Timeline อธิบายมหากาพย์ดราม่า Selena VS Hailey ที่นำไปสู่การขู่ฆ่า

ข่าวลือเรื่องความขัดแย้งของSelena Gomez และ Hailey Bieber สาวสวยชื่อดังทรงอิทธิพลของวงการบันเทิงที่อาจจะเปรียบเทียบได้ว่ามันคือสงคราม  IT girls นั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นคำพูดโจมตีจากปากคู่กรณีทั้งสองแบบระบุชื่อให้เข้าใจแบบตรงไปตรงมา แต่มีบ่อเกิดมาจาก post สั้นๆ ทาง social media ที่ถูกตีความหมายไปในด้านลบจนบานปลายเป็นดราม่าใหญ่โต  เมื่อฝ่ายหนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น  mean girl ตามจองเวรคนอื่นไม่ยอมจบแล้วถูกสังคมโจมตี และร้ายกว่านั้นคือคำขู่ฆ่า   

Hailey Bieberเป็นนางร้ายเต็มขั้นจริงหรือ?   Selena ต้องรับมือกับสถานการณ์นี้เช่นใด?
 
ชาวเน็ทควรตามพิพากษาพวกเธอจากข้อมูลที่แชร์จนเป็น viral หรือควรลองมาฟังคำพูดจากทั้งสองคนกันก่อน

ลองมาติดตาม Timeline ความขัดแย้งในโลกออนไลน์กันได้ค่ะ

หากติดตามเรื่องราวของ Selena และ Hailey มาโดยตลอด ก็คงคุ้นๆกันว่า นี่ไม่ใช่ประเด็นแปลกใหม่ ชาวเน็ทเคยกล่าวหานางแบบสาวมาก่อนว่า เธอฉวยโอกาสโพสต์กระทบกระเทียบอดีตคนรักของสามีมาแล้วหลายครั้ง เมื่อเธอเปิดเพลง I'll Kill You ในวันเดียวกันที่ ปล่อยเพลง Lose You to Love Me ที่หลายคนมั่นใจว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ความรักอันเจ็บปวดกับ Justin Bieber ก็มีคนฟันธงว่า นี่คือการโต้ตอบแบบไร้วุฒิภาวะ หรือจะเป็นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่เธอเลือกเพลง Calm Down ลง story ก็ถูกมองว่าเป็นการโจมตี Selena แบบอ้อมๆ เพราะไม่นำเวอร์ชั่น remix ที่ Selena ร่วมขับร้องมาลง โดยเฉพาะกลุ่ม Selenators ที่มั่นอกมั่นใจว่า นี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน เพราะมันเกิดซ้ำๆ และดู throw shade จงใจเกินไป โ ความเคลื่อนไหวบน social media Hailey จึงถูกจับผิดจากการสแกนของแฟนๆที่มีสายตาเรเซอร์ว่า เธอกำลังพาดพิง Selena หรือไม่ แม้แต่คลิปที่เธอโพสต์ไม่นานแล้วลบออกไปก็ยังกลายมาเป็นเรื่องใหญ่ได้


แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงแย้งให้ทุกฝ่ายลดความเดือดลงสักนิด เพราะนี่ดูแตกต่างจากศึก it girls คนอื่นๆที่เคยเห็นมา พวกเธอเคยแสดงออกแล้วว่ารอมชอมให้กัน และไม่พูดโจมตีกล่าวหาให้อีกฝ่ายดูแย่ ตัว Selena เองก็เคยออกมาขอร้องแฟนๆให้เลิกรังควาน Hailey มาก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำ

และคราวนี้ Selena ก็ได้เปิดใจในประเด็น   Hailey ถูก bully อีกครั้ง...

คำเรียกร้องเพื่อต่อต้าน bully และการกระจายความเกลียดชังจาก Selena ได้รับคำชื่นชมเกรียวกราวใน social media แต่ถามว่า hardcore fans ของเธอจะฟังหรือไม่นั้น คงเป็นอีกเรื่อง และยังทำให้ชาวเน็ทหลายคนที่ยังข้องใจว่า หากได้รับการขู่ฆ่า Hailey ควรพึ่งพาตำรวจให้หาคนร้ายมาลงโทษ ไม่ใช่ยัดเยียดความรับผิดชอบให้กับตัวไอดอล

แต่ก็มีคนเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของ Hailey เพราะเชื่อว่า ศิลปินดังทุกคนจะต้องวางตัวให้เป็นแบบอย่างอันดีงามกับแฟนๆ หากคนที่คิดดีทำดีจริงๆ ย่อมไม่คลั่งศิลปินจนไร้สติไปขู่เอาชีวิตคนอื่น คนที่พวกเค้าชื่นชมบูชาเป็นที่สุดก็ควรชักนำให้กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องเหมาะสม หรือหากยังมีพฤติกรรม toxic เกินเยียวยา ก็ต้องประกาศประนามไปอย่างจริงจังไม่ให้คนอื่นเอาเยี่ยงอย่าง

หลายครั้งหลายคราที่วัฒนธรรม fandom ได้พ่วงมากับพฤติกรรมล้ำเส้นได้ส่งผลกระทบไปยังผู้เกี่ยวข้องกับศิลปิน หากทำให้แฟนๆไม่พอใจ บุคคลเป้าหมายอาจจะถูกตามคุกคามจนเสียสุขภาพจิต ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Pete Davidson ที่ต้องเผชิญกับ cyberbully จนจิตตกเข้าสู่สภาวะที่มืดหม่นถึงขั้นคิดสั้น ทำให้ Ariana Grande เคยปรี๊ดใส่ชาวเน็ทที่ว่าร้ายเขามาแล้ว แต่เมื่อทั้งสองเลิกรากัน กลับกลายเป็นว่า เขากลับเริ่มได้รับความนิยมชมชอบจากภาพลักษณ์หนุ่มธรรมดาที่คว้าใจสาวสวยตัว top ในวงการ อาจจะพูดได้ว่า เมื่อเขารอดพ้นการถูกจองเวรไปแล้ว ก็ก้าวสู่เส้นทางที่รุ่งกว่าเดิมไปเลย

,มีผู้เชื่อว่า คำพูดของ Selena ที่ปกป้อง Hailey จากพฤติกรรมคุกตามขู่ฆ่าย่อมมีพลังเพื่อชักจูงใจให้กลุ่มคนที่ประสงค์ร้ายได้ตระหนักว่า พวกเค้ากำลังเดินทางผิด และวีรกรรมย่ำแย่แบบนี้ก็ไม่ได้ตรงกับความปรารถนาของไอดอลในดวงใจแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เมื่อมีแฟนพฤติกรรม toxic ก็ทำให้แฟนๆคนอื่นถูกเหมารวมจนดูย่ำแย่ไปด้วย แล้วยังพาลเสียชื่อไปถึง Selena

คำขู่ฆ่าคือเรื่องร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเอง อย่าเพียงแต่คิดว่า แค่คำพูดจากคนแปลกหน้า จะไม่ส่งผลอันตรายใดๆได้   คนดังที่เผชิญกับปัญหาถูกรังควาญจาก hate  comments  อาจจะไม่ถึงขนาดแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาจัดการ   แต่ในอดีตก็เคยมีเหตุสลดใจจากการปองร้ายคนดังมาแล้วจริงๆ   ในเมื่อหลายคนยอมรับว่า สังคมทุกวันนี้ดูเสื่อมทรามลงไป  เมื่อได้รับคำขู่ฆ่าไปเรื่อยๆ  นอกจากจะบั่นทอนจิตใจ แล้วอาจจะต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง   แม้จะมีบอดี้การ์ดร่างใหญ่คอยคุ้มครอง และมีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นดีในบ้านก็ตาม    

แต่แม้หลายคนจะเห็นด้วยว่า  ไม่มีใครสมควรต้องมาเจอกับคำขู่ฆ่าเช่นนี้  แต่ก็ยืนยันว่า ตัว Hailey ต่างหากที่เป็นผู้ก่อเรื่อง  หากเธอแสดงออกอย่างระมัดระวัง ไม่ฉวยโอกาสเหน็บแนม Selena จนโป๊ะ  ก็จะไม่เกิดเรื่องแย่แบบนี้  และเธอควรจะขอโทษอย่างจริงใจเพื่อลดความโกรธแค้น  ไม่ใช่ฟ้อง Selena เรื่อง FC ที่คอยคุกคาม

Justine เพื่อนสาวสุดซี้ของ Hailey ที่ได้ปรากฏในวีดีโอต้นตอดราม่าก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงแรงกดดันไปได้ เธอเพิ่งจะโพสต์ประโยคว่า "เราอาศัยอยู่ในโลกบ้าบอแบบไหนไหนกันเนี่ย?" แล้วถูกแฟน Selena ฟาดใส่ว่า เธอกำลังพาดพิงถึง Selena อยู่    Justine จึงโชว์ข้อความเกรี้ยวกราดทางโทรศัพท์ที่เพิ่งได้รับจากใครบางคน สั่งให้เธอและเพื่อนๆหยุดพูดถึง Selena และบอกให้ Hailey ออกมาขอโทษและเลิกทำตัวขี้ขลาดโร่ไปพึ่งหา Selena สักที และยังถามหาว่า Justin น่ะหายหัวไปไหน เพราะเขารู้ดีแก่ใจว่าทำอะไรลงไป และด่าว่าคนโง่แบบเธอนั่นแหละที่ต้องไปบำบัด

Justine ระบายอย่างอัดอั้นตั้นใจว่าเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้เหลือทน โพสต์ยาวเหยียดของเธอมีใจความว่า

• เธอไม่ได้ทำตัวลับๆล่อๆแต่พูดความจริงว่า โลกใบนี้ช่างบ้าบอ เพราะไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่เพียงพอในสายตาชาวเน็ท  ผู้คนเอาแต่นึกกันไปเองมามากพอแล้ว และมันเป็นเรื่องไร้เหตุผลเป็นที่สุดที่เรื่องนี้ถูกลากยาวมาเป็นเดือน
• จะต้องทำอย่างไรถึงจะพอใจ  อยากให้พวกเราไปฆ่าตัวตายกันเลยใช่มั้ย
• ไม่ว่าใครจะพูดความจริงหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะชาวเน็ทไม่ยอมรับความจริง ทั้งๆที่ชาวเน็ทต่างเข้าใจกันผิดปล่อยข่าวย่ำแย่เป็นตุเป็นตะ
• ขอย้ำเป็นครั้งที่ล้านว่าเธอไม่เคยพาดพิง Selena 
• หากห่วงใยและสนับสนุนคนที่ต่อต้านการ bully และการรักษาสุขภาพทางจิตใจ ก็ควรจะศึกษาหาความรู้เพิ่มและไม่แพร่กระจายความเกลียดชัง

ภาพคู่ที่ดูชื่นมื่นของ Selena และ Hailey ทำให้หลายสัมผัสได้แล้วว่า  ข่าวลือเรื่องสงคราม It girls น่าจะจางหายลงไป    ในเมื่อ Hailey ยืนยันหนักแน่นว่า เธอไม่เคยแย่งผู้ชายมาจากใคร และเริ่มต้นคบกับ  Justin เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขามีสถานะโสดจริงๆ  และ  Selena ก็ดู  happy  ที่โพสคู่กับเธอ  เรื่องอะไรทั้งหลายอย่างที่ชวนเพลียในอดีตก็น่าจะจบลงไปแล้ว แต่ทว่า...

ในเวลาต่อมา ปฏิกิริยาของ Selena ต่อภาพ set นี้กลับทำให้หลายคนสะกิดใจ ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Vulture ที่นักข่าวได้แสดงความเห็นว่า ภาพคู่ของพวกเธอดูทรงพลัง ราวกับจะประกาศว่า พวกเธอก้าวข้ามดราม่าความขัดแย้งไปได้แล้ว คำตอบของเธอคือคำขอบคุณสั้นๆ และอธิบายว่า การถ่ายรูปคู่กันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่สำคัญเลย

แฟนของ Selena บางคนเชื่อว่า Hailey เข้าไปกดดัน Selena ให้ถ่ายรูปด้วยเพื่อสร้างภาพความสมานฉันท์ และจะได้รอดตัวไปจากการโจมตีของ Selenators โดยที่มี Tyrell Hampton เพื่อนสไตลิสต์ของเธอนำทางไปหา superstar สาวในอีเวนท์ เขาที่เป็นคนกดชันเตอร์ได้เล่าเบื้องหลังของภาพ viral ว่า

"ผมเห็นพวกเธอกำลังคุยกัน และรู้ทันทีว่านี่มันจะเป็นโมเมนท์ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ ภาพนี้มีพลังที่สำคัญ และมันก็เกิดขึ้นจริง"

แต่น่าเสียดาย  วงจรความขัดแย้งแบบ mean girls ก็หวนกลับมาหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน

รูปร่างที่อวบอิ่มขึ้นของ Selena ได้กลายมาเป็นประเด็นที่ผู้คนกล่าวขวัญ แม้ว่าแฟนๆจะชื่นชมว่า เธอดูดีมากมายแค่ไหนแต่ก็ต้องถูก haters จิกกัดให้เจ็บใจ บีบให้เธอต้องออกมาชี้แจงว่าอวบขึ้นเพราะปล่อยตัวปล่อยใจสนุกสนานกับทริปมาก และยังมีผลกระทบจากการรักษาตัวจากโรค Lupus ที่ทำให้น้ำหนักตัวของเธอเหวี่ยงขึ้นลงตลอดเวลา ที่ผ่านมา Selena ได้ยืนยันว่า เธอรักในตัวตนที่เป็นเช่นนี้ แต่ไม่กี่วันก่อน เธอก็ยอมรับว่า คำพูดว่าร้ายเรื่องรูปลักษณ์ของเธอได้สร้างความเจ็บปวด แต่เธอเลือกโกหกออกไปว่าไม่ได้รู้สึกอะไร (สัมภาษณ์นี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเองค่ะ)

"ฉันโกหกค่ะ ฉันเข้าไปในโลกออนไลน์เพื่อโพสต์รูปตัวเองแล้วบรรยายว่า มันไม่เห็นจะเป็นไรเลย ฉันจะไม่ยอมรับในสิ่งที่พวกคุณพูดหรอกนะ หลังจากนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ในห้อง เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สมควรต้องมาได้ยินอะไรแย่ๆแบบนั้น"
"ฉันโพสต์ออกไปว่าคำพูดพวกนั้นไม่กระทบกระเทือนใจฉัน เพราะไม่อยากมันไปกระทบกระเทือนใจคนอื่นที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวแบบเดียวกันที่ต้องมาถูกเย้ยหยันให้อับอายเรื่องรูปลักษณ์ ตัวตนที่เป็น และคนที่รัก ฉันว่ามันไม่ยุติธรรมเลย ไม่ควรต้องมีใครถูกบีบคั้นให้รู้สึกต้อยต่ำ"

จากกรณี body shaming ที่เกิดกับ Selena นี่เองที่ทำให้โพสต์ของ Hailey ถูกสูบมาแชร์จนเป็น viral เพราะวีดีโอ TikTok ตัวนี้ถูกอัพโหลดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และไม่นานก็ลบออก ชาวเน็ทที่เกาะติดเรื่องราวของสองสาวได้ชี้ว่า Hailey เกาะกระแสที่ Selena กำลังเป็นที่กล่าวขวัญ และเยาะเย้ยเธอด้วยกาลิปซิงค์ร่วมกับเพื่อนสาวสุดซี้

"ไม่ได้จะบอกว่าเธอสมควรจะเจออะไรแบบนี้ แต่ให้ตายสิ ช่วงเวลามันช่างลงตัวจัง"

ชาวเน็ทมองว่าประโยค เธอไม่สมควรต้องเจออะไรแบบนี้  สื่อถึงประเด็น body shaming ที่ทำร้ายจิตใจ Selena   ส่วนความหมายเรื่องเวลาที่ลงตัวนั้นยังถูกมองเป็นปริศนา

@ellenacuario Tiktoker รายหนึ่งได้ฟันธงว่าวีดีโอไม่กี่วินาทีของHailey มีนัยยะแฝงอย่างแน่นอน

"ไม่ใช่ว่า Hailey ไปขอให้ Selena ตักเตือนพวกแฟนๆที่ไปคอย bully เธอรึไง? Hailey นี่มันนางร้ายชัดๆ ใช่มั้ยล่ะ"

และเสียงตอบกลับจากผู้ติดตามข่าวก็เต็มไปด้วยเสียงถกเถียง

"ไปรู้กันได้ยังไงว่าเธอพูดถึง Selena มีคำใบ้ตรงไหนช่วยบอกที?
"รู้สึกมานานแล้วว่านางเป็น mean girl พิสูจน์ได้จากคลิปนี้"
"พวกเธอไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันสักหน่อย คนอื่นมโนกันไปทั้งนั้น"
"ช่างกล้าจริงๆ Selena สวยจะตาย"
"พวก bully ไม่ควรมีที่ยืนในสังคม"
"นี่มันหลายครั้งแล้วนะ เธอต้องเจอกรรมตามสนอง"

ยังมี Tiktokers อีกหลายรายที่นำเสนอคอนเทนท์ไปในทางเดียวกันว่า Hailey ได้ทำเรื่องร้ายกาจลงไป ถึงเธอจะไม่ได้เอ่ยชื่อตรงๆ แต่เจตนาไม่ดีนี้อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของ Selena ที่เจ็บป่วยด้วยโรค Bipolarมานาน

ไม่ต่างจากครั้งอื่นๆที่ถูกกล่าวหาเรื่อง  throwing shade ใส่  Selena    Hailey ยังยืนยันชัดว่า เธอไม่ได้พาดพิงใคร แค่คลิปสนุกๆกับเพื่อนสาวเท่านั้น

สิ่งที่หลายคนจับตามองมากที่สุดคือ ปฏิกิริยาจาก Selena นั่นเอง เพราะไม่ว่าใครก็เดาได้อยู่แล้วว่า Hailey จะต้องปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างหนักแน่น และดูเหมือนว่า ดราม่าจะร้อนแรงไปอีก เมื่อ Selena ได้โพสต์ตอบในวีดีโอ Tiktokว่า เธอไม่ได้รู้สึกย่่ำแย่อะไร และไม่ปล่อยให้เรื่องพวกนี้รบกวนจิตใจได้

น้ำเสียงของเธอที่บอกว่าจะไม่ยอมเสียความรู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้นราวกับจะสื่อว่า เธอเห็นพ้องต้องกันกับพวกชาวเน็ทฟันธงว่า Hailey กำลังจิกกัดเธอ

แน่นอนว่า เธอจะได้รับเสียงสนับสนุนจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม   แต่อีกด้าน ก็มีคนคิดว่า  การตอบรับเช่นนี้อาจจะเหมือนกับโยนน้ำมันใส่กองไฟ...

ฝ่ายที่ไม่ปลื้ม Selena ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า  ถึงเธอจะไม่ได้เอา Hailey มาแขวนหรือปลุกปั่นให้แฟนๆช่วยรุมโจมตี  แต่ก็เหมือนกับยั่วยุแบบอ้อมๆด้วยถ้อยคำที่ฟังดู positive   ทั้งๆที่เธอก็ไม่รู้ชัดว่า Hailey มีเจตนาแอบแฝงเพื่อแดกดันเธอจริงๆ  หรือมันเป็นแค่เรื่องจินตนาการของชาวเน็ทที่สนุกสนานกับการยุยงให้สาวคนดังทะเลาะกัน   เพราะ scandal เช่นนี้ย่อมเรียกยอด view พุ่งพรวด  แฟนๆหลายคนของ Selena อาจจะอยากปกป้องเธอด้วยความหวังดีจากใจจริง  ส่วนคนที่ตามน้ำด่าคนอื่นเอามันก็มีอยู่ไม่น้อย  แต่คำพูดของเธอฟังเหมือนกับกำลังส่งเสริมให้คนเชื่อข่าวลือที่ไม่มีหลักฐาน   บางคนก็เปรียบเทียบถึงกรณีของ Bella  Hadid ที่เคยลบโพสต์ที่  Selena ไปคอมเมนท์ออก  จากนั้นก็ถูกกดดันจาก Selenators เรื่องลบโพสต์ ถึงขนาดมีคนส่งข่าวไปบอก Selena  (เธอตอบกลับมาว่า แย่จัง)   จนกระทั่งเรื่องราวมาคลี่คลาย เมื่อแหล่งข่าวระบุว่า  Bella ไปเคลียร์กับ Selena อย่างเป็นส่วนตัวว่าไม่มีเจตนาไม่ดี ลบโพสต์เพียงแค่ไม่ชอบรูปนั้นนัก    เหตุการณ์ที่มีส่วนคล้ายกันทำให้มีคนกล่าวหา  Selena ว่ากำลังหงายการ์ดนางเอกผู้ตกเป็นเหยื่ออีกครั้ง    

นี่คือเดือนแห่งดราม่าเป็นแน่แท้ เพราะเรื่องเดิมก็ยังไม่ทันคลี่คลาย ชนวนความขัดแย้งจากคิ้วก็จ่อมาชนติดๆ คราวนี้ราชินีแห่งอินเตอร์เน็ตก็ถูกกล่าวหาว่ารวมแกงค์ mean girls ไปด้วย เมื่อ Selena โพสต์วีดีโอโชว์คิ้วบน Tiktok แล้วบรรยายว่า เคลือบคิ้วเยอะไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ต่อมา Kylie ก็ลง story เผยหน้าสวยแน่นคิ้วคมเข้มแล้วเปรยตามมาว่า นี่คือไม่ตั้งใจแล้วใช่มั้ย แล้วยังตามมาด้วยภาพ Facetime ประชั้นคิวที่ตกแต่งมาอย่างสวยกับ Hailey

แฟนๆเห็นแล้วปรี๊ดแทน Selena ขึ้นมาทันที เพราะแน่ใจว่า เรื่องอื่นๆอาจจะมองเป็นเหตุบังเอิญได้ แต่พอมาถึงดราม่าคิ้วก็เชื่อไม่ลงแล้วว่า พวกเธอจะไม่ได้จงใจหาเรื่อง Selena แม้ Kylie จะอธิบายว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งเพ เพราะชาวเน็ทมโนเป็นเรื่องเป็นราวไปเองทั้งๆที่มันไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลังเลยสักนิด ก่อนหน้าจะลง story เธอไม่เห็นโพสต์คิ้วต้นเรื่องของ Selena และไม่เคยจิกกัดอีกฝ่ายแต่อย่างใด ฝ่าย Selena เองก็ออกมาสนับสนุนอย่างแข็งขันว่า เห็นด้วยกับ Kylie มันไม่จำเป็นเอาซะเลยที่สรุปกันไปเองแบบนี้ และเธอยังเป็นแฟนของ Kylie อีกด้วย แต่หลายคนก็ออกอาการกลอกตารัวใส่คำชี้แจงดังกล่าว เพราะปักใจแล้วว่า ทั้ง Kylie และ Kendall ถือดีว่าตัวเองได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆมากมาย จึงช่วยผนึกกำลังกับ Hailey รุม Selena ที่ไม่วางตัวแสนดีไม่ปองร้ายใคร


แฟนๆของ Kylie โต้ว่า ภาพลักษณ์ของครอบครัวและสถานะ influencer ระดับ top อาจจะทำให้เธอได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบมาเยอะก็จริง แต่ Kylie ไม่ได้มีชื่อเสียงอื้อฉาวเรื่องพฤติกรรม bully แต่อย่างใด ด้วยสถานะนักธุรกิจสาวพันล้านและคุณแม่ลูกสองทำให้เธอดูมีวุฒิภาวะเกินกว่ามายุ่งเกี่ยวกับดราม่าผู้หญิงจิกกัดกัน

ฟังชาวเน็ทวิเคราะห์ดราม่าไปแล้ว มาลองฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวขาญทางจิตวิทยากันบ้าง
"Hailey และ Kylie ดูขาดวุฒิภาวะเป็นอย่างมาก   เหมือนกับพฤติกรรม mean girl ในรั้วโรงเรียนมัธยม  แต่พวกเธอเป็นคนร่ำรวยมีเงินหลายล้านและมีอาชีพที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว  ฉันคิดว่า คนบางคน ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ก็อาจจะมีพัฒนาการทางอารมณ์จิตใจช้าไปอยู่บ้าง"
"บางครั้งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นได้เพราะพวกเธอหารายได้มากมายมาตั้งแต่ยังอายุน้อย และคนรอบข้างก็เอาแต่เอาอกเอาใจไม่เคยขัดคอ ดังนั้นพวกเธอจึงขาดการเรียนรู้เรื่องการวางตัวในสังคมอย่างเหมาะสม"
"แต่ที่จริงมันเป็นเรื่องของพัฒนาการที่ส่งผลให้แสดงพฤติกรรมเหมือนกับเด็กวัยรุ่น"

ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนฉ่า Selena ได้ส่งข้อความจาก Tiktok เพื่อขอบคุณแฟนๆที่ทำให้สร้างความสุขให้อย่างอย่างเหลือเชื่อ และขอร้องให้ทุกคนแสดงความเมตตากรุณากันมากยิ่งขึ้นและให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของผู้อื่น เธอรู้สึกหนักใจ (กับสิ่งที่เกิดขึ้น?) และต้องการจะให้ทุกคนได้พบกับเรื่องราวดีๆ

แต่พวกที่ต่อต้าน Selena ชี้ว่า  คำพูดของเธอแอบแฝงไปด้วยการปั่นหัวให้แฟนๆลงมือคุกคาม Hailey และเพื่อนๆหนักขึ้น   เธอย่อมรับรู้ว่า มีกลุ่มแฟนที่ส่งต่อความเกลียดชังเพราะโกรธแค้น Hailey แต่กลับแสดงคำขอบคุณอย่างสุดซึ้งเหมือนกับเห็นดีเห็นงามไปด้วย  ส่วนโพสต์ลำดับต่อมาที่เรียกร้องให้ทุกคนปฏิบัติกับผู้อื่นด้วยความเมตตานั้นก็ฟังดูไม่จริงใจ  เพราะเธอเคยโพสต์ตอบในวีดีโอTiktok ของ account ที่โจมตี  Hailey โดยไม่ได้ตักเตือนใดๆ   ซึ่งคนกลุ่มนี้เชื่อว่า มันเป็นวิธีซุกซ่อนตัวตน mean girl ไว้ใต้หน้ากากสาวแสนดีจนแฟนๆหลงเชื่อ

แต่มีหรือที่ Selenators จะยินยอมให้ศิลปินคนโปรดถูกกล่าวหาว่าเป็นคนตีสองหน้า   พวกเค้าปกป้องเธอว่า  ถ้าไม่มีอคติก็รู้ทันทีว่า Selena กล่าวขอบคุณแฟนๆที่ให้การสนับสนุน ไม่ได้ขอบคุณคนที่ไปคอยส่งข้อความเกลียดชังถึงคนอื่น  ด้วยความเชื่อมั่นในตัว Selena ที่ยืนหยัดต่อสู้ cyberbullying ในขณะที่ต้องรับมือกับปัญหาสุขภาพที่หนักหนาสาหัส ทั้งความเจ็บป่วยทางกายคือ  Lupus และทางจิตใจคือ Bipolar   เธอวางตัวเป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชมมายาวนานนับตั้งแต่เป็นสาววัยทีนจนวัยขึ้นเลข 3 และเธอไม่ได้เป็นฝ่ายโพสต์ข้อความหรือวีดีโอที่ทำให้คนอื่นข้องใจว่า ตั้งใจจิกกัดแล้วเนียนว่าเกิดจากความบังเอิญ เพียงแต่ชาวเน็ทกลับคิดลึกกันไปเอง  หรือว่าไม่ได้มีเจตนาจริงๆ  หลายคนโทษว่า   Hailey ต่างหากที่ไม่รู้จักปล่อยวาง ทั้งอิจฉาริษยาและเลียนแบบ Selena  แล้วยังชวนเพื่อนมารุม bully กัน  ก็สมควรแล้วที่จะได้รับบทเรียนหนักๆ   

แม้จะไม่ใช่เสียงตะโกนด่าว่าจากผู้ชมกลุ่มใหญ่ แต่เสียงก็ดังพอจะไปถึงเวที จากวีดีโออีกตัวที่คนบนเวทีได้ถ่ายไว้ได้เผยภาพของ Justin ที่มีท่าทางไม่สบายใจ จะมีผู้ชายสักกี่คนที่สามารถยิ้มแย้มท่ามกลางบรรยาการที่มีคนตะโกนคำหยาบด่าภรรยาตัวเอง และแม้ว่าจะมีคนออกมาคอมเมนท์อย่างสาแก่ใจ แต่ก็มีคำถามตามมาว่า กระแสโจมตี Hailey ไปไกลเกินไปแล้วหรือไม่? เพราะจากเดิมที่เกิดเป็นประเด็นโต้แย้งดุเดือดในโลกออนไลน์ มันกลายมาเป็นการประจานให้อับอายในที่สาธารณะไปแล้ว

 
ยังมีสิ่งที่ชวนเพลียขึ้นไปอีก เพราะแม้แต่น้องสาวของ Justin ก็ไม่ได้รับการยกเว้น    ทั้งๆที่เธอเป็นเพียงเด็กสาววัยเยาว์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นความขัดแย้งนี้  แต่ก็ยังถูกชาวเน็ทที่ไร้วุฒิภาวะยิงคำพูดแย่ๆใส่

พลังงานด้านลบจากดราม่าครั้งนี้หนักหนามากพอจะทำให้ Selena หยุดพักจาก social media ชั่วคราว เพราะคิดว่าตัวเองโตมากเกินจะมาใส่ใจเรื่องไร้สาระแบบนี้ แต่พลังสนับสนุนจากโลกออนไลน์กลับพุ่งทวีจนทำให้ยอดผู้ติดตามของเธอพุ่งแซงหน้า Kylie Jenner ไปได้ กลายมาเป็นผู้หญิงคนแรกที่มีผู้ติดตามเกินกว่าสี่ร้อยล้าน ไม่ต้องแปลกใจว่า Selenators แห่แหนไปโพสต์ข้อความโจมตี Kylie ทั้งเย้ยหยันว่าเธอพ่ายแพ้ Selena และกล่าวหาว่าเธอกำลังกระเสือกกระสนซื้อยอดผู้ติดตามเพื่อเอาคืน Selena และจะได้กลับมาครองตำแหน่งผู้นำแบบจอมปลอม แม้ว่าจะมีคนกด likes ให้ภาพของ Kylie หลายล้านไม่ต่างจากเดิม แต่พลังงานด้านลบที่เกิดขึ้นในกล่องคอมเมนท์ก็ไม่น่าจะทำให้เจ้าตัวยินดีนัก

Kylie ยังเจอโจมตีหนักขนาดนี้ คงนึกภาพออกว่า Instagram ของ Hailey จะมีบรรยากาศดุเดือดขนาดไหน ถึงตอนนี้แฟนๆ Selena ก็ยังกดดันให้เธอออกมาขอโทษและสาปส่งให้เธอชดใช้กรรมที่ไปล่วงเกินไอดอลในดวงใจ ซึ่งพวกเค้าเชื่อว่าตอนนี้ Hailey กำลังถูกสังคมลงโทษ เพราะมีรายงานว่า ยอดผู้ติดตามลดลงไปนับล้าน จาก 50.7 ล้าน ลดเหลือ 49.5 ล้าน และถูกตราหน้าว่าเป็นสาวนิสัยร้ายกาจที่มั่นหน้าไปขอให้เหยื่อที่ตัวเอง bully ออกมาปกป้องตัวเอง

ฝ่าย Selena ที่นอกจากจะได้รับกำลังใจสุดแข็งแกร่งจากแฟนๆ ก็ยังถูกจับตามองเรื่องความสัมพันธ์ครั้งใหม่ หลังจาก Tiktoker นำข้อความจากเพื่อนที่ทำงานในร้านอาหารว่า เห็นเธอนัดจูบกับ Zayn หนุ่มหล่ออดีตสมาชิกวง One Direction แม้ว่าจะเป็นการปล่อยข่าวที่ไร้หลักฐานใดๆ มีเพียงแต่ข้อความบอกเล่าจากใครบางคน แต่ PageSix ก็ติดต่อไปถึงแหล่งข่าวและได้รับการยืนยันว่า พวกเค้าสัมผัสเนื้อตัวกันอย่างไม่ปิดบังความสัมพันธ์ และกระแสตอบรับเรื่องนี้จากแฟนๆก็ไม่ได้ย่ำแย่ แม้ Zayn จะเคยรักกับ Gigi Hadid เพื่อนสาวสุดซี้อีกคนของ Taylor Swift แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแหวกแนวของคนในวงการแต่อย่างใด พวกเค้าเชื่อว่า Selena ต้องเหนื่อยใจที่เป็นเหยื่อ bully ของกลุ่ม Hailey และเพื่อนๆ มาแล้วหลายครั้ง    ความรักใหม่ที่ซาบซ่านน่าจะช่วยให้เธอสดใสขึ้นมา 

(ย้ำว่า ข้อมูลจาก Tiktok ไม่ได้น่าเชื่อถือ ต้องฟังแล้วแล้วหารออกบ้าง  เพราะช่วงที่ผ่านมา ดาราก็เคยเจอ fake news จาก platform นี้กันไปบ้างแล้ว  หาก Selena ออกเดทกับ Zayn จริง ไม่นานสื่อน่าจะตามเกาะติดจนได้ภาพหลักฐานมาเสนอ )

ขณะนี้ ชาวเน็ทแบ่งขั้วกันพยายามขุดคุ้ยหาหลักฐานความเคลื่อนไหวทั้งฝ่าย Selena และ Hailey เพื่อนำมายืนยันข้อสันนิษฐานของตัวเอง และหักล้างคำกล่าวหาของฝ่ายตรงข้าม  ไม่ว่าจะกด like และติดตามใคร ใช้เพลงใดประกอบโพสต์ หรือเคยแสดงท่าทางแฝงความนัยเช่นไร   แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่หลักฐานที่บ่งชี้ได้ชัดเจนว่าใครมีเจตนาร้ายหรือดี

แม้จะรู้สึกอินกับข่าว gossip มากขนาดไหน  แต่อย่าลืมว่า ความจริงที่เราเห็นในวงการมายาอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด    หากจะเชื่อสิ่งใดอย่างเต็มที่ อย่าได้มองข้ามข้อมูลหลักฐานที่น่าเชื่อถือนะคะ