จริงหรือที่ Kylie Jenner กำลัง rebrand ตัวเองเพื่อความมีระดับ??
candy 30 13หลังจากที่ได้ยินมาว่า ภาพลักษณ์ของ Kylie Jenner ที่สร้างความลือลั่นว่าด้วยความเริ่ดเว่อวัง extravagant ดึงดูดผู้ติดตามให้แห่แหนเข้ามาตื่นตาตื่นใจนั้นเริ่มมีทิศทางที่เปลี่ยนไป ทำให้เราต้องตามไปส่องที่ Instagram ของเธอที่ครองความทรงอิทธิพลติดอันดับ top 5 แต่ก็ยังไม่ได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงมากเท่าใดนัก เธอยังอวดรูปโฉมที่โดดเด่นไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งอันเป็น signature ของสมาชิกครอบครัว อัดแน่นด้วย fashion ร้อนแรงและ lifestyle ของมหาเศรษฐีที่ถูกจับไปเป็นประเด็นสร้างความฮือฮาบนหน้าข่าว gossip เสมอ แต่ทั้งสื่อและชาวเน็ทก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า Kylie ได้เติบโตขึ้นและเผยถึงความมีระดับที่ฉีกออกไปจากที่เคยเป็นมา
ลองติดตามกับเราได้ว่า attitude ของ Kylie นั้นกำลังเปลี่ยนไปจริงหรือไม่!
จากสไตล์ more is more ก้าวสู่ความ sleek chic
อาณาจักรธรกิจของครอบครัว KarJenner ซึ่งมีฐานสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากยอดจำนวนผู้ติดตามรวมกันเป็นพันล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงกว่าคนดังระดับ superstar หลายคน แม้แต่ Kourtney ที่เป็นพี่สาวที่มีผู้ติดตามน้อยที่สุด(หากไม่นับ Kris ที่ทำหน้าที่ผู้จัดการ)ก็ยังมีผู้ติดตามพุ่งไปที่ 223 ล้านบน Instagram ยิ่งรวมกับ platform ชื่อดังอื่นๆก็ชี้ชัดถึงความสำเร็จสุดอลังการติดต่อกันหลายปี จนผู้ชี่ยวชาญได้มาวิเคราะห์เจาะลึกถึง Social Media Strategy และถูกยกให้เป็น goal สำหรับ influencer ที่พยายามไขว่คว้าสร้างชื่อเสียงและรายได้ก้อนโต แต่ในขณะเดียวกัน ก็ปรากฏชัดเจนว่า พวกเธอไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ทเป็นพันล้านแล้วเกิดเป็นกระแสความชื่นชมเท่านั้น ผู้คนจำนวนมาติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเธอเพื่อตามจับผิดและส่งคอมเมนท์โจมตีอย่างดุเดือด
พี่น้อง KarJenner ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาว่า
'สร้างภาพจนดูจอมปลอม'
'เป็นตัวอย่างย่ำแย่สำหรับหญิงสาวรุ่นใหม่' '
ร่ำรวยล้นฟ้าแต่ก็ซื้อรสนิยมกันไม่ได้'
แม้ว่าพวกเธอจะก้าวมาได้ไกลจากการไต่เต้าสร้างความโด่งดังจากรายการ reality จนถูกครหาว่าเป็นเพียงเซเลบเกรด B จนกลายมาเป็นครอบครัวทรงอิทธิพลในโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่พ้นจะถูกผูกติดกับคำว่า 'ไร้ระดับ' และสามารถทำทุกอย่างเพื่อสร้างกระแส
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ทก็น่าจะยอมรับได้แล้วว่า ไม่ใช่ทุกคนที่'เยอะ'แล้วมูลค่าพุ่งแบบบ้านนี้ สำหรับ Kylie ที่เป็นเซเลบหญิงที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก (รองลงมาก็เพียงแต่ Selena Gomez) ดีไซน์เนอร์จาก luxury brand ต่างทุ่มเต็มที่เพื่อจะทาบทามเธอมาร่วมงาน เพราะเล็งเห็นว่า ผลตอบรับจะต้องคุ้มค่ากับการลงทุน แม้จะนำเสนอลุคที่ดูหลุดโลก แต่การันตีได้ว่ามันจะสร้างความฮือฮาจนกลายเป็น trending ช่วย PR ให้กับแบรนด์ได้อย่างทรงพลัง
แต่เมื่อ Kylie ปรับเปลี่ยนสไตล์ให้ดู chic แบบสวยแพงโดยไม่ต้องเล่นใหญ่ กลับกลายเป็นว่า ทั้งสื่อและชาวเน็ทต่างคอมเมนท์ชื่นชมอย่างล้นหลาม ในทริป Paris ที่เธอคุมโทนการแต่งกายแนว La Parisienne Stylée ทำให้มีผู้หันมามองเธอใหม่ว่า นอกจากชุดบอดี้คอนแนบเนื้ออวดส่วนเว้าส่วนโค้ง Kylie ดูโดดเด่นแบบ less is more เข้ากับเทรนด์ quiet luxury นิตยสาร Vogue เปรียบเทียบว่า นี่คือลุคที่ minimal สุดๆของ Kylie และยังมีเสียงเชียร์ให้เธอแต่งตัวเช่นนี้อีกบ่อยๆ
ไม่นานมานี้ ชาว Tiktok ก็แสดงความปลาบปลื้มเมื่อ Kylie แชร์ mix&match เสื้อผ้าเรียบๆและ makeup ที่ดูละมุนสบายตา บางคนประกาศว่า รัก Kylie ที่เข้าสู่ new clean classy era ถึงจะเป็นลุคที่ basic แต่น่ารักสดใส สร้างความรู้สึกแปลกใหม่จากภาพ bodycon โชว์บั้นท้ายใหญ่เด้งที่เธอโพสต์สม่ำเสมอ
Kylie ไม่ได้โละ bodycon ออกจาก walk- in closet แต่อย่างใด ทุกวันนี้เราก็ยังเห็นเธอเผยเส้นสายเรือนร่างอันอะร้าอร่ามด้วยชุดแนบเนื้อ แต่เมื่อเธอได้พิสูจน์ว่า เมื่อหันมาแต่งตัวแรงดึงดูดทางเพศไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปแต่อย่างใด ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟนๆให้หันมายอมรับว่า สไตล์เรียบหรูไม่จำเป็นต้องมากับความน่าเบื่อหรือจืดชืด
ประกาศเลิกแต่งภาพหนักมือใน social media
ที่ผ่านมาพี่น้อง KarJenner มักถูกดึงเข้าสู่ดราม่า 'บ้านเบี้ยว' ทั้งๆที่ชาวเน็ทจำนวนมากต่างก็ไม่เห็นความเสียหายจากการแต่งรูปให้สวยเป๊ะ เพราะไม่ว่าใครก็ใช้ filter ก่อนจะแชร์ภาพสู่ social media กันทั้งนั้น แต่ก็ยังมีคนคอยเยาะเย้ยถากถางว่าพวกเธอครอบงำจิตใจเด็กสาวให้หมกมุ่นกับความงามที่ยากจะเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่วไร้ไขมันส่วนเกิน ขาเฟิร์มสวย แฃะพิวพรรณเรียบเนียนไร้เซลลูไลท์ กลุ่มคนไม่ปลื้ม KarJenner ฟาดฟันว่า การแต่งภาพของพวกเธอเหมือนกับการสร้างภาพมายาเพื่อหลอกตัวเองและผู้อื่น เพราะพวกเธอใช้ตัวช่วยมากมายในการสร้าง beauty standard ที่แทบเป็นไปไม่ได้สำหรับคนทั่วไป จากข่าวลือเรื่องการศัลยกรรมยกเครื่องทั้งตัวและใช้ความร่ำรวยซื้อหา option ที่ทำให้พวกเธอดูเป๊ะทุกความเคลื่อนไหว
แม้แต่ Facetune แอพแต่งภาพชื่อดังก็เคยเข้าร่วมแซว Kylie ทาง Instagram ด้วยการเรียกร้องให้เธอ tag พวกเค้าเพื่อให้เครดิตกันบ้าง แต่ล่าสุด Kylie เปิดเผยว่า เธอไม่ได้แต่งภาพหนักมืออีกต่อไปแล้ว
"ฉันรู้สึกว่าพวกเรามีอิทธิพลมากมายต่อคนอื่น แล้วเราควรใช้อิทธิพลนั้นในทางใด? ฉันเห็นเด็กสาวมากมายในอินเทอร์เน็ทแต่งภาพกันแบบจัดเต็ม ฉันเคยผ่านจุดนั้นมาเหมือนกัน และตอนนี้ก็ก้าวมาในจุดที่รู้สึกดีกว่าเก่า แต่คนอื่นนั้นทำให้พวกเรารู้สึหมดความมั่นใจได้เสมอ"
"ฉันรู้สึกว่าพวกเรามีอิทธิพลมากมายต่อคนอื่น แล้วเราควรใช้อิทธิพลนั้นในทางใด? ฉันเห็นเด็กสาวมากมายในอินเทอร์เน็ทแต่งภาพกันแบบจัดเต็ม ฉันเคยผ่านจุดนั้นมาเหมือนกัน และตอนนี้ก็ก้าวมาในจุดที่รู้สึกดีกว่าเก่า แต่คนอื่นนั้นทำให้พวกเรารู้สึหมดความมั่นใจได้เสมอ"
จากคำยืนยันของ Kylie ที่ว่า เธอจะไม่แต่งภาพเยอะอีกต่อไป ก็ทำให้แฟนๆคาดหวังจะได้พบคอนเทนท์ที่ดู real กว่าเก่า แม้เรื่องบ้านเบี้ยวจะเป็นปกติของ social media และไม่ใช่เรื่องชวนเสียหน้าสำหรับหลายคน แต่ถึงกระนั้น ยิ่งเธอประสบความสำเร็จสร้างอิทธิพลได้มากเท่าใด ก็ยิ่งถูกคาดหวังไว้สูง จากการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท HopperHQ sponsored post ของ Kylie ในแต่ล่ะครั้งจะทำเงินได้ถึง $1,835,000 สูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองลงมาก็แต่ Cristiano Ronaldo ไม่น่าแปลกใจหากเธอว่าจ้างมืออาชีพเพื่อดูแล Instagram เพื่อป้องกันความโป๊ะ หากถูกตามจับผิดว่าแต่งภาพแบบเกินจริงมากไป อาจจะกระทบกับภาพลักษณ์ของนักธุรกิจด้านความงามที่ผู้บริโภคเรียกหาความจริงใจนั่นเอง
ก้าวข้ามความไม่มั่นใจสู่การสร้าง self esteem
"เมื่อก่อนฉันเป็นคนที่รักตัวเอง ตอนนี้ก็ยังรักอยู่ ฉันอยากให้ทุกคนรักตัวเองเสมอมา"
"หนึ่งในความเข้าใจผิดอย่างมหันต์เกี่ยวกับตัวฉันก็คือ ฉันเป็นเด็กสาวที่ไร้ความมั่นใจถึงกับไปผ่าตัดศัลยกรรมเปลี่ยนทั้งหน้า ซึ่งมันไม่จริงเลย ฉันแค่ฉีดฟิลเลอร์และฉันไม่อยากให้แนวคิดแบบนั้นถูกผูกติดกับตัวเอง"
" สำหรับฉัน social media เป็นอะไรที่น่าทึ่งจริงๆ ฉันได้ยินความเห็นในแง่ลบมาทุกรูปแบบและข่าวลือสารพัดอย่างเกี่ยวกับตัวเอง แต่ยิ่งมันเกิดขึ้นบ่อยเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความเข้มแข็งและเริ่มชินชากับมันไป"
"บางครั้งมันทำให้รู้สึกหมองหม่นไปหมด แต่ก็ต้องเล็งเห็นให้ชัดว่า ถึงฉันจะต้องเจอดราม่าทาง social media มาในรูปแบบใดบ้าง แต่ฉันก็มีชีวิตที่ดีงามเหลือเกิน ลูกๆของฉันน่ารักเป็นที่สุด ฉันมีเพื่อนและครอบครัวที่ยอดเยี่ยมซึ่งพวกเค้าเข้าใจตัวตนฉันเป็นอย่างดี มีคนใกล้ชิดเหล่านี้เป็นกำลังใจอยู่รอบตัวและเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องที่ฉันต้องต้องเผชิญ ฉันว่ามันคือสิ่งที่งดงามค่ะ"
แม้แต่พี่สาวก็ล้อเลียนจนเสียเซลฟ์
Kylie ยืนยันว่า ตัวเองในวัยเยาว์เป็นคนที่มีความมั่นใจสูง จนเริ่มได้ยินพี่สาวล้อเลียนเรื่องรูปลักษณ์ ตัวอย่างคือ หูของเธอที่พี่ๆตั้งฉายาให้ว่า Dopey (คนแคระหูโตใน Snow White and the Seven Dwarfs ) ทำให้เธอไม่กล้าทำผมเปิดหูหรือมวยผมสำหรับการออกอีเวนท์เป็นเวลาห้าปี!
"แล้วจากนั้นฉันก็ได้ให้กำเนิด Stormi ลูกมีหูเหมือนกับฉันเลย และนั่นทำให้ฉันค้นพบว่า ฉันชอบหูของเรามากๆ ถ้าเอาแต่จิตตกกับเรื่องหูตัวเอง แต่ฉันมั่นใจว่าลูกสาวคือสิ่งที่สวยงามที่สุด ตอนนี้ฉันเกล้าผมแทบทุกอีเวนท์เลยล่ะ"
การเปิดใจของ Kylie กับพี่สาวทำให้พวกเธอได้ตระหนักว่า แม้จะเป็นคำพูดหยอกเย้าตามประสาคนสนิท และไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายต้องเสียความมั่นใจ เพราะไม่อยากสร้างแผลใจให้กับลูกๆจนกลายเป็นความไม่มั่นใจในตัวเอง จึงหันมาระมัดระวังในการใช้คำพูดมากขึ้น
"แล้วจากนั้นฉันก็ได้ให้กำเนิด Stormi ลูกมีหูเหมือนกับฉันเลย และนั่นทำให้ฉันค้นพบว่า ฉันชอบหูของเรามากๆ ถ้าเอาแต่จิตตกกับเรื่องหูตัวเอง แต่ฉันมั่นใจว่าลูกสาวคือสิ่งที่สวยงามที่สุด ตอนนี้ฉันเกล้าผมแทบทุกอีเวนท์เลยล่ะ"
การเปิดใจของ Kylie กับพี่สาวทำให้พวกเธอได้ตระหนักว่า แม้จะเป็นคำพูดหยอกเย้าตามประสาคนสนิท และไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายต้องเสียความมั่นใจ เพราะไม่อยากสร้างแผลใจให้กับลูกๆจนกลายเป็นความไม่มั่นใจในตัวเอง จึงหันมาระมัดระวังในการใช้คำพูดมากขึ้น
เปิดใจพูดคุยกับอดีตเพื่อนรักที่เหินห่างกันไปหลังจากดราม่ารักนอกใจในครอบครัว
ดราม่าที่สร้างความร้าวฉานให้กับมิตรภาพของ Kylie และ Jordyn เพื่อนสาวที่เธอรู้สึกไม่ต่างจากคนในครอบครัวนั้นเกิดขึ้นเมื่อ Jordyn เกินเลยล้ำเส้นถึงขั้นจูบปากกับ Tristan Thompson หนุ่มคนรักสุดเสเพลของ Khloe ทั้งๆที่อยู่ใน party ท่ามกลางสายตาคนร่วมงาน คงไม่แปลกใจกันว่า Kylie จะต้องตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนรักแทบทันที Jordyn ตกเป็นเป้าหมายของ haters ที่ประนามเธอว่าเป็นพวกไม่รู้บุญคุณคน กล้ามีความสัมพันธ์กับแฟนของพี่สาวเพื่อนอย่างเปิดเผย และตัว Khloe เองก็เดือดจัด ด่า Jordyn อย่างไม่มีชิ้นดี แม้ Jordyn จะมาเปิดใจในรายการ TV เพื่อเล่าเหตุการณ์ว่า เพราะความมึนเมาทำให้เธอถึงเนื้อถึงตัวกับ Tristan ไปบ้าง แต่เธอแค่เอาขาพาดขาของเขา ไม่ได้มีการเต้นยั่วบนหน้าตักตามข่าวลือ ส่วนจูบที่ตกเป็นข่าวครึกโครม ก็เป็นฝ่ายชายที่เข้ามาจูบเธอตอนที่เธอกำลังจะออกจาก party ไม่ใช่การกอดจูบแลกลิ้น แต่ Khloe ไม่ได้เชื่อถือคำบอกเล่าของเธอแต่อย่างใด และฟาดฟันหนักหน่วงว่า Jordyn คือคนหลอกลวง และเป็นผู้ที่ทำให้ครอบครัวของเธอล่มสลาย
ในเวลาต่อมา ก็เกิดเป็นกระแสตีกลับ จากชาวเน็ทที่เชื่อว่า แม้ Jordyn จะไม่ได้ทำในสิ่งที่เหมาะสม แต่ Khloe นั้นดูหน้ามืดตามัวเข้าข้างฝ่ายชายจนมองว่า เป็นความผิดของ Jordyn ฝ่ายเดียว ที่ผ่านมมา เธอรักๆเลิกๆกับเขาหลายหน และยังยอมกลับไปคืนดีจนมีลูกด้วยกันสองคน ทั้งๆถูกสื่อประจานด้วยภาพว่าเขานอกใจเธอไปหลับนอนกับผู้หญิงอื่นหลายครั้ง และอาจจะเป็นไปได้ว่า เขาอาจจะฉวยโอกาสที่ Jordyn เมามายเอาเปรียบเธอ และพฤติกรรมเข้าหาผู้หญิงมากหน้าหลายตาต่างหากที่สร้างความแตกแยกในครอบครัว
ในเวลาต่อมา ก็เกิดเป็นกระแสตีกลับ จากชาวเน็ทที่เชื่อว่า แม้ Jordyn จะไม่ได้ทำในสิ่งที่เหมาะสม แต่ Khloe นั้นดูหน้ามืดตามัวเข้าข้างฝ่ายชายจนมองว่า เป็นความผิดของ Jordyn ฝ่ายเดียว ที่ผ่านมมา เธอรักๆเลิกๆกับเขาหลายหน และยังยอมกลับไปคืนดีจนมีลูกด้วยกันสองคน ทั้งๆถูกสื่อประจานด้วยภาพว่าเขานอกใจเธอไปหลับนอนกับผู้หญิงอื่นหลายครั้ง และอาจจะเป็นไปได้ว่า เขาอาจจะฉวยโอกาสที่ Jordyn เมามายเอาเปรียบเธอ และพฤติกรรมเข้าหาผู้หญิงมากหน้าหลายตาต่างหากที่สร้างความแตกแยกในครอบครัว
Kylie ที่อยู่ในสภาวะคนกลางระหว่างพี่สาวและเพื่อนรักนั้นได้แสดงความผิดหวังกับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่า เธอเจ็บปวดใจมากที่ต้องจบไม่สวยกับ Jordyn ดูเหมือนว่า มิตรภาพของพวกเธอแตกหักลงไปยากจะเยียวยา และยังมีคนเชื่อว่า Kylie อาจจะถูกครอบครัวกดดันให้ยุติการติดต่อกับ Jordyn ซึงถูกมองว่าเป็นคนทรยศที่เข้ามาทำลายครอบครัวของ Khloe
(ปัจจุบัน หลังจาก Khloe เปิดใจยอมรับ Tristan อีกครั้งและตัดสินใจมีลูกด้วยกันด้วยการอุ้มบุญ ก็ปรากฏว่า เขาไปทำผู้หญิงอีกคนท้องในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน จนทำให้ Khloe ตัดสินใจถอยห่าง แต่ถึงกระนั้นก็มีคนปล่อยข่าวออกมาเรื่อยๆว่า เธอยังไม่สามารถตัดใจจากพ่อของลูกได้ และอาจจะให้โอกาสเขากลับมารักกันอีก)
แต่ภาพการนัดพบกันของ Kylie และ Jordyn เพื่อดินเนอร์ในร้านซูชิและขึ้นรถคันเดียวกันเมื่อไม่กี่วันก่อนก็กลายเป็น topic ร้อน เป็นเวลาถึงสี่ปีที่ผู้คนไม่ได้เห็นพวกเธออยู่เคียงข้างกัน หลังจากที่ Kylie เคยเผยว่า เมื่อได้เห็นว่าเพื่อนได้ทำอะไรลงไปกับครอบครัวของเธอ ก็เหมือนกับทำร้ายเธอเช่นกัน แต่ต่อมาเธอก็เผยว่า พร้อมจะให้อภัย
"ฉันเชื่อว่าใครๆต่างก็ทำพลาดกันได้ คนเราใช้ชีวิตและเรียนรู้จากความผิดพลาด ฉันให้อภัยคนทั้งสองฝ่ายค่ะ"
ข่าวคราวเรื่อง Kylie ให้อภัย Jordyn อาจจะทำให้ชาวเน็ทมองเธอใหม่ทีเดียว แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ Jordyn move on ไม่หวนกลับไปข้องเกี่ยวกับครอบครัว KarJenner เพราะเชื่อว่า Jordyn เป็นฝ่ายถูกกระทำจาก scandal เมื่อหลายปีก่อน และการหวนมาพบหน้า Jordyn นั้นอาจจะสร้างความอึดอัดคับข้องใจให้กับ Khloe แต่ก็มีคนที่เชื่อว่า Kylie ที่มีวุฒิภาวะมากขึ้นจะเปิดใจยอมรับคำขอโทษจากเพื่อนด้วยใจจริง หลายปีที่ผ่านมา มีเสียงเชียร์จากชาวเน็ทให้พวกเธอกลับมาคบหากันไม่น้อยเลย จากภาพ Instagram ของ Jordyn เผยให้เห็นชุดที่ใส่ไปพบ Kylie ก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดีที่มิตรภาพของพวกเธอได้ฟื้นคืนมาอีกครั้ง หลายคนที่เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้ยืนยันว่า มิตรภาพที่เกิดขึ้นจากความผูกพันสมัยเด็กของพวกเธอมีคุณค่าเกินกว่าจะจบลงเพราะอุปสรรคเรื่องอื้อฉาว ยังมีอีกหลายคนที่เชื่อว่า พวกเธอไม่เคยตัดขาดกัน แต่พยายามคบกันแบบลับๆเพื่อรักษาน้ำใจครอบครัวตัว K และเฝ้าอดทนรอเพื่อจะให้บาดแผลได้รับการเยียวยา
"ฉันเชื่อว่าใครๆต่างก็ทำพลาดกันได้ คนเราใช้ชีวิตและเรียนรู้จากความผิดพลาด ฉันให้อภัยคนทั้งสองฝ่ายค่ะ"
ข่าวคราวเรื่อง Kylie ให้อภัย Jordyn อาจจะทำให้ชาวเน็ทมองเธอใหม่ทีเดียว แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ Jordyn move on ไม่หวนกลับไปข้องเกี่ยวกับครอบครัว KarJenner เพราะเชื่อว่า Jordyn เป็นฝ่ายถูกกระทำจาก scandal เมื่อหลายปีก่อน และการหวนมาพบหน้า Jordyn นั้นอาจจะสร้างความอึดอัดคับข้องใจให้กับ Khloe แต่ก็มีคนที่เชื่อว่า Kylie ที่มีวุฒิภาวะมากขึ้นจะเปิดใจยอมรับคำขอโทษจากเพื่อนด้วยใจจริง หลายปีที่ผ่านมา มีเสียงเชียร์จากชาวเน็ทให้พวกเธอกลับมาคบหากันไม่น้อยเลย จากภาพ Instagram ของ Jordyn เผยให้เห็นชุดที่ใส่ไปพบ Kylie ก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดีที่มิตรภาพของพวกเธอได้ฟื้นคืนมาอีกครั้ง หลายคนที่เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้ยืนยันว่า มิตรภาพที่เกิดขึ้นจากความผูกพันสมัยเด็กของพวกเธอมีคุณค่าเกินกว่าจะจบลงเพราะอุปสรรคเรื่องอื้อฉาว ยังมีอีกหลายคนที่เชื่อว่า พวกเธอไม่เคยตัดขาดกัน แต่พยายามคบกันแบบลับๆเพื่อรักษาน้ำใจครอบครัวตัว K และเฝ้าอดทนรอเพื่อจะให้บาดแผลได้รับการเยียวยา
จากที่เคยเดทแร็พเพอร์ก็ปิ๊งรักกับพระเอก A List
เรื่องรสนิยมการคบหาผู้ชายของครอบครัว KarJenner สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์มานาน นอกจาก Kourney แล้ว ทุกคนดูจะมี type เป็นหนุ่มเชื้อสายผิวดำเหมือนกัน กลายเป็น signature ของครอบครัว หากไม่ใช่นักกีฬา ก็ต้องเป็นแร็พเพอร์มาดดุดัน และมันคงไม่ได้สิ่งที่เกิดจากความบังเอิญ นั่นได้นำไปสู่เสียงครหาว่า ผู้หญิงบ้านนี้ใช้ผู้ชายผิวดำเพื่อถีบตัวเองให้โด่งดังยิ่งกว่าเก่า และยังถูกเหมารวมว่า พวกเธอเป็นผู้หญิงไร้หัวคิดที่หมกมุ่นกับแฟนหนุ่มผิวดำราวกับเป็นเทรนด์สุดเก๋
ตัว Kylie ที่ผ่านความสัมพันธ์หลายปีกับแร็พเพอร์ผิวดำสองคน และเป็นแม่ของสองหนูน้อยลูกครึ่งก็ได้รับการทำนายไว้ล่วงหน้าว่า เธอคง move on ไปกับแร็พเพอร์อีกคนอีกในไม่ช้า
เมื่อมีคนปล่อยข่าวว่า เธอกำลังปิ๊งรักกับ Timothée Chalamet อินเทอร์เน็ทถึงกับสั่นสะเทือน! นักข่าวบางรายถึงกับฟันธงว่าข่าวปลอมสร้างกระแส และยังอีกหลายเสียงที่กล่าวหาเซ็งแซ่ว่า Kris Jenner คือผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวนี้ เพื่อ Kylie จะได้ก้าวตาม Kim K ที่สร้างอิทธิพลในวงการแฟชั่นได้หลังจากได้รับการสนับสนุนจาก Kanye หาก Kylie มีข่าวกับพระเอก A List ภาพลักษณ์ของเธอย่อมชวนดึงดูดใจมากขึ้น
แต่ภาพหลักฐานที่พิสูจน์ว่า Kylie และ Timmy ไปมาหาสู่กันก็ทำให้คนที่ยืนกรานไม่ยอมเชื่อต้องหน้าหงาย จากที่มองไม่เห็นความเป็นไปได้ พวกเค้าถูกยกให้เป็นคู่รักคนดังที่อยู่เหนือความคาดหมายที่สุด!
ตัว Kylie ที่ผ่านความสัมพันธ์หลายปีกับแร็พเพอร์ผิวดำสองคน และเป็นแม่ของสองหนูน้อยลูกครึ่งก็ได้รับการทำนายไว้ล่วงหน้าว่า เธอคง move on ไปกับแร็พเพอร์อีกคนอีกในไม่ช้า
เมื่อมีคนปล่อยข่าวว่า เธอกำลังปิ๊งรักกับ Timothée Chalamet อินเทอร์เน็ทถึงกับสั่นสะเทือน! นักข่าวบางรายถึงกับฟันธงว่าข่าวปลอมสร้างกระแส และยังอีกหลายเสียงที่กล่าวหาเซ็งแซ่ว่า Kris Jenner คือผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวนี้ เพื่อ Kylie จะได้ก้าวตาม Kim K ที่สร้างอิทธิพลในวงการแฟชั่นได้หลังจากได้รับการสนับสนุนจาก Kanye หาก Kylie มีข่าวกับพระเอก A List ภาพลักษณ์ของเธอย่อมชวนดึงดูดใจมากขึ้น
แต่ภาพหลักฐานที่พิสูจน์ว่า Kylie และ Timmy ไปมาหาสู่กันก็ทำให้คนที่ยืนกรานไม่ยอมเชื่อต้องหน้าหงาย จากที่มองไม่เห็นความเป็นไปได้ พวกเค้าถูกยกให้เป็นคู่รักคนดังที่อยู่เหนือความคาดหมายที่สุด!
ในขณะที่ชาวเน็ทจำนวนมากส่งคอมเมนท์ที่แทบจะกรีดร้องมาทางหน้าจอว่ารับไม่ได้ที่พระเอกหนุ่มรูปงามมากความสามารถจะเข้ามาพัวพันกับ KarJenner Clans แต่ก็มีคนแย้งว่า ทำไมจะไม่ได้?
- Kylie คือมหาเศรษฐีสาวที่มีชีวิตในแบบที่ผู้คนมากมายใฝ่ฝัน ถึงจะถูกตราหน้าว่า no talent แต่เธอไม่ได้นั่งนอนถ่าย selfie แล้วเงินทองไหลมาเทมา เธอประสบความสำเร็จจากการทำสิ่งที่ตัวเองรัก ช่วงที่เธอก้าวออกจากเงาพี่สาวมาสร้างแบรนด์ ก็ถูกปรามาสมานักต่อนักว่า คงโด่งดังได้เพียงวูบเดียว ไม่นานก็เจอกับภาวะขาลง แต่ถึงตอนนี้ก็พิสูจน์กันชัดว่า เธอมาไกลแค่ไหนและอนาคตที่รออยู่ข้างหน้าก็ดูสดใส
- เธอไม่ได้ตกเป็นข่าวฉาวโฉ่จนชื่อเสียงตกต่ำ ประเภทเมาแล้วขับ ติดยา เป็นชู้กับชาวบ้าน เที่ยวเตร่ไม่สนใจลูกเต้า กลับกัน เธอได้รับคำชมเรื่องการทำหน้าที่แม่ มีดราม่าจากข้อกล่าวหา out of touch จากความรวยอยู่เนืองๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่คนในวงการเจอมาแล้วทั้งนั้น เมื่อถูกโจมตีหนักๆ เธอก็รับมือได้ค่อนข้างนิ่ง ไม่โวยวายหรือเอาคนอื่นมาแขวนอย่างที่พี่สาวเคยทำ
- ถึงชาวเน็ทจะกล่าวหาครอบครัวนี้แรงๆ ว่าตามเก็บสกอร์หนุ่มผิวดำ platform ที่ใหญ่โตของ Kylie นั้นทำให้น่าคิดว่า ความเนื้อหอมของเธอไม่ได้ดีงดูดเฉพาะแบรนด์สินค้า แต่หลายคนนวงการย่อมต้องการจะสานความสัมพันธ์กับเธอเช่นกัน Nicki Minaj เคย call out Travis Scott มาแล้วว่า ใช้ความดังของ Kylie มาเป็นกลยุทธ์ขาย tour pass (แม้มันจะเป็นเรื่องปกติหากคนในครอบครัวช่วยส่งเสริมกัน) หรืออาจจะหมายความว่า หากเข้ามาสนิทสนมกับ Kylie ก็เหมือนเครืื่องมือประชาสัมพันธ์ตัวเอง
- หนุ่มสาวรูปร่างหน้าตาดีโคจรเข้าสู่แรงดึงดูดของกันและกันไม่ใช่เรื่องแหวกแนวของ Hollywood และเป็นเพราะ Nobody is perfect จึงไม่ได้มีทฤษฎีคอยกำกับว่า หนุ่มคนดังที่มีภาพลักษณ์ America's Sweetheart ไม่ควรจะมีความสัมพันธ์กับราชินีอินเทอร์เน็ทที่หลายคนมองในแง่ลบ จนถูกตามจับผิดทุกความเคลื่อนไหว
Kylie ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัย 26 ปีในอีกไม่กี่วันอาจจะไม่ได้ rebrand ตัวเองจนใหม่หมดจด สิ่งใดที่ work อยู่แล้ว ก็ไม่ได้สลัดทิ้งไป แต่เธออาจจะเผยตัวตนอีกด้านที่อยู่นอกเหนือการสวม persona ทาง social mediaที่เราได้เห็นกันจนชินตา ซึ่งมันอาจจะได้ผลดีไม่แพ้ความเว่อวังอลังการก็เป็นได้