เกาะติด Highlight จาก 2024 Golden Globes

19 9

มาเกาะติดแฟชั่นและโมเมนท์ที่สร้างเสียงกล่าวขวัญของ Golden Globe ประจำปีนี้กับเราได้เลยค่ะ


 เทรนด์แดงไหนมาแรงบน red carpet

ในฤดูกาลงานประกาศรางวัลแทบทุกปี จะมีความบังเอิญบางประการที่ทำให้เหล่าสไตลิสต์และคนดังใจตรงกัน  ปีล่าสุด สีแดงร้อนแรงก็ผุดขึ้นมาพรึ่บในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ  หลายคนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลซะด้วย  

ลุคหนึ่งที่ติดอันดับ best dressed list ของเราคือ Julianne Moore ในชุดแดงเกาะอก Bottega Veneta แบรนด์ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่อง quiet luxury  เฉดสีกุกลาบแดงและ volume ของชุดทำให้เธอ  stand  out  โดยไม่ต้องประโคมแต่งมากมาย  แม้ว่าจะไม่ได้ทาปากสีเข้ม ก็ยังสดใส ไม่ดูซีดเซียว

Florence  Pugh ไม่ฉีกแนวถนัด  เธอเลือกลุค free the nipple  จากผลงานชุด sheer ของ Valnetino เหมือนกับอีกหลายงาน  แต่จัด gimmick  ที่ผมที่น่าจะเรียกได้ว่า Glam Mohawk ชวนสะดุดตา

Ayo Edebiri นางเอกสาววัย 28 จากซีรีส์ The Bear (ที่เราแสนจะปลื้มและเชียร์ให้หลายคนไปติดตามกัน) ก็เลือกชุดแดงเพลิงที่มีดีไซน์เรียบหรูเช่นกัน  ทรงผมบ็อบเบาๆไม่แย่งชิงความเด่นกับชุดสีแดงเจิดจ้าจนตีกันยุ่งเหยิง  เทื่อขึ้นไปรับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมสาขาซีรีส์ musical/comedy ก็ได้นำเสนอ speech ที่ฟังดูเข้าถึงได้ ทั้งยังส่งคำขอบคุณไปยังเอเจนท์ไปจนถึงผู้ช่วยของผู้จัดการของเธอที่ช่วยตอบรับโทรศัพท์และอีเมล  น่าจับตามองต่อไปถึงก้าวข้างหน้าในอาชีพนักแสดง จากเมื่อปีก่อนที่เธอได้เข้าชิง Emmy ไปแล้ว ปีนี้เบียดนางเอกชั้นนำมารับลูกโลกทองคำไป  ออร่า  A list เริ่มเปล่งประกายชัด

ส่วน Selena Gomez เลือกชุดแดงเฉดทับทิมจาก Giorgio Armani Privé   ที่มีดีไซน์ความยาวลดหลั่นและ volume เด่น  เห็นสื่อบางเจ้าจัดให้เธออยู่ในกลุ่ม worst dressed แต่เราว่า เธอดูสดใสร่าเริงไม่อึดอัด  มีความกล้าเสี่ยงกับลุคที่แตกต่างจากแนวถนัด  เพิ่มโบนัสด้วยโมเมนท์ชายประโปรงปลิวแบบ  Marilyn Monroe

ดีไซน์ท่อนล่างท่อนบนอาจจะดูเยอะจนยุ่งเหยิงไปหน่อย  ลองคิดว่า หากเปลี่ยนเป็นกระโปรงที่ผ้าทิ้งตัวเรียวลื่น ไม่ใช่ volume  พองหรือมีชายเท่ากันอาจจะละมุนมากขึ้น แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ปลื้มลุคนี้ เพราะชายกระโปรงที่ไม่เท่ากันและ cutout ที่ชุดดูแหวกแนวและน่าสนุกดี

สไตล์เจ้าสาวก็ครองพรมแดงเช่นกัน


ที่ผ่านมา พวกเราอาจจะชินกับการประชันความโดดเด่นบนพรมแดงแบบที่เห็นก็รู้เลยว่าตั้งใจแต่งตัวมาแย่งซีน เหล่านางเอกเลือกสวมใส่ชุดสีขาวและสีงาช้างไร้ลวดลายที่ดูบริสุทธิ์และ romantic ที่ทำให้นึกถึงเจ้าสาวก็น่าจะสรุปได้แล้วว่า กระแส quiet luxury ยังไม่คลายความนิยมลงไปแต่อย่างใด


ในความเรียบหรูนั้นมีดีเทลที่ feminine และเป็นสไตล์ที่จับเอามาใส่เมื่อไรก็ยังงดงามข้ามวันเวลา ไม่ล้าสมัย

ดีไซน์งานเลื่อมก็มีเกลื่อนพรมแดง



เมื่อได้เกาะติดแฟชั่นพรมแดงเลิศหรูเมื่อใด ก็แทบไม่ต้องสงสัยว่า เราจะได้เห็นงานปักเลื่อมตาแตกกันรึเปล่า ท่ามกลางแสงแฟลชสาสะท้อนไม่หยุด เลื่อมที่เปล่งประกายระยิบระยับก็ยิ่งดึงดูดสายตา แต่เพราะเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนดัง บางลุคอาจจะซ้ำจนไม่ว้าวนัก ต้องมาแข่งกันที่ดีไซน์ว่าจะจุดประกายความตื่นเต้นได้มากแค่ไหน

เมื่อพูดถึง  Taylor Swift  ก็คงจะคุ้นเคยกับสไตล์ shimmering, glittering ที่เข้ากับบทเพลง Bejeweled   เมื่อก่อนเคยเห็นเธอใส่ชุดเขียวเฉดอื่นแล้วไม่รู้สึกว่าชวนจดจำนัก แต่ชุด  Gucci นี้ได้ขับความงามของเธอให้ดูเด่นชัด  ทั้งเฉดสีที่ตรงกับอีโมจิน้องงูอันลือลั่นและ  fitting  สุดเป๊ะที่เสริมให้ส่วนเว้าส่วนโค้งดูเย้ายวน
ลุคเจ้าหญิงของ Natalie Portman นั้นมาจากการปักเลื่อมรูปดอกไม้เล็กๆอย่างปราณีต มีผู้เปรียบว่า ชุดของเธอดูงดงามราวกับผลงานศิลปะของ Monet   แต่เธอได้บรรยายเปรียบเทียบว่า ชุด Dior ตัวนี้สวยงามราวกับมีสวนพฤกษาประดับประดาบนเนื้อผ้า
ปีนี้เหล่านักแสดง A List ดูจะเน้นที่ความ classic มากกว่าเตรียมชุดที่หวือหวาอลังการมาแย่งซีน หลายคนเลือกชุดสาย spaghetti และเกาะอกที่มีdetail ปราณีต  อาจจะไม่ได้มี viral จากแฟชั่นฉีกแนวกันมากนัก   
 ชุดกำหมะหยี่ดำของ Amanda Seyfried  อาจจะไม่ได้แวววาวไปทั้งตัว แต่โบใหญ่ประดับคริสตัลม่วง/ดำก็ได้ช่วยดึงดูดตวามสนใจ  เมื่อรวมกับ  makeup ที่มีโทนสีแมทช์กันและผมบลอนด์ปัดข้างก็งดงามไม่ตกมาตรฐานนางเอก A List  ชุดนี้เป็นอีกผลงานจาก Giorgio Armani Privé  

หนึ่งใน moment ดีต่อใจคือการหวนมาพบกันของแม่ลูกแห่ง Mamma Mia!  ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วของ  Amanda ก็ยิ่งเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้นเมื่อ  Meryl Streep เข้ามาจุ๊บๆทักทาย

อีกหนึ่งความวิ้งของงานก็มาจากพระเอกดังที่เป็นเจ้าของลุค 'หนุ่มวัยรุ่นตลอดกาล'  Timothée Chalamet   แต่สิ่งที่หลายคนให้ความสนนอกสนใจอาจจะไม่ใช่สูท  Celine Homme  แต่เป็นคู่เดทของเขานั่นเอง

อันที่จริง ตั้งแต่ Timmy และ Kylie คบหากันอย่างเปิดเผย ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่า เราน่าจะได้เห็นน้องเล็กแห่งบ้าน KarJenner ใช้บัตรเชิญคู่เดทมาร่วมงานพรมแดง award show ร่วมกับเหล่าเพื่อนร่วมอาชีพของแฟนหนุ่ม แต่พวกเค้าก็ยังตัดสินใจที่จะยังไม่เผยความสัมพันธ์ในรูปแบบ red carpet official แต่เป็นเดินเข้างานประกาศรางวัลไปเลย บางคนให้ความเห็นว่า หากทั้งสองตัดสินใจโพสคู่กันบนพรมแดงเหมือนคู่รักคนดังทั่วไป อาจจะแย่งซีนดาราศิลปินในงานไปแบบเต็มๆ เพราะแม้ว่า ชาวเน็ทจะเห็น Kylie ในอีเวนท์หรูหรามานับครั้งไม่ถ้วน แต่จะไม่ได้พบเห็น KarJenner ในอีเวนท์งานประกาศรางวัลการภาพยนตร์โทรทัศน์ที่ได้ชิงรางวัลชั้นนำมากนัก (เนื่องจากบัตรเชิญสำหรับผู้เกี่ยวข้องมีจำกัด Kourney ที่เคยเดินพรมแดง Oscar ก็ไปในฐานะคู่เดทของ Travis ที่ร่วมแสดงดนตรีบนเวที)


คงไม่ต้องข้องใจเรื่องความหวาน ทั้งสองพูดคุยกันหวานซึ้ง จ้องตากันแบบหลงใหล โชว์ PDA รัวๆ แทบจะกลืนกินกันเข้าไปซะให้ได้ โชว์ นี่ขนาดไม่ได้เดินพรมแดงคู่กันก็สร้างความฮือฮามากแล้ว วันดีคืนดี อยากจะสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบขึ้นมา เป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ break the internet!


แต่คู่นี้มางานใหญ่ด้วยกัน ก็ดูเหมือนว่าชาวเน็ทจะโหยหาดราม่าจนมีผู้ปล่อยข่าวลือจากภาพการสนทนาของเพื่อนสาวสุดซี้ 'Taylena' ที่มีความยาวไม่กี่วินาที จาก user ที่อ้างว่า Selena เข้ามาเม้ามอยถึงเหตุการณ์ชวนอึ้งเมื่อเข้าไปขอถ่ายรูปคู่กับ Timothee แต่แฟนสาวของเขาออกตัวปฏิเสธแทน เมื่อผสมผสานกับการอ่านริมฝีปากของ Keleigh Sperry เพื่อนสาวอีกคนที่คล้ายกับจะถามกลับไปว่า "กับ Timothée น่ะเหรอ?" ตามมาด้วยปฏิกิกิริยาพยักเพยิดยืนยันของ Selena ทำให้เพื่อนๆอ้าปากค้าง หลายคนฟันธงว่า เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ เนื่องจากอีกวีดีโอของของนักข่าว มีเสียงของ Keleigh เอ่ยชื่อ Timothée ค่อนข้างชัด

นี่คือบทสนทนาที่แท้จริงของพวกเธอจริงหรือ? ยังไม่มีฝ่ายใดยืนยัน สิ่งที่รู้ก็คือ Selena และ Timothée รู้จักคบหาเป็นเพื่อนกันมาก่อน ทั้งเคยถ่ายหนังคู่กันและ hang out ในบางโอกาส รวมถึงคุยผ่าน live (เขาเป็นเพื่อนกับ The Weeknd แฟนเก่าของเธอ) มันอาจจะฟังดูไม่ make sense นักหาก Kylie จะไม่ยอมให้แฟนหนุ่มถ่ายรูปกับเพื่อนผู้หญิง แม้ว่าช่วงไม่นานมานี้ จะเกิดเสียงเล่าลือว่า พวกเธอเป็นคู่อริที่แดกดันกันด้วยการพูดลอยๆผ่าน social media แต่ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้มาจากทฤษฎีสมคบคิด แต่เป็นข้อห้ามจาก Kylie จริงๆ ย่อมหมายความว่า ความขัดแย้งของพวกเธอร้าวลึกยากประสาน 




ถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีคำอธิบายชัดๆว่ามีเหตุการณ์ 'แฟนฉัน อย่ามาถ่าย selfieด้วย' จริงๆหรือแค่ลือกันไปเอง   แต่ Selenators กลุ่มหนึ่งก็เข้าไปโจมตีที่ Instagram ของ Kylie ว่าเธอมีพฤติกรรมบงการน่ายี้  แต่ก็มีคนที่ออกมาปกป้องว่า หากมีผู้หญิงที่เกลียดน้ำหน้ากันมาขอถ่ายรุูปกับสุดที่รัก ก็ย่อมขอใช้สิทธิ์แฟนสาวห้ามเหมือนกัน! และยังมีอีกหลายคนที่กล่าวหา Selena ว่า จงใจส่งเสียงดังเพื่อสร้างเรื่องให้ Kylie

ดราม่านี้ดึงความสนใจจากเรื่องรางวัลไปได้ไม่เบาเลยล่ะ


Emma Stone ในชุด Louis Vuitton ปักลวดลายงามวิ้งวับสีอ่อนแหวกอกลึก  มันคือลุคเก่งบนพรมแดงของเธอ แน่นอนว่าสวยงามไม่ตกมาตรฐาน แต่บางมุม โดยเฉพาะอีก backdrop ที่เป็นเป็นพื้นหลังสีเดียวล้วนไม่มีดอกไม้นั้น สีแทบจะกลมกลืนไปด้วยกันหมด
 
fashion choice ตอนที่ Emma คว้าลูกโลกทองคำจาก La La Land ครั้งที่แล้วก็ไม่ฉีกกับคราวนี้มากนัก แสกผมไปทางเดียวกัน ชุด shimmery ที่มีสีสันไม่ห่างกัน   makeup แตกต่างไปบ้าง เห็นแล้วน่าจะยืนยันได้ว่าเป็นทางถนัดของเธอ
ชัยชนะของเธอตามมาด้วย moment ด่ากันเองของเพื่อนสาว  ดังที่ได้รู้กันว่า หากเพื่อนได้รางวัลขึ้นมา Tay ไม่ยอมเชียร์ด้วยการนั่งนิ่งๆส่งสายตาอบอุ่นอย่างเดียว จะต้องลุกปรบมือร้องเรียกแบบโลกต้องรู้   Emma จึงให้สัมภาษณ์ด้วยการแสร้งทำท่ารำคาญว่า
"ยัยนี่บ๊องชัดๆ ฉันคบกับเธอมาเกือบจะยี่สิบปีแล้ว ฉันดีใจมากที่เธอให้กำลังใจอยู่ตรงนั้น และเธอก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเหมือนกัน ฉันล่ะดีใจ๊ดีใจที่เธอ แต่เธอก็บ้าได้อะไรเบอร์นั้น"




งานครั้งนี้ Jennifer Lawrence  ไม่ขอโฉ่งฉ่าง เธอเลือกชุดกำมะหยี่จาก  Dior  เป็นสีน้ำเงินเข้มจนบางมุมคล้ายกับสีดำ แม้คอ V จะค่อนข้างลึก แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยสัดส่วนเย้ายวนใจนัก  สัมผัสถึงความงามเหนือกาลเวลาแบบ less is more เข้ากับเทรนด์ quiet luxury ที่ดังสุดๆเมื่อปีที่แล้ว
พกความงามเลอค่ามาขนาดนี้  J Lawไม่ได้เก็บอารมณ์ขันไว้ที่บ้าน  ระหว่างการประกาศชื่อผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม เธอก็ได้พึมพำให้เห็นชัดๆทางกล้องที่กำลังซูมหน้าว่า  ถ้าเกิดฉันไม่ชนะรางวัล 'ฉันก็จะเผ่นออกจากงานซะเลย'


แต่เมื่อได้ยินเสียงประกาศว่า เพื่อนซี้ Emma Stone เป็นผู้ชนะ เธอก็ออกอาการดีใจซะยิ่งกว่าตอนที่เคบได้รางวัลซะเอง

ถึงตอนนี้ เราจะสรุปได้หรือยังว่า J Law เข้าร่วมงานเพื่อลุ้นรางวัลให้ตัวเองหรือลุ้นเพื่อนสาวกันแน่?

CLASSIC BLACK


เทรนด์จะเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นใด แต่เราก็จะได้เห็นชุดดำที่อีเวนท์พรมแดงสุดเริ่ดเสมอ  แต่เมื่อเพิ่มเติมพร็อพบางอย่างเข้าไป ก็ช่วยให้คนดัง stand out จนกลายเป็น viral ได้  ดูอย่าง  Rosamund Pike ที่สร้างเสียงฮือฮาจากเครื่องหัวที่ไม่ซ้ำใครในงาน  จาก  Gone Girl  ก็กลายเป็น  Gone Viral Girl!
แม้เธอจะให้ความเห็นว่า veil ชิ้้นนี้ดูเข้ากับสไตล์อังกฤษสำหรับอีเวนท์เป็นทางการ แต่เหตุผลที่แท้จริงอาจจะฟังน่าหวาดเสียวกว่าที่คิด   นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อ Christmas ที่ผ่านมา  เธอประสบอุบัติเหตุตอนเล่นสกีจนเจ็บตัวไม่น้อย ใบหน้าเธอก็บอบช้ำไปเต็มๆ แม้ว่าบาดแผลจะเริ่มหายดีแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้ veil นี้ป้องกันใบหน้าไว้   ทั้งๆเลือกพร็อพนี้ด้วยความจำเป็น แต่มันก็เป็นลุคที่เข้ากับบทบาทในหนัง Saltburnที่ทำให้เธอเช้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมแบบลงตัวที่สุด



Carey Mulligan เฉิดฉายในชุดวินเทจจาก Schiaparelli  เธอเป็นอีกคนที่เลือกทำผมบ็อบที่ดูชิคดข้ากับความสง่างามของชุดที่มีดีไซน์แบบ Hollywood ยุคทอง
ชุดทรง mermaid ของ Dua Lipa ทำให้เธอดูสูงราวกับ supermodel     ผลงานการออกแบบจาก Schiaparelli ดูเยอะ ทั้งปักลวดลายกระดูกเคลือบทองและความพองของช่วงประโปรงซาตินด้านล่าง  แต่เธอมาพร้อมกับ inner ที่เอาอยู่  
เราเห็นคนวิจารณ์ชุดคอร์เซ็ทดำที่ปักลวดลายสีทองว่า ดูไม่แพงสมกับเป็น Haute Couture    แต่นี่ก็เป็น signature ของ Schiaparelli ที่เห็นก็เดาชื่อแบรนด์ได้ทันที   ดูเข้ากับตัวเธอที่ชอบท้าทาย ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม

ใครว่าแฟชั่นชุดดำบนพรมแดงของคุณผู้ชายจะต้องมีแต่สูทแบบเดิมๆ   พระเอกหนุ่มใหญ่เข้าของฉายา Internet daddy หนีลุคเดิมๆด้วย sweater สีดำปิดคอประดับด้วยช่อเส้นด้ายหรือเชือกขาวดูเหมือนกับลวดลายทั่วตัว   แม้ว่าจะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนต้องใช้ sling พยุงแขน แต่ก็ได้รับเสียงชมว่า  มันไม่ได้ดูขัดกับ  styling หรือทำให้มาดของเขาดูเหนื่อยหรืออึดอัดแต่อย่างใด
ความ daddy ใจดีของ Pedro ที่ทำให้กระแสความนิยมพุ่งสูงกลายเป็นขวัญใจชาวเน็ทนั้นก็เปิดโอกาสให้คนอื่นชงมุกแซวไม่หยุด  ในงานนี้เป็นทีของ Kieran Culkin ที่เบียดเอาชนะคู่แข่งจนคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขา Drama Series  เขาใช้พืิ้นที่ในการขึ้นเวทีรับรางวัลแซวแบบ Pedro ที่ถูกปาดหน้า่ว่า "ทำใจซะ Pedro นี่มันรางวัลของผม" จาก speech ช่วงแรกที่กินใจไม่น้อย เพราะเจ้าตัวทำงานแสดงมานาน แม้จะเคยเข้าชิงรางวัลมาบ้าง แต่ก็ถอดใจแล้วว่าแล้วว่าคงเอื้อมไม่ถึงลูกโลกทองคำ จนในที่สุดก็ได้สัมผัส moment ดีงามบนเวทีแห่งนี้ แล้วเปลี่ยนอารมณ์แบบตัดฉับมาเยาะเย้ยพระเอกรุ่นพี่เรียกเสียงหัวเราะลั่นงาน  ส่วนคนถูกแซวก็ขำตามไปด้วย แล้วแกล้งเศร้าเบะปาก น่ารักอีกแล้ว!

เทรนด์ชมพูสุดหวานยังไม่จางหายไป


คุ้นเคยกับสไตล์สุด fierce ของ Hunter Schafer   แต่เมื่อเธอเผยด้านที่อ่อนหวานนุ่มฟูราวก็ไม่รู้สึกขัดตาแม้แต่น้อย  ชุดชมพูบางเบาดูลงตัวกับ makeup ละมุนและทรงผมแบบ minimal   แล้วกดคะแนนเพิ่มรัวๆด้วย posture สง่างามราวกับนางแบบ
สะกดสายตาโดยไม่ต้องเล่นใหญ่ ขอลมพัดชุดให้พริ้วไหวราวกับบนางฟ้าเหาะเหินลงมาประทับก็พอ

งานนี้ Jennifer Lopez เมินชุด see-through ปักเลื่อมผ่าขาสูง แต่ขอละมุนด้วยชุดเกาะอกสีนมชมพูประดับ cape ช่อกุหลาบใหญ่ยักษ์และจับจีบ train ยาวด้านหลัง เจ้าของผลงานดีไซน์คือ Nicole + Felicia Couture ซึ่งออกแบบชุดสวยอลังการให้กับดาราและ influencer สวมใส่เดินพรมแดงเทศกาลหนังเมือง Cannes มาแล้ว และได้ชื่อว่า เป็นห้องเสื้อหรูหราที่ตัดเย็บชุดเจ้าสาวที่มีฐานะระดับเศรษฐีในเอเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้ เเราไม่เคยเห็น J Loใส่ชุดจากสองพี่น้องดีไซน์เนอร์เชื้อสายไต้หวันมาก่อน พวกเธอเพิ่งก่อตั้งแบรนด์มาได้ไม่ถึงสิบปี  และคนดังฝั่ง  Hollywood ก็เริ่มหันมาสนใจดีไซน์ของพวกเธอ อย่าง Taylor Swift ที่เลือกชุดสไตล์เจ้าหญิงในการแสดง  MV และติดใจจนเรียกใช้บริการพวกเธออีกใน Eras tour   และเมื่อพวกเธอได้นำเสนอผลงานบนพรมแดง Golden Globes ส่งให้ J Lo ถูกจัดให้อยู่ใo best dressed list ก็น่าจะการันตีว่า เราจะได้เห็นผลงานสวยตระการตาจาก Nicole + Felicia บนพรมแดงอีกเรื่อยๆ
sweet moment ของ คู่  Bennifer ไม่ได้ห่างหายไป  จริงๆแล้วก็เดินมาด้วยกัน แต่ไม่ได้โพสบนพรมแดงแบบเต็มๆ  แต่ก็มีมุมจุ๊บๆในงาน  บรรยากาศที่พร่างพรูไปด้วยความรักแตกต่างจากข่าวลือว่า ทั้งสองทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดเพราะปรับตัวเข้ากันไม่ได้ ซึ่งต้นตอข่าวมาจากภาพ  paparazzi ที่หลายคนตีตวามว่า  Ben มักจะอารมณ์บูดและแลกเปลี่ยอารมณ์เผ็ดร้อนกับภรรยา superstar เสมอ ซึ่ง  J Lo ได้เฉลยว่า สามีรู้สึกงงด้วยซ้ำที่ชาวเน็ทใส่ใจเรื่องสีหน้าของเขาถึงขนาดกลายเป็น viral  ทั้งที่ยังชิล แต่ก็มีวิจารณ์กันไปทั้งๆที่ไม่ได้เข้าใจเรื่องการแสดงสีหน้าของเขาเลย

น่าจะเป็นลุคที่คาดเดาได้ง่ายที่สุดในงานนี้  เพื่อศักดิ์ศรีของหนังรายได้สูงสุดแห่งปี  นางเอก  Barbie  ก็ต้องมาในชุดสี  Barbie pink ที่ฟรุ้งฟริ้งตรงตามต้นฉบับเวอร์ชั่นตุ๊กตา มั่นใจว่าดีไซน์เนอร์ชื่อดังต่างเต็มใจจะร่วมงานกับเธอ    เพื่อเนรมิตชุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตา Barbie รุ่น SuperStar จากปี 1977 ที่งามเฉิดฉายที่สุด เธอจึงเลือกร่วมงานกับ Giorgio Armani Privé จนลงตัวที่ชุดชมพูปักเลื่อมทั้งตัวและผ้า tulle พาดไหล่พองฟู     ดูจากภาพนิ่งก็ไม่ต่างจากลุคช่วงโพรโมทหนังนัก แต่ตอนเดินเข้างานตรงเข้ามาให้สัมภาษณ์นั้น พลังงาน Barbie ทำให้เธอโดดเด่นมากจริงๆ 


ชุด See-Through


อีเวนท์ประกาศเกียรติคุณสำหรับคนวงการภาพยรตร์โทรทัศน์แห่งนี้ไม่เคยขาดแคลนความ sexy แม้นักแสดงศิลปินอาจจะไม่ได้กระหน่ำใส่ naked dress เต็มพิกัดเหมือนกับ award show สายดนตรี หรือ Vanity Fair after party แต่ยังไงเราต้องได้เห็นชุด see through เผยเรือนร่างวับแวมภายใน หนึ่งในลุคที่สะดุดตาของเราคือ Elibabeth Olsen ชุดคอร์เซ็ทประดับลูกไม้ขาวจาก Vivienne Westwood ให้ความรู็สึกแบบ Lingerie หรูหรา ทั้งท้าทายสายตาแต่ก็แฝงด้วยความอ่อนหวาน ที่สำคัญ styling ก็ลงตัว โทนสี makeup ช่วยเติมความ glow แม้จะเป็นชุดสีขาว แต่ก็ไม่ทำให้เธอดู washed out


Karen Gillan เลือกชุดจาก Iris van Herpen ดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียงจากผลงานสุดล้ำราวกับเป็นแฟชั่นในโลกอนาคต ทั้งวัสดุ ดีไซน์ที่ยากจะซ้ำใคร ชุด  cut out ของเธอนั้นเผยให้เห็นเนื้อหนังไม่น้อย แต่ลวดลายและรูปทรงแปลกใหม่ได้เบี่ยงเบนความสนใจจากความหวิว

ส่วนนักแสดงคนอื่นๆที่เลือก see-through ก็สวยงามตามท้องเรื่อง แต่อาจจะไม่ใช่ลุคที่ตรึงตราหรือสร้างความจดจำเพราะพวกเธอแต่งตัวแนวคล้ายกันในอีเวนท์อื่นมาแล้ว


การทำหน้าที่ Opening Monologue ของ Jo Koy ถูกชาวเน็ทถล่มยับ

บางคนอาจจะมองว่า การตัดสินใจเลือกพิธีกรที่ทำหน้าที่พูดเปิดงานหรือ opening monologue นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญมากจนถึงขั้นต้องนำมาเป็นประเด็นโจมตีกัน เพราะมันก็เป็นการโชว์คารมเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมเพียงไม่กี่นาที  และพวกเราต่างก็จดจ่อกับเรื่องรางวัลมากกว่าการปล่อยมุกของพิธีกร  แต่หากเริ่มต้นงานด้วยบรรยากาศชวนอึดอัดและ joke ที่พอจะเรียกได้เพียงแต่เสียงหัวเราะฝาดเฝื่อนคล้ายกับจำใจต้องหัวเราะตามมารยาท   คนที่ดูผ่านหน้าจอที่มีตัวเลือกเปลี่ยนช่องก็คงไม่อยากอดทนรับฟัง  ชาวเน็ทหลายคนลงความเห็นว่า ช่วงเวลาสิบนาทีที่ Jo Koy พยายาม entertain ผู้คนนั้นช่างยาวนานเกินรับ   แม้จะยิงมุกที่พอจะเรียกเสียงฮา ไม่ได้กริบยาว   แต่ก็มีจังหวะที่หน้าตาของแขกเหรื่อบางคนที่คล้ายกับว่ากำลังฝืนหรือแทบจะปิดความรำคาญไม่อยู่

ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับชั้นเชิงของTina Fey & Amy Poehler ที่จิกกัดดาราศิลปินเจ็บๆคันๆ แต่ก็ยังหัวเราะยอมรับสภาพไปด้วย หลายคนโต้ตอบด้วยภาษาท่าทางสนุกสนาน หรือจะเป็น Ricky Gervais ที่เพิ่งชนะรางวัล Best Performance in Stand-Up Comedy นั้นขึ้นชื่อลือชาเรื่องมุกสุด savage ราวกับปล่อยหมัด uppercut ใส่คนดังที่นั่งชมด้านล่างโดยที่ยากจะป้องกัน แต่ภายใต้วีดีโอ opening monologue ของ Jo Koy นั้นเต็มไปด้วยเสียงบ่นจากผู้ชม ถึงขนาดว่ามีคนที่รู้สึกขายหน้ากับจังหวะ dead air ที่เกิดจาก joke ที่เหมือนผิดที่ผิดทางไปหมด หรือจะเป็นการชงมุกเองขำเอง และตัวพิธีกรกลับดูขำแรงกว่าผู้ชมหลายระดับ ตัวเขาเองก็สัมผัสได้ทันทีว่า 'แป้ก'จนบางครั้งผู้ชมตอบกลับด้วยสายตาว่างเปล่า  มันอาจจะทำให้เฟลจนต้องปกป้องตัวเองว่า เขาเพิ่งได้รับมอบหมายงานนี้สิบวันก่อน จะมาคาดหวังให้โชว์บทพูดสุดเป๊ะกันได้อย่างไร! แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งทำให้ชาวเน็ทกังขาเรื่องความเป็นมืออาชีพของเขา


 
หากคุณเคยได้ยินพิธีกร Golden Globes ขยี้ประเด็น Leonardo DiCaprio เดทสาวเอ๊าะรุ่นราวคราวลูกด้วยมุกเจ็บแสบ ก็อาจจะมองว่า  มุกเหน็บแนม Taylor Swift ของ Jo Koy นั้นไม่ได้รุนแรงหรือทำให้เสียหน้า  แต่เขาเลือกหัวข้อที่เธอรู้สึกไม่พอใจอยู่เป็นทุนเดิม  และเพิ่งจะให้สัมภาษณ์ The Times ไปเมื่อไม่นานนี้ว่า เธอไปเชียร์แฟนหนุ่มนักกีฬาในห้องสวีทที่สนามโดยที่ไม่ได้รับรู้ว่ากล้องจะซูมที่เธอบ่อยหรือมันจะสร้างความรำคาญใจให้กับทำให้แฟน American Football รุ่นพ่อรุ่นหนุ่ม   เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตากล้องรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ห้องสวีทจุดใด และแสดงออกชัดว่ารู้สึกเปราะบางกับกระแสความสนใจที่ถาโถมเข้ามาเพราะเรื่องนี้


ไม่ต้องพยายามตีความภาษาร่างกายของ Taylor ก็รู้ได้เลยว่า เธอไม่ประทับใจและไม่คิดจะพยายามแกล้งขำเออออไปกับมุกที่แบนราบเรียบแต่อย่างใด อย่าว่าแต่จะเหยียดยิ้มออกมาสักนิด เธอเม้มปาก จ้องเขม็งแล้วจิบแชมเปญด้วยท่าทางเอาเรื่อง ในเวลาต่อมา ตัวพิธีกรเองก็ถูกวิจารร์หนักจนต้องออกมายอมรับว่า มุกนี้ฟังดูพิกลและฝืดไปบ้าง อันที่จริง พอเหน็บแนม Taylor จบหนึ่งยก เขาก็เอ่ยปากขอโทษเธอจากเวทีด้วยซ้ำไป ทั้งๆที่ทั่วไปแล้ว นักแสดงตลกจะไม่ได้มาขอโทษขอโพยตอนที่จิกกัดผู้ชม แต่ท่าทีของเขาคล้ายกับว่า กำลังขอโทษที่ยิงมุกไม่ขำมากกว่า


ตั้งแต่ Jo Koy เริ่มด้วยมุกจิกกัดหนัง Barbie ว่านำเสนอเรื่องราวของตุ๊กตาพลาสติกที่มีหน้าอกอวบอึ๋ม โต๊ะของทีม Barbie พร้อมใจมองแบบเพลียๆ ริมฝีปากอาจจะเหยียดออกเหมือนกับกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มไม่ได้ไปถึงดวงตา เท่านี้ก็น่าจะสรุปได้แล้วว่าเขาไม่ได้เหมาะกับงานนี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนในแวดวงเดียวกันที่แสดงความเห็นใจ Jo Koy เพราะนี่คืองานหินที่ต้องใช้เวลาเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นเดือนๆและจำเป็นต้องมีทีมงานนักเขียนไอเดียบรรเจิดร่วมระดมสมอง จากรายงานว่า นักแสดงตลกผู้ช่ำชองปฏิเสธงานนี้กันไปหมด จนเวลากระชั้นชิดแล้วยังหาพิธีกรเปิดงานไม่ได้ ในที่สุดก็มาลงเอยที่ Jo Koy ที่ขาดประสบการณ์ในการทำหน้าพิธีกรที่ใน award show ซึ่งแตกต่างจากการแสดง stand-up comedy


คู่กัดเอเชียนแห่ง  Beef สร้างประวัติศาสตร์


เมื่อนักแสดงกลุ่ม minority ของสังคมได้เอื้อมสู่ความสำเร็จด้วยรางวัลยิ่งใหญ่ ก็ต้องเชียร์ให้ดังกึกก้อง ทั้ง Steven Yeun และ Ali Wongคว้าชัยชนะในสาขารางวัลนักแสดงชาย/หญิงยอดเยี่ยมจาก Limited Series,/Anthology Series/Television Motion Picture ใจมันเต็มตื้นไปกับพวกเค้า เพราะทั้งสองคนต่างงัดเอาของดีมาฟาดฟันกันใน Beef ซีรีส์ดุจัดแห่งปี อันที่จริง เมใื่อหลายเดือนก่อนที่ซีรีส์เพิ่งลงจอนั้น ทั้งนักวิจารณ์และคนดูก็ลงความเห็ฯว่า นี่คือหนึ่งในผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่จะเป็นตัวเก็งสอยรางวัลใหญ่ และก็เป็นไปตามคาดกันไว้ นอกจากนักแสดงนำสมหวังด้วยลุูกโลกทองคำในอ้อมแขน Beef ก็ยังแรงจัด ได้รางวัลยอดเยี่ยมสาขา Limited Series,/Anthology Series/Television Motion Picture ไปด้วย โดดเด่นขนาดนี้ ก็จุดความสงสัยเรื่องโอกาสในการสร้างซีซัน 2 ขึ้นมาอีก ผู้กำกับยืนยันหลังเวทีรับรางวัลว่าพร้อมในการสร้างภาคต่อ แต่ก็ขึ้นอยู่กับ Netflix ว่าจะอนุมัติหรือไม่



candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE