เกาะกระแส Boy Love Series (BL Dramas) จากไทยและต่างประเทศ

26 15

วงการ romance ตะวันตก
จาก side characters ก้าวสู่  main lead
ในขณะที่มีผู้สร้างหนังคุณภาพที่ถ่ายทอดเรื่องราวรักร่วมเพศ ไม่ว่าจะเป็นชาย-ชายหรือหญิง-หญิง ที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัล Oscar แต่หนัง queer หลายเรื่องมักจะชูประเด็นดราม่าหนักหน่วง และสื่อถึงปัญหาการต่อต้านรักร่วมเพศที่สะท้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง หากพูดถึงหนังเกย์ในเวลาที่ผ่านมา อาจจะทำให้คุณนึกถึงโศกนาฏกรรมความรักที่ปรากฎใน Brokeback Mountain และ Moonlight แต่หากจะให้ไล่เรียงรายชื่อหนังรักชาย-ชายตราตรึงใจทีี่โด่งดังสร้างกระแสแรงจนเกิดเป็น fanbase ตามสนับสนุนนักแสดงนำนั้นคงต้องยอมรับว่า ยังมีไม่มากนัก หากเปรียบเทียบถึงปรากฏการณ์หนังรักชาย-หญิงตระกูล Twilight ก็อาจจะมี Call Me By Your Name ที่โดดเด่นจนเข้าชิง Oscar ในหลายสาขา ส่งให้ Timothée Chalamet กลายเป็นนักแสดงหนุ่มอายุน้อยที่ก้าวสู่เส้นทาง A List เต็มตัว

ความสำเร็จของ Call Me By Your Name  น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมเป็นพลังผลักดันให้ผู้คนเชื่อมั่นว่า gay romance สามารถดึงดูดผู้ชมจนก้าวไปสู่ระดับ mainstream  จนเกิดเป็นผลงานใหม่ๆที่ชูความรักของชาว queer ตามมา  

ภาพของตัวละครรักร่วมเพศจากผลงานหนังและซีรีส์แนว rom-com ไม่ใช่เรื่องแหกกรอบในวงการ Hollywood รวมถึงบันเทิงจากฝั่งยุโรป แต่โดยมากแล้ว เราจะพบเห็นการบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของชาว queer ผ่านตัวละครคู่รอง ซึ่งนักแสดงนำมักจะเป็นคู่หญิง-ชาย จนอาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่า ผู้สร้างได้ใช้คู่ชายรักชายเป็น 'สีสัน' ที่ช่วยเสริมให้เรื่องราวโดยรวมดูยิ่งหลากหลายน่าดึงดูดใจ  แต่ก็เคยมีเสียงเรียกร้องว่า  ต้องการให้มีผู้สร้างสรรค์ผลงานที่โฟกัสเรื่องราวความรักของชายรักชายผ่านตัวละครนำ ด้วยความเชื่อมั่นว่า มันจะต้องประสบความสำเร็จไม่แพ้ romance รูปแบบอื่น

 ทีนซีรีส์โด่งดังอย่าง Skin, Gossip Girl, Elite, Sex Education  และอีกหลายเรื่องดูจะไม่ขาดตัวละครชายรักชายและ LGBTQ  แต่บทบาทเหล่านั้นมักถูกกำหนดไว้ให้เป็นเพื่อนของพระเอก-นางเอก หรือเป็นบทที่โดดเด่นใกล้เคียงกัน แต่ gay romance ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของเรื่องราว  แม้นักแสดงจะโชว์ผลงานได้โดดเด่นทำให้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างฮือฮาว่า แย่งซีนจนดูน่าติดตามซะยิ่งกว่า main lead  แต่อาจจะไม่นับว่าเป็น BL ได้เต็มที่เพราะยังต้องแบ่ง airtime กับตัวละครอื่นไปอีกมาก  หลายคนเปรียบเทียบว่า  ภาพของ gay best friend ได้กลายเป็น  stereotype ของหนังซีรีส์แนว romance  ถึงขนาดหากไม่มีบทนี้แล้วอาจจะรู้สึกว่าบางอย่างขาดหายไป





แต่ทุกวันนี้ ตัวละคร gay จะไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทของตัวเอกในหนังซีรีส์ romance อีกต่อไป พวกเราได้พบทั้งผลงานโฟกัสกับความรักของชาว queer ทั้งในแนว coming of age, หนัง rom-com ต้อนรับเทศกาล Christmas และซีรีส์แบบฉบับ move on หลังเลิกราของคู่ชายรักชาย และเชื่อว่า ในอนาคต เราจะได้ติดตามผลงาน BL ที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิม

สงคราม Streaming service ยักษ์ใหญ่ที่กำลังฟาดฟันกันด้วยผลงานบันเทิงที่กอบโกยความนิยมได้พิสูจน์ให้พวกเราได้ประจักษ์ว่า Boys' Love ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ที่กำลังมาแรง แต่เป็นการก้าวข้ามกำแพงอคติสู่โลกแห่งการยอมรับความหลากหลายเพื่อสนับสนุนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม  ซีรีส์ romance ของชาว queer อาจจะไม่ได้ถูกจริตผู้ชมไปได้หมดทุกคน ไม่แตกต่างจาก genre อื่นๆ เพราะบางคนอาจจะไม่ปลื้มหนัง Horror บางคนอาจจะดูหนังแนวสงครามแล้วเผลอหลับ และยังมีผู้ชมอีกไม่น้อยที่ทนดูหนัง rom-com ไม่ได้

แต่ความนิยมที่เริ่มพุ่งสูงของ romance ชายรักชายทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชมกลุ่มเป้าหมายจะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่กลุ่มผู้มีรสนิยมปลาบปลื้ม BL เท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงผู้ชมหนังหวานทั่วไป เพราะอัตลักษณ์ทางเพศของตัวละครจะไม่ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคเหนี่ยวรั้งตัวเลขเรตติ้งอีกต่อไป

บันเทิงไทยผงาด กวาดความนิยมจากชุมชนคนรัก BL ในหลายประเทศ
เพราะโลกไร้พรมแดนที่ทำให้ผู้ชมในบ้านเราสามารถเข้าถึงผลงานบันเทิงจากต่างประเทศได้ง่ายดายแค่ไถๆคลิกๆจอไม่กี่ครั้ง หลายคนที่ได้พบกับคุณภาพอันแตกต่างหลายขั้นจึงเหินห่างจากการชมหนังซีรีส์ไทยเป็นเวลาหลายปี

แต่ในช่วงหลัง ความนิยมของซีรีส์ BL สัญชาติไทยได้ผงาดกวาดความนิยมจากผู้ชมต่างประเทศ ถึงขั้นที่ได้กำเนิด fandom สุด strong ของพระเอก ก้าวตาม K-Drama ที่ได้สร้างความสำเร็จไว้ สื่อชั้นนำอย่าง TIME Magazine ได้วิเคราะห์ว่า BL สัญชาติไทยกำลังเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อ gay romance ภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากที่มีการพัฒนาจนสามารถทำให้แฟนๆเปิดใจยอมรับ จนสามารถดึงดูดความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากช่วง quarantine ที่ BL สัญชาติไทยฉายแววความปังติดต่อกันหลายเรื่อง แม้ว่า scale รายได้นั้นยังเป็นตัวเลขที่ดูเบาๆ หากเปรียบเทียบกับวงการ Hollywood ที่มีเงินทุนมหาศาล แต่นี่นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำเสนอแนวทางการส่งออกผลงาน gay romance ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศที่ไม่ใช่มหาอำนาจทางการบันเทิงในเอเชีย



หากถามว่า BL สัญชาติไทยก้าวมามีอิทธิพลได้เพียงใด ก็น่าจะพิสูจน์ได้จากความโด่งดังที่เข้าตา luxury brand ชั้นนำ พระเอก BL ที่มี fanbase แข็งแกร่งจากต่างประเทศ (โดยเฉพาะประเทศที่มีกำลังซื้อ) ได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่ brand ambassador ด้วยเล็งเห็นไว้ว่า พวกเค้าสามารถสร้างมูลค่าให้กับ brand ได้ไม่แพ้กับดาวดังชาวเอเชียนคนอื่นๆ

จุดแข็ง: การสนับสนุน gay romance ที่ประเทศอนุรักษ์นิยมยังต่อต้าน
หลายคนน่าจะทราบแล้วว่า ในโลก manga   BL เป็นผลงานศิลปะที่มีอิทธิพลต่อแฟนๆมากขึ้นเรื่อยๆ   หากมองถึงชาติ Asian ที่มีชื่อเสียงเรื่องการ์ตูน BL (รวมถึงนิยาย) อย่างญี่ปุ่น  เกาหลี และจีน ที่มีการผลิตผลงานที่หลากหลายออกมาสร้างความฟินให้กับแฟนๆ อย่างไม่หยุดยั้ง นั่นอาจจะทำให้คิดได้ว่า  มันจะเปิดโอกาสให้นายทุนทุ่มเงินสร้างผลงาน live action ออกมารัวๆ ไม่ต่างจากอีกผลงานที่เคยกอบโกยความสำเร็จข้ามประเทศมาแล้วมากมาย   แต่สำหรับพวกเราที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันก็คงเข้าใจถึงค่านิยมกีดกันเพศทางเลือก แม้ว่าแฟนๆจะพร้อม'เปย์' มากเท่าใด แต่สำหรับในบางประเทศ  รักร่วมเพศยังเป็นเรื่องต้องห้าม และถูกด้อยค่าให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเสื่อมเสียและดูน่ารังเกียจ  แม้ว่าพวกเราจะใช้ชีวิตในปี 2023 แล้ว แต่เรื่องน่าเศร้าเหล่านี้ก็ยังเกิดขึ้นเสมอ

แม้ความนิยมในการ์ตูนและนิยาย BL จะสร้างรายได้มากมาย แต่มันกลับขัดแย้งกับความเป็นจริงที่เป็นเรื่องยากเย็นสำหรับคนในวงการบันเทิงที่จะเปิดเผยว่าเป็นเพศทางเลือก และนักลงทุนไม่กล้าเสี่ยงกับกระแสต่อต้านที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา หนักกว่านั้น ในสังคมจีนซึ่งรัฐเข้ามาควบคุมอุตสาหกรรมบันเทิงเพื่อ 'ศีลธรรมอันดีงาม' หากเจ้าหน้าที่ได้กลิ่นความวายชัด ซีรีส์อาจจะถูก cancel แม้นิยายหรือการ์ตูนต้นฉบับของซีรีส์จะวายเต็มขั้น และยังมีฉากติดเรท ผู้สร้างก็ต้องปรับเปลี่ยนเรื่องราวให้เป็นแนวมิตรภาพของผู้ชายที่ไร้เรื่อง gay romance มาเจือปน ทำให้แฟนๆต้องใช้จินตนาการอย่างลึกล้ำกันไปเอง หรืออย่างมาก อาจจะนำเสนอแนวการนำเสนอเคมีชาย-ชายแบบ bromance นั้นก็คล้ายกับ fan service กันแบบหอมปากหอมคอ หรืออาจจะถูกมองว่า เป็นวิธีการตลาดแบบ Queerbaiting ที่หาประโยชน์จากการสื่อกันเป็นนัยๆให้ผู้ชมตื่นเต้นกับ BL energy แต่ที่จริงแล้วไม่ได้สนับสนุนเพศทางเลือกอย่างแท้จริง


เมื่อแฟนๆ BL ต้องเจอค่านิยมต่อต้านรักร่วมเพศมากั้นขวางจนยากที่จะเสพผลงานที่ถูกจริตในประเทศตัวเอง คำตอบที่ลงตัวที่สุดคือนำเข้าซะเลย! BL จากไทยนั้นไม่ได้มาพร้อมกับ fan service แบบเบาๆ แบบต้องดูไปเดาไปว่าเค้ารักกันรึเปล่า? แต่จัดเต็มเรื่อง romance และฉากถึงเนื้อถึงตัวชวนเขิน ซึ่งในสังคมอนุรักษ์นิยม มันอาจจะเป็นสิ่งต้องห้ามหรือต้องซ่อนเร้นจากสายตาผู้อื่นเพราะเกรงว่าถูกพิพากษาว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ผลงาน BL ในบ้านเราจึงอาจจะเปรียบได้กับปลดแอกแฟนๆจากการถูกปิดกั้น และทำให้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมาย

ภาพของพระเอก BL ไทยที่ได้รับการสนับสนุนแบบ 'เปย์ไม่ยั้ง' จากแฟนๆทั้งในไทยและต่างประเทศกลายเป็นเรื่องที่พวกเราได้ยินจนคุ้นเคย หรือจะเป็น engagement บน social media ที่เต็มไปด้วยการตอบรับในด้านบวกจากชาวเน็ทต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แทบไม่ได้ปรากฏในปรากฏในผลงาน genre อื่นมากนัก   แม้จะเป็นศิลปะบันเทิงที่ถูกจัดให้ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่เป็น subculture (กลุ่มวัฒนธรรมย่อย)  แต่ impact ของ BL สัญชาติไทยนั้นอาจจะทรงพลังและไปไกลกว่าที่หลายคนคิดไว้
วงการซีรีส์BL ไทยอา​จจะต้องเตรียมตัวรับมือกับผลงานญี่ปุ่นที่กำลังมา
หากพูดถึง'มหาอำนาจ BL' เราย่อมนึกถึงญี่ปุ่นที่เป็นต้นตำรับจากการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้มาตั้งแต่ยุค 70s เมื่อนักเขียนการ์ตูนมือสมัครเล่นได้ผลิตผลงานโดจินจนถือกำเนิดผลงาน Yaoi  แฟนตาซีของ romance ชายรักชายของแฟนเพศหญิงที่เรียกว่า'ฟุโจชิ' (หรือที่คนไทยเรียกย่อจาก Yaoi ว่า 'สาววาย') ได้สร้างความนิยมในเฉพาะกลุ่มแคบๆ จนมีพัฒนาการก้าวไกลข้ามประเทศ  จนทำให้ต่างชาติมี  Yaoi เป็นของตัวเอง  เมื่อได้รับเครดิตว่าเป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมนี้ก็อาจจะทำให้มีผู้อนุมานว่า ญี่ปุ่นน่าจะเป็นผู้นำในการสร้างผลงานที่ใช้นักแสดงชายที่มีเลือดเนื้อตัวตนจริงๆมาถ่ายทอด romance  ชายรักชาย เพราะมีทรัพยากรและพลังสนับสนุนเหลือเฟือ

แต่ความเป็นจริงก็คือ แม้ญี่ปุ่นจะเป็นสังคมประชาธิปไตย และเคยนำเสนอเรื่องราว LGBTQ ผ่านหนังและซีรีส์มาแล้วหลายครั้ง แต่หากเป็น Yaoi แบบตรงจริตสาววายเหมือนในการ์ตูนนั้น ยังมีผ่านช่วงการพัฒนามาได้ไม่กี่ปี ทั้งๆที่ในวงการบันเทิงญี่ปุ่น จะมีศิลปินที่นำเสนอภาพลักษณ์แบบ Androgynous หรือดูก้ำกึ่งทางเพศมากนักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีชายแนว Visual kei ที่แต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนกับผู้หญิงๅ, talento ข้ามเพศ และคนดังชายที่ดู feminine หรือที่เรียกกันว่า Bishonen ที่ถูกตาต้องใจสาวๆ แต่ gay romance ก็ยังเป็นเรื่องที่สังคมไม่เปิดใจเต็มที่ แม้แต่ในซีรีส์ญี่ปุ่นบางเรื่องก็เผยถึงปัญหา homophobia ในสังคม เมื่อคู่รักชาย-ชายถูกจองเวรจากคนในละแวกเดียวกันถึงขนาดเขียนข้อความว่าร้ายไว้ที่หน้าบ้าน หรือแม้แต่ตัวฟุโจชิหรือสาววายก็ต้องปกปิดรสนิยมของตัวเองจากคนรอบข้าง เพราะอาจจะถูกตั้งข้อรังเกียจในเรื่องรสนิยมความชอบที่แตกต่าง


อุตสาหกรรม Yaoi manga อาจจะโด่งดังมาเนิ่นนานและแฟนๆก็ขยายตัวขึ้นมากถึงขนาดมีการจัด expo ยิ่งใหญ่ประจำปีเพื่อเผยแพร่ผลงานและเป็นจุดศูนย์รวมสำหรับคนคอเดียวกันนับพันนับหมื่นให้เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์  แต่พัฒนาการของหนังซีรีส์  BL ในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างค่อยเป็นค่อยไป   หนึ่งใน BL เรื่องแรกๆ คือ Ossan's Love  ซึ่งเป็นแนว  comedy ของรักสามเส้าในที่ทำงานที่อาจจะแตกต่างจาก BL ที่สร้างจากการ์ตูนตาหวานเรื่องอื่นๆ ที่เริ่มจากการชิมลางจากปล่อย TV special ยาวเกินชั่วโมงในปี 2016 แล้วกระแสตอบรับไม่แย่ จนตัดสินใจทำซีรีส์ 7 ตอนจบในปี 2018  ตามมาด้วยซีซัน 2 ในปี 2019  นี่คือผลงานที่ได้รับคำชื่นชมว่า ได้บุกเบิกทางให้ซีรีส์ BL สร้างชื่อเสียงในระดับ mainstream  และนำเสนอภาพลักษณ์ของคู่รักเพศเดียวกันในด้านที่ดี  จากนั้น BL ญี่ปุ่นก็มีความเคลื่อนไหวที่ไม่ถึงกับก้าวกระโดด แต่หนักแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ



ความสำเร็จของ Cherry Magic! Thirty Years of Virginity Can Make You a Wizard?!
บางคนเชื่อว่า ผลงาน BL เปรียบได้กับประตูโอกาสสำหรับนักแสดงปรารถนาจะยกระดับความโด่งดัง  เพราะหากพิสูจน์ความสามารถจนเป็นที่ยอมรับ มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ได้รับแรงสนับสนุนจาก fandom ที่แข็งแกร่ง   อีกด้านหนึ่ง  นี่คือความท้าทายสำหรับนักแสดงที่มีชื่อเสียงจากผลงานแนวอื่นมาก่อนหลายปี เพราะนั่นหมายความว่า พวกเค้าจะต้องทุ่มเทเพื่อโชว์ฝีมือการแสดงเพื่อโน้มน้าวใจผู้ชมให้อินกับความรักของตัวละครชายรักชายในเรื่องจนจิ้นกันกันได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด  แม้ที่ผ่านมาจะรับบทเป็นชาย straight จับคู่กับเพศตรงข้ามมาตลอด   แต่เมื่อโอกาสดีงามอย่างบทนำใน live action ที่สร้างจากต้นฉบับ manga ดัง  พระเอกสุดหล่อ+น่ารักที่ตรงปกสุดๆคือ เอจิ อากะโซ และ เคตะ มาชิดะก็ได้สร้างตำนาน BL ที่ทำให้ผู้ชมใจฟูด้วยเรื่องราวความรักใน office ของหนุ่มใสไร้ประสบการณ์ที่ได้รับความสามารถใจการอ่านใจคนอื่นได้อย่างเหลือเชื่อจนไปรู้ความจริงว่า เพื่อนร่วมงานหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบเก็บอาการคลั่งรักในตัวเขาไว้ในใจ
อยู่นอกจอ ผู้คนรับรู้ว่าเพศวิถีของพวกเค้าคือ straight ก็จริง (โดยเฉพาะเคตะที่แต่งงานกับนางเอกชาวเกาหลีไปเมื่อปีก่อน) แต่เคมี BL ที่ดูน่ารักเป็นธรรมชาติบวกกับเนื้อหาที่มีพัฒนาความรักที่อิงกับความจริงทำให้พระเอกทั้งสองเป็นคู่จิ้นยอดนิยม  เริ่มตั้งแต่การแอบปิ๊ง สารภาพความในใจ  ออกเดท เรียนรู้จะปรับตัวเข้าหากัน ตัดสินใจอยู่กินด้วยกัน และในที่สุดก็ใช้ชีวิตคู่เต็มตัว วิธีการถ่ายทอดด้วยอารมณ์ขันและแนวคิดในแง่บวกกับรักร่วมเพศทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นในทุกๆตอน เพียงแค่ชมตอนแรกก็ถูกตกทันที คู่รักชวนฟิน คู่รองก็น่ารัก ตามสไตล์ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น  ในเวลาต่อมาก็ต้องมีการสร้างภาพยนตร์เพื่อ complete แฟนๆ  ไม่เพียงแต่เรตติ้งจะสวยงาม ยังกวาดรางวัลมาได้อีกเพียบ ส่วนเรตติ้งในไต้หวันก็ปังสุดๆ (ไต้หวันเป็นชาติแรกในเอเชียที่ให้สิทธิการสมรสระหว่างคู่รักเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ส่วนเซนเซเจ้าของผลงาน manga เรื่องนี้ก็ได้บริจาคเงินรายได้ให้กับองค์กรที่สนับสนุนให้ผ่านกฎหมายยอมรับการสมรสเพศเดียวกันในญี่ปุ่น)  รวมถึงบ้านเราที่ GMMTV ซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างซีรีส์เวอร์ชั่นไทย  

Cherry Magic จึงเป็นหนึ่งในต้นแบบซีรีส์ BL ญี่ปุ่นที่ต้องจับตามองว่า ในภายภาคหน้าจะมาแรงจนแซงชาติคู่แข่งได้หรือไม่


ผลงานที่ดังจนได้สร้างซีซันต่อและเวอร์ชั่นหนังคือ What Did You Eat Yesterday ซึ่งอาจจะไม่ได้เข้ากับ BL genre ที่หลายคนคุ้นเคย เพราะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของคู่รัก gay วัยหนุ่มใหญ่ที่วิถีชีวิตที่ทั้ง real และสะท้อนปัญหาอคติต่อชาวเพศทางเลือกที่เกิดขึ้นจริงในญี่ปุ่น แต่น่าจะมองเป็น  gay romance ที่ปลุกใจให้ผู้ตระหนักถึงสิทธิความเท่าเทียมของเพศทางเลือกมากกว่ารักหวานแหววชวนฝัน  แม้จะมีเนื้อหาที่ดูเบาๆแบบ rom-com และเมนูอาหารน่ากิน แต่ก็เหมือนกับเรื่องราวที่ทั้งอบอุ่นใจแต่แฝงด้วยขื่นขมของกลุ่มคนที่ถูกเลือกปฏิบัติเพราะมีเพศวิถีท่ี่แตกต่าง


แม้แต่ Johnny & Associates ก็ยังส่งไอดอลลูกรักโชว์ฝีมือในซีรีส์ BL สุดละมุน 
ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องชวนเซอร์ไพรส์ เมื่อ talent agency ที่ปลุกปั้นไอดอลให้ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นในฐานะ Johnny's Junior มาแล้วหลายรุ่นได้เปิดไฟเขียวให้ไอดอลหนุ่มหน้าใสในสังกัดรับงานแสดง live action ที่สร้างขึ้นจากต้นฉบับการ์ตูน Yaoi  จากการการรักษาภาพลักษณ์ศิลปินด้วยกฎเข้มงวดที่ขึ้นชื่อลือชา  ในสังคมที่หลายคนยังยึดติดกับแนวคิดอนุรักษ์นิยมที่ยังปรากฏปัญหาเหยียด gay นี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของศิลปินที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกรัก   ว่ากันว่า ต้นสังกัดได้สำรวจ feedback จากแฟนๆจนมั่นใจเต็มที่ว่า ซีรีส์ live ation เรื่องนี้จะยิ่งส่งให้ไอดอลทั้งสองยิ่งโด่งดังจากการกวาดความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบ BL มาเพิ่ม  น่าจะยืนยันได้จากกระแสจิ้นชายรักชายอยู่คู่กับวงการ J-Pop มาเนิ่นนานคล้ายกับ K-Pop   ดังกรณี KinKi Kids วงไอดอลดูโอขายดีประจำค่ายที่ถูกจิ้นว่าเป็นคู่รักกันมายาวนานจนก้าวสู่วัยหนุ่มใหญ่




 ยิ่งเป็นหนุ่มที่มีใบหน้าสวยรูปร่างเพรียวบางอย่างมิจจี้ ชุนสุเกะ มิจิเอดะ ที่ตรงกับ type ในตัวการ์ตูน Yaoi เป๊ะก็ยิ่งเข้าทางแฟนตาซีสาววาย เมื่อเขาได้มาประชันบทบาทในซีรีส์รักใสวัยมัธยม My Love Mix-Up! กับหนุ่มมาดเข้ม เร็น มากุโระ ศิลปินรุ่นพี่จากค่ายเดียวกัน ความฟินก็บังเกิดขึ้นไปทั่ว Twitter ญี่ปุ่น! แฟนไอดอลที่ไม่ได้คลั่ง BL ก็ยอมรับว่า ปลาบปลื้มเคมีของพวกเค้าเช่นเดียวกัน ด้วยกระแสความนิยมของซีรีส์ทำให้ทั้งสองงานเข้าแบบแพคคู่ทั้งทางรายการTV และถ่ายแม็กกาซีนหลายครั้ง   แม้ในเวลาต่อมาก็ได้เลือกรับงานแสดง romance ชาย-หญิงอย่างที่เคยทำมา แต่ภาพของไอดอลดังที่สร้างความฮือฮาจากการรับบทชายรักชายนั้นดูคล้ายจะเป็นการประกาศชัดเจนว่า วงการ BL ญี่ปุ่นกำลังก้าวไปข้างหน้าเต็มพลัง  รวมถึงแนวโน้มที่เราจะได้เห็นไอดอลหล่อใสคนอื่นจากค่ายนี้รับบทในซีรีส์ BL อีก เพราะมีผู้เปิดทางไว้อย่างสวยงามแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้  เพื่อนสาวจากแดนอาทิตย์อุทัยที่อาศัยในประเทศไทยได้ยอมรับว่า  หลงรักซีรีส์ BL สัญชาติไทยไปเต็มเปา เพราะมีรสชาติที่แปลกใหม่ร้อนแรงไม่ต่างจากอาหารสุดแซ่บประจำชาติ  แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ฟินสุดๆที่ได้ติดตาม BL dramaจากบ้านเกิด ก่อเกิดเป็นความอบอุ่นใจจากความรู้สึกที่คุ้นเคย ทั้งพล็อทที่ใช่ ภาษาร่างกายที่ตรงจริต  ทั้งยังมีพระเอกที่ชื่นชอบมาเติมเต็มจินตนาการ  เรื่องกระแสความนิยมในระดับ international นั้นต้องจับตามองเลยทีเดียว  ดูได้จากความสำเร็จของซีรีส์ Utsukushii Kare หรือ My Beautiful man ที่ทำให้สร้างภาคต่อแบบไม่ให้ขาดช่วงนาน  และยังคว้ารางวัลซีรีส์ยอดนิยมจากการโหวตของประชาชนจาก Best TV Award Grand Prix  ติดต่อกันสองปีซ้อน  รวมถึงยูเซย์ ยากิที่ข้ามประเทศมารับรางวัล  Asia Star จาก Seoul Drama Awards ที่จัดขึ้นในเกาหลีต่อกันสองสมัยเช่นเดียวกัน
นั่นหมายความว่า ซีรีส์ BL ที่อาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องรสนิยมเฉพาะกลุ่ม กำลังก้าวมาสร้างนิยมสู่ความ mainstream และทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่ถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มสาววายหรือที่ที่นิยมชมชอบ BL เท่านั้น  ถึงแม้ว่า เมื่อปีก่อน ยูเซย์ พระเอกที่แจ้งเกิดสุดปังจากพลังจิ้นของแฟนๆจะถูกแทบลอยด์ชื่อดังตีข่าวว่า เขาคบหานางแบบสาวสุด sexy แบบลับๆมานานหลายปี  ซึ่งชีวิตจริงอาจจะสวนทางกับสถานะเทพบุตร BL แห่ง generation ใหม่  แต่ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะไม่ได้กระทบกลับความนิยม  พระเอกทั้งสองกลับมาร่วมงานกันในซีรีส์ภาคต่อและ complete เรื่องราวความรักด้วยฉบับภาพยนตร์  ซึ่งไม่ต่างจากการตอกย้ำชัดเจนว่า  BL drama ญี่ปุ่นพยายามยกระดับเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จได้ก้าวไกล แม้อาจจะเริ่มต้นช้ากว่า genre อื่น  ในตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีการผลิต BL  drama เพิ่มขึ้นชัดเจน และความนิยมจากแฟนๆจากต่างประเทศก็ไต่ระดับสูงขึ้น อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตญี่ปุ่นสามารถก้าวมาเป็นหนึ่งในผู้นำวงการนี้ไม่ต่างจาก manga และ anime 

Love Scences  ร้อนแรงยิ่งขึ้น
สิ่งที่ทำให้แฟนๆต้องใจสั่นคลอนย่อมต้องเป็นการแสดงความรักด้วยภาษาร่างกายที่เร่าร้อนและเคมีที่หลั่งไหล   การสร้างซีรีส์ live action ที่แฟนๆตั้งความคาดหวังจะได้เห็นฉากรักอันแนบแน่นที่ปรากฏใน manga อาจจะต้องตัดทอนภาพที่หมิ่นเหม่ออกไปเพื่อทำให้สอดคล้องกับค่านิยมทางสังคม   อุตสาหกรรม Yaoi ในญี่ปุ่นอาจจะสร้างชื่อเลื่องลือไปไกล  แต่ BL  drama เรื่องดังที่เอ่ยถึงในตอนต้นมีความโดดเด่นด้วย vibe น่ารักน่าหวีดมากกว่าจะใช้เรื่องใต้สะดือชวนน้ำลายหกเป็นจุดขาย  อย่างไรก็ตาม ความฟินจาก love scene ที่ทำแฟนๆใจเต้นระทึกย่อมช่วย boost กระแสแรงได้รวดเร็ว เมื่อพิจารณาจากการ์ตูน 18+ ที่ถูกผลิตออกมานับไม่ถ้วนเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดก็คงคาดเดาได้ไม่ยากว่า  หลายคนกำลังรอคอย BL drama รสแซ่บด้วยเช่นกัน  
ล่าสุด ฝั่งญี่ปุ่นก็เริ่ม service แฟนมากขึ้นกว่าบทจูบเบาๆ  ซีรีส์ My Personal Weatherman ที่กำลังออนแอร์ถูกจัดอยู่ในเรท 15+ ไม่ถึงขนาด 18+เหมือนกับการ์ตูนต้นฉบับ   แต่ก็เป็นผลงานที่ได้ถ่ายทอดเรื่องทางเพศในความสัมพันธ์ของคู่ชาย-ชายผ่านแฟนตาซีแบบนายท่านจอมเผด็จการ-ข้ารับใช้ อันเป็นพล็อทที่คว้าใจแฟนๆ BL มากนักต่อนัก  ที่ผ่านมานั้น ก็มีหนังซีรีส์ชาย-หญิงที่ใช้พล็อทที่ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้มีบทบาท dominate มาแล้วหลายครั้ง

กระแสไอดอลเกาหลีคว้าบทนำใน  BL drama
ได้ยินมาว่า ฝั่งเกาหลีกำลังขยับตามมา และเริ่มสร้างเว็บซีรีส์วายดึงดูดความสนใจจากแฟนๆขึ้นมาบ้างแล้ว  แต่ทุน production ก็ยังห่างจากซีรีส์แนวอื่นที่ฉายทาง TV และ streaming service  แต่หนึ่งในจุดเด่นของ BL สัญชาติเกาหลีคือการ casting ไอดอลมารับบทนำ ล่าสุดผู้สร้างซีรีส์  Bump Up Business ก็ cast หนุ่มๆ OnlyOneOf 'ทั้งวง' มาร่วมแสดง  พวกเค้าคือไอดอล Generation ที่4 ที่เดบิวท์มาได้ไม่กี่ปีและวีดีโอโชว์ทักษะการเต้นของพวกเค้าก็กำลังได้รับความสนใจจากชาว Tiktok  ซึ่งผลงาน BL เรื่องนี้มีกำหนดออนแอร์ที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้า และ international ในภายหลัง  พวกเค้ายังเคยสวนกระแสต่อต้านเกย์ด้วยการนำเสนอ MV ที่เผยภาพความสัมพันธ์อันงดงามของคู่ชายรักชาย ซึ่งผลงานนี้ดึงดูดคอมเมนท์ของชาวเน็ทนับครึ่งหมื่น  กล่องคอมเมนท์เต็มไปด้วยพลังงานด้านบวกจากคำชื่นชมที่ได้เห็นก้าวใหม่ของวงการ K-Pop ที่สนับสนุนชาวเพศทางเลือกแบบไม่หวั่นคำครหา


นอกเหนือจากนี้ ยังมี BL dramaที่นำแสดงโดยไอดอลหน้าใสเข้าคิวออนแอร์อีกหลายเรื่อง บางเรื่องเป็นซีซันต่อ   อนาคตของ BL drama สัญชาติเกาหลีจะ mass หรือไม่ ?  แน่นอนว่าพวกเค้าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคใหญ่คือการต่อต้านรักร่วมเพศในสังคม  ไอดอลที่รับบท BL บางคนต้องเผชิญกับการส่งแรงเกลียดชังด้วยถ้อยคำ homophobic ที่บั่นทอนจิตใจจนท้อถอย   แต่ความปรารถนาที่จะทลายกำแพงอคติที่ขวางกั้นความสำเร็จของอุตสหกรรม BL drama ไม่ให้ไปไกลเท่าที่ควรจะเป็นส่งผลให้ไอดอลชายหลายคนพยายามสร้างชื่อเสียงจากวงการนี้ เพียงในเวลาแค่ 3 ปี  มีไอดอลเกาหลีร่วมแสดงใน genre นี้ไปแล้วหลายสิบคน

แต่เราอาจจะไม่ได้เห็นนักแสดงและไอดอลที่มีชื่อเสียงโด่งดังกันอยู่แล้วแหกกรอบมารับบทนำใน BL drama กันบ่อยๆ  เพราะพวกเค้าจะต้องคำนึงถึงวางตัวให้ห่างไกลจาก controvery ที่เสี่ยงทำให้ภาพลักษณ์มัวหมองจากการตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มคนต่อต้าน gay   นอกจากนั้นนักแสดงชั้นนำหลายคนจะมีเกณฑ์เพื่อพิจารณารับบทในหนังซีรีส์  ซึ่งการร่วมแสดงในผลงานที่มีงบ production  อลังการย่อมส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ดูแพงขึ้น   บทชายรักชายในเว็บซีรีส์ฟอร์มเล็กๆ อาจจะถูกปัดไปแบบไม่ต้องไตร่ตรอง หากมีนายทุนอัดฉีดเงินเพื่อสร้าง BL drama ฟอร์มยักษ์ที่สามารถดึงพระเอกดังมารับบทนำ เราอาจจะได้เห็นความปลี่ยนแปลงในวงการนี้ก็เป็นได้ 

หากคุณเป็นแฟน BL แล้วล่ะก็ กระซิบบอกเราบ้างสิว่า ผลงานจากประเทศใดที่ตรงใจคุณที่สุด??


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE