สวัสดีค่ะ หลังจากที่วาได้ไปงานเปิดเคาน์เตอร์ใหม่ใกล้บ้าน

อย่าง OBAGI สาขา Mega Bangna มา

 เลยจัดตัวเซรั่มวิตซีตัวดังของเค้ากับเรตินอลที่คนวัย 20 ปลายอยากลองมาค่ะ 

ส่วนตัววาลองใช้ทั้งสองตัวแล้ว

 โดยใช้วิตซีตอนกลางวัน และใช้เรตินอลทากลางคืน 

วันนี้เลยอยากมารีวิว 2 ไอเท็มนี้คร่าวๆให้ได้ชมกันนะ 

ขอเริ่มกันที่วิตซีตัวดังของแบรนด์ก่อนเลย 

Obagi Medical Professional-C® Serum 10%

เซรั่มวิตามินซีเข้มข้นที่มี % ให้เลือก ส่วนตัววาเอา 10%-15% มาค่ะ 

เพราะอยากเริ่มใช้แบบเบาๆก่อนเพราะส่วนตัวเป็นคนผิวแพ้ง่าย

 เริ่มที่ 10% คือกำลังพอดีที่เค้าแนะนำ

ขวดนี้เป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ L-ascorbic Acid 

ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและต้านอนุมูลอิสระ 

ลดเลือนพวกริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆไปในตัว

เนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มสีเหลืองใสๆ วาใช้ 1 ดรอปเปอร์แล้วตามด้วยกันแดดค่ะ

 เบาสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย

 หลังจากที่ใช้มาประมาณ 7 วันก็รู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้น 

พวกรอยดำหมองคล้ำก็ดูดีขึ้นดีค่ะ 

เป็น Morning Routine ในช่วงนี้เลย ไปต่อกันที่ Night Routine กันบ้าง

Obagi® Retinol 

ครีมเรตินอลช่วยฟื้นฟูผิว 

บอกตามตรงว่าแค่ก้าวเข้าใกล้วัยเลข 3 ก็รู้สึกอยากมีสาย Anti-aging ไว้ในรูทีนแล้วค่ะ 

เพราะเรตินอลเป็นสารในกลุ่มวิตามิน เอ ที่มีส่วนช่วยในการลดเลือนริ้วรอยต่างๆ

 และช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวด้วย 

แต่ส่วนตัววาวาใช้แค่ช่วงกลางคืน 

คือลงเซรั่มบำรุงแล้วต่อด้วยเรตินอลแล้วปิดท้ายด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ค่ะ

 เนื้อสัมผัสเป็นครีมที่เกลี่ยง่าย สีออกขาวอมเหลือง ใช้แค่ครั้งละ 1 เม็ดไข่มุกก็พอ

ฝาเป็นแบบสุญญากาศใช้แค่ครั้งละ 1 ปั๊มกำลังพอดีเลย 

วาชอบที่เค้าทำแพ็คเกจมาให้ใช้งานสะดวกและคงประสิทธิภาพของเรตินอลไว้ดี

เพราะไม่สัมผัสอากาศด้านนอกด้วย 

หลังจากที่วาใช้ทั้ง 2 ไอเท็มคู่กันแบ่งตาม Day & Night Routine 

คือรู้สึกว่าผิวหลังจากที่กลับจากการไปเที่ยวมาฟื้นฟูได้ดีเลยค่ะ 

ตามบริเวณที่ผิวดูหมองคล้ำก็ดูดีขึ้น ถือเป็นแบรนด์ดังที่ทำถึงอีก 1 แบรนด์เลย 

และที่สำคัญคือมีสาขาใกล้บ้านมาเปิดแล้ว ช้อปสบายขึ้นเยอะเลยค่ะ 

ใครสนใจอยากไปลองเทสหรือไปเช็คสภาพผิวว่าเราเหมาะกับสกินแคร์ตัวไหนก็แวะไปทำกันได้ที่

พิกัด: MEGA BANGNA ชั้น 1

เคาน์เตอร์ OBAGI โซน Wellness 

#Obagi #ObagiThailand #รีวิวเซรั่ม