมหวังเหมือนกับเทพนิยาย   แต่ก็อาจจะมอบบทเรียนบางอย่างให้กับเราได้เช่นกัน


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE