อาลัยดาวดิว่าลับฟ้า Coco Lee
candy 36 14ความเจ็บป่วยทางจิตใจคือศัตรูที่ร้ายกาจที่ได้พรากชีวิตผู้คนไปแล้วมากมาย และล่าสุด มันทำให้โลกต้องเสีย Coco Lee ศิลปินสาวผู้มีความสามารถไปในวัยเพียง 48 ปี การจากไปของดิว่าสาวชาวเชื้อสายฮ่องกงผู้โด่งดังมาเนิ่นนานกว่าสามทศวรรษสร้างความช็อคให้แฟนๆในหลายประเทศ
นอกจากคนใกล้ตัวที่รับรู้ถึงความเป็นไปในชีวิตของเธอ จะมีใครบ้างที่สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ซุกซ่อนภายใต้รอยยิ้มและคำพูดปลุกกำลังใจที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก?
ชื่อเสียงอันดีงามของ Coco ซึ่งสั่งสมจากความสามารถทางดนตรีและการวางตัวที่ถูกยกเป็นแบบอย่างนั้นทำให้หลายคนชี้ว่า นี่ความสูญเสียของวงการบันเทิงที่น่าสลดใจ แต่แม้ว่าลมหายใจของเธอจะสิ้นสุดลง แต่ legacy จะยังตราตรึงใจผู้คนอยู่เสมอ
ขอเชิญร่วมไว้อาลัยให้กับ Coco Lee ด้วยการย้อนรำลึกถึงเส้นทางอันเปล่งประกายของเธอกับเรากันนะคะ
จากเด็กสาววัยทีนที่ฝันจะได้โชว์ความสามารถบนเวที กลายมาเป็น Queen Of Pop
หลังจากโยกย้ายถิ่นฐานไปยังซานฟรานซิสโก การปรับตัวเข้าสู่สังคมชาวอเมริกันนั้นดูจะไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับ Coco นัก จากที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ก็ฝึกฝนจนสื่อสารสบายๆได้ในเวลาเพียงสองเดือน จากนั้นการเรียนก็พุ่งฉลุย ปีแรกก็ติดอันดับนักเรียนเรียนดีเด่นของโรงเรียน เรื่องกิจกรรมนั้นไม่น้อยหน้าวิชาการ เธอผ่านการประกวด Miss Junior Chinatown และได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้อง แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เธอค้นพบความสามารถด้านดนตรีของตัวเองจริงๆ คือการเข้าร่วมประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ เดิมทีที่หวังเงินรางวัลเพื่อนำไปชดใช้กับแม่หลังจากที่เธอทำรถยนต์ของแม่เสียหาย มันก็ได้จุดประกายความฝันที่จะได้ร้องเพลงบนเวทีต่อหน้าผู้ชมมากมาย
แต่เมื่อโอกาสที่จะได้กลายเป็นนักร้องมืออาชีพได้เข้ามาจริงๆ เธอก็ถูกบีบให้เลือกระหว่างการศึกษากับความฝัน จากที่รักษาผลการเรียนดีมาตลอดและก้าวเข้าสู่ University of California ได้แล้ว แต่ที่ปรึกษาทางการศึกษาได้ให้คำแนะนำว่า จุดประสงค์ที่ผู้คนเรียนต่อในมหาวิทยาลับเพราะต้องการวุฒิการศึกษาเพื่อนำไปสมัครงานที่ตัวเองต้องการ แต่ตัวเธอนั้นมีอาชีพที่ใจรักรออยู่แล้ว ซึ่งในอดีต เธอก็เคยวางแผนจะกลับไปเรียนต่อเพื่อคว้าปริญญาแพทยศาสตร์และศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง แต่ดูเหมือนว่าการทุ่มเทให้กับเส้นทางสายดนตรีนั้นไม่อาจจะทำให้เธอแบ่งเวลากลับสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้
ความรุ่งโรจน์จากยุค 90s
จากการเข้าร่วมประกาศนางงามฮ่องกง Coco ได้ไขว่คว้าสู่ความเป็นดาวจากการประกวดร้องเพลงหลายเวทีทั้งๆที่ไม่เคยเทรนการขับร้องแบบมืออาชีพมาก่อน จากผู้สมัครรายการ Star Searchมากเป็นหมื่นราย เธอไปได้ไกลถึงรองชนะเลิศ! ทั้งๆที่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะทำได้ถึงขนาดนี้ Coco จึงหันมาตั้งใจกับอาชีพนักร้องเพื่อจะพิสูจน์ว่า เธอจะไปได้ไกลอีกถึงขนาดไหน
ด้วยวัยเพียง 18 ปี ประกายที่เจิดจ้าของเธอก็ได้เข้าตาค่ายยักษ์ใหญ่ของฮ่องกง และได้ส่งผลงานดนตรีเดบิวท์บ้านเกิด ตั้งแต่นั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรขวางเธอได้ นอกจากน้ำเสียงอัยไพเราะทรงพลัง คุณสมบัติแบบ'นักร้องอินเตอร์' จากการใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามาตั้งแต่ 8-9 ขวบทำให้สื่อสารได้คล่องแคล่วทั้งภาษาอังกฤษ กวางตุ้ง ทั้งยังใฝ่เรียนรู้ภาษาจีนกลางเพื่อเปิดโอกาสในวงการดนตรีให้กว้างไกลกว่าเดิม เทคนิคที่ใช้ร้องเพลง R&B ภาษาอังกฤษสร้างความแปลกใหม่ ราวกับเธอสามารถกดสวิทช์เเป็นนักร้องอินเตอร์แล้วเปลี่ยนกลับมาเป็น popstar ชาวฮ่องกงได้อย่างลื่นไหล นั่นยิ่งทำให้เธอยิ่งดูโดดเด่นไปจากนักร้องชื่อดังในฮ่องกงในช่วงเวลาเดียวกัน
สามปีหลังจากเดบิวท์ก็ได้รับการทาบทามจาก Sony Music Entertainment และปล่อยอัลบั้มที่สร้างปรากฏการณ์โกยยอดขายได้สูงที่สุดในเอเชีย ต่อจากนั้นทั้งอัลบั้มภาษาจีนกลางและภาษากวางตุ้งก็ขายไปถึงหลักล้าน
ทั้งเรื่องตัวเลขยอดขายสุดอลังการและ image ที่มีเสน่ห์ก็คงไม่ต้องแปลกใจที่ Disney จะทาบทามให้เธอมาเป็นผู้ให้เสียงตัวเป็นมู่หลานในเวอร์ชั่นภาษาจีนมาตรฐาน ภาษากวางตุ้ง และภาษาจีนกลางไต้หวัน และยังรับหน้าที่ร้องเพลง Reflection ภาษาจีนกลาง แต่ถึงจะปังขนาดนี้ ความโด่งดังของเธอก็ยังไม่ได้ติดปีกข้ามน้ำทะเลไปยังดินแดนตะวันตก
เมื่อเดินทางคืนสู่อเมริกาเพื่อเดบิวท์ผลงานอัลบั้มภาษาอังกฤษ เธอต้องพบกับความท้าทายที่ต้องเริ่มใหม่หลังจากขึ้นแท่น superstar ที่ฮ่องกงและจีนไปแล้ว สื่อนอกได้เปรียบเทียบเธอกับ Ricky Martin ที่มี fanbase อลังการที่บ้านเกิด จากที่อีเวนท์แจกลายเซ็นที่เซี่ยงไฮ้สามารถดึงดูดแฟนๆได้มากถึง 15,000 คน และเปิดคอนเสิร์ตที่มีผู้ชม30,000 คนที่ไต้หวัน เธอต้องมาเดินสายโพรโมทตัวเองให้เป็นที่รู้จักในอเมริกาในฐานะนักร้อง pop และ R&B หน้าใหม่
Just No Other Way อัลบั้มภาษาอังกฤษอันแรกของ Coco อาจจะไม่ขายดิบขายดีระดับ platinum ที่อเมริกา แต่เพลงเด่นอย่าง Do You Want My Love และ Before I Fall in Loveก็ถูกกระหน่ำเปิดทางวิทยุและช่อง MTV Asia โดยเฉพาะ Before I fall In Love ที่ถูกใช้เป็นเพลงประกอบหนังหวาน Runaway Bride แม้ว่าอาจจะไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ แต่เหล่า millennials ก็น่าจะจดจำท่อนฮุคได้สบายๆ
แต่หากพูดถึงผลงานที่สร้างความประทับใจให้กับชาว Hollywood ย่อมต้องเป็น A Love Before Time เพลงประกอบหนังสุดคลาสสิค Crouching Tiger, Hidden Dragon ในปี 2000 เสียงร้องใสกังวานของเธอนั้นช่างเหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ของผลงานแห่งความภูมิใจของชาวเอเชียที่ได้เข้าชิงรางวัล Oscar ถึงสิบสาขา ในฐานะที่ได้เข้าชิงรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Coco คือศิลปินสาวเชื้อสายจีนฮ่องกงคนแรกที่ขึ้นแสดงดนตรีบนเวทีอันทรงเกียรตินี้ ชุดกี่เพ้า Atelier Versace สีแดงที่สื่อถึงวัฒนธรรมจีนถูกจัดอยู่ในกลุ่มลุคสุดเริ่ดบนเวที Oscar และถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีใน 15 ปีต่อมา Coco ได้สวมชุดที่งดงามนี้ขึ้นเวทีขับขานบทเพลงอันไพเราะอีกครั้ง สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆที่ได้ประจักษ์ว่า เธอยังเปล่งประกายไม่ต่างจากในอดีตเลย
ในยุคนั้นประเด็นกำแพงทางเชื้อชาติแตกต่างจากปัจจุบันอย่างชัดเจน ที่ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นชื่อศิลปินเชื้อสายเอเชียนที่ Billboard chart และเข้าชิงรางวัล Oscar เนื่องจาก conversation เรื่องความหลากหลายและความเป็นหนึ่งอันเดียวกันไม่เลือกปฏิบัตินั้นยังไม่แพร่หลาย แม้ว่า Coco จะมีภาพลักษณ์ดิว่าแห่งเอเชียมากกว่าจะเป็นดาวดังในฝั่งอเมริกาและยุโรปซึ่งมี superstar อย่าง Jennifer Lopez, Mariah Carey และ Britney Spears อยู่แล้ว คงนึกภาพออกว่า มันเป็นเรื่องยากเย็นเพียงใดในการพยายามให้เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มผู้ฟังชาวตะวันตก ผู้จัดการของเธอยืนยันว่า Coco ต้องฟันฝ่าอุปสรรคจาก stereotype ศิลปินชาวเอเชียนว่า ไม่มีทางจะดึงดูดผู้ฟังในอเมริกา เพราะถูกมองว่าเป็นนักร้องต่างชาติที่หมดสิทธิ์จะแข่งขันนักร้องสาวอเมริกันคนอื่น
หลายปีที่ผ่านมา เธอได้ทำหน้าที่บุกเบิกเปิดทางให้สังคมเปิดใจยอมรับความแตกต่าง และเป็นแบบอย่างให้กับศิลปินในรุ่นหลังหลายคนในการพยายามฟันฝ่าเพื่อก้าวข้ามกำแพงด้านเชื้อชาติเพื่อสร้างชื่อเสียงในระดับโลก
ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของ Coco Lee คล้ายกับจะเงียบหายไป แต่เธอยังมีผลงาน active ที่จีน ไต้หวัน และฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลง หรือการเข้าร่วมรายการ TV ในฐานะกรรมการ หรือแขกรับเชิญเพื่อโชว์ skill การขับร้อง ทัวร์คอนเสิร์ตก็มีไม่ขาด การเดินสายแสดงดนตรีครั้งสุดท้ายนั้นเกิดขึ้นในปี 2019 ที่อเมริกา แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่า งานของเธอจะเงียบลงไป ก่อนหน้านี้ สื่อไต้หวันเคยปล่อยข่าวว่า เธอเก็บเรื่องอาการป่วยโรคมะเร็งเต้านมไว้เป็นความลับ แต่ในขณะนั้นยังไม่มีการยืนยันข่าวมาจากตัวเธอหรือครอบครัวแต่อย่างใด
ต่อสู้กับโรคทางกายที่รุมเร้า
ท่ามกลางเสียงไถ่ถามด้วยความห่วงใยว่า Coco กำลังเจ็บไข้ได้ป่วยตามข่าวลือหรือไม่ เธอก็ได้แชร์อัพเดทเรื่องการผ่าตัดขาและเชิงกรานด้วยวีดีโอตั้งแต่เข้าผ่าตัดและการกายภาพบำบัด เธอเปิดใจว่า ปัญหาเรื่องขาและเท้าคือปมฝังลึกในใจมายาวนานตั้งแต่เด็ก เพราะปัญญาที่เกิดขึ้นระหว่างการคลอดทำให้ข้อเท้าซ้ายของเธอมีความผิดปกติ จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขในวัยเพียงสองขวบ แต่มันกลับเป็นการผ่าตัดที่ไม่ประสบความสำเร็จและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเธอมาโดยตลอด โดยเฉพาะอาชีพศิลปินที่ต้องให้ความบันเทิง ที่ผ่านมานั้น ภาพการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วพริ้วไหวของ Coco บนเวที ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงหรือเต้นรำ เธอก็ต้องพึ่งพาการลงน้ำหนักที่ขาขวา และทุกครั้งที่ขึ้นแสดงก็พบกับความเจ็บปวดที่เท้าซ้าย ซึ่งเธอได้แต่อดทนไว้
จนในที่สุดเมื่อปีที่แล้ว เธอก็ตัดสินใจผ่าตัดเพื่อแก้ไขร่างกายที่ผิดปกติ และแม้ว่ามันจะสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เธอก็เชื่อว่าผลลัพธ์ของมันจะทำให้ชีวิตดีกว่าเดิม หลังจากเฉิดฉายดุจนางพญาบนเวทีมานาน Coco ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดินเพื่อด้วยความมุ่งมั่นว่าจะกลับมาเดินอย่างคล่องตัวได้อีกครั้ง ซึ่งพี่สาวได้ส่งข่าวมายังสื่อว่า เธอต้องพักฟื้นอย่างน้อยหกเดือน ทำให้คาดการณ์กันไว้ว่า ปีนี้คงไม่ได้เห็นเธอหวนกลับมารับงานในวงการ
แต่เรื่องราวกลับจบลงที่ความเศร้า เมื่อผู้คนจะไม่ได้เห็น Coco ที่ยังมีชีวิตอีกแล้ว
การตั้งเป้าหมายชีวิตในปี 2023 ที่เผยถึงปัญหาชีวิตที่หนักหน่วง
คำพูดที่สร้างเสริมกำลังใจเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2023 นั้นแฝงไปด้วยความหม่นหมองบางอย่าง แม้ในตอนนั้นอาจจะไม่มีใครสัมผัสถึงความเจ็บปวดในใจของเธอได้ชัดเจนนัก แต่คงไม่ต้องเดาก็คงทราบว่าเธอต้องเจอกับสิ่งที่หนักหน่วงมา จากคำบอกเล่าของ Coco ที่ว่า ในบางครั้ง การใช้ชีวิตที่ประสบปัญหาทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากเย็นนักที่จะทานทนต่อไป แต่ก็พยายามยึดมั่นในแนวคิดของสตรียอดนักสู้เพื่อจะฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ซึ่งในขณะนั้นแฟนๆยังคิดว่า เธอน่าจะหมายถึงการผ่าตัดครั้งใหญ่ที่ทำให้ต้องเก็บตัวเงียบไปจากสังคม
Coco ได้โชว์รอยสักคำว่า Love และ Faith ที่ต้นแขนด้านในและบรรยายใน Instagram ว่า
"ความรักและความศรัทธา สองคำที่ฉันโปรดปรานนี้เป็นสิ่งที่ฉันยึดมั่นไว้ในใจอย่างมั่นคง เพื่อจะก้าวข้ามปีแห่งความยากลำบากไป มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อฉันเป็นอย่างยิ่ง"
เธอแนะนำว่า พยายามเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยความกล้าหาญ แต่ก็ไม่ลืมยิ้มแย้มและส่งเสียงหัวเราะอยู่เสมอ และ Coco ยังตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปีนี้ เธอจะแบ่งปันเรื่องราวชีวิตและวิธีรับมือกับอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตพลิกผันด้วยการใช้แนวคิดด้านบวกเข้าสู้
"ฉันพูดได้ด้วยความยินดีว่า ในที่สุดฉันก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นตัวเองโดยแท้จริง มันสร้างความรู้สึกที่ดีงามเป็นที่สุด และทุกๆวัน ฉันรู้สึกขอบคุณที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ และใช้โอกาสนี้แบ่งปันความรู้สึกนึกคิดกับทุกคน"
แต่พวกเราไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่า อีกไม่นานต่อมา เธอจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ความพยายามที่จะหนีความทุกข์นั้นไม่ทำให้เธอเสียชีวิตทันที และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยอาการโคม่าในกลางดึก แต่อาการของเธอรุนแรงจนไม่สามารถช่วยชีวิตกลับมาได้
Nancy และ Carol พี่สาวแท้ๆแจ้งให้ทุกคนได้ทราบถึงสาเหตุที่เธอพยายามจบชีวิตตัวเอง นั่นคือความเจ็บป่วยทางจิตใจที่ทรุดลงในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าเธอจะเข้ารับการรักษาจากผู้เชียวชาญและอยู่กับมันมาหลายปี เพื่อนและพี่สาวยังได้คอนเฟิร์มว่า นอกจากจะต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้าที่เป็นปีศาจร้ายในใจที่ทำให้สูญเสียตัวตนไป Coco ยังต้องเผชิญกับโรคมะเร็งเต้านมที่คร่าชีวิตผู้หญิงไปแล้วมากมาย ข่าวร้ายนี้ทำให้คนรอบข้างของเธอตกตะลึง พวกเค้ายืนยันว่า เธอสดใสร่าเริงและสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรอยู่เสมอ เธอน่ารักจนเป็นที่นิยมชมชอบในหมู่คนบันเทิงด้วยกันและยังมีสร้างความนับถือด้วยความเป็นมืออาชีพ
เพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่เด็กยังเล่าว่า ในคืนก่อนจะเกิดเหตุ Coco ยังดูอารมณ์ดี ทั้งร่วมร้องคาราโอเกะกับครอบครัวและพูดคุยกันตามปกติ จนเป็นเรื่องยากที่เธอจะยอมรับได้ว่า เพื่อนรักได้ตัดสินใจจากโลกนี้ไปแล้วจริงๆ
แจ ช็อง โพรดิวเซอร์เพื่อนสนิท ได้เปิดเผยถึงมรสุมที่ถาโถมใส่ดิว่าเอเชียจนเธอต้องดำดิ่งไปยิ่งกว่าเดิมว่า
"จิตใจของผมแหลกสลายที่ได้รู้ข่าวของ Coco เธอคือเพื่อนรักที่สุดคนหนึ่งของผม และเธอยังช่วยเหลือเรื่องอาชีพการงานของผมอีกด้วย ตอนที่เธอบอกผมว่าเธอป่วยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน มันทำให้ผมร้องไห้ไม่หยุดอยู่ในรถ เธอต้องทุกข์ทรมานจากสารพันปัญหารวมไปถึงการต่อสู้กับโรคมะเร็งแบบลับๆ"
Coco เข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกเมื่อปีที่แล้ว และมีเสียงเล่าลือว่า ปัญหาส่วนตัวที่ทับถมเข้ามาในเวลาเดียวกันยิ่งซ้ำเติมให้สภาวะทางจิตใจของเธอบอบช้ำมากไปยิ่งกว่าเดิม
แม้ครอบครัวของเธอได้แสดงความโศกเศร้าสุดหัวใจ แต่พวกเค้าก็เชื่อมั่นว่า Coco หลุดพ้นจากโรคซึมเศร้าจนได้ไปอยู่ในสถานที่อันสงบสุขกว่าเมื่อยังมีชีวิตแล้ว
"เป็นที่รู้กันดีว่า Coco เป็นผู้ที่ทุ่มเทอย่างหนักและบุกเบิกเปิดโลกใบใหม่เพื่อศิลปินจีนในวงการดนตรีระดับนานาชาติ เธอได้มุ่งมั่นไปข้างหน้าเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับชนชาติจีน พวกเราภาคภูมิใจในตัวเธอ"
"แม้ว่า Coco จะไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว แต่ความเจิดจรัสของเธอจะคงอยู่เสมอไป"
เป็นเวลาเนิ่นนานที่ Coco Lee ได้มอบความสุขให้กับผู้คน และเมื่อถึงวันที่เธอจากไป คลื่นความโศกเศร้าอาลัยที่เกิดขึ้นนั้นได้แสดงชัดเจนว่า เธอได้รับความรักตอบแทนกลับมาอย่างไม่เสื่อมคลาย ดัังที่แฟนๆหลายคนยืนยันว่า แม้จะอาศัยอยู่ต่างประเทศ แต่ก็จะเดินทางไปร่วมการพิธีระลึกถึงศิลปินสาวผู้วายชนม์ในเดือนหน้า
เราขอให้เธอได้พบความสุขจากพักผ่อนด้วยเถิด