Look sweet with light smoky for dinner<<L'OREAL>>

<<<<< Light Smoky for Dinner >>>>>//อัพไปลอรีอัลแล้วปรากฏว่ามันด๊องทั้งหมดที่ทำไปขึ้นมาครึ่งนึงT_T//

โย่วววโย่วววว ในที่สุดก็หาเวลามาแจมกิจกรรมดีๆกับลอรีอัลได้แล้วววว กำลังฟาดฟันกันอย่างดุเดือดเลยทีเดียวกับกิจกรรมดีดีจากลอรีอัล เป็นแบรนด์ที่แรกๆที่เปรียบเสมือนเป็นครูตอนหัดแต่งหน้าใหม่ๆ สมัยเรียนมหาลัย เพราะเป็นราคาที่ซื้อได้สบายกระเป๋าตัง(ตอนแต่งไม่เป็นไม่รู้จะซื้อแพงทำไม 300 ร้อยยังเสียดาย)

สำหรับหัวข้อที่เลือกมาวันนี้ก็คือ ไปดินเนอร์ส่วนจะไปกับใครนั้นขออุบไว้เป็นความลับของชาติ เพราะไม่ว่าจะไปกับใครดั๊นก็บ่ยั่น...(แต่ขอไปแบบสวยๆได้มะ!?)เอาล่ะจงกำแปรงในมือคุณให้แน่นๆแล้วมาแปลงโฉมตัวเองกันดีกว่าา เนื่องจากวันนี้จะไปดิ๊นเหน่ออ(ทำเสียงดัดจริต) หรือ ดินเนอร์ (เสียงแบบคนปกติ) ใต้แสงเทียน ถึงแม้วันนี้จะไม่ได้ไปจริงๆ ก็ขอสมมุติว่าได้ไปแล้วกันเนาะ จะขอใช้โทนสีอบอุ่นมาแต่งเพื่อให้ดูหวานๆ และเซ็กซี่เล็กน้อย ให้เข้ากับบรรยากาศใต้แสงเทียน

Before picture and cosmetics for face skin อ้าวๆ เห็นหน้าตาเราขี้เหร่ก็อย่าเพิ่งวิ่งหนีเลยน๊าา come back to me pleaseeeeee!

Creating flawless skin
1.ก่อนจะลงรองพื้นเราก็ลงเบสใส smaskbox หลังจากที่ลงครีมบำรุงผิวแล้วรอให้เซ็ตตัวแป๊บนึง
2.ลงรองพื้น true matte เพียงเล็กน้อยยยเพื่อเพิ่มความเนียนและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ *การเกลี่ยด้วยแปรงจะช่วยให้หน้าเนียนโดยที่มีรองพื้นติดบนหน้าน้อยกว่าลงด้วยนิ้ว * อย่าลืมทาที่คอด้วยเพื่อที่จะได้ไม่ดูหน้าลอย
3.เราลงคอนซีลเลอร์ของ OP แบบเบาบาง อย่าทาคอนซีลเลอร์มากไปนอกจากจะดูเหมือนโบกปูนขาวไว้ใต้ตาและยังจะเป็นคราบอีกต่างหาก เผลอๆไปเน้นให้ริ้วรอยชัดขึ้นเพราะโบกแป้งทับมากไปก็มี

4.ลงเฉดดิ้งของ arty สีน้ำตาลตามกรอบหน้าและสันจมูกเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับใบหน้าแบบธรรมชาติ

5. ผัวะะะะๆๆๆๆ ตบแป้งฝุ่น true matte ที่สีเหมาะกับผิวเราอย่างเบาบางให้ทั่วหน้าพอให้เซ็ตรองพื้นได้พอดีก็พอ โบกแป้งมากไปเดี๋ยวเวลาเหงื่ออกจะเกิดอาการลอกคราบเกิดขึ้น

Cheeks and eyebrows

1.ในส่วนของแก้มที่เราเรียกว่าเนินแอ๊ปเปิ้ลนั้น เราใช้ Bobbi brown สี bronze (1 ขาว 2ชมพูอ่อน 3ทอง 4ชมพูทอง 5น้ำตาล) ปาดสี 345 มาตามวิถีลูกแอ๊ปเปิ้ลของเรา

2. ไฮไลต์ 1 ที่โหนกคิ้ว และ สันตะหมูก ต่อมาขอใช้นิ้วปาดสี 13 มาไล้เบาๆที่บริเวณโหนกแก้มและขมับ ตามรูปเลยจ๊า เพียงเท่านี้หน้าของเราก็มีมิติลี้ลับมาครอบครองแล้ว :)

3.เขียนคิ้วด้วยดินสอของ เรฟรอน แล้วปัดซ้ำด้วยมาสคาร่าสีน้ำตาลของเมล์เบลลีนเพื่อให้ขนคิ้วเรียงเส้นสวยงาม

Light smoky eyes
1.เขียนขอบตาด้วยดินสอสีดำก่อน ที่เขียนก่อนเพราะเวลาเราลงสีน้ำตาลทับสีจะมีการไล่ระดับสวย และช่วยให้สีติดนานขึ้นด้วย ลุคนี้จะเน้นฟุ้งๆๆไม่แบ่งแยกสีที่ใช้ทาตาอย่างชัดเจน
2.ทาอายชาโดว์สีน้ำตาลอ่อนของ OP ทับไปตามขอบตา ที่เปลือกตาบนทาเกินชั้นตามานิดหน่อย
3.ปาดสี 123 จาก BB มาทาที่กึ่งกลางลูกตา และ ปาดสี้น้ำตาลทองของ arty มาไล้จากด้างข้างทั้งสองเข้ามา *อย่าลืม* อย่าทาเตาด้วยสีเข้มเกินไปเพราะมันจะดูดุ หรือเซ็กซี่เกินไป เราด้วยการลุค หวาน,ขี้เล่น และ เซ็กซี่เล็กน้อย เพื่อให้ดูหววานแบบธรรมชาติ วันนี้จึงงด คอนแท็คเลนส์ และ ขนตาปลอม เพราะอยากรู้สึกว่าเป็นตัวของเราเองจริงๆกับคนสนิท ขอดูดีแบบพอประมาณ
4.ดัดขนตาด้วยลุงชู ถ้าไปดัดหลังจากเขียนขอบตา เส้นขอบตาที่เขียนไว้อาจจะแหว่งได้

5.เขียนขอบตาด้วยดินสอทับอีกครั้งนะ อนาถตัวเองหามีดและกบเหลาไม่เจอ ดินสอมันทู่เหลือเกิ๊นน
6.ลงเบสมาสคาร่า Volume shocking , L'oreal เพื่อเพิ่มความหนาให้ขนตาก่อนเป็นอับดับแรก รอให้แห้งก่อนปัดซ้ำ
7.ปัดซ้ำด้วยมาสคาร่าด้านสีดำ แปรงมีลักษณะเป็นหวีทำให้ขนตาแยก และเรียงเส้นสวย แล้วยังหนาขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยๆ
8.กรีดอายไลน์เนอร์ของ l'oreal แบบพู่กันทับอีกครั้ง เราชอบเจ้าน๊้มากๆเพราะว่ามันใช้คุ้มมมมม ไม่หมดซักทีจนต้องทิ้งไปซะก่อนจะหมด เพราะมันหมดอายุ พู่กันเป็นเส้นเรียวเล็กทำให้เขียนเส็นเล็ก หรือหนาได้ตามใจชอบ

Lips
1.ลงlipconcealor Canmake เพื่อลบสีปากธรรมชาติ
2.ลงลิบสติกสี sandalwood ของ เรฟรอน
3.ลงทับอีกครั้งด้วยลิปกลอสของ L'oreal สี santal pearl

Done เสร็จแล้วจ๊า + รูปเครื่องสำอางค์ที่ใช้ที่ลืมเอาลงไว้ในตอนแรกขอโทษทีนะคะ

เท่านี้ก็พร้อมจะออกไปตะลุยแล้วววววววว แต่งหน้าโทนนี้เป็นโทนอมตะ เพราะใช้สี น้ำตาลทอง และส้มชมพู ซึ่งจะดูสวยและเป็นธรรมชาติมากๆใต้แสงเทียน อย่าลืมยิ้มหวานให้เยอะๆด้วยนะค๊าาาา แต่อย่าลืมว่าสวยอะไรจะสู้ความสวยจากภายใน และรอยยิ้มที่จริงใจ..

ยังพอมีเวลาเหลือ สาวๆที่ว่างอยู่ไปค้นกรุเครื่องสำอางคืแล้วมาร่วมกิจกรรมสสนุกๆแบบนี้ด้วยกันดีกว่าาาาาา ถ้ามีอะไรที่จะติ ชม หรือ สอบถามฝากข้อความไว้ด้านล่างเลยจ๊า

++ขอขอบคุณที่ติดตามชมจะด้วยความตั้งใจหรือหลงทางมาก็ตามแต่นะจ๊ะ++