บันทึก+รูปคนอยากหน้าเล็ก สุดท้ายลงเอยที่ BOTOX
uunws 4 124บันทึกคนอยากหน้าเล็ก
ข้อมูลพื้นฐานร่างกายเรา
เราสูง(แบบไม่โกงเลยนะ) 168 cm
น้ำหนักตัวอยู่ที่ 45, 46, 47, 48 kg
ปัญหาของเราอยู่ที่เวลาอ้วนปุ๊บ หน้าจะออกเป็นประการแรก ช่างเป็นปฐมบาปหรือบาปที่ติดตัวมาแต่กำเนิด (Original Sin) แต่ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องดีกว่าว่า ทำอย่างไรให้หน้าเล็ก.....
1 ตัดกราม โอ้ เรื่องใหญ่เป็นแสน ไม่ไหวอะคร้าบพี่น้อง แล้วก็หน้าบวมนานด้วยอันนี้หมอบอกมา ส่วนใหญ่ตัดกรามจะไว้สำหรับคนที่จนปัญญาแล้วจริงๆ
2 Carboxy พิมพ์ถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ ตัวนี้ต้องกระตุ้นแบบว่า 3 วันไปฉีดทีๆ เป็นตัวที่ลดไขมัน แต่จริงๆเหมาะกับการฉีดตามแขนขาที่มันไกลๆสมองมากกว่า โอกาสเสี่ยงถึงชีวิตมีสูง แล้วก็เจ็บอีกตะหาก แถมมีเพื่อนทำมาแล้วบ่นว่าไม่workด้วย
3 Mesotherapy ตอนแรกมีเพื่อนบอกว่าทำแล้วหน้าเล็ก แต่พอผลออกมามันทำให้หน้าใสตะหาก เอ๊ะยังไง เข้าใจผิดนี่เอง
4 ลดน้ำหนัก กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
5 Botox นี่แหละ ตอนแรกก็ว่าไม่ไหวจะแพง โดนไป 11,000 อยู่ได้ 7 เดือนก็เริ่มบานเหมือนเดิม แต่แหม 7 เดือนนี่ช่างแสนจะมีความสุขจริงๆ หน้าเรียวได้ใจมาก ล่าสุดเดือนธันวาปลายๆหน่อยเลยกัดฟันจ่ายไปอีก
แต่ราคานี้ก็ต้องหาเพื่อนไปเป็นคู่อะค่ะ เพราะถ้ามาแบบหัวเดียวกระเทียมลีบเค้าจะคิด 13,000 (ราคาแบบว่าเพิ่ม 2,000 ทำจมูกได้เลย) และสถานที่ฉีดเราก็ฉีดกับหมอนพรัตน์คนเดียวกับหมอที่แก้จมูกให้เดี๊ยนนั่นเอง แบบว่าคราวหน้าจะฉีดฟรีแล้ว เป็นคนไข้ดีเด่น กร๊ากๆ
6 ได้ยินมาว่าจะมี Laser ดูดไขมันที่หน้าได้ แต่ยังไม่นำเข้า ถ้านำเข้าแล้วเรามีเงินพอจะไปอุดหนุนโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบนะคะ
7 ทำจมูกให้ยาวขึ้น จะช่วยให้หน้าเรียวขึ้น
8 เสริมคาง อันนี้ก็ช่วยได้ เราอยากทำเหมือนกันแต่กลัวเป็นแม่มด เด้วมันจะพลาสติก เป็นแม่นางปลาสสะติก เกินไป
นี่คือ รูปสมัยอายุ 17 ขวบ
ความสูง 168 หนัก 47
แต่หน้าเหมือน หนักสัก 55 โล หน้าอ้วนแก้มเยอะอะ
(พูดง่ายๆว่า...หน้าธรรมชาติไร้เครื่องสำอางและมีดหมอ กร๊ากๆๆๆ ถ้าไม่มีศัลยกรรมกะเครื่องสำอางนี่ ชั้นตายยยยยคร่า)
นี่คือรูปสมัย
ในบัตรประชาชน หนัก 45 kg ทำจมุกรอบแรกแล้ว แต่ยังไม่ฉีดBOTOX (แต่มันจะขึ้นอืดเว่อร์ๆหน่อยตามสูตรบัตรประชาชน เอิ้กๆ)
รูปข้างๆนี่หนัก 47 kg ทำจมูกรอบสองทำให้หน้ายาวขึ้น + ฉีดBOTOX
รูปล่างนี่ จมูกรอบแรก + ยังไม่ได้ฉีดBotox
ต่อให้ ช้านผอมมมยังไง ช้านนนก้อหน้าเป็นซาลาเปาอยู่ดี
ขนาดเอาผมมาปิดดนะเนี่ย อารมณ์เสียยยยยย
สำหรับการฉีด ช่างหน้าตื่นเต้นเสียนี่ยิ่งกระไร
1 หมอเค้าจะทำการผสมยา ให้ดูต่อหน้า เหมือนจะการันตีความรุนแรงของฤทธิ์ยาให้คนไข้ได้หวาดผวาเล่น
2 ป้ายแก้มด้วยปากกาพร้อมกับบอกให้เรากัดฟันกราม ปล่อยบ้างกัดบ้าง ว่ากันไป
3 เอาสำลีเช็ดหนังหน้าเราที่เต็มไปด้วยรองพื้นจนกระทั่งเห็นผิวหนังอัน..........ที่แท้จริงของเดี๊ยน
4 เอาเข็มจิ้มตามจุด โดยคำสั่ง กัดฟันคร้าบ คายคร้าบ กัดคร้าบ คายคร้าบ (หลอนไปถึงเช้าวันรุ่งขึ้น)
ดังภาพนี้ !!
ฉีด 5 จุด ข้างละ 5 นะครับพี่น้อง
คำถามมีอยู่ว่า เจ็บไหม?
เราฉีดมาแล้วสองรอบ รอบแรกรู้สึกเจ็บเพราะความตื่นเต้นและความไม่รู้กระวนกระวายร้อนรน
ฉีดรอบสองนี่ไม่เจ็บอะ เพราะหน้ามันด้านแล้ว กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่โดยรวมแล้ว เราก็สัมผัสได้ถึงตัวยาที่เข้าไปในกล้ามเนื้อของเรา ซาบซ่า สะใจ !!!
ต่อมาจะรู้สึกอย่างไร??
1 หลังฉีดเสร็จหน้าบวมนิดนึง นิดนึงจริงๆประมาณ 1 ชม. เพราะอีวัคซีนที่ฉีดเข้าไปนี่แหละ
2 ช่วง สอง อาทิตย์แรกจะ เมื่อยๆ เวลาเคี้ยวข้าว และเวลาหาวปากกว้างจัดๆ
3 ผล......... แล้วแต่คนน่ะ เราฉีดรอบแรก 12 วันเริ่มลด แต่ฉีดรอบสอง 7 วันก็ยุบแล้ว
แต่เพื่อนเรานี่สิปาไป 3 อาทิตย์ สงสัยกล้ามเนื้อแข็งแรงจัด น่าสงสารจริงๆ
ข้อแนะนำส่วนตัวของเดี๊ยน
1 ฉีดแล้วควรเลี่ยงปลาหมึก น้ำแข็ง หมากฝรั่ง
2 อย่าหาวปากกว้างช่วงแรกโดยไม่จำเป็นเพราะ..มันเจ็บ
3 เคี้ยวน้อยๆ จะได้หลีกเลี่ยงการใช้กล้ามเนื้อและลดความอ้วนไปในตัว
4 ถ้าฉีดไปแล้ว 1 เดือนยังไม่เห็นผล ให้ไปชั่ง น้ำหนักดูแสดงว่าอ้วนขึ้น กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อีกประเด็นนึงถ้าใครฉีดมาราคาประหยัดแล้วมันยุบน้อย อาจเป็นไปได้ว่า หมอเค้าผสมตัว BOTOX ให้น้อย (น้ำเกลือเยอะ)
อีกประเด็นนึงถ้าใครที่มีองค์ประกอบของกระดูกและไขมันเยอะ BOTOX ไม่ใช่น้ำยาละลายกระดูกหรือไขมันนะจ้ะ ส่วนที่ลดลงไปคือกล้ามเนื้อ
อย่างไรก็ตาม ตอนแรกเรากะจะไม่ฉีดแล้วเพราะมันแพง และจับหน้าเราดูมันเหมือนจะเป็นไขมัน แต่พอฉีด เอ๊ะ ! มันก็ยุบไปสะอย่างงั้น เดี๊ยนก็เลยเสพติดเลย กร๊ากๆ
5 สถานที่ในการฉีดBotoxก็มีมากมายหลายที่ และแต่ละที่ก็ราคาแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 4,000 – 15,000 บาท ดังนั้นประสิทธิผลของตัวยาบนหนังหน้าเราก็จะแปรผกผันตามราคาด้วย พวกที่ฉีดหน้าเล็กแค่ 4,000 บาทนี่เค้าอาจใส่ BOTOX จริงๆแค่ 1/5 ของของเหลวที่ปั๊มใส่หน้าเราทั้งหมดก็ได้
มีเพื่อนเราเค้าไปฉีดมา 8,000 บาท ปรากฏว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย จนในที่สุดเค้าต้องกลับมาฉีดที่ที่ราคาแพงแบบเดิม 555555555555555 สมน้ามหน้ามัน (สะงั้นน่ะ)
ถ้าจะเลือกฉีดก็ต้องดูราคาด้วยว่ามันสมเหตุสมผลหรือเปล่า และดูว่าเค้าใช้ยี่ห้ออะไร อะไรยังไงเพราะตอนนี้ BOTOX ราคาพอเพียงจากจีน จีนนะครับเมืองจีน กำลังระบาดหนัก ระวังให้ดี หึหึหึหึหึหึหึ
6 แนะนำว่า ถ้าไม่อยากเปลือง ใช้วิธิเฉดดิ้ง และ เอาผมมาบังหน้า ดีประหยัดที่สุด !!
ฝาก กระทู้ 2 อันนี้ให้อยู่คู่โลกด้วยนะคร๊า
สำหรับคนอยากทำจมูก https://www.jeban.com/viewtopic.php?t=43156
สำหรับคนอยากหน้าขาวๆ และสาวๆที่มีตาสองชั้นหลบซ่อน
และงบประมาณน้อย
https://www.jeban.com/viewtopic.php?t=43273