รีวิวดัดฟัน :: จาก 2 ปี ร่นมาสวยได้ภายใน 6 เดือน ^-^ ::
น้องเน่า 4 128สวัสดีชาว jeban ค่ะ อยากมารีวิวการดัดฟันเคสของจขกท.ให้ดูกันน่ะค่ะ ตอนแรกว่าจะรอจนเสร็จเลย แต่อดใจไม่ไหว อยากแชร์เร็วๆ เพื่อว่าได้เป็นทางเลือกให้เพื่อนๆได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ
เมื่อต้นปี ตัดสินใจที่จะดัดฟันอีกรอบในวัย 30+ ค่ะ (เคยดัดมาแล้วตอนละอ่อน ซึ่ง ณ เวลานั้นเข้าใจว่าชั้นสวยแล้ว จนมาตอน 30+ นี่แหล่ะค่ะ ที่ผู้หญิงเรา วันๆไม่ทำไร นอกจากจับผิดซ๊ะมีและนั่งหาข้อบพร่องของตัวเอง ชั้นอ้วนมั๊ย ชั้นเหี่ยวรึยัง ปลาๆๆ และจขกท.ก็ค้นพบว่าหนึ่งในล้านอย่างที่อยากจะแก้ไข...เอ๊ะ ฟันชั้นยังทำได้อีกนี่ เห่อๆ) บวกกับผ่านการคิดอย่างเร่งด่วนแล้วว่า ถ้าอยากทำต้องทำเลยค่ะ ไม่งั้น ถ้าจะรอๆๆต่อไปเรื่อยๆ กว่าจะได้งามสมใจ ป่านนั้นคงได้ดัดพร้อมลูกแน่ๆ
ขอเกริ่นว่า ตอนเด็กๆฟันเกมากค่ะ แม่เลยให้ไปดัดให้ตรง หมอก็คือ ได้ดั่งใจค่ะ คือดัดให้ตรงอย่างเดียวจริงๆ
และนี่คือรูปก่อนดัด ถ้ายิ้มแล้วก็จะเป็นเยี่ยงนี้ คือ ด้วยฟันมันยื่น ฟันมันก็จะดูใหญ่ๆ ยิ้มน้อยๆไม่ค่อยได้ เพราะยังไงด้วย slope ของฟันมันก็จะรั้งปากบนให้เผยอขึ้นไปอยู่ดี
อ่ะ เข้าเรื่อง...
ก็ไปปรึกษาคุณหมอค่ะ คุณหมอเป็นระดับอาจารย์สอนที่มหาลัย แต่ยังหนุ่มเฟี้ยวอย่างไม่น่าเชื่อ (เอ๊ะ ไงเนี่ยชั้น!) หลังจากคุยกันแล้ว คุณหมอก็ทำท่าสนอกสนใจอีชั้นมาก อ๊ะๆๆ ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ แต่หมายถึงสนใจเคสจัดฟันอย่างจขกท.มาก
คุณหมออธิบายว่า ตอนนี้เค้ามีการดัดฟันแบบใหม่ ผสมผสานการศัลยกรรมฟัน โดยต้องมีร่วมมือกับหมอศัลย์ด้วย โดยวิธีการนี้จะร่นเวลาการดัดฟันให้เร็วขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่มีอายุเยอะแล้ว
ไงก็ตาม จขกท.ก็สนใจ (ก็ตามเหตผลที่หมอบอกน่ะแหล่ะ
คุยกันไปมา ที่แท้ ฮั่นแน่! จะเอาเราเป็นหนูทดลองนี่เอง
เท่าที่สรุปได้ คือ ของจขกท.ต้องถอนฟันออก 4 ซี่ และมันจะเหลือตรงกลาง 6 ซี่ รวมบนล่างแล้วก็คือ 12 ซี่ ที่ต้องดึงเข้ามา(นึกภาพตามนะคะ) คุณหมอว่า ณ เวลานี้(ก็คือ เวลานั้น) ได้มีการทดลองกรณีดึง 8 ซี่ (บน 4 ล่าง 4) ได้แล้ว แต่ 12 ซี่ ยังไม่ได้ทำ ถ้าจขกท.ทำ ก็จะเป็นรายแรก...เอาล่ะสิ!
โดยวิธีการดัดปกติ หมอเค้าก็จะค่อยดึงฟันไปทีละซี่ ดึงครั้งนึงก็ได้เต็มที่มิลเดียว และดึงได้แค่เดือนละครัง้เท่านั้น...ช่องห่างมีกี่มิล ฟันกี่ซี่ที่ต้องดึง ก็คูณๆๆๆไปนะคะ ก็จะพบว่า นั่นแหล่ะ ประมาณ 2 ปี อย่างต่ำ
แต่โดยวีธีการใหม่นี้ เราจะผ่าปาก เอาหมาออก เอ้ย! ไม่ใช่! ผ่าปาก รื้อโพรงกระดูกฟันออกค่ะ แล้วใส่กระดูกเทียมบดเข้าไปแทน ก็นึกภาพว่า เราเอาอิฐออก แล้วเปลี่ยนเอาทรายบดเข้าไปแทน ทั้งปากน่ะแหล่ะค่ะ มันก็จะลดแรงเสียดทาน ฟันก็จะเลื่อนได้ง่ายขึ้น และได้ทั้งแผงพร้อมกันเลยทีเดียว แต่ข้อแม้คือ ต้องดึงทุกสองอาทิตย์ค่ะ ห้ามขาด เพราะถ้ารอนานกว่านั้น ถ้ากระดูกเทียมยึดกับเหงือก มันก็จะเลื่อนยาก เหมือนเดิม
จขกท. ถามหมอว่า จะมีผลเสียมั๊ย คุณหมอ(แต่ไม่ใช่หมอกฤษนะ)คอนเฟิมว่า ไม่มีข้อเสีย มีแต่ข้อดี เพราะหนึ่ง เร็ว สอง การที่เอากระดูกเทียมบดเข้าไปอัดแทนที่ เป็นการเสริมโพรงกระดูกฟันให้แข็งแรงขึ้นอีกต่างหาก
ก็เลย...เอาวะ!
คุณหมอก็เลยเรียกประชุมหมอศัลย์ค่ะ ตกลงใจ(กันเอง) มาผ่าเลย พรุ่งนี้...เราก็เฮ้ยๆๆๆๆ เร็วประหนึ่งกามนิตหนุ่ม แต่ก็...เอาวะ!
รุ่งขึ้นก็ไปขึ้นเขียง หมอศัลย์ถามว่าจะฉีดยาชารึว่าจะยาสลบ แหมม...คุณหมอเราก็อุตส่าห์เอ่ยปากชมดักหน้าไว้แล้วว่าเรากล้าหาญ ก็เลยต้องแสดงความกล้าหาญต่อไป "ยาชาก็พอค่ะ หึหึ"
แล้วงัยล่ะ....นอนอ้าปาก ร่วม 2 ชม. OMG!!! ปากก็เมื่อย ตัวก็เมื่อย แถมยังรู้สึกตัวตลอดเวลาอีกไม่ว่าตอนหมอผ่าเหงือก แบะเหงือก รื้อกระดูก เย็บ...ทุกอย่าง ไม่เจ็บ แต่รู้สึกได้....ตัวเกร็งตลอด 2 ชม. ขอบอก (ไม่น่าแสดงอภินิหารเลยกรู...ขออภัยคำไม่สุภาพค่ะ)
รุ่งขึ้น หน้าบวมมาเป็นเยี่ยงข้างล่างนี้...ลิงชัดๆ!! (กรุณาอย่าขำนาน เดี๋ยวจะปวดกรามค่ะ) อ้อ ไอ้หน้าเห็นไถๆแดงๆ ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการผ่าเหงือกนะคะ เอ่อ แบบว่าไป ทำ demaroller มาน่ะค่ะ แล้วมาหาหมอฟันต่อ (นี่แหล่ะ ที่หมอถึงว่าอีชั้นช่างกล้า แกบอกว่า ลองถ้าคุณกล้าทำ dermarollor ได้ อันนี้ก็ไม่สะเทือนคุณหรอก 555+)
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ก็ยังหยอดข้าวต้มอยู่ หน้าก็ยังบวม แผลเย็บก็ยังไม่ทันจะหายดี (ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ "ยังไม่ทันจะหายดี" ไม่ใช่ "เริ่มจะหายดี"
จะเห็นเลยค่ะ ไม่ถึง 6 เดือน ฟันติดกันหมดแล้วค่ะ (เพื่อนๆที่ดัดไปก่อนหน้านี่ จขกท.แรง แซงทางโค้งมาหมดเลยค่ะ อิอิ)
แต่ก็จะเห็นว่า ฟันล่างมันงุ้มเข้าไปมากเกินค่ะ แต่คุณหมอว่า มิต้องตกใจ เพราะที่ผ่านมา คือเอาให้ฟันติดกันให้หมดก่อน หลังจากนี้เราจะมาดัดรูปให้มันโค้งสวยกัน
และนี่ก็คือรูป ณ ปัจจุบัน...ยิ้มซิ ฟันไม่เหยินแย้ววววว เย้!! (แต่ดันถ่ายคนละข้างกะ before แต่ไม่เป็นไรเน๊อะ ก็คล้ายๆกันอ่ะค่ะ)
เอาไว้ ถอดเหล็กเมื่อไหร่ จะมารีวิวต่อนะคะ
ปล.ที่เห็นว่าหน้าใสขึ้น ไม่ใช่เพราะผล dermaroller คราวนั้นนะคะ แต่ไปรักษากระที่โหนกแก้มมา เอาไว้จะมารีวิวค่ะ ^-^ ส่วน dermaroller แนะนำว่า อย่าทำเลยค่ะ เราแค่ไปลองแบบยังไม่ได้ศึกษาอะไรมาก และตอนหลังพบข้อมูลว่า ยังไม่เป็นที่รับรอง เราก็เลิกทำเลยค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาชมนะค๊า
edit : เปลี่ยน size รูปค่ะ