สาปแรงไปไหม? กระแส Queen of Tears ยังกรุ่น งานโฆษณาไม่รุมเข้า พัค ซองฮุน
candy 15 5กระแสความนิยมถล่มทลายของซีรีส์ Queen Of Tears ที่อวสานลงไปไม่นานก่อนนี้น่าจะทำให้ผู้ชมมั่นใจว่า นี่คือช่วงเวลาทองของนักแสดงนำที่จะได้อ้าแขนต้อนรับข้อเสนอจากแบรนด์ต่างๆ แน่นอนว่า คู่จิ้น'คิม-คิม'ที่โชว์เคมีเข้ากันจนแฟนๆแอบมีลุ้นให้สานต่อความหวานนอกจอจะยิ่งโด่งดังขึ้นไปอีก แต่สำหรับตัวร้ายอย่างพัค ซองฮุน กระแสความเกลียดชังจากบทยุน อึนซองก็ยังไม่จางหายไปแบบสิ้นเชิง แม้ทักษะการแสดงของเขาจะเรียกเสียงชื่นชมได้มากมาย ทั้งยังมีโพรเจ็คท์ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ในอนาคตที่น่าจะการันตีสถานะนักแสดงชั้นนำ แต่ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ได้โลดแล่นในวงการบันเทิงเกาหลี บทบาทร้ายกาจแบบไม่ลืมหูลืมตาใน Queen Of Tears ได้เป็นจุดหักเหสำคัญที่ทำให้ความสนใจหลั่งไหลเข้ามา แต่เขาก็ต้องรับมือกับเรื่องราวชวนเพลียใจ ถึงขนาดมีกระแสข่าวว่า งานโฆษณาไม่เข้ารัวๆแม้ว่าจะดังเปรี้ยง
จากคำสัมภาษณ์ของพระเอกมากฝีมือในรายการ TV เขาต้องประสบกับ'ด่านเคราะห์'แบบฉบับตัวร้ายเมื่อผู้ชมอินกับละครจนไม่สามารถแยกแยะคนที่มีเลือดเนืิ้อในชีวิตจริงได้ นอกจากจะเจออาจุมม่าที่ร้านอาหารฟาดหลังและด่าให้เลิกจองเวรพระเอกนางเอก เขายังต้องสะพรึงกับข้อความเกลียดชังที่ถูกส่งมาทางกล่องข้อความ social media ถึงขั้นต้องพักจากการอ่านข้อความไปชั่วคราว (จะมีใครบ้างที่สามารถเพลิดเพลินใจไปกับถ้อยคำอาฆาตอย่า่ง 'ฉันจะฆ่าแก' หรือ 'มาเจอกันหน่อยดีกว่า'?) เมื่อพิธีกรตั้งคำถามว่า มีงานโฆษณาไหลมาเทมารึเปล่า เขาก็ตอบแบบขำๆว่า "ไม่มีข้อเสนอเข้ามาเลยครับ น่าจะเป็นเพราะผมได้รับเสียงวิจารณ์โจมตีมากเกินไป"
อย่าว่าแต่คนนอกที่มองเขาในแง่ร้าย แม้แต่แม่ของเขาเองก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้างและอยากให้ลูกชายเพลาๆการแสดงเป็นคนเลวไปบ้าง เพราะยังโหยหาถึงบทบาทของเขาในซีรีส์ My Only One เมโลดราม่าครอบครัวเรตติ้งสูงอลังการที่เขารับบทลูกชายขวัญใจผู้ชมวัยกลางคน
แต่อย่าได้ดูแคลนหรือประมาทบทร้ายไปเชียว เพราะมีกรณีร้ายได้จนได้ดีให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง นักแสดงขั้นเทพบางคนคว้ารางวัลยิ่งใหญ่มาได้เพราะแสดงความร้ายกาจจนเป็นตำนาน แม้กระทั่งพระเอกดังที่รับบท Psychopath ในซีรีส์ดังจนเป็นภาพติดตามผู้ชมอย่างชิน ซ็องรก (My Love From the Star และ The Last Empress) ก็สร้างความนิยมและคว้ารางวัลจากบทตัวร้าย เขายังพลิกไปรับบทเด่นที่ท้าทายแนวอื่น ไม่ได้ถูกบทร้ายเหนี่ยวรั้งไว้แต่อย่างใด
แฟนๆปกป้อง อาจจะดูร้ายน่าหยุมหัวในซีรีส์ แต่ตัวตนนอกจอน่ารักน่าเชียร์
แฟนละครไทยรุ่นอาจจะคุ้นเคยกับการเปรียบเทียบกระแสความเกลียดชังนางร้ายในละครว่า พวกเธอจะต้องหลีกเลี่ยงการเดินผ่านตลาดสด เพราะอาจจะถูกเปลือกทุเรียนในมือแม่ค้าฟาดจนเจ็บตัว ซึ่งความเป็นมาของการตบหน้านางร้ายด้วยทุเรียนนั้นเริ่มมาจากเหตุการณ์ที่นางร้ายตัวมัมอย่างกิ๊ก สุวัจนีต้องเผชิญหน้าแม่ค้าตลาดสดถือทุเรียนมาขู่จะตบในระหว่างที่กำลังถ่ายละครจริงๆ แต่ reaction แฟนละครที่ไม่สามารถแยกแยะบทบาทการแสดงกับชีวิตจริงได้นั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ฟังดูเหลวไหลในสายตาหลายคน เพราะในยุคสมัยนี้ พวกเราสามารถเข้าถึงแง่มุมต่างๆของนักแสดงซีรีส์ดังผ่านการให้สัมภาษณ์โพรโมทผลงาน หรือจะเป็นการเข้าร่วมวาไรตี้โชว์ที่เผยถึงตัวจนสุดอ๊องชวนให้เอ็นดูมากกว่าจะแค้นจนส่ง DM ขู่ฆ่ากัน
แฟนของพัค ซองฮุนยังชี้ว่า ประสบการณ์ยาวนานในวงการแสดงนั้นทำให้พระเอกวัย 39 (หรือ 40 จากการนับปีแบบเกาหลี) วางตัวได้น่าชื่นชม เขาถ่อมเนื้อถ่อมตัวและแสดงความปลาบปลื้มใจที่ผู้คนจดจำเขาจากบทบาทตัวร้ายในซีรีส์ดังได้มากขึ้น จากเดิมที่อาจจะมีเพียงไม่กี่คนที่เห็นเขาแล้วจำได้ทันที แต่ในระหว่างถ่ายทำหนัง Tropical Night ที่กรุงเทพฯ พัค ซองฮุนก็ต้องพบกับความเซอร์ไพรส์ เพราะคนไทยก็รู้จักจดจำเขาได้เช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินแฟนในไทยร้องเรียกชื่ออึนซอง ก็รู้สึกอบอุ่น แม้กระทั่งคนที่ไม่ชอบตัวละครนี้ เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณ และต่อจากนี้ไปก็พร้อมจะถ่ายทอดตัวตนในแง่มุมใหม่
แฟนของพัค ซองฮุนยังชี้ว่า ประสบการณ์ยาวนานในวงการแสดงนั้นทำให้พระเอกวัย 39 (หรือ 40 จากการนับปีแบบเกาหลี) วางตัวได้น่าชื่นชม เขาถ่อมเนื้อถ่อมตัวและแสดงความปลาบปลื้มใจที่ผู้คนจดจำเขาจากบทบาทตัวร้ายในซีรีส์ดังได้มากขึ้น จากเดิมที่อาจจะมีเพียงไม่กี่คนที่เห็นเขาแล้วจำได้ทันที แต่ในระหว่างถ่ายทำหนัง Tropical Night ที่กรุงเทพฯ พัค ซองฮุนก็ต้องพบกับความเซอร์ไพรส์ เพราะคนไทยก็รู้จักจดจำเขาได้เช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินแฟนในไทยร้องเรียกชื่ออึนซอง ก็รู้สึกอบอุ่น แม้กระทั่งคนที่ไม่ชอบตัวละครนี้ เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณ และต่อจากนี้ไปก็พร้อมจะถ่ายทอดตัวตนในแง่มุมใหม่
FC ยังฟันธงว่า พัค ซองฮุนอาจจะไม่ได้มีภาพลักษณ์เทพบุตรแห่งชาติ แต่ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำก็พิสูจน์ชัดเจนว่า เขาเข้ากันได้ดีกับเพื่อนนักแสดงในซีรีส์ มีกิริยาน่ารักอบอุ่นห่างไกลจากบทยุน อึนซองที่ร้ายแบบดื้อด้านจนคนดูยี้กันถ้วนหน้า และอันที่จริง คอซีรีส์เกาหลีน่าจะรอติดตามผลงานการแสดงเรื่องใหม่ของเขา รวมถึงแบรนด์ที่อาจจะกังวลว่า แรงเกลียดชังที่เกิดขึ้นจากบทบาทตัวร้ายจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเขาจนเลี่ยงจะหยิบหยื่นข้อเสนอในการร่วมงานกัน ซึ่งน่าจะมองยาวไกลถึงอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขา ชัดเจนจากการได้รับเลือกให้เข้าร่วมแสดงใน Squid Game Season2 เพราะแค่เห็น casting ก็สัมผัสได้เลยว่า ผู้สร้างซีรีส์มุ่งมั่นเพื่อจะตอกย้ำความสำเร็จจากภาคแรกที่โกยเรตติ้งมโหฬารจนสร้างปรากฏการณ์ระดับ global
ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่ไม่แฟร์นัก เพราะนักแสดงที่รับบทร้ายจนถึงกระดูกอย่าง อิม จียอน ที่ได้จับมือโด่งดังมาด้วยกันใน The Glory นั้นได้ feedback สุดเริ่ด รางวัลใหญ่ก็มา งาน sponsor ก็ดี หรือจะเป็นแทคย็อนที่โชว์ skill ความร้ายแบบเจ้าพ่อหน้าใสใน Vincenzo รวมไปถึงนักแสดงอีกหลายคนที่ทำให้ผู้ชมแพ้ทางตกหลุมรักการแสดงร้ายเลือดเย็นของพวกเค้า มันอาจจะเป็นไปได้ว่า แนวทางการเขียนบทของ Queen Of Tears ที่นำเสนอมารหัวใจคอยตามจองล้างจองผลาญพระเอกนางเอกส่งผลให้แฟนๆซีรีส์ขัดใจหนักหน่วงกว่าตัวร้ายจากซีรีส์เรื่องอื่น เมื่อรวมกับทักษะการแสดงที่ถ่ายทอดตัวร้ายจิตหมกมุ่นได้ชวนยี้จริงจังถึงขั้นที่มีคนไม่ยอมปล่อยวางว่า นั่นเป็นเพียงการแสดงต่อหน้ากล้อง ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของนักแสดง พัค ซองฮุนจึงต้องเจอกับผลกระทบไปพักหนึ่ง
วิธีแก้ไขปัญหาไม่ให้ผู้คนยึดติดกับบทบาทตัวร้ายบนจอ
หลังจากการแสดงบทร้ายได้สร้างกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ ทำให้มีผู้หยิบหยื่นข้อเสนอบทตัวร้ายมาให้เพียบ แต่เขาก็ได้เผยความปรารถนาจะฉีกไปรับบทคนดี๊คนดีและยังสนใจบท comedy ด้วย แต่เมื่อมาถึงหัวข้อ 'การแสดงเป็นตัวร้ายได้ส่งผลในแง่ลบต่อภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนหรือไม่?" เขาก็ได้แสดงความเห็นว่า จากเดิมที่ในอดีตผู้คนจำนวนมากมีความเข้าใจผิดว่า นักแสดงที่รับบทร้ายก็คงมีนิสัยเลวทรามเช่นเดียวกัน แต่ในทุกวันนี้ ผู้คนคิดแยกแยะกันได้แล้ว แทนที่จะคิดว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมต่อเขา เขาพยายามมองว่า นี่คือเสียงชมจากผู้ชมว่าเขาแสดงได้ดี
แต่ถึงจะพยายามคิดบวก แต่เขาก็ต้องหาวิธีรับมือกับการโจมตีของแฟนซีรีส์เช่นกัน เขาเล่าว่า เลือกเปิดเผยตัวตนจริงๆด้วยทำวีดีโอคอนเทนท์ของตัวเองและเข้าร่วมรายการบันเทิง เพื่อจะช่วยให้ผู้ชมแยกเขาจากตัวละครที่ร้ายกาจได้
กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ก็ต้องฝ่าฟันมาอย่างหนักหน่วง
นักแสดงดาวรุ่งบางคนพบกับจังหวะลงตัวบนเส้นทางบันเทิงจนแจ้งเกิดจนเปรี้ยงปังในขณะที่ยังอยู่ในวัยยี่สิบ นั่นหมายความว่า พวกเค้ามีโอกาสไขว่คว้าถึงสถานะนัักแสดงแถวหน้าของวงการได้เร็วกว่านักแสดงมากมายเกลื่อนวงการที่ต้องวนเวียนรับบทสมทบ พวกเค้าต้องพยายามสร้างจุดเปลี่ยนที่สามารถผลักดันให้ก้าวสู่สปอทไลท์อย่างเต็มตัว แม้ว่าพัค ซองฮุนจะเคยรับบทพระเอกจับคู่กับนานะจากซีรีส์ Psychopath Diary แต่ก็ไม่ได้เป็นผลงานสร้างเรตติ้งดีนัก เจ้าตัวยอมรับว่า กว่าจะมีคนจำหน้าค่าตาได้มากขึ้น ก็มาจากการเข้าร่วมซีรีส์ดราม่าล้างแค้น The Glory เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น เขาจึงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังตัวไม่ให้มีภาพที่เสียหาย
เมื่อส่องโพรไฟล์การงานของเขา ก็พบกับรายชื่อละครเวทียาวเหยียด แต่แรกเริ่มเดิมทีก็ไม่ใช่ดาวเด่นของวงการนี้ เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงค่าตัวถูกแสนถูกที่หาเงินไม่พอเพียงต่อค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องทำงานพาร์ทไทม์สารพัดเพื่อปากท้องและสานต่อความฝันให้เป็นจริง แต่ชีวิตที่ยากลำบากก็ทำให้สิ้นหวังจนร่ำไห้มาแล้วหลายครั้ง
เมื่อส่องโพรไฟล์การงานของเขา ก็พบกับรายชื่อละครเวทียาวเหยียด แต่แรกเริ่มเดิมทีก็ไม่ใช่ดาวเด่นของวงการนี้ เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงค่าตัวถูกแสนถูกที่หาเงินไม่พอเพียงต่อค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องทำงานพาร์ทไทม์สารพัดเพื่อปากท้องและสานต่อความฝันให้เป็นจริง แต่ชีวิตที่ยากลำบากก็ทำให้สิ้นหวังจนร่ำไห้มาแล้วหลายครั้ง
ย้อนไปในปี 2012 ซีรีส์ Moon Embracing the Sun ที่กวาดเรตติ้งไปถึง 42.2% และคว้ารางวัลมามากมายนั้นทำให้คิม ซูฮย็อนขึ้นแท่นพระเอกชั้นนำอย่างมั่นคง แต่พัค ซองฮุนได้เข้าร่วมแสดงในบทเล็กๆไม่สำคัญ ความสำเร็จของเขาในวันนี้ ย่อมเป็นรูปแบบสร้างมาเองกับมือ
เรามาร่วมส่งแรงสนับสนุนให้เขาเปล่งประกายยิ่งกว่านี้กันเถอะ!