ความขมขื่นเบื้องที่อยู่หลังรอยยิ้มของ Matthew Perry: Chandler Bing แห่ง Friends

24 13

การจากไปไม่มีวันหวนกลับของ Matthew Perry วัย 54 ปี ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ด้วยความรู้สึกผูกพันกับ Chandler Bing แห่ง Friends ซิทคอมสุด iconic ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มิตรภาพและความรัก หลายคนยืนยันว่า นี่คือ คือตัวละครคนโปรดได้มอบความสุขที่ตรึงตราใจ ไม่ว่าจะกลับไปชม Friends อีกกี่ครั้งกี่หนก็ยังหัวเราะให้กับความเปิ่นน่ารักของเขาเสมอ แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มและมุกตลกของนักแสดงดังกลับเป็นความทุกข์ทนขมขื่นเมื่อเขาต้องเวียนวนต่อสู้กับปัญหาติดเหล้าและยาเสพติดอย่างหนักเป็นเวลา20-30 ปี  จนทำให้เกิดการตั้งข้อสันนิษฐานว่า มันอาจจะเกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิตในอ่าง Jacuzzi ช็อคโลก

ในปีที่แล้ว  เขาเพิ่งจะปล่อยหนังสือชีวประวัติเพื่อเปิดเผยความทุกข์ทนทั้งชีวิตจากปัญหายาเสพติด

อาการติดยาเสพติดและติดสุราของ Matthew ส่งผลให้ตัวตนในชีวิตจริงดูห่างไกลจากภาพลักษณ์น่ารักแสนดีของ Chandler ยิ่งช่วงที่เขาได้เข้าสู่วัยกลางคน ภาพความทรุดโทรมที่เห็นจากภายนอกทำให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขาคือนักแสดง Friends ที่ดูเปลี่ยนแปลงไปจนแทบจำไม่ได้ ในขณะที่เพื่อนๆทั้ง 5 คนดู healthy สดใสมีชีวิตชีวา ล่าสุดที่ได้กลับมารวมตัวกัน พวกเค้าก็แสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใย Matthew ชัดเจน จากประสบการณ์ตรงในการร่วมถ่ายทำ Friends ด้วยกัน พวกเค้าพยายามช่วยเหลือให้กำลังใจเพื่อ Matthew จะฝ่าฟันปัญหาไปให้ได้ แต่ดูเหมือนว่า มันจะกลับมาหลอกหลอนและคุกคามชีวิตเขาได้ทุกเมื่อ

เมื่อปีที่แล้ว พระเอกซีรีส์ดังได้เปิดเผยข้อมูลสุดช็อคผ่านหนังสือชีวประวัติ แม้แฟนๆ Friends จะรับรู้ปัญหาของเขามานาน แต่เมื่อได้ประจักษ์ถึงตัวเลขที่น่าหวาดหวั่นนี้ ก็ทำให้เกิดสังหรณ์ว่า โศกนาฏกรรมอาจจะมาเยือนอีกไม่ช้าไม่นาน

  • วนเวียนรับการบำบัดเลิกยาเสพติด แต่ก็กลับไปเสพอีกถึง 15 ครั้ง
  • เข้าร่วม AA meeting ( alcoholics anonymous สมาคมอดเหล้าของอเมริกา) ถึง 6000 ครั้ง
  • ผลกระทบอันร้ายกาจของยาเสพติดทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพถึงขั้นที่ต้องรับการผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิตมาแล้ว 14 ครั้ง
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาตัวและเลิกเหล้ายาพุ่งไปถึงเก้าล้านดอลลาร์
เผชิญกับปัญหาสาหัสสากรรจ์จนรู้สึกขอบคุณที่ยังมีชีวิตอยู่

 Matthew คิดว่า ผู้คนน่าจะรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้รับรู้ว่า อาการเขาสาหัสจนมีโมเมนท์เฉียดความตายมาแล้วหลายครั้ง   "หากผมตายขึ้นมา มันอาจจะทำให้ผู้คนช็อคแต่คงไม่มีใครไม่ได้ประหลาดใจ การมีชีวิตอยู่เช่นนี้ต่างหากที่น่ากลัว  ผมหวังแต่ว่า มันจะทำให้คนอื่นรู้สึกเข้าถึงได้ และรับรู้เข้าใจว่า โรคร้ายนี้โจมตีคนไม่เลือกหน้า ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จหรือไม่  โรคมันไม่ได้สนใจเรื่องนี้"

"ผมรู้สึกซาบซึ้งใจที่ยังมีชีวิตอยู่ มันได้สร้างความเป็นไปได้ที่จะทำให้ได้ทุกอย่าง"



Matthew สามารถรอดชีวิตจากสิ่งเหล่านี้มาได้....

  • ถูกหามส่งโรงพยายาบเพราะอาการตับอ่อนอักเสบเรื้อรังจากแอลกอฮอล์ในปี 2000
  • พิษแอลกอฮอล์ทำให้สมองเสื่อม จำเหตุการณ์ระหว่างถ่ายทำ Friends ในช่วงเวลา 3 ปี ไม่ได้เลย
  • เมื่อห้าปีก่อน ต้องผ่าตัดฉุกเฉินเพราะลำไส้ทะลุจากการใช้ยา opioid  และใช้ครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด  แพทย์แจ้งครอบครัวว่า มีโอกาสจะรอดเพียง 2%  หลังจากอยู่ในภาวะโคม่าสองสัปดาห์ ก็รอดมาได้อย่างปาฏิหารย์ ก็ต้องรักษาฟื้นฟูร่างกายที่โรงพยาบาลถึง 5 เดือน และใส่ถุงขับถ่ายหน้าท้องอีก 9 เดือน
  • เขาเช็คอินเข้ารักษาอาการติดยาในสถานบำบัดหรูหราที่สวิสเซอร์แลนด์  แต่ทั้งๆที่กำลังจะได้รับการผ่าตัดก็ยังยังแอบใช้ ยาopioid ทั้งคืน   เมื่อได้รับยาสลบ propofol  หัวใจหยุดของเขาหยุดเต้นไป 5 นาที แต่แพทย์ช่วยชีวิตกลับมาได้ด้วยการทำ CPR แต่กระดูกซี่โครงก็หักไปแปดซี่ 





Matthew ชี้ว่า รูปลักษณ์ของเขาที่ปรากฏระหว่างถ่ายทำ Friends คือสิ่งที่บ่งบอกว่าเขากำลังเผชิญกับปัญหาใด หากตัวบวมฉุขึ้นมา แสดงว่าเขาดื่มไม่หยุด (เขาแอบดื่ม Vodka ในกองถ่ายจน Jennifer Ansiton ลากมานั่งพูดคุย) แต่หากผอมลงพรวดพราด ก็หมายความว่ากลับไปเล่นยาหนัก น้ำหนักตัวเขาเคยร่วงไปที่ 58 kg จนไม่กล้ามองตัวเองในจอ บางครั้งเขามึนเมาหนักจนพูดจาไม่เป็นภาษา กลิ่นเหล้าโชยหึ่ง อาการหนักชัดเจนจนเพื่อนร่วมงานทุกคนมารอที่ห้องแต่งตัวเพื่อช่วยกันหาทางออก เขาตัดสินใจเข้ารับการบำบัดจนกลับมาสุขภาพดีมากพอจะกลับมาทำงานแสดงได้

แต่แม้ว่า Matthew จะได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจหลายครั้งถึงความหวังที่จะตัดขาดกับอาการเสพติดเพื่อประคับประคองชีวิตเข้าเข้ารูปเข้ารอย แต่ก็ไม่สามารถแยกตัวจากวงโคจรที่ร้ายกาจไปได้ถาวร เมื่อกลับไปใช้ยาอีก ก็เพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาด อัด Vicodin 55 เม็ดทุกวัน จนกล้าจะประกาศว่า ไม่มียากลุ่ม opioids ตัวไหนที่แรงพอจะทำให้เขาเกิดอาการเมายาได้อีกต่อไป แต่ผลร้ายจากยาก็กัดกร่อนชีวิตจนทรุดโทรมหนัก เขาเผยว่า เพียงแค่กัดขนมปังปิ้งทาเนยถั่ว ฟันหน้าก็หลุดร่วงลงมา เขากลายเป็นเป้าหมาย socialbullying เรื่องรูปลักษณ์ที่ดูสูงวัยและปล่อยเนื้อปล่อยตัวกว่าคนรุ่นเดียวกัน แต่เขายืนยันมาตลอด จะสู้ต่อไป และขอให้คนที่เผชิญกับปัญหาเดียวกันยอมรับความช่วยเหลือ  





"ตอนที่เริ่มโด่งดัง มันสร้างความรู้สึกตื่นเต้นมีความสุขราวกับได้เข้าไปใน Disneyland อยู่ในระยะเวลาหนึ่ง สำหรับผม มันเป็นเวลา 8 แปดเดือนที่แสนเปรมปรีดิ์ที่ทำได้สำเร็จแล้ว เชื่อไปว่าจะไม่เจอกับปัญหาใดๆ อีก แต่ต่อมาก็ตระหนักได้ว่า มันไม่ได้ช่วยให้บรรลุเป้าหมายใดๆเลย มันไม่ได้ช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าในชีวิต"

"ผมไม่ได้พยายามเลิกเหล้ายาเพราะรู้สึกอยากจะทำ แต่ผมจำเป็นต้องทำเพราะกลัวว่าตัวเองอาจจะต้องตายในพรุ่งนี้"


ความรู้สึกอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปทำให้ Matthew พยายามทุกหนทางที่จะหลุดพ้นจากวงจรวงจรอุบาทว์ เขารับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานและพ่อแม่ เคยจับคู่กับ buddy ที่รับหน้าที่ระแวดระวังตักเตือนไม่ให้หลงทางผิด ออกกำลังกาย รับคำปรึกษา ดีท็อกซ์ เช็คอินเข้าสถานบำบัดครั้งละ 2-3 เดือน แต่ก็ยอมรับว่า มันไม่ได้ผลไปหมด จนกระทั่งเข็บป่วยหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จึงใช้รอยแผลผ่าตัดและความเสี่ยงที่จะต้องใช้ถุงทวารเทียมไปตลอดชีวิตเป็นเครื่องเตือนใจตัวเองไม่ให้ใช้ยาอีก

เมื่อปีก่อนที่ Matthew ได้เปิดตัวหนังสือชีวประวัติ ก็ปฏิเสธที่จะยอมรับชัดๆว่า เขาเลิกเหล้ายาได้อย่างเด็ดขาดแล้วหรือไม่ แต่อธิบายว่า การใช้ยากลุ่ม opioid อย่างหนักหน่วงมานานหลายปี ทำให้ต้องรักษาอาการลงแดงด้วยยา Suboxone ไปตลอดชีวิต ซึ่งมีรายงานว่า ณ บ้านที่เกิดเหตุน่าสลด เจ้าหน้าที่ได้พบยาต้านซึมเศร้าและยารักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง แต่ไม่ปรากฏยาเสพติดผิดกฎหมาย






เส้นทางเริ่มต้นสู่ความมืดมน 'ติดสุราตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มวัยทีน'
ในขณะที่เพื่อนฝูงคนใกล้ชิดชื่นชมว่าเขาคือชายที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันและสร้างเสียงหัวเราะให้รอบข้าง    แต่เขาเข้าไปสู่วงวนของการเสพติดตั้งแต่อายุ 14  หลังจากติดอกติดใจในความมึนเมาที่ทำให้รู้าึกราวกับขึ้นสวรรค์ เขาก็เริ่มดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งอายุ 18 ก็ดื่มไม่เว้นวัน

ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและโหยหาในความรักทำให้เขาเชื่อว่า ชื่อเสียงจากวงการแสดงจะช่วยเติมเต็มให้เขารู้สึกมีคุณค่าขึ้นมาได้ แต่กลายเป็นว่า Matthew ยิ่งถลำลึกลงไปในความมืดมน อุบัติเหตุเจ็ทสกีที่เกิดขึ้นช่วงการถ่ายทำหนังในปี 97 ชักนำให้เขาไปพึ่งพา Vicodin ยาแก้ปวดฤทธิ์แรงในกลุ่ม opioid และดื่มด่ำกับฤทธิ์ของยาจนไม่อาจจะถอนตัวได้ เขาบรรยายว่า รู้สัึกราวกับเลือดที่หมุนเวียนในร่างกายถูกแทนที่ด้วยน้ำผึ้งหอมหวาน

Matthew เสพติดมากขึ้นจนกัดกร่อนชีวิตของเขาจนไม่สามารถทำงานแสดงได้เต็มที่ สร้างความระส่ำระสายในกองถ่าย ถึงกระนั้น Friends ก็ยังสร้างความสำเร็จใหญ่โตถึง 10 ซีซัน คนที่ห่วงใยในตัวเขาพยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและปิดกั้นช่องทางไม่ให้เขาเข้าถึงยาเสพติด แต่ Matthew ได้ใช้วิธีแกล้งป่วยเป็นไมเกรนและเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อจะได้ยาตามใบสั่งแพทย์ และหากยังไม่สามารถหายามาได้ตามที่ต้องการ ก็ลงทุนลงแรงถึงขนาดตระเวณไปชมบ้านที่เปิดให้นายหน้าพาผู้ซื้อมาเลือกชม เขาแสร้งเป็นลูกค้าที่กำลังหาบ้านใหม่เพื่อลอบเข้าไปขโมยยาในตู้



ปัญหาติดเหล้ายาที่ทำให้ต้องผิดหวังจากรักแท้
หลายคนอาจจะลืมเลือนไปแล้วว่า ครั้งหนึ่ง Matthew คือพระเอกทรงเสน่ห์ที่มีความสัมพันธ์กับนางเอกระดับ high profile มาแล้วหลายคน  ผลกระทบจากอาการเสพติดเป็นเวลากว่าสามสิบปีจนทำให้ร่างกายทรุดโทรม   สื่อเคยดึงดูดความสนใจจากโลกออนไลน์ด้วยภาพที่เขาเดินออกจากบ้านด้วยท่าทางเหนื่อยล้ามีท่าทางเศร้าหมองจนไม่เหลือเค้า Chandler   แต่ในวัยหนุ่ม   เขาเคยทำให้ให้  Julia Roberts  ตกหลุมรักก่อนที่จะบอกเลิกกับเธอไป เพราะตระหนักว่าตัวเองไม่ดีพอ    ความสัมพันธ์กับนางเอกดังอีกคนก็ต้องพบกับทางตันเพราะปัญหาการติดเหล้าของเขา หรือแม้แต่คู่หมั้นคนล่าสุด เขาก็ขอเธอแต่งงานในสถานบำบัดทั้งๆที่กำลังเมายาอยู่  การตัดสินใจครั้งนั้นมาจากความหวาดหวั่นว่าเธอจะทอดทิ้งให้เขาต้องอยู่ลำพังในสถานการณ์โรค Covid ระบาด แต่สุดท้ายความรักก็ไปไม่รอดจนเขาต้องลงเอยอย่างโดดเดี่ยอีกครั้ง   ความผิดหวังในความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้หลายคนเชื่อว่า ตราบใดที่เขาไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาติดสุราและยาเสพติดไปได้  ก็ยากเย็นนักที่จะสร้างความสุขกับรักแท้
ความปรารถนาจะช่วยเหลือผู้อื่น และอยากเป็นที่จดจำในเรื่องนี้

Matthew เผยว่า เขาอยากจะให้โลกได้จดจำตัวเองในด้านการอุทิศตัวช่วยเหลือผู้ติดสารเสพติดมากกว่าภาพของ Chandler

"ผมต้องพบกับช่วงขึ้นๆลงๆมาแล้วหลายครั้งในชีวิต และผมก็ยังต้องจัดกการกับมันด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่ดีงามที่สุดที่ผมทำได้คือ หากมีคนที่ติดสุราหรือติดยาเสพติดเข้ามาบอกว่า คุณจะช่วยฉันได้หรือเปล่า? ผมจะตอบกลับไปเสมอว่า ได้เลย ผมรู้ว่าควรจะต้องทำเช่นไร ผมจะช่วยคุณเอง ถึงแม้ว่าผมจะแก้ปัญหาของตัวเองไม่ได้ก็ตาม ผมจะทำเรื่องนี้มาตลอดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือแบบเข้ากลุ่มหรือตัวต่อตัว"

"ผมก่อตั้ง Perry House ที่มาลิบู มันที่พึ่งพิงเพื่อเลิกเหล้ายาสำหรัลผู้ชาย ผมยังได้เขียนบทละครเวที The End of Longing เพื่อถ่ายทอดออกความในใจมาให้โลกได้รับรู้ผ่านภาพความเป็นขี้เมาของผมที่เน้นให้ดูเกินจริง ผมมีเรื่องราวสำคัญที่จะส่งต่อไปยังคนที่มีปัญหาเหมือนกับผม รวมไปถึงใครก็ตามที่รักคนที่เป็นเหมือนกันกับผม"

"สักวันที่ผมตายจากไป ผมรู้ว่า ผู้คนก็คงจะพูดถึงแต่ Friends, Friends และ Friends ซึ่งมันก็ทำให้ผมดีใจ รู้สึกยินดีที่ผมได้สร้างผลงานโดดเด่นในฐานะนักแสดง ซึ่งในเวลาเดียวกัน มันก็เปิดทางให้คในโลกออนไลน์นเข้ามาล้อเลียนเรื่องการเผชิญปัญหาชีวิตของผม"

"แต่เมื่อชีวิตผมจบสิ้นลงไป มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย หาก Friends จะเป็นสิ่งที่ถูกให้สำคัญรองไปจากหลากสิ่งหลายอย่างที่ผมได้ลงมือช่วยเหลือคนอื่น"


"ผมรู้ว่า สิ่งนี้คงจะไม่เกิดขึ้นหรอก แต่หากมันเป็นไปได้ก็คงดี"



สิ่งที่ Matthew กล่าวไว้ก่อนเสียชีวิตไม่ใช่เรื่องสร้างภาพเกินจริง Hank Azaria นักแสดงเจ้าของรางวัล Emmy ที่เคยร่วมงานใน Friends และพัฒนามิตรภาพจนแนบแน่นได้ไว้อาลัยให้กับเพื่อนผู้วายชนม์ว่า Matthew คือคนที่พาเขาไปเข้าร่วม AA meeting และสนับสนุนช่วยเหลือด้วยความห่วงใยจนเขาสามารถห่างไกลจากอาการติดสุรามาเป็นเวลา 17 ปัี และหวังเหลือเกินว่า Matthew จะพบกับแรงใจที่จะรักษาความเสมอต้นเสมอปลายที่จะไม่กลับไปข้องแวะกับเหล้ายาได้ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้บรรดาคนที่รัก Matthew ต้องใจสลาย

"สำหรับพวกเราหลายคนที่สนิทสนมกับเขาต่างรู้สึกว่าได้สูญเสียเขาไปเพราะยาเสพติดและเหล้ามาเนิ่นนานก่อนหน้านี้ ตามที่เขาได้บรรยายไว้ในชีวประวัติของเขา มันเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน และรายละเอียดที่เกิดขึ้นในความเป็นจริงมันช่างน่าสลดใจเหลือเกิน"


"นี่คือหนึ่งในความร้ายกาจของโรคนี้ มันพรากคนที่เรารักไปจากเรา"  Hank Azaria  กล่าวสรุปอย่างเศร้าหมอง

Matthew ถูกพบสภาพในไม่ตอบสนองในอ่างน้ำอุ่นที่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาได้ไหว้วานให้ผู้ช่วยออกไปรับ iPhone 15 เครื่องใหม่ แต่เมื่อผู้ช่วยกลับมาก็ได้พบกับเหตุการณ์สุดช็อคและโทรขอความช่วยเหลือที่ 911 แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป

สื่อรายงานว่า  ขั้นตอนการชันสูตรได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว  และยืนยันได้ว่า ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ แต่ยังเหลือผลการตรวจสอบสารพิษที่ต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ และยังต้องดำเนินการสืบสวนต่อไป

ขอให้คุณได้อยู่ในภพภูมิที่สุขสงบ ปราศจากความทุกข์ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับอาการเสพติด
Chandler จะอยู่ในความทรงจำของแฟนๆเสมอไป...


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE