รีวิว Dyson Airstrait ผมหนาหยิกฟูต้องยืดตลอด มีแล้วชีวิตดีขึ้น!

ในที่สุดก็ได้มาลองแล้วค่าา Dyson Airstrait หลังจากที่เล็งอยู่นานมากก เห็นรีวิวคือต้องมีจริงๆ เพราะว่าเราผมหนาหยิกฟู ต้องยืดตลอด ยืดมาแล้วผมขึ้นใหม่ก็หยิกจนต้องหนีบทุกวัน ใช้เวลาไดร์ผมอย่างตํ่า 30 นาทีเลยค่ะกว่าจะแห้ง พอผมแห้งต้องหนีบผมต่ออีก 30 นาที ( รวมเป็น 1 ชม.กว่าจะได้ออกจากบ้าน😂) ใช้เวลานานมากกก จนท้อ แล้วผมเสียจากความร้อนด้วยค่ะ สงสารผมมากก

Dyson Airstrait คือเกิดมาเพื่อเราสุดๆ มีแล้วชีวิตดีขึ้นมากค่ะ ด้วยความที่เขาทั้งไดร์และหนีบได้ในเครื่องเดียวตั้งแต่ผมเปียกได้เลย แล้วไม่มีแผ่นความร้อนก็จะช่วยลดผมแห้งเสียจากการ ประหยัดเวลาไปเยอะมากก เราใช้เวลาประมาณ 25 นาที ค่ะ ผมสวยเหมือนเดินออกจากซาลอนเลย
✨ตัวเครื่อง : นํ้าหนักไม่หนักไม่เบาจนเกินไปค่ะถือสบายๆ เราใช้สี Rich copper สีสวยเรียบหรูดูแพงมากกก

✨Function : ครบมากกก ทำได้ทั้งผมเปียกผมแห้ง ลมเย็นลมร้อน ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ ปรับความร้อนได้ 3 อุณหภูมิ เวลาหนีบเข้าหากันเครื่องถึงจะมีลมออกมา ใช้งานสะดวก

Step 1 : เราใช้ลมเย็นแบบแรงเป่าหนังศีรษะก่อน ให้โคนผมแห้งแล้วปลายผมให้พอหมาดๆ

Step 2 : ไดร์+หนีบ พร้อมกันประหยัดเวลามาก เราผมหยิกหนาฟู ใช้ อุณหภูมิ 140 องศา ยํ้า 2 รอบ ผมแห้งสนิท ผมตรงสวยผมนุ่มไม่กระด้างเหมือนหนีบด้วยเครื่องทั่วไป คือฟิลลิ่งต่างกันมากๆ ผมนุ่มสลวยเป็นธรรมชาติกว่า

สรุปข้อดี
✅ประหยัดเวลา (ผมหนาแบบเราประหยัดเวลาไป 35 นาที!)
✅ผมตรงสวย ✅ผมนุ่มเป็นธรรมธรรมชาติ
✅คุ้มกว่ายืด ลงทุนระยะยาว
✅ผมแห้งไว
✅ลดผมแห้งเสียจากการโดนความร้อน 

ค่าตัวตอนนี้อยู่ที่ 19,900 บาทค่า คำนวณแล้วคุ้มกว่าค่ายืดผมทุกปีค่ะ คุ้มมากก แพงแต่ยอมจ่ายเลยยย
เพราะเรายืดมา 5 ปีแล้วอยากเลิกยืดมากๆ โดนสารเคมีบ่อยๆไม่ไหวค่ะ
ขอหันมาพึ่ง Dyson Airstrait แทน กลายเป็น Favorite item ไปแล้วตอนนี้❤️
#Dyson #Airstrait #ใช้ดีบอกต่อ #ของมันต้องมี