ข้อกล่าวหาที่ทำให้ชาวเน็ทรู้สึกสะดุดใจกับ Selena Gomez
candy 19 8การประกาศพักจาก social media ที่ทำให้หลายคนถามว่า พักแบบใด?
วิธีการรับมือกับความ toxic ของสังคมออนไลน์ของคนดังมีความแตกต่างกันออกไป มีทั้งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและเลือกคัดสรรผู้ติดตามแบบวงในสุดๆ เพื่อป้องกันคำพูดทำร้ายจิตใจจากคนแปลกหน้าและการขุดคุ้ยจากสื่อ บางคนตัดปัญหาด้วยไม่ลงทะเบียนขอใช้บัญชี platform ชื่อดัง หรือแม้กระทั่งงดติดตามเรื่องราวจาก social media เพื่อตัดปัญหาไปตั้งแต่ต้น แต่ยังมีศิลปินดราราอีกหลายคนที่เห็นความสำคัญของการเชื่อมต่อสื่อสารกับแฟนๆและโพรโมทผลงานให้โลกได้รับรู้เพื่อต่อยอดความสำเร็จให้ยิ่งก้าวไกล แต่พวกเค้าก็ต้องทำใจเผชิญกับกระแสความเกลียดชังจากกลุ่ม haters และชนวนดราม่าที่เกิดจากการสันนิษฐานกันไปเองจากคนนอกแล้วบานปลายเป็นประเด็นร้อนเรียกทัวร์ลงฉ่ำ ในบางครั้ง คนดังที่ได้รับผลกระทบกับถ้อยคำโจมตีรุนแรงจะเลือกเยียวยาจิตใจตัวเองด้วยการเบรคตัวเองจากการใช้ social media ชั่วคราว และกลับมาเมื่อจิตใจแข็งแรงมากขึ้น
แต่การประกาศพักจาก social media ที่ทิ้งเวลาสั้นลงไปทุกทีนั้นทำให้ชาวเน็ทรู้สึกสะดุดใจ สื่อดังบางเจ้าเริ่มไล่เรียงว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอประกาศพักไปแล้วอย่างน้อย 7 ครั้ง และไม่นานก่อนหน้านี้ก็สร้างเสียงวิจารณ์ครึกโครมเพราะหลังจากประกาศพักก็กลับมาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่า เธอเพียงวางโทรศัพท์ลง พักผ่อนหย่อนใจแบบชิลๆทั้งวัน และก็ล็อคอินเข้ามาใหม่โพรโมทงานของตัวเองทาง Instagram นับแล้ว ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ดึงดูดเสียงวิจารณ์ประชดประชันว่า เธออาจจะสับสนนิยามของคำว่าพักใช้ social media กับการวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืน
อาจจะมีคนคิดว่า คงมีแต่คนที่รู้สึกไม่ปลื้ม Selena ที่ call out เธอเรื่องเบรคจาก social media ซ้ำๆหลังมีดราม่า สื่ออย่าง Hollywood Reporter, Vulture และ Medium ได้เข้ามาร่วมวิเคราะห์ว่า แม้จะเป็นคนบันเทิงบันเทิงที่มีผู้ติดตามมากถึง 429 ล้านบัญชี แต่ Selena อาจจะไม่แตกต่างคนทั่วไปที่อดใจจะคอยส่อง social media ไม่ได้ ถึงจะอธิบายเหตุผลต่างๆนานาที่ทำให้เธอตัดสินเบรคตัวเองจากโลกออนไลน์ แต่ก็เสพติดมันมากเกินกว่าจะห่างหายไปครั้งละนานๆ
การประกาศพักแล้ววนกลับมาบ่อยๆจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ Superstar สาวหรือไม่?
ประธานของ Ruby Media Group บริษัท marketing agency ได้ให้ความเห็นกับ Hollywood Reporter ว่า เรื่องนี้อาจจะไม่ได้กระทบต่อความเชื่อถือของเธอนัก เพราะนี่คือเรื่องธรรมดาสามัญ ไม่ว่าใครก็พูดกันได้ว่า จะของดใช้ social media สักระยะ แต่วันต่อมาก็กลับมา มันได้แสดงถึงความเสพติดของ social media มันยังเป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ทรงพลัง โดยเฉพาะคนดังและอินฟลูเอนเซอร์ มันจึงเป็นเรื่องยสกเย็นที่จะถอยห่างออกมาจากข้อเสนอจากแบรนด์ต่างๆ และมันเหมือนกับจำเป็นต้องอยู่กับ social media ตลอดSelena ยอมรับ เสพติด social media
"ทันที่ที่ฉันกลายเป็นบุคคลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดทาง Instagram ฉันก็เกิดอาการสติแตก มันกลายเป็นสิ่งที่ฉันหมกมุ่น ทั้งตื่นขึ้นมาและเข้านอนก็ขาดไม่ได้ ฉันเสพติดไปแล้ว ฉันรู้สึกว่า ตัวเองได้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรจะได้เห็น ราวกับว่ามันได้ยัดเยียดเรื่องที่ฉันไม่ควรใส่ใจเข้ามาในหัว ลงท้ายแล้วเมื่อส่อง Instagram เมื่อไรก็รู้สึกแย่ มันเป็นเหตุผลที่ฉันได้เพลามือไปบ้าง ห่างจากมันสักนิด"
ความพยายามของ Selena ในการลดอาการเสพเสพติด social media
- ปี 2016 เธอเข้ารับการบำบัดรักษาอาการ panic attack วิตกกังวลและซึมเศร้าเป็นเวลา 3 เดือน และไม่แตะต้องโทรศัพท์เลย ซึ่งเธอเปิดเผยว่า มันเป็นช่วงเวลาที่สร้างความแปลกใหม่สดใส ช่วยให้เกิดความสงบ ฟื้นฟูจิตใจ
- ในปี 2018 เธอได้เบรคตัวเองจาก social media ไปนานเพราะต้องการปิดกั้น cyberbullying และใช้เวลาเยียวยาจิตใจจากปัญหา mental health ซึ่งเป็นช่วงที่เธอเลิกรากับ Justin Bieber สภาวะใจสลายนั้นทำให้เธอไม่อยากจะเห็นความเป็นไปของคนอื่น รวมถึงภาพสวยๆทาง Instagram ที่ทำให้เธอรู้สึกท้อแท้ อยากจะมีรูปร่างเริ่ดแบบนั้นบ้าง
- เธออธิบายหลายครั้งว่า เธอจะไม่ใช้ social media เอง แต่จะยกหน้าที่ให้ทีมช่วยจัดการบัญชีของเธอ ย้อนไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน เธอก็ได้ยืนยันว่า ที่โทรศัทพ์ของเธอไม่มี app ดังๆเหล่านั้นด้วยซ้ำไป หากจะต้องเช็คยัญชีตัวเอง ก็ต้องล็อคอินจากโทรศัพท์คนอื่น
- ปี 2021 เธอเกือบลบบัญชีของตัวเอง แต่ทีมได้หยุดเธอไว้
"ฉันคิดว่า ได้รับข้อมูลข่าวสารมากมายเกินไป และเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของฉันก็แพร่กระจายออกไปทุกหนทุกแห่ง และรู้สึกว่ามันยากจะควบคุมได้ คำพูดของผู้คนเป็นล้านทั่วโลกทั้งด้านดีๆและด้านแย่ๆได้กลืนกินความคิดของฉันไปหมด"
"ทำให้คิดได้ว่า ฉันจะใช้ต่อทำไม ฉันไม่ได้อะไรจากมันเลย มันไม่ได้ให้สาระสำคัญใดๆต่อชีวิต และฉันก็สติหลุดไป ฉันไม่เอามันแล้ว ฉันอยากจะลบไปให้ให้หมดซะ แต่ทีมของฉันฉลาดมากพอที่จะชักจูงให้ฉันไม่ทำแบบนั้นลงไป แต่ฉันก็ดีใจที่ไม่ได้ลบมันทิ้งนะ เพราะนี่คือเส้นทางแห่งการเชื่อมโยงผู้คนที่ยอดเยี่ยม เมื่อฉันได้ใช้มันก็ทำให้รู้สึกยินดีที่ได้รับรู้ว่า ฉันได้เผยถึงความจริงใจอย่างเต็มที่และแสดงเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง"
- ปี2022 เธอประกาศในรายการ Good Morning America ว่า ไม่เข้า internet มาสี่ปี และมันเปลี่ยนชีวิตเธออย่างสิ้นเชิง
แต่ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Selena ต้องเผชิญกับดราม่ามาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นข่าวลือความขัดแย้งกับ Hailey Bieber และ Kylie Jenner, ข้อกล่าวหาเรื่องการแสดงจุดยืนต่อเลอืกข้างสถานการณ์ความขัดแย้งที่ให้เกิดสงคราม Israel-Hamas รวมถึงการเปิดตัวความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มโพรดิวเซอร์แบบเหนือความคาดหมายด้วยการไล่ตอบคอมเมนท์ของชาวเน็ท ทำให้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้ Selena อาจจะไม่ได้มอบหน้าที่ให้กับทีมเป็นฝ่ายจัดระเบียบบัญชีเหมือนเดิม และกลับมาใช้ social media อย่างมีอิสระเต็มที่ เนื่องจากความเคลื่อนไหวทาง Instagram ของเธอดูแตกต่างไปจากเดิม
เธอดูเปิดเผยกับการแชร์ภาพส่วนตัวกับหนุ่มคนรักมากกว่าเดิม และยังโต้ตอบกับชาวเน็ทแบบไม่อ่อนโยนหวานแหวว จากเดิมที่เปิดให้คอมเมนท์เป็นหมื่นๆ ก็จำกัดเหลือไม่เกินหลักสิบ มีเพียงแต่ FC ที่ผ่านการอนุมัติและคนสนิทเม่านั้นที่เข้ามาพิมพ์ข้อความชื่นชมได้ หรือจะเป็นภาพอวยพร Valentine's day ล่าสุดที่แฟนๆ K-Pop ตาดีทักท้วง เพราะภาพในนั้นเป็นบรรยากาศของคอนเสิร์ต Girls' Generation รวมอยู่ด้วย แม้จะเป็นความผิดพลาดแบบ Oops! เพียงเบาๆ และเป็นไปได้ว่า เธอน่าจะนำภาพที่ FC ทำไว้ตั้งแต่แรกมา repost แต่ก็น่าจะชี้ให้เห็นว่า บัญชีของเธออาจจะไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากทีมที่เชี่ยวชาญเรื่อง PR ส่งผลให้เกิดภาพที่เรียกเสียงล้อเลียนตามมา
ข่าวลือเรื่องห่างเหินกับเพื่อนสาวคนสนิทที่สละไตช่วยชีวิต
แต่ในปีหลังๆ ความห่างเหินของพวกเธอดูปรากฏออกมาชัดเจน จากที่เคยนัดพบกันและแชร์ภาพที่เต็มไปด้วยสายใยความเป็นเพื่อน ก็ดูเหมือนจะใช้ชีวิตแบบทางใครทางมัน ยิ่ง Selena ได้เผยในสารคดีชีวิตตัวเองว่า ในวงการ เธอมี Taylor เป็นเพื่อนเพียงคนเดียว ก็จุดประเด็นร้อนขึ้นมาทันที
ฝั่ง Francia ไม่รอช้า เธอกดเลิกติดตาม Selena หลังจากที่สารคดีออนแอร์ และยังพิมพ์ความเห็นที่ฟังดูประชดประชันใต้หัวข้อข่าว Selena เมินเฉยที่จะระบุเธอเป็นเพื่อนในวงการไว้ว่า 'น่าสนใจดี' ฝ่ายSelena ฟาดใส่แบบเชิดๆ ด้วยการโพสต์ลอยๆว่า "โทษทีที่ไม่ได้เอ่ยชื่อให้ครบทุกคนที่ฉันรู้จัก"
โพสต์สั้นๆของ Selena ทำให้ชาวเน็ทร่วมวิพากษ์วิจารณ์เธออย่างหนัก เพราะแม้ว่าจะทะเลาะกันแรงเพียงใด เธอน่าจะพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกันเบื้องหลัง ไม่ใช่โต้ตอบเพื่อนสาวที่รู้สึกน้อยใจที่ไม่ถูกพูดถึงในฐานะเพื่อนสนิทในวงการ คนนอกอาจไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมิตรภาพของพวกเธอในเบื้องหลัง แต่ความเป็นจริงก็คือ ไตอีกข้างที่เคยเป็นของ Francia กำลังทำงานในร่างกายของเธอ การแสดงออกแบบไม่แยแสผู้ที่หยิบยื่นหนทางเพื่อต่อชีวิตให้ก็ไม่ต่างจากพวกไม่รู้บุญคุณคน
แต่มิตรภาพที่แปรเปลี่ยนไปยังความหมางเมินนี้ก็ส่งผลกระทบไปถึง Francia ไม่น้อยเลย เธอได้รับข้อความที่เต็มไปด้วยความอาฆาตมาดร้ายจาก Selenators บางกลุ่ม บางคนกล่าวหาเธอว่า เป็นพวกชอบทวงบุญคุณ ใช้เรื่องบริจาคไตมาข่ม Selena ให้รู้สึกติดค้างไปทั้งชีวิต ทั้งๆที่ได้รับคำขอบคุณและยกย่องจาก Selena มามากมาย บางคนยังฟันธงว่า Selena น่าจะจ่ายเงินก่อนใหญ่ตอบแทนเรื่องไตไปแล้ว และเธอคงมีนิสัยย่ำแย่ทานทนจึงถูก Selena ตัดหางปล่อยวัด เธอเผยว่า เธอได้รับข้อความที่รุนแรงถึงขั้นสาปแช่งให้มีคนมาทารุณขืนใจเธอแล้วกระชากไตอีกข้างออกมาให้ตายๆไปซะ คำพูดร้ายกาจต่างๆทำให้เธอถึงกับช็อคและจิตตก ทั้งยังชี้ว่า cyberbullying จากน้ำมือของคนเหล่านี้มันสวนทางกับอุมดการณ์สนับสนุน mental health ของ Selena อย่างสิ้นเชิง
Francia ยืนยันว่า การเว้นพื้นที่ห่างเหินกันไปหลายปีไม่ได้เป็นเพราะว่า เธอถูก Selena บังคับให้บริจาคไต (ชาวเน็ทจุดประเด็นนี้เมื่อเธอให้สัมภาษณ์ว่า Selena เป็นผู้โทรมาแจ้งด้วยตัวเองว่า ไตของเธอ match กัน ซึ่งเป็นวิธีการแจ้งข้อมูลที่เหนือความคาดหมายของ Francia เพราะเธอเชื่อว่าผู้ที่ทำหน้าที่นี้คือเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เธอใช้เวลาตัดสินใจกับเรื่องสำคัญอย่างรอบคอบ รวมถึงพ่อของ Francia ที่ให้สัมภาษณ์สื่อว่า Francia ตักเตือน Selena ตรงๆ ว่า ไม่ได้สละไตให้เธอเพื่อให้ออกเที่ยวดื่มเหล้า และเธอจะต้องระมัดระวังตัวอย่างเต็มที่) เธอเต็มใจยกไตให้เพื่อนด้วยจิตใจเมตตากรุณา และเธอก็ปลาบปลื้มในสิ่งที่ตัวเองทำมาโดยตลอด
แต่แม้ว่าจะมิตรภาพของเพื่อนซี้คู่นี้จะลงเอยด้วยดี แต่ก็ทำให้หลายคนรู้สึกสะดุดใจที่พวกเธอหมางเมินกันมาถึง 6 ปี ทั้งๆจับมือทำเรื่องยิ่งใหญ่อย่างกับเข้าร่วมการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ไม่ใช่เพื่อนสาวที่คบกันแบบฉาบฉวย บางคนยอมรับว่า ไม่สามารถมอง Selena แบบเดิมได้อีกเลย