How to แย่งซีนสไตล์คนดัง

เหล่าเซเลบใช้วิธีใดเพื่อขโมยซีนจนใครต่อใครถอนสายตาไปไม่ได้   มาติดตามกับเราเลยค่ะ!

Maya Jama

พิธีกร Love Island  ที่สั่นสะเทือน internet  ด้วยลุคสวยสะพรึงข่มผู้เข้าแข่งขัน

ชื่อของ Maya Jama  อาจจะไม่คุ้นแฟนๆบันเทิง Hollywood แต่สำหรับผู้ชมรายการ Love Island  dating game show  ชื่อดังที่ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างในหลายประเทศ ก็อาจจะ/ด้ยินกระแสของเธอมาบ้าง  ในประเทศอังกฤษที่เป็นต้นฉบับของรายการนี้ เธอก้าวมาเป็น host  ที่ร้อนแรงสุดๆจากรายการนี้ โดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ปรากฏได้บ่อยนัก   เรื่องพิธีกรสวยแซ่บนั้นเป็นสิ่งที่พวกเราเห็นกันมานักต่อนัก แต่ Maya เธอเล่นเผ็ดเกินหน้าเกินตาผู้เข้าแข่งขัน แค่เปิดตัวก็เดินสับขาออร่าพุ่งจนสาวๆ Love Island อาจจะต้องห่อเหี่ยวเพราะถูกแย่งซีนไปเต็มๆ  ยังมีแฟนที่แคปภาพมาเปรียบเทียบกันชัดๆว่า ผู้เข้าแข่งขันดูดรอปลงไปแค่ไหนตอนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเธอ ถึงขนาดว่า หากรายการตอนใดไม่เน้นซีนพิธีกร ผู้ชมก็วิจารณ์กันอื้ออึงว่า  เมื่อขาด Maya ไป รายการก็ไม่น่าดูเหมือนเดิม   บ้างก็คาดการณ์ว่า  แค่ซีซันแรกก็ทำไว้ดีขนาดนี้  ในซีซันต่อไป  ผู้เข้าแข่งจะต้องทำการบ้านหนักเพื่อรับมือกับความสวยของพิธีกรที่อาจจะข่มให้พวกเธอดูเฉาลงไป

ก่อนหน้าที่จะคว้างานผู้ดำเนินรายการ  Love Island   Maya สร้างชื่อเสียงจากอาชีพพิธีกรและ TV personality    สื่อบันเทิงเคยให้ความสนใจเธอจากข่าวคราวความสัมพันธ์กับ Stormzy แร็พเพอร์ดังจาก London ใต้ เรื่องความสวยของเธอนั้นก็ขึ้นชื่อลือชามาหลายปี แต่ก็ไม่ได้สร้างกระแสแบบ break the internet มาก่อน  จนกระทั่งที่ชื่อของเธอกลายเป็นกระแสร้อนแรงจากผลงาน Love Island เธอดึงดูดทุกสายตาผู้ชมจากท่าทางเดินเข้า villa  ที่แสนเย้ายวนจนถูกยกให้เป็น epic entrance  ทั้ง TikTok  และ Twitter ก็อื้ออึงไปด้วยความชื่นชมในทักษะการขโมยซีน หลายคนยอมรับว่า ไม่เคยเห็นพิธีกรที่เด่นเกินหน้าเกินตาผู้ร่วมแข่งขันรายการถึงขนาดนี้มาก่อน   กระแสอวยยศถึงขนาดนี้ก็ทำให้หลายคนเชื่อว่า ค่าตัวเธอต้องพุ่งขึ้นแน่ๆ 


ลองกดคลิปด้านล่างพิสูจน์กันได้เลยค่ะ

อาจจะมีคนมองว่า  ใบหน้าสวยคมและส่วนเว้าส่วนโค้งของ  Maya ทำให้นึกถึงพี่น้อง KarJenner  แต่สิ่งที่ทำให้เธอโดดเด่นเฉิดฉายจาก Love Island คือแรงดึงดูดทางเพศเกินต้านทาน ทั้งๆที่เห็นว่ารายการดันเธออย่างเว่อวัง  grand opening  ผู้ชมกลับไม่หมั่นไส้
  เธอใส่ชุดอะไรก็ตามไปสอยจนขาดตลาด  เมื่อเธอดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมา   สื่อก็เจาะข้อมูลเพื่อนำเสนอความเป็นมาจนหลายคนประจักษ์ว่า เธอมีใบหน้าสวยหวานแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งรวมกับรูปร่างสูงโปร่งและความเว้าโค้งก็ทำให้หลายคนน้ำลายหก   บางคนประกาศว่า เธอเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้คุณผู้ชายอยากจะดู  Love Island โดยไม่ต้องให้แฟนสาวบังคับ!

Perfect pose  แบบ Zendaya

ในบางครั้งคุณจะพบว่า  แม้คนดังจะร่วมงานดีไซน์เนอร์ชื่อดังเพื่อตัดเย็บชุดแบบ custom เพื่อเดินงานพรมแดงที่เลิศหรู  แต่หากไม่อาศัยการ pose และ attitude แบบตัวแม่ ภาพที่ออกมาอาจจะไม่ได้งามจับตาเหมือนกับภาพนางแบบบน  runway หรือ  fashion magazine ปกแวววาว ซึ่งพวกเราต่างรู้ดีว่า เหล่านางแบบผ่านการเทรนเพื่อนำเสนอมุมที่ดูสวยงามที่สุดบนร่างกาย  มีจุดเด่นตรงไหนต้องเอามานำเสนอเพื่อสร้างความประทับใจว่า  เสื้อผ้าชุดนั้นช่างดูเลิศเลอบนร่างของพวกเธอ    อีกด้าหนึ่ง แม้ว่าจะแต่งองค์ทรงเครื่องมาแบบจัดเต็ม  แต่โพสเกร็งจากความอึดอัดและสีหน้าท่าทางที่ไม่มั่นใจนั้นอาจจะทำให้ลุคโดยรวมดูสวยไม่สุด ออร่าไม่เฉิดฉายเท่าที่ควร   ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว  คนดังต่างก็ต้องฝึกโพสให้ภาพบนพรมแดงออกมาดูดีที่สุด  ช่วงเวลาจำกัดระหว่างการเดินอวดโฉมให้ช่างภาพกด shutter นั้น พวกเธอต่างมาพร้อมกับหลากหลายท่าทาง  ไม่ว่าจะเป็นโพสมาตรฐานแบบเท้าสะเอวฉีกขาโชว์ความเรียวยาว   จือปากจิกกล้องแตก  จนไปถึงหมุนตัวโบกสะบัดกระโปรงให้พริ้วไหวกรุยกราย  

แต่สำหรับ  Zendaya  ที่ถูกเปรียบเทียบว่ามีออร่าสูงส่งประดุจเจ้าหญิงแห่งพรมแดง    ทักษะการโพสของเธอนั้นได้รับการยกย่องว่าอยู่เหนือไปอีกระดับเลยทีเดียว!

ภาพของ Zendaya ที่สวยงามราวกับกำลังถ่ายแบบ ไม่ใช่เดินพรมแดงเพียงไม่กี่นาทีได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมจนมีคนถามไถ่ว่าเธอทำได้เช่นไร?

Christine Buzan TikToker ที่ประกาศตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการโพสที่มีผู้ติดตาม 1.6 ล้านคนได้วิเคราะห์ว่า เทคนิคโพสสวยเป๊ะแบบ Zendaya นั้นไม่ได้ยากเย็น เมื่อก้าวมาถึงจุดถ่ายรูป ก็ยึดเอาโพสตั้งหลักของตัวเองให้มั่นคง แล้วเคลื่อนไหวบนของร่างกายไปเรื่อยๆ   สิ่งนี้จะทำให้ช่างภาพเก็บภาพจากมุมที่หลากหลายและเลือกภาพที่สวยที่สุุดมานำเสนอ ซึ่งหลายคนอาจเคยประสบกับปัญหาว่าถ่ายภาพออกมาแล้วดูเกร็ง หามุมสวยยาก เพราะยึดติดกับโพสเดิมๆที่คิดว่าตัวเองดูดี เข้ากล้องเมื่อไรก็โพสแบบเดิมๆและ 'เก๊กสวยนานไป' จนภาพออกมาไม่เป็นธรรมชาติ ดูอึดอัดและเกร็งเพราะพะวักพะวงห่วงแต่มุมสวย   แต่ Zendaya ได้เพิ่มตัวเลือกที่ดู creative ด้วยการเริ่มต้นโพสด้วยการวางขาที่จุดใดจุดหนึ่ง แล้วค่อยๆหันศีรษะ วางมือ บิดตัวไปในตำแหน่งต่างๆ  เมื่อฝึกหลายๆโพส ก็ทำให้เราค้นพบมุมที่ใช่ที่สุด   แม้แต่การนั่งไขว่ห้างชมแฟชั่นโชว์ก็ไม่ได้ดูธรรมดาอีกต่อไป!

ตัว Zen เคยแชร์ How to ถ่ายภาพให้สวยเริ่ดเหมือนกับเกิดมาก็ photogenic แบบธรรมชาติไว้ว่า  

• เลือกสีหน้าที่ดูสวยโดนใจ ไม่ต้องคอยเปลี่ยนสีหน้าไปเรื่อยๆ เพราะในช่วงเวลาจำกัด แค่เสี้ยววินาทีทีเปลี่ยนการแสดงอารมณ์บนใบหน้าก็จะเกิดโมเมนท์ที่ดูเหวอขึ้นมาได้ และรู้ตัวอีกที ภาพที่ดูไม่สวยก็ถูกแชร์ไปทั่วใน internet แล้ว

 

• เดินช้าๆ ใจเย็นๆ แม้ว่าช่างภาพจะเอาแต่ตะโกนร้องเรียกให้หันไปหา  โฟกัสที่การโพส ไม่ใช่ช่างภาพ  เพราะเธอมีสมาธิแบบนี้จึงไร้ภาพที่กำลังอ้าปากหวอหรือทำหน้าเหมือนกับตะโกนโต้ตอบกับคนในงาน "คุณจะไม่มีทางเห็นฉันหลุดเหวอเด็ดขาด"

• มีเพื่อนรู้ใจไปด้วย เพราะจะต้องมีคนคอยเช็คความเป๊ะให้ ไม่ว่าจะเป็นฟัน ร่องจมูก

 
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ถ่ายภาพออกมาสวยโดดเด่นที่ Zen ฝากไว้คือ การสร้างความรักในตัวตนที่เธอเป็นนั่นเอง

"การรักตัวเองไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นคนหยิ่งยโส หลงตัวเอง หรือเห็นแก่ตัว มันสมควรแล้วที่เราจะรักตัวตนของเรา มันสมควรแล้วที่เราจะมองดูตัวเองแล้วบอกว่า ให้ตายเถอะ หล่อนดูงามเชียวนะจ๊ะ!"

  คู่ควรต่อความเป็น  meme  เหมือน Rihanna

อิทธิพลของ social media นั้นอาจจะทำให้บางคนคิดว่า งานพรมแดงระดับ high profile ได้กลายมาเป็นสนามประชันขันแข่งของคนดังเพื่อจะมีซีนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอีเวนท์ที่กำหนด theme การแต่งกายอย่าง Met Gala ที่เปิดโอกาสให้คนดังพกพาความเยอะแบบไร้ขีดจำกัด จะนั่งให้ชายกำยำแบกเสลี่ยงพาเข้างาน เปลี่ยน costume เป็นหลายลุคกลางพรมแดง แต่ง cosplay เป็นโคมไฟระย้า อุ้มทารกหุ่นยนต์ไปจนถึงแต่ง mascot แมวยักษ์ ไอเดียพวกนี้มักสร้างความฮือฮาในกลุ่มชาวเน็ทจนเกิดเป็น viral ด้วย meme ต่างๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนดังที่ทุ่มทุนแต่งกายแบบหลุดโลกมาเดินพรมแดงจะสร้างความตราตรึงใจจนเป็นที่จดจำไปยาวนานหลายปี เพราะชาวเน็ทต่างก็จับทางกันได้แล้วว่า วิธีดึงดูดความสนใจมักจะลงเอยด้วยวิธีเยอะๆใหญ่ๆ หางชุดต้องยาวหลายเมตร volume ต้องพองแน่น จนไม่อาจเปรียบได้ว่ามันเป็นลุคในตำนาน เพราะปีต่อไปก็คงมีคนแต่งตัวด้วยไอเดียคล้ายกันมาออกงาน

แต่สำหรับชุดสุดอลังการสร้างตำนาน  Met Gala ย่อมต้องเป็นชุดคลุมจักรพรรดิของ Rihanna  คงไม่มีใครปฏิเสธความงามวิจิตรของงานฝีมือดีไซน์เนอร์ชาวจีนที่  Rih เสาะหาจาก internet  เพื่อลุคที่ตรงกับธีมงาน China: Through the Looking Glass  แต่เพราะลักษณะของผ้าเหลืองอร่ามที่ดูหนานุ่มชวนหิวยั้นทำให้มีผู้ส่ง meme ออกมากระเซ้าเย้าแหย่ Rih นับไม่ถ้วน  ทั้งไข่เจียว เครป พิซซ่า ก็มาครบ

อาจจะมีคนเข้าใจว่า เพราะความมั่นเกินร้อยของ Rih ทำให้เธอตัดสินใจเลือกชุดที่เกินหน้าเกินตาคนอื่นในงาน  และแผ่ออร่าตัวมารดาได้ fierce สุดๆ  แต่ความจริงแล้ว Rih ได้เปิดใจภายหลังว่า ทันทีที่ก้าวออกมาจากรถก็เกิดอาการวิตกจริต  เธอหวั่นว่า นี่อาจจะเป็นลุคที่เล่นใหญ่จนเกินไปและผู้คนก็คงหัวเราะเยาะใส่ราวกับเธอเป็นตัวตลกประจำงาน   ในที่สุดเมื่อเรียกกำลังใจขึ้นมาได้แล้ว เธอก็เชิดหน้าแบบไม่หวั่นว่าจะมารู้สึกเสียใจภายหลัง  เธอยังชื่นชม meme กระทะทอดไข่ในตำนานซะด้วยซ้ำ

 
แหกกรอบตัวเองสร้างความฮือฮาแบบ Angelina

โพสที่เรียกว่า  The Leg Flash  ไม่ได้มาจากการคิดค้นแปลกใหม่ งานไหนงานนั้นเราก็จะได้พบกับคนดังใส่ชุดแหวกขาสูง โพสด้วยท่าเท้าสะเอวหรือเรียกว่า 'กาน้ำชา' แล้วฉีกขาด้านที่ผ่าข้างสูงออกมาโชว์ความเรียวยาว   นี่คือท่าประจำตัวของ  Jennifer Lopez และนางแบบชื่อดังอีกหลายคน  แต่สำหรับ Angelina Jolie ที่โด่งดังเรื่องบุคลิกแบบนางพญา มันคือเรื่องที่เหนือความคาดหมายสุดๆ   ตลอดมานั้น ยามที่เยื้องย่างบนพรมแดง เธอไม่เน้นใส่จริตเพิ่ม sex appeal แต่มักจะยืนตรงๆดุจรูปปั้นที่สลักเสลาอย่างงามวิจิตร  แขนสองข้างของเธอมักวางแนบลำตัว ไม่บิดเรือนร่างให้ดูเย้ายวนใจ ถึงจะใส่ชุดผ่าสูงก็เพียงแต่พักเข่าเบาๆ ดังที่เห็นในภาพล่าง

แต่เมื่อโลกได้ประจักษ์ถึงโพสฉีกขาเชิดหน้าท้าทายในงาน Oscar เในปี 2012 จึงทำให้ Angie กลายเป็น viral ทันที! แม้ชุดสีดำนี้จะไม่ได้แหวกแนวไปจากสไตล์เรียบหรูที่เธอโปรดปราน แต่ energy ที่คล้ายจะบอกว่า 'แม่มาแล้ว ยอมจำนนซะเถอะ' ได้ฉีกภาพลักษณ์ Angie แบบเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง เพียงแค่เธอโชว์เรียวขาข้างขวาก็สร้างกระแสร้อนแรงสุดๆ ผ่านไปแล้วหลายปีก็ยังมีคนพูดถึง แม้กระทั่งปฏิกิริยาของงแขกในงานยังอื้ออึง นักเขียนบท Jim Rash ที่คว้า Oscar จากงานเดียวกันถึงกับอดใจไม่อยู่ ก้าวฉับๆมาโพสฉีกขาตอนรับรางวัลอันทรงเกียรติเหมือนกัน เขาเผยว่า เมื่อได้เห็นขาของ Angie ก็นึกทันทีว่าจะต้องเอาอย่าง เพราะเขาก็อยากจะได้แสงบ้างเหมือนกัน นั่นเป็นเพราะว่าเขาต้องขึ้นไปรับรางวัลร่วมกับเพื่อนนักเขียนบทอีกสองคน แต่ไม่ได้เป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณ พอยืนโพสแบบนั้นแสงก็มาสมใจ

คนในงานยังอินขนาดนั้น ในโลกออนไลน์ได้เกิดปรากฏการณ์ 'legbombing' จากตอนแรกที่ตกตะลึงพรึงเพริดกับ  Angie ในมาดใหม่  meme สุดฮาก็ไหลมาเทมา เพจ @AngiesRightLeg  ที่สร้างขึ้นมาเพื่อนำเสนอคอนเทนท์ขาขวาของเธอมีผู้กดติดตามเกือบสี่หมื่นภายในเวลาสามวัน  เว็บอย่างเป็นทางการของ  Oscar ใช้ภาพโพสฉีกขาของเธอมารวมในโมเมนท์สุดตราตรึงใจ    หรือพูดง่ายๆคือ ขาขวาของ Angie ได้แย่งซีนของงานไปเกือบหมด บางคนถึงกับประกาศว่า ผู้ชนะ Oscar ตัวจริงคือขาขวาของ Angie ต่างหาก!


เธอให้เหตุผลเรื่องโพสโชว์ขาในตำนานไว้ว่า

"ฉันเตรียมชุดอื่นที่ดูซับซ้อนอลังการไว้แล้ว แต่พอถึงวันงานก็เลือกชุดที่ใส่สบาย ซึ่งก็เป็นชุดที่เห็นกันนั่นแหละค่ะ ฉันคิดว่า เป็นเพราะรู้สึกสบายกายสบายใจเอามากๆ ทำให้มีความสดชื่นร่าเริงขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นธีมของหนังเรื่องนั้น เราเปิดใจยอมรับด้านนี้ของตัวเอง และดูเหมือนว่าผู้คนก็หันมาสนอกสนใจกัน ก็ไม่รู้สิคะ"

นับจากงาน Oscar ปี 2012 เราก็ไม่ได้เห็น Angie ลุกขึ้นมาโพสบนพรมแดงฉีกแนวเดิมจนสั่นสะเทือนโลก internet อีก   เรียกได้ว่าเป็นโมเมนท์ที่หาได้ยากเย็นนักนัก  เธออาจจะโพสถ่ายแบบที่ดูหวือหวาขึ้นมาจากปกตินิดหน่อย แต่ก็ไม่มีครั้งใดเลยที่โชว์เผ็ดแซ่บจนแย่งซีนได้เหมือนวันนั้น


มีความคิดหนึ่งแว้บขึ้นมาในหัวว่า โมเมนท์ตราตรึงใจประจำ Oscar นี้อาจจะทำให้นางเอกสาวที่คร่ำหวอดกับแฟชั่นพรมแดงอีกหลายคนต้องแอบแสลงใจเบาๆ โชว์เพียงขาขวายังเป็นตำนาน หากวันหนึ่งเธอเกิดนึกสนุกโพสแบบสุดเหวี่ยงยิ่งกว่าเดิม ก็จะเกิด viral จนคนร่วมงานเดียวกันถูกลืมรึเปล่า?

โป๊ให้เป็นตำนานเหมือนกับ Lil Kim

คุณเห็น Lil Kim สมัยยังสาวแล้วอาจจะรู้สึกเฉยๆ  สมัยนี้คนดังก็โป๊กันจนเคยชิน  ไม่ว่าจะเป็น naked dress สารพัดดีไซน์หรือชุดเดินถนนแบบไร้กางเกง ใส่ jackset จับคู่กับกางเกงชั้นในก็เดินชิลๆให้สื่อแฟชั่นอวยกันเป็นเรื่องปกติ  แต่หากย้อนไปในช่วงยี่สิบปีก่อน  ผู้คนยังไม่เข้าถึง social media  จะติดตาม gossip และแฟชั่นพรมแดงก็ต้องติดตามจากแทบลอยด์   สไตล์โป๊เปลือยไม่แคร์สื่อยังเป็นสิ่งที่ผู้คนยังตั้งแง่อยู่ไม่น้อยเลย   ตอนที่ Gwyneth Paltrow ใส่ชุด no bra ไปเดินพรมแดง Oscar ปี 2002 ถือว่าอื้อฉาวเอาเรื่อง  แม้แต่วงการ hip hop  ตัวแร็พเพอร์สาวที่แสดงออกทางเพศจนถูกมองว่าแรงก็ยังไม่ถึงกับแต่งตัวเผยเนื้อหนังแบบเต็มตาเหมือนกับทุกวันนี้

แต่หากต้องยกเรื่องความโป๊ไม่แคร์สื่อให้สักคนหนึ่ง เธอคือ original ของแฟชั่นโป๊เปลือย ไม่ได้แซ่บแค่ใน MV หรือ magazine แต่เมื่อใดที่ได้ออกงานใหญ่ เธอก็จะเค้นไอเดียเพื่อนำเสนอศิลปะความโป๊จนไม่อาจจะละสายตาไปได้

เธอคือ Lil Kim...

แร็พเพอร์สาวที่แรงได้แรงอีกไม่หวั่นต่อคำครหาผู้นี้ได้สร้างลุคที่โป๊ในระดับ iconic ไว้หลากหลาย หนึ่งในชุดที่สร้างเสียงกล่าวขวัญที่สุดคืองาน VMAs ปี 1999 บอดี้สูทสีลาเวนเดอร์เปิดเต้าหนึ่งข้าง มีเพียงดอกไม้วิบวับที่ปิดหัวจุกไว้ โมเมนท์โลกไม่ลืมคือการขึ้นเวทีไปประกาศรางวัลกับ Diana Ross และ Mary J. Blige แน่นอนว่าผู้ชมต้องตกตะลึงเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ตามมา!

Misa Hylton  สไตลิสต์คู่ใจของ Lil Kim เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังลุคที่ทำให้ผู้คนอ้าปากค้าง   ด้วยการยึดมั่นคติ "ไม่เคยรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ปรารถนาจะการสร้างสรรค์ขึ้นมา" ไม่ว่ามันจะเป็นภาพที่ดูล่อแหลมดึงดูดเสียงวิจารณ์เพียงใด เธอก็ช่วยบันดาลให้ Lil Kim ที่มีส่วนสูงไม่ถึง 150 cm ให้ stand out แย่งซีนแบบคนอื่นแทบไม่มีโอกาสช่วงชิงกลับมา    บางคนถือว่า พวกเธอเปรียบเหมือนกับ OG influencer ก่อนการกำเนิด  Instagram และ TikTok   เพราะแม้จะมีเสียงก่นด่าว่าเธอเป็นศิลปินหน้าไม่อายที่ใช้ความโป๊มาสร้างกระแส    

แต่วันเวลาผ่านไป หลายคนกลับยอมรับว่า Lil Kim มีส่วนช่วยในการผลักดันให้วงการ hip hop ยุติการตีตราและการจำกัดการแสดงออกทางเพศของศิลปินหญิง ซึ่งตลอดมานั้น แร็พเพอร์ชายจะใช้ถ้อยคำหรือแสดงพฤติกรรมกดขี่ทางเพศ และอวดอ้างลีลาบนเตียงอย่างโจ่งแจ้งขนาดไหน พวกเค้าก็ถูกยกให้เป็นยอดชายที่แฟนๆอยากจะเลียนแบบ  แต่เมื่อศิลปินหญิงโชว์เรือนร่างเย้ายวนใจกลับถูกด้อยค่าให้ดูต่ำต้อยว่ามีพฤติกรรมเสื่อเสีย ไม่รักศักดิ์ศรีผู้หญิง   ศิลปินชั้นนำอย่าง Missy Elliot ก็ยังยกให้ Lil Kim เป็นผู้กล้าที่จะฉีกกรอบโดยไม่สนว่า คนรอบข้างจะพิพากษาเธอเช่นไร  แฟชั่นโป๊เปลือยของ Lil Kim ในยุคนั้นจึงเปรียบเหมือนการประกาศถึงเสรีของผู้หญิงที่จะแสดงออกทางเพศและเป็นเจ้าของร่างกายตัวเองจนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นหลัง

ถ้าหากมี Twitter ตั้งแต่ปลาย 90s Lil Kim อาจจะ break the internet มาแล้วหลายครั้ง   ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนเมื่อใด  ก็กลายเป็นศูนย์กลางที่ดึงดูดความสนใจตั้งแต่ต้นจนจบ  เธอจะไม่โป๊แบบเดิมๆอย่างการใส่ชุด see through โชว์สัดส่วนใต้ร่มผ้า แต่โฟกัสที่ความสร้างสรรค์  ตอนที่  Beyonce จับแฟชั่นแบบ Lil KIm  มาเป็นต้นแบบในการแต่งกายเข้าเทศกาล Halloween  ก็จัดเต็มได้หลายลุค และยังมี  Cardi B ที่สร้างแรงบันดาลใจจากแฟชั่นและโพสประจำตัวของแร็พเพอร์รุ่นพี่มาแล้วเช่นกัน

ไม่ว่าคนรอบข้างจะมองด้วยสายตาแบบไหน  Lil Kim ก็ดูมาดมั่นไม่เคยเผยให้เห็นถึงความอึดอัดคับข้องใจ   เธอเป็นสีสันที่จัดจ้านของงานพรมแดงเสมอ  จะเป็นงานไหน เธอก็มักรับตำแหน่ง  show-stopper   บอกเลยว่าเมื่อเธอห่างหายไป การติดตามแฟชั่นพรมแดงก็ทำให้รู้สึกจืดชืดลงไปประมาณหนึ่ง   แม้จะรู้ว่า เราคงได้เห็นคนดังที่ตั้งใจแต่งตัวแบบเวิ่นเวอมาขโมยซีน แต่แอบคิดถึงบรรยากาศสนุกสนานที่ Lil Kim เคยฝากไว้อยู่เหมือนกัน