เจาะประวัติอัน โบฮยอน พรเะเอกน่ารักหวานใจของจีซู
candy 29 18
ข่าว dating สุดร้อนนาทีนี้ย่อมต้องเป็นความรักของ 'จีซู❤️อัน โบฮยอน' ซึ่งเป็นการเปิดตัวความสัมพันธ์อย่างสวยงามผิดแผกกับสมาชิกร่วมวงคนอื่นใน BLACKPINK ที่ต้นสังกัดตีมึนใส่ ไม่ยอมอธิบายสถานะ เมื่อมาถึงคราวของพี่สาวใจดีประจำวงมีความรักกับหนุ่มหล่อร่วมวงการ reaction ของแฟนๆนั้นเต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก ต้นสังกัดสองฝ่ายก็ไม่รั้งรอ ยืนยันข่าวแบบ happy กันถ้วนหน้า
หลายคนคงรู้จักอัน โบฮยอนจากหลากหลายผลงานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากันบ้างแล้ว แต่ลองมาเจาะประวัติของเขาให้ลึกกว่าเดิมกันอีกสักนิดกับพวกเรากันสิคะ
Debut ในวงการด้วยอาชีพนายแบบ
จุดเด่น: รูปร่างสูงล่ำ ความ hot แบบนักสู้ตัวจริง
รูปร่างสูงใหญ่ราวๆ187 cm และโคตรงหน้าคมสันมีมิตินั้นเข้าทางตลาดแฟชั่นอย่างแน่นอน เมื่อไล่กันไปทีละส่วน รูปลักษณ์ของเขาตรงกับความหล่อในอุดมคติที่ชาวเกาหลีคลั่งไคล้ ทั้งไหล่กว้าง กล้ามแขนบึกบึน เอวแคบ กล้ามท้องปรากฏเป็นลูกๆ ขายาวเหยียดไม่สิ้นสุด หุ่นพระเอกเว็บตูนก็มาแนวนี้ทั้งนั้น แต่เพราะอยู่ในโรงเรียนพลศึกษามาตลอด คุ้นเคยแต่กับการฝึกซ้อมต่อยมวย ชีวิตวนเวียนกับกีฬาที่ทำให้เหงื่อไหลไคลย้อย แม้จะหุ่นดีจนเพื่อนฝูงอิจฉา แต่ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการเป็นนายแบบสักนิด เพียงแต่คิดว่า ไหนๆก็ตัวสูงแล้ว ลองดูสักตั้ง และพบว่า งานนี้ทั้งสนุกและได้เปิดโลกให้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ไม่นานที่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยก็ได้งานแรกทั้งๆที่ไม่ม่ี agency อาจารย์ที่คณะก็ได้ตั้งความหวังว่าเขาไปได้สวยในวงการนี้
เมื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยเอกวิชา modeling ทำให้เขาได้ทำความรู้จักกับคิม อูบินจนสนิทสนมกับ ตอนเข้าค่ายฝึกนายแบบ เขายังหน้าใหม่สุดๆ ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าที่ดูดีจะใส่เดินบนเวที เพราะมีแต่ชุดวอร์มเพื่อใส่ออกกำลังเท่านั้น อูบินคือคนที่เสนอตัวให้ยืมชุดและให้คำแนะนำต่างๆ พวกเค้าผ่าน casting จนได้เดินแบบใน fashion week แต่เมื่อตัดสินใจเข้าวงการแสดงเพราะในขณะนั้น พระเอกที่เคยทำอาชีพนายแบบมาก่อนกำลังได้รับความนิยม แต่เส้นทางสู่ความโด่งดังของเขาไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบแต่อย่างใด ฝ่ายอูบินนั้นแจ้งเกิดจนดังเปรี้ยงปร้างและคว้าบทพระเอกได้ก่อนเขานานหลายปีเลยทีเดียว ทำให้โบฮยอนถือว่าอูบินเป็นรุ่นพี่ในวงการที่คอยหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ แม้เขาจะเป็นฝ่ายอายุมากกว่า 1 ปีและมองว่าอูบินเหมือนน้องชาย
การใช้ชีวิตแบบนักกีฬาที่ต้องออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มใสนั้นทำให้เขาดูได้เปรียบในการ cast งานนายแบบ แต่เมื่อทำอาชีพนี้หลายปีก็ตัดสินใจเปลี่ยนสายมาที่การแสดง หนึ่งในเหตุผลที่เขารีไทร์ตัวเองจากการเป็นนายแบบอาจจะทำให้คุณประหลาดใจ เพราะเขาเล่าว่า ยิ่งนานวัน ร่างกายก็ใหญ่บึ้กขึ้นมาเรื่อยๆจากการออกกำลัง หบังจากได้ชมภาพยนตร์ก็เกิดแรงบันดาลใจว่า เขาก็ทำเหมือนกับพระเอกในจอได้เช่นกัน แม้จะไม่มีประสบการณ์ทางการแสดงมาก่อน เขาก็ดิ้นรนหาเงินจากงานพาร์มไทม์เพื่อลงเรียนการแสดง และฝึกฝนด้วยตัวเองจากการเลียนแบบพระเอกหลายคน และพยายามสร้างจุดเด่นของตัวเองขึ้นมา เขาพยายามไต่เต้าจากบทเล็กๆที่น้อยคนจะจำได้ด้วยการพึ่งพาตัวเองแบบเริ่มต้นจากศูนย์จริงๆ
เคยขึ้นชกมวยสมัครเล่นจนคว้าเหรียญทอง
โบฮยอนเลือกเส้นทางการศึกษาไปที่สายพลศึกษาและฝึกฝนมวยสากลสมัครเล่นมาตั้งแต่ยังเป็นวัยใส ที่จริงแล้วแมวมอง modeling เข้ามาติดต่อเขาถึงแผนกมวยในโรงเรียนพลศึกษาแต่พ่อแม่ต่อต้านความคิดที่จะเบนสายไปเอาดีในวงการบันเทิงอย่างหนัก แต่เมื่อเขาขึ้นสังเวียนแข่งขันมวยในฐานะตัวแทนมหานครปูซานจนคว้าเหรียญทองมาได้ เขากลับรู้สึกวิตกกังวลกับอาชีพในอนาคต เพราะมวยไม่ได้เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในเกาหลีเท่ากับกีฬาชนิดอื่น ทำให้เขาตัดสินใจศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาศิลปะการแสดง เอก modeling และถอนตัวจากการเป็นนักมวย ซึ่งที่ผ่านมา บาดแผลและอาการบาดเจ็บจากการชกมวยก็ทำให้ครอบครัวต้องกังวลมาโดยตลอด
จากผลงานล่าสุดที่แฟนๆซีรีส์เกาหลีในต่างประเทศได้ติดตามผ่าน Netflix นั้นอาจจะทำให้หลายคนมองว่า อัน โบฮยอนมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ ดูเป็นแชโบลที่เพียบพร้อมและมีเสน่ห์ประทับใจด้วยรอยยิ้มแก้มบุ๋มนิดๆ แต่ที่จริง เขาอายุ 35 ปี และทำงานในวงการบันเทิงมาตั้งแต่ปี 2007 อายุยังไม่ถึงยี่สิบก็มาเอาดีทางงานนายแบบ และต้องใช้เวลาถึง 7 ปีกว่าจะได้รับแสดงซีรีส์เรื่องแรก
เรื่องราวของเขาฟังคล้ายคลึงกับพระเอกเกาหลีอีกหลายคนที่ต้องฝ่าฟันอัตราการแข่งขันที่สูงลิบลิ่วในวงการ กว่าจะคว้าโอกาสเดบิวท์ได้ก็อายุยี่สิบกลางๆไปแล้ว คู่แข่งที่ทั้งมากความสามารถและหล่อเหลารูปร่างเซ็กซี่เดินชนกันให้เกลื่อนวงการ สิ่งสำคัญที่สุดย่อมเป็นการไขว่คว้าหาจุดเปลี่ยนที่จะพลิกชีวิตนักแสดงสมทบที่ไม่ได้สะดุดตาให้กลายเป็นที่จดจำ เปิดประตูโอกาสสู่ความเป็นนักแสดงชั้นนำได้ในที่สุด
เรื่องราวของเขาฟังคล้ายคลึงกับพระเอกเกาหลีอีกหลายคนที่ต้องฝ่าฟันอัตราการแข่งขันที่สูงลิบลิ่วในวงการ กว่าจะคว้าโอกาสเดบิวท์ได้ก็อายุยี่สิบกลางๆไปแล้ว คู่แข่งที่ทั้งมากความสามารถและหล่อเหลารูปร่างเซ็กซี่เดินชนกันให้เกลื่อนวงการ สิ่งสำคัญที่สุดย่อมเป็นการไขว่คว้าหาจุดเปลี่ยนที่จะพลิกชีวิตนักแสดงสมทบที่ไม่ได้สะดุดตาให้กลายเป็นที่จดจำ เปิดประตูโอกาสสู่ความเป็นนักแสดงชั้นนำได้ในที่สุด
หนึ่งในจุดแข็งของโบฮยอนคือประสบการณ์เข้มข้นจากการฝึกฝนศิลปะการป้องกันตัว ซึ่งเขาเก่งกาจจนเป็นนักกีฬาเหรียญทอง นั้นหมายความว่า ไม่ได้มีแต่เรือนร่างบึกบีนชวนให้ใจหวั่นไหว แต่เขายังมีพื้นฐานการต่อสู้ที่ได้เปรียบในการคว้าบทในหนัง action เพราะไม่เพียงแต่มวยสากลสมัครเล่น ความแข็งแกร่งและประสบการณ์จริงจะถูกนำมาต่อยอดในการเข้าถึงบทบาท แม้ว่าผลงานที่ผ่านมาจะเป็นบทสมทบในซีรีส์ทั้งแนว rom-com และ drama แต่เมื่อจับงาน action เมื่อใด ออร่าความเท่แบบดิบๆจะเปล่งประกายชัดเจน
เส้นทางนักแสดงสมทบที่สู้ชีวิต แม้จะมีผลงานมาตลอดก็ยังต้องทำงานใช้แรงงานควบคู่ไปด้วย
แม้จะร่วมทีมนักแสดง Descendants of the Sun ซีรีส์รักหวานผสานพลังปลุกใจให้รักชาติที่ทำให้เขาได้เข้ามาประชันบทบาทกับนักแสดง A-List อย่างซง จุงกีและซง ฮเยคโย แต่รายได้ก็ไม่ได้พอเพียงกับการหาเลี่้ยงปากท้อง ที่ผ่านมาเขาต้องทำงานนักแสดงควบกับการใช้แรงงาน นึกภาพแล้ว นี่มันไม่ได้ต่างจากพล็อทหนังชีวิต! นักแสดงโนเนมรูปงามที่ทั้งหล่อเหลากล้ามแน่นทำงานแบกหามในไซต์ก่อสร้าง!
"ผมเคยหารายได้เพิ่มเติมจากการทำงานในไซต์ก่อสร้างในขณะที่ทำงานแสดงในวงการไปด้วย นอกจากนั้นก็เป็นงานในปั๊มน้ำมัน ศูนย์อาหาร ส่งหนังสือพิมพ์ หรือไม่ก็เป็นพนักงานจัดอีเวนท์วันเดียวจบ ทำงานมาสารพัดรูปแบบ ผมไม่เคยหยุดพักจากการทำงานเลย เพราะตอนนั้นค่าครองชีพสูงซะจนสร้างความยากลำบากให้กับชีวิตมากมายเลยล่ะครับ"
"ถึงแม้จะได้แสดงใน Descendants of the Sun ผมก็ยังทำงานในไซต์ก่อสร้างอยู่ มันเป็นซีรีส์ที่โด่งดังสุดๆ แต่ถึงจะมีคนจดจำได้แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเติมเต็มรายได้ให้เพียงพอกับค่าครองชีพ"
โบฮยอนยังเล่าด้วยอารมณ์ขันว่า เพราะความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ เพื่อนๆที่ปูซานนั้นมองเขาสูงส่งราวกับว่าเป็นซง จุงกีซะได้
"มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนๆที่ปูซานวีดีโอคอลมาหาผมตอนกำลังทำงานในไซต์ก่อสร้าง ผมรับสายและคิดไปว่าคงมีแต่เพื่อนๆตัวเองรออยู่ปลายสาย แต่กลายเป็นว่าเพื่อนอยากจะอวดผมให้เพื่อนๆของพวกเค้าให้ได้เห็นคนดัง แล้วตอนนั้นผมใส่หมวกนิรภัยทำงานอยู่ด้วยไงครับ ทั้งเพื่อนๆและเพื่อนของพวกเค้าก็อึ้งกันไปหมด แต่ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทำงานพิเศษหารายได้เสริมมาตั้งแต่ปี 2018 เพราะเริ่มจะม่ีรายได้มากขึ้น"
โบฮยอนยังเล่าด้วยอารมณ์ขันว่า เพราะความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ เพื่อนๆที่ปูซานนั้นมองเขาสูงส่งราวกับว่าเป็นซง จุงกีซะได้
"มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนๆที่ปูซานวีดีโอคอลมาหาผมตอนกำลังทำงานในไซต์ก่อสร้าง ผมรับสายและคิดไปว่าคงมีแต่เพื่อนๆตัวเองรออยู่ปลายสาย แต่กลายเป็นว่าเพื่อนอยากจะอวดผมให้เพื่อนๆของพวกเค้าให้ได้เห็นคนดัง แล้วตอนนั้นผมใส่หมวกนิรภัยทำงานอยู่ด้วยไงครับ ทั้งเพื่อนๆและเพื่อนของพวกเค้าก็อึ้งกันไปหมด แต่ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทำงานพิเศษหารายได้เสริมมาตั้งแต่ปี 2018 เพราะเริ่มจะม่ีรายได้มากขึ้น"
เพราะต้องใช้ชีวิตอย่างกระเสือกกระสนมาหลายปีในเมืองหลวงเพื่อจะสร้างฝันให้เป็นจริง จนรู้สึกฝังใจว่าเขาไม่สามารถมีชีวิตดีๆตามที่พ่อแม่คาดหวังไว้ได้ เคยผจญกับสถานการณ์น้ำท่วมห้องเหมือนหนัง Parasite และรับมือกับปัญหาอย่างโดดเดี่ยวเพราะไม่ต้องการสร้างความกังวลให้แม่ เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงรายได้จนอย่สุขสบายขึ้นจึงตัดสินใจชวนแม่มาเที่ยวกรุงโซล ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยกล้าให้พ่อแม่มาเห็นสภาพความเป็นอยู่เพราะตัวเองอาศัยในห้องคับแคบ แต่คงพูดได้เต็มปากว่า เขาไม่จำเป็นต้องรู้สึกอับอายพ่อแม่อีกแล้ว
รับบทสมทบที่อาจจะไม่โดดเด่นมากนักจนกระทั่งสร้างชื่อจาก Itaewon Class
มาถึงปี 2020 ซีรีส์ Itaewon Class ก็นำพาโบฮยอนให้มาพบจุดเปลี่ยนที่พลิกชีวิตนักแสดง ในบางครั้ง บทตัวร้ายที่คนดูอยากหยุมหัวนั้นอาจจะเหมือนกับ booster เพิ่มแรงดึงดูดจนผู้ชมอยากจะทำความรู้จัก หลังจากที่ผลงานหลายต่อหลายเรื่องนั้น หลายคนยอมรับว่า ไม่ได้ใส่ใจจำบทบาทของโบฮยอน หรืออาจจะรู้จักเขาจากภาพของนักแสดงตัวสูงที่สุดในเรื่องเท่านั้น แน่นอนว่า เขาต้องทุ่มเทให้กับบทที่ท้าทายนี้ เพราะฝั่งพระเอกที่ต้องเชือดเฉือนกันคือพัค ซอจุน พระเอกดังที่โชว์ฝีมือการแสดงจากซีรีส์ดังติดต่อกันหลายเรื่อง หากไม่ใส่พลังให้มากพอ อาจจะเจอออร่าพระเอกเบียดบังให้จืดจางไป
โบฮยอนได้พิสูจน์ให้ผู้ชมประจักษ์ชัดเจนว่า มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะเปล่งประกาย ความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ทำให้งาน TV และ presente เริ่มไหลมาเทมา หลังจากที่พยายามไล่ตามความฝันในวงการมาหลายปี เขาก็ขึ้นแท่นพระเอกได้อย่า่งเต็มตัว นี่คือย่างก้าวแห่งความสำเร็จที่ห่างไกลจากช่วงเวลาที่ต้องทำงานใช้แรงงานเพื่อเป็นรายได้เสริมอาชีพนักแสดงเมื่อไม่กี่ปีก่อน
โบฮยอนได้พิสูจน์ให้ผู้ชมประจักษ์ชัดเจนว่า มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะเปล่งประกาย ความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ทำให้งาน TV และ presente เริ่มไหลมาเทมา หลังจากที่พยายามไล่ตามความฝันในวงการมาหลายปี เขาก็ขึ้นแท่นพระเอกได้อย่า่งเต็มตัว นี่คือย่างก้าวแห่งความสำเร็จที่ห่างไกลจากช่วงเวลาที่ต้องทำงานใช้แรงงานเพื่อเป็นรายได้เสริมอาชีพนักแสดงเมื่อไม่กี่ปีก่อน
โดดเด่นจาก Yumi's Cells และก้าวสู่บทพระเอกใน Military Prosecutor Doberman
Yumi's Cells อาจจะไม่ใช่ซีรีส์ในกระแส และตัวเลขก็คงอยู่ที่หนึ่งหลักมาโดยตลอด แต่แฟนเบสจาก Webtoon ที่รอคอยติดตามชม live action รวมถึงแฟนๆต่างประเทศที่เข้าถึง streaming service ถึงแม้ว่าจะเป็นแฟนเว็บตูนที่รู้ตอนจบอยู่แล้ว แต่ก็ก็อดจะเชียร์อุงไม่ได้ แฟนซีรีส์วิจารณ์อย่างปลาบปลื้มว่าเป็น casting ที่เป๊ะมาก เขาเปลี่ยนลุคเป็นหนุ่มนักพัฒนาเกมไว้เครา ดูแปลกใหม่จากภาพลักษณ์พระเอกเกาหลีเรื่องอื่นๆ ทั้งอินดี้และน่ารักน่าหยิก ล้างภาพตัวร้ายแห่ง Itaewon Class ไปอย่างสิ้นเชิง
ซีรีส์น่ารักที่มีความโดดเด่นจากการผสาน animation และเรื่องราวความรักสุด modern ในสังคมเกาหลีนั้นทำให้แฟนๆชื่นชมเคมีระหว่างคู่ของยูมิและอุงที่ดูสมจริงจนแอบเขินแทน ทั้งสองดูสนิทสนมกันอย่างเป้นธรรมชาติและเผยว่าแสดงเป็นคนรักได้อย่างสบายใจไร้ความอึดอัด ตอนโพรโมทก็น่าเอ็นดูจนอาจจะชวนให้คิดว่า เอ๊ะ...ใช่รึเปล่านะ?
(แต่นอกจอลงเอยกับใครก็ตามที่รู้กัน )
(แต่นอกจอลงเอยกับใครก็ตามที่รู้กัน )
จาก rom-com ที่ทำให้ใจฟู โบฮยอนก็คว้าบทนำแบบนำจริงๆ เขาคือจุดศูนย์กลางของเรื่องราว เห็นได้ชัดจากชื่อพระเอก 'โดแบมัน' ที่พ้องกับฉายาอัยการทหาร 'โดเบอร์แมน' ที่มาพร้อมกับการเปิดโปงด้านมืดของปัญหาคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจทางมิชอบในกองทัพ ผสานแนว action- drama - comedy ไว้ได้อย่างน่าติดตาม แม้พระเอกนางเอกจะยังไม่นับเป็นดาราแม่เหล็กเทียบเท่า A-Lister ที่นำแสดงซีรีส์โกยความนิยมมาหลายเรื่อง แต่ตัวเลขเรตติ้งจากนั้นถือว่าอยู่ในระดับน่าพอใจ และตอนจบก็ดึงผู้ชมเข้ามาได้เกิน 10% เป็นที่สำเร็จ สำหรับช่องเคเบิล นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่ย่ำแย่ และดูเหมือนว่าเส้นทางพระเอกจะเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นมาแล้ว
สร้างความฟินจาก See you in my 19th life
เพื่อนักแสดงมักพูดถึงโบฮยอนคล้ายๆกันว่าเขาทั้งสูงใหญ่และล่ำบึ้ก สร้าง vibe แบบดิบๆ เหมาะสมกับบท bad boy ตอนที่ประกาศ casting ระบุว่าเขาคือพระเอกที่จะมารับบทคุณชายมุน ซอฮา ปฏิกิริยาจากผู้ชมนั้นค่อยข้างหลากหลาย เพราะภาพจาก Webtoon นั้น พระเอกดูน่ารัก ค่อนข้าง innocent ทำให้ชาวเน็ทหลายคนวิจารณ์ว่า มันเป็น casting ที่ไม่เข้ากับบทเอาซะเลย จากภาพลักษณ์ของโบฮยอนทีมีประวัติชกมวยมาหลายปี ทั้งยังเคยสู้ชีวิตใช้แรงงานทำให้ดูเป็นหนุ่มมาดเข้มมากกว่าคุณชายลุคบอบบาง
แต่เมื่อซีรีส์ออนแอร์ พลัง transformation เสื้อผ้าหน้าผมนั้นทำให้เขาดูหล่อใสกว่าตอนแสดงเป็นอัยการทหารจนแทบจำไม่ได้ ทั้งการถ่ายทอดบทบาทคุณชายซึนเดเระก็เข้าตาผู้ชม ไม่เพียงแต่จะแสดงเป็นหนุ่มปากแข็งขี้อายได้น่ารัก แต่ยังมีด้านที่ดูโดดเดี่ยวน่าสงสาร ทำให้รู้สึกถึงความเปราะบาง เขาทุ่มเทลดน้ำหนักไป 8 -9 kg จนดูสะโอดสะองใกล้เคียงกับหุ่นช่วงวัยรุ่น คนที่ตัดสินเขาว่ามีดูแข็งแกร่งเกินไปสำหรับบทนี้อาจจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ ดูแค่ตอนแรกก็อาจจะคิดกันว่า อ้าว! พอสวมบทบาทเป็นแชโบลสุด perfect ก็ไม่ได้ขัดความรู้สึกเลยนี่นา
แต่เมื่อซีรีส์ออนแอร์ พลัง transformation เสื้อผ้าหน้าผมนั้นทำให้เขาดูหล่อใสกว่าตอนแสดงเป็นอัยการทหารจนแทบจำไม่ได้ ทั้งการถ่ายทอดบทบาทคุณชายซึนเดเระก็เข้าตาผู้ชม ไม่เพียงแต่จะแสดงเป็นหนุ่มปากแข็งขี้อายได้น่ารัก แต่ยังมีด้านที่ดูโดดเดี่ยวน่าสงสาร ทำให้รู้สึกถึงความเปราะบาง เขาทุ่มเทลดน้ำหนักไป 8 -9 kg จนดูสะโอดสะองใกล้เคียงกับหุ่นช่วงวัยรุ่น คนที่ตัดสินเขาว่ามีดูแข็งแกร่งเกินไปสำหรับบทนี้อาจจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ ดูแค่ตอนแรกก็อาจจะคิดกันว่า อ้าว! พอสวมบทบาทเป็นแชโบลสุด perfect ก็ไม่ได้ขัดความรู้สึกเลยนี่นา
การแสดงที่มีคุณภาพหมายถึงการสวมบทบาทให้น่าเชื่อ ยิ่งภาพลักษณ์ตัวละครดูห่างจากตัวตนในความเป็นจริง ก็ยิ่งเป็นงานที่ท้าทาย กลายเป็นว่าเริ่มแรกที่ชาวเน็ทเกาหลีตั้งแง่ว่ายังไงโบฮยอนก็ไม่เข้ากับบทนี้ และยังฟันธงว่าเขาจะเป็นจุดอ่อนของซีรีส์ แต่เขาแสดงได้ดีเกินคาดหมายจนได้รับคำชื่นชม แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้กวาดเรตติ้งสูง แต่ก็ทำให้ fanbase ต่างประเทศของโบฮยอนขยายตัว ในบ้านเราก็มีคนแสดงความปลาบปลื้มและรอติดตามผลงานใหม่ของเขาให้เห็นกันมากขึ้น
โบฮยอนใช้เวลานานหลายปีเพื่อก้าวมาถึงจุดนี้ จากตารางงานในอนาคต ชืื่อของเขาปรากฏในตำแหน่งนักแสดงนำชายทั้งหนังและซีรีส์ เช่น หนัง rom-com ที่ประกบคู่กับยุนอา นางเอกสาวยอดนิยม และซีรีส์แนว action สืบสวนสะท้อนปัญหาสังคมที่จะออนแอร์ในปีหน้า งานรายการ TV ก็มา โฆษณาก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีก กระแสความนิยมจากแฟนๆนั้นเห็นได้จากป้ายอวยพรวันเกิดและอีเวนท์ที่แฟนคลับจัดให้ไม่ต่างจากนักแสดงดังคนอื่นๆ
ยิ่งเรื่องราวความสัมพันธ์กับไอดอลสาวชื่อดังระดับโลกถูกเปิดเผย พวกเค้าคงต้องเตรียมตัวรับมือกับความสนใจที่หลั่งไหลเข้ามา เมื่อใดก็ตามที่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ ย่อมต้องมีคนจุดประเด็นถามไถ่เรื่องความรัก และถูกจับตามองทุกความเคลื่อนไหว
ยิ่งเรื่องราวความสัมพันธ์กับไอดอลสาวชื่อดังระดับโลกถูกเปิดเผย พวกเค้าคงต้องเตรียมตัวรับมือกับความสนใจที่หลั่งไหลเข้ามา เมื่อใดก็ตามที่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ ย่อมต้องมีคนจุดประเด็นถามไถ่เรื่องความรัก และถูกจับตามองทุกความเคลื่อนไหว
คำถามจากชาวเน็ท รู้จักกันผ่านจอง แฮอินรึเปล่านะ?
วนกลับมาที่ความสัมพันธ์กับจีซู ประเด็นที่ชาวเน็ทยังค้างคาใจนั้นหนีไม่พ้นกระแส shipping จีซูและจอง แฮอินที่เคยโคจรมาแสดงประกบคู่กันในซีรีส์ Snowdrop ถึงขนาดแฟนๆตั้งชื่อเล่นให้คู่จิ้นว่า 'แฮซู' ทั้งยังมีการนำเสนอทฤษฎีต่างๆเพื่อยืนยันว่าพวกเค้ากำลังคบหากันในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นภาษาร่างกาย แฟชั่น หรือท่าทางที่สนิทสนมกัน มีคนที่ปักใจเชื่อว่า พวกเค้ากำลังบอกใบ้เรื่องความสัมพันธ์ด้วย accessories คู่กันที่ได้รับความนิยมในหมู่คู่รักหนุ่มสาวเกาหลี และอาจจะสนิทกันเกินคำว่าเพื่อนร่วมงาน เพราะแฮอินก็เคยไปร่วมให้กำลังใจจีซูในคอนเสิร์ต BLACKPINK ร่วมกับทีมงาน และแสดงออกแบบน่ารักๆ ดูเหมือนเป็นมิตรภาพที่แนบแน่น ไม่ใช่แค่ร่วมงานกับในซีรีส์เรื่องเดียวแล้วค่อยๆห่างกันไป
แต่เมื่อมีการยืนยันชัดเจนว่าหวานใจของจีซูคือ โบฮยอน เพื่อนของแฮอิน นอกจากเรือ shipping จะล่มทันที เขาก็ถูกดึงให้มาร่วมในกระแสข่าวอันฮือฮานี้ ด้วยข้อสันนิษฐานว่า จีซูอาจจะทำความรู้จักโบฮยอนผ่านแฮอิน หรือมีเรื่่องราวซับซ้อนกว่านี้ บังเอิญว่า มันเป็นช่วงที่อฮอินกำลังออกสื่อพอดี เขาจึงต้องพบกับคำถามเรื่องข่าวคู่รักใหม่เอี่ยมของวงการอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่เมื่อมีการยืนยันชัดเจนว่าหวานใจของจีซูคือ โบฮยอน เพื่อนของแฮอิน นอกจากเรือ shipping จะล่มทันที เขาก็ถูกดึงให้มาร่วมในกระแสข่าวอันฮือฮานี้ ด้วยข้อสันนิษฐานว่า จีซูอาจจะทำความรู้จักโบฮยอนผ่านแฮอิน หรือมีเรื่่องราวซับซ้อนกว่านี้ บังเอิญว่า มันเป็นช่วงที่อฮอินกำลังออกสื่อพอดี เขาจึงต้องพบกับคำถามเรื่องข่าวคู่รักใหม่เอี่ยมของวงการอย่างเลี่ยงไม่ได้
แฮอินเผย ไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของจีซูและโบฮยอนมาก่อน
ระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อถ่ายทำซีรีส์ DP ซีซัน 2เสร็จสิ้น นอกจากจะต้องตอบคำถามเรื่องงาน นักข่าวก็ยิงคำถามเรื่องความรักของจีซู ถึงจะไม่ได้เปิดประเด็นว่า เธอเป็นนางเอกรุ่นน้องที่แฟนคลับลุ้นให้พวกเค้าคบกัน แต่ก็ไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นว่า เขารู้สึกอย่างไรที่เห็นเธอเปิดเผยความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมวงการ
"ผมไม่รู้เรื่องพวกเค้ามาก่อนครับ ที่จริงผมไม่ได้สนใจติดตามเรื่องข่าวการเดทของคนดังสักเท่าไร ผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนจะมาเป็นนักแสดง ตอนนี้เป็นคนดังแล้วก็จริง แต่ไม่ได้สนใจเรื่องความสัมพันธ์ของคนอื่นนัก" แฮอินบอกเล่าพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"ผมไม่รู้เรื่องพวกเค้ามาก่อนครับ ที่จริงผมไม่ได้สนใจติดตามเรื่องข่าวการเดทของคนดังสักเท่าไร ผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนจะมาเป็นนักแสดง ตอนนี้เป็นคนดังแล้วก็จริง แต่ไม่ได้สนใจเรื่องความสัมพันธ์ของคนอื่นนัก" แฮอินบอกเล่าพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
อวยพรให้คบกันอย่างมีความสุข รักษาความสัมพันธ์อันสวยงามต่อไป
แฮอินยังส่งความปรารถนาดีให้กับคู่รักเซเลบที่ตกเป็นเป้าความสนใจของสังคมว่า
"ผมรู้ข่าวจากหน้าบันเทิงบนเว็บก่อนที่จะมาสัมภาษณ์ครับ ผมหวังว่าทั้งสองจะคบกันให้ดีๆมีความรักที่สวยงามต่อไป"
"ผมรู้ข่าวจากหน้าบันเทิงบนเว็บก่อนที่จะมาสัมภาษณ์ครับ ผมหวังว่าทั้งสองจะคบกันให้ดีๆมีความรักที่สวยงามต่อไป"
เแฮอินเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับโบฮยอน นั่นคือ มีอายุ 35 ปี สำหรับสังคมเกาหลีที่ยึดมั่นในระบบลำดับอาวุโส อายุที่ห่างกันเพียง 7 ปีก็ถือว่าเป็นช่องว่างแห่งวัยแล้ว แต่สำหรับพี่ซูที่รักษาภาพลักษณ์ดีงามในวงการตอนนี้อายุ 28 เธอสั่งสมประสบการณ์จากบทบาทศิลปิน K-Pop และนักแสดงจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถตัดสินใจเลือกในทางที่ตัวเองต้องการ ไม่ใช่สาวน้อยที่ต้องคอยปกป้องประดุจไข่ในหิน หรือจะมีความรักกับใคร ก็ต้องรอคำอนุมัติจากคนอื่น ยิ่งสำรวจโพรไฟล์ของฝ่ายชายก็น่าจะทำให้แฟนๆรู้สึกดีๆกับความรักของพวกเค้า
ขอให้รักกันนานๆนะจ๊ะ
(ถ้าได้เห็นงาน collab อย่างถ่ายแบบคู่กันหรือ MVจะรู้สึกปลื้มปิติขึ้นกว่าเดิม!)
ขอให้รักกันนานๆนะจ๊ะ
(ถ้าได้เห็นงาน collab อย่างถ่ายแบบคู่กันหรือ MVจะรู้สึกปลื้มปิติขึ้นกว่าเดิม!)