H E Ll O :)

เฮนโหลลลลล สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่า เย่ เย่ เย่ แนนกลับมาแย๊วฮัฟ มีใครคิดถึงแนนกันไหมเอ่ย น่าจะหายไปเกือบ 3 อาทิตย์เลย เพราะแนนเป็นหวัด แต่มีอาการไอเรื้อรังจนเจ็บไปถึงซี่โครงใต้ราวนมด้านขวา อุตส่าห์ดูแลตัวเองมาอย่างดีทั้งปี ดันมาเจ็บป่วยเอาตอนจะปลายปี แต่แนนต้องรีบหายให้ทัน เพราะแนนได้ขนกองทัพไอเทมเด็ดๆมารีวิว มาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันเยอะมาก ก่อนหน้านี้ ทำเก็บไปแล้วกว่า 20 กระทู้ 5555555 เป็นคนป่วยสายเลือดนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ 

จะบอกว่า แนนคิดถึงบ้านจีบันมากๆ และแนนก็รู้ว่าจีบันกับเพื่อนๆคิดถึงแนนกันแน่นอนค่ะ (รับบทคนเข้าข้างตัวเอง ฮริ๊!!)

เอาละมาถึงโพสต์แรกหลังหายป่วยกันเลย

ก่อนหน้านี่แนนได้ถูกรับเลือกให้เป็น 1 ในผู้โชคดี ได้มีโอกาสไปสัมผัสประสบการ์สุดพิเศษ และไปดูงานเปิดตัว  LE SÉRUM, REBORN (สูตรปรับปรุงใหม่) กับ JEBAN x Clé de Peau Beauté บรรยากาศภายในงานอบอุ่นมาก เพราะได้เจอพี่ๆเพื่อนๆบางคน ที่เรารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว พร้อมกับได้เพื่อนใหม่ๆที่แต่ละคนทั้งสวยและน่ารัก งานนี้เลยมีแต่ความน่ารักและอบอุ่นเต็มไปหมด 

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปฟังแนนเล่าต่อกันได้เลยค่ะ

นางเอกของเรื่องวันนี้ คือ LE SERUM, REBORN 

-

ที่กลับมาพร้อมกับสูตรปรับปรุงใหม่ แต่ แต่ แต่เดี๋ยวก่อน!! คำว่า "สูตรปรับปรุงใหม่ " ของแบรนด์ คือการกลับมาทวงคืนบัลลังก์ The First Step Serum เซรั่มอันดับ 1 ของ Cle de Peau Beaute เรียกได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญสู่ผิวสวยออร่าแลดูอ่อนเยาว์ดุจผิวในอุดมคติ ส่วนตัวแนนขอเรียกว่าเป็นเซรั่มบำรุงผิวในขั้นตอนแรกขวดนี้ว่า เป็นเซรั่มแห่งการปลุกเซลล์ผิวให้ตื่น เพื่อให้ผิวได้ปลดล็อก Skin Intelligence

Skin Intelligence 

คือความสามารถของผิวในการปรับตัว

และรักษาสมดุล เพื่อให้ผิวเราแข็งแรง 

เปล่งปลั่งแลดูสุขภาพดี

ซึ่งในส่วนผสมสำคัญในเซรั่มขวดนี้คือ Radiant Lily Flower (เป็นสารสกัดเอกสิทธิ์ของแบรนด์โดยเฉพาะ) ถือเป็นดอกไม้ที่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆได้ดี ทนแดดทนฝน หรือสภาพอากาศที่รุนแรง มีการปรับตัวกักเก็บน้ำไว้ใช้หล่อเลี้ยงในยามที่แห้งแล้ง 

อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะยังว๊าวไม่พอ ตอนที่แนนได้ฟังพี่วิทยากรเข้าบรรยายในงาน แนนต้องอึ้งกับการไม่ใช่แค่การคิดค้นวิจัยของแบรนด์ แต่แนนอึ้งกับความใส่ใจทุกรายละเอียดกว่าจะมาเป็น LE SERUM, REBORN ขวดนึง แบรนด์ต้องไปหาพื้นที่ในการเพาะปลูกดอกลิลลี่ที่ดีที่สุด เลือกแล้วว่าอยู่ในประเทศฝรั่งเศส การใช้ดิน ต้องเก็บด้วยมือเท่านั้น จำกัดอุณหภูมิในการปลุก ปีนึงจะเก็บดอกน้องเขาได้เท่านี้ แนนรู้สึกว่าการเดินทางของแบรนด์มีความหมายแฝงอยู่ตลอด

มาถึงการใช้งาน คุณแม่แนนเคยสอนเรื่องความสวยความงามว่า เราจะสัมผัสว่าแบรนด์ใส่ใจกับผิวขนาดไหนให้เริ่มต้นด้วยการ ซื้อคลีนเซอร์ของแบรนด์นั้นมาใช้ เพราะการปรนนิบัติผิวเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิว ดังนั้นแนนขอรีวิวไปทีละชิ้นนะคะ

• Cle de Peau Beaute Softening Cleansing Foam : ทำความสะอาดได้หมดจด แต่ไม่พรากความชุ่มชื้นไปจากผิว ให้การสัมผัสที่น่าประทับใจ เนื้อโฟมนุ่มมากไม่บาดผิว กลิ่นหอมอ่อนๆ ชอบค่ะ

• Cle de Peau Beaute LE SERUM : เป็นเซรั่มน้ำใสๆ โดดเด่นในเรื่องของกลิ่น แนนชอบกลิ่นนี้มาก (ไม่อยากอวยเยอะต้องไปลองดมเอง แต่กลิ่นดีจริงๆ) ความมหัศจรรย์คือ แนนเป็นคนล้างมือบ่อยมาก ผิวมือแนนจะแห้งกร้านไวกว่าบริเวณส่วนอื่น ทุกครั้งที่ใช้พรีเซรั่มขวดนี้ เหมือนผิวมือแนนดูดตัวเนื้อเซรั่มเข้าไปแล้วส่วนนึง นอกจากได้ปรนนิบัติผิวหน้า ผิวมือกลับดีขึ้นด้วย 55555

• Cle de Peau Beaute Lotion : ตอนแรกที่ลองใช้แนนเฉยๆนะ ทั้งๆที่ตัวน้องโลชั่นเขาก็ดังมานาน แต่พอทดลองใช้ติดต่อกัน แนนรู้สึกว่าน้องโลชั่นเขาเหมือนเรากินอาหารเรียงลำดับการทานอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย คือพอเราให้ผิวได้รับเซรั่ม ตัวโลชั่นคือเสริมเข้าไปทำงานคูณสอง (เรียกว่าตัวซ้ำ) กลิ่นดีอีกเช่นเคย ความชุ่มชื้นคือพร้อมแล้ว คนผิวแห้งคือถูกใจไปเลย

• Cle de Peau Beaute Emulsion : ส่วนอิมัลชั่นเหมือนเป็นการเดินทางเข้าสู่การฟื้นฟูผิว เนื้อเบามาก กลิ่นดี ทาแล้วเหมือนซึมหายเข้าสู่ผิวได้ดี แนนจะใช้ในช่วงเช้าลงเตรียมผิวก่อนลงกันแดด เหมือนมอยส์เจอร์ที่ใช้ในช่วงเช้า

• Cle de Peau Beaute Intensive Cream : พอเจอคำว่า "ครีม" มีเอ๊ะในใจว่าเนื้อจะหนักไหมนะ พอลองจริงคือไม่เลย เนื้อดีมว้ากก คุณสมบัติหลักๆตัวนี้คือ เข้าไปกระตุ้นการทำงานของ Skin Intelligence ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับช่วงที่ผิวเราได้รับการพักผ่อน คือตอนกลางคืนช่วยปลอบประโลม ฟื้นบำรุงผิว