แชร์ประสบการณ์ "แท้ง"
aimmy_bp 0 41
เมื่อประมาณวันที่ 26 กันยายน 52 เราได้ไปตรวจปัสสาวะ และอัลตร้าซาวด์กับคลินิคผดุงครรภ์ แห่งหนึ่ง ผลออกมาว่า เราตั้งท้อง ได้ประมาณ 5 สัปดาห์ และหมอได้นัดมาตรวจซ้ำอีก 2 อาทิตย์ จากนั้น 1 อาทิตย์ เราก็ไปตรวจกับคลินิคอื่นอีก เพื่อความแน่นอน และด้วยความตื่นเต้น ผลก็ออกมาเช่นเดียวกันว่าเราท้อง แต่จากการตรวจอัลตร้าซาวด์ไม่เห็นทารก เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อย เวลาผ่านไป เราก็ ทำการฝากครรภ์ปกติ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 52 เราก็ไปทำงานปกติขณะนั้นก็ตั้งครรภ์ได้ราว 6 สัปดาห์ ปรากฎว่า มีเลือดสีน้ำตาลคล้ำ ออกมา ปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นทำให้เราตกใจสุดขีด เราเลยไปหาหมอในทันที และหมอก็ได้ทำการฉีดยากันแท้ง พร้อมกับให้ยามาทาน ซึ่งหมอก็บอกกับเราแล้วว่า ไม่รับประกันนะว่าการที่ฉีดยากันแท้งไปแล้ว แปลว่าจะไม่แท้ง แต่มันคือการทำให้เลือดหยุดไหล เพื่อความสบายใจ และให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน (นอนเฉย ๆ อย่างเดียว) เป็นเวลา 2 วัน แต่ด้วยความที่ เป็นห่วงงาน ก็ เลยไม่ได้พักอย่างที่หมอบอก เราก็ไปทำงานปกติ ในอีกวันต่อมา ก็ ปรากฎว่า เลือดก็ไหลออกมาอีก ในลักษณะของสี และปริมาณ ที่เท่าดิมเหมือนเดิม คราวนี้ตกใจกว่าครั้งแรกอีก เพราะหมอบอกว่าฉีดยาแล้ว เลือดจะไม่ไหล แต่นี่มันไหล เราก็เลย ลา กลับไป พักที่บ้าน ก็นอนไป ตามที่หมอบอก ปรากฎว่า ครั้งนี้ เรามีเลือดออกมา ทั้งหมด 4 วัน
เวลาผ่านไป เราก็ ทำงานตามปกติ จนกระทั่ง 3 อาทิตย์ผ่านไป อายุครรภ์ ก็ ประมาณ 9 สัปดาห์ ปรากฎว่า เลือดไหลอีกแล้ว คราวนี้ เรา ไปโรงพยาบาลเลย เล่าอาการให้ฟัง หมอก็ฟังเสียงหัวใจเด็ก แต่ไม่ได้ยิน ก็เลย สั่งตรวจอัลตร้าซาวด์ ก็ปรากฎว่า ขนาดของ SAC หรือถุงการตั้งครรภ์ จากครั้งที่เราเคยตรวจ กับครั้ง นี้ มัน "เล็กลง" ซึ่ง ในรายปกติ SAC จะโตขึ้น วันละ 1 มม. ตามการเจริญเติบโตปกติของทารกในครรภ์ ในกรณีของเรา ก็แปลความได้ว่า ไข่ฝ่อ ไปแล้ว ด้วยเหตุผลใด แพทย์ก็ไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจน
หมอก็นัดเราทำการ "ขูดมดลูก" ในวันนั้นเลย แต่ด้วยความที่คิวห้องผ่าตัดไม่ว่าง เราก็ต้องนอนรอ 1 คืน เพื่อจะเข้าทำการดังกล่าวในเช้าวันถัดมา
เช้าวันต่อมาเวลาประมาณ 6 โมงกว่า ๆ พยาบาลเอายาเม็ด เราไม่เห็นว่าสีอะไร ขนาดไหน มาสอดเข้าไปในช่องคลอดให้ แล้วหลังจากนั้นประมาณ ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็ เริ่ม ปวดท้อง และมีเลือดออกมากกว่าเดิม จนกระทั้่งเวลา 9 โมง พยาบาลก็มารับเพื่อไปห้องผ่าตัด ก็เตรียมตัวไป พอเข้าห้องผ่าตัดไป เค้าก็จะ ให้ยาสลบ เราไม่แน่ใจว่าด้วยวิธีการใด แพทย์แจ้งว่า จะใช้ยาฉีด แต่ก่อนที่จะสลบ เค้าจะให้ ออกซิเจน ซึ่งเรารู้สึกว่ากลิ่นมันแปลก ๆ แล้วก็หลับไป ขณะนั้นเวลาประมาณ 9.30 น. ตื่นมาอีกที ก็ เวลาประมาณ 11.30 น. แล้ว เรานอนอยู่ที่ห้องพักฟื้น รู้สึกปวดท้องมาก เจ็บบอกไม่ถูก และมีเลือดไหล ซึ่งเราได้ยินพยาบาลพูดกันว่า "อ้าวมีเลือดด้วยเหรอ" ประมาณว่า ในรายอื่นเค้าไม่มีกันหรืออย่างไร เราก็ไม่ได้ ถาม เพราะกำลัง มึน ๆ เบลอ ๆ เค้าก็พาเรากลับห้องพัก และใส่ผ้าอนามัยให้ ตอนนี้เจ็บท้องตลอดเลยนะ
แล้วเราก็หลับไปอีก ค่ำวันนั้น หมอก็สั่งให้กลับบ้านได้ แล้วก็ให้ยาแก้ปวดมาเท่านั้นเอง และก็นัดไปฟังผลมะเร็ง ในอีก 7 วันถัดไป เนื่องจาก การขูดมดลูก นั้นเค้าจะ นำชิ้นเนื้อ ที่ขูดได้บางส่วนไปตรวจเพื่อหาเชื้อมะเร็ง แต่เราไม่ได้ไปฟังผล เพราะคิดว่าตัวเองไม่เป็นแน่นอน
เวลาผ่านเดือนกว่า ตลอดเวลาเดือนกว่า ตั้งแต่ ขูดมดลูกแล้ว เรามีเลือดออกตลอดนะ บางวันก็ นิดหน่อย แต่ถ้าวันไหนมาก ก็เต็มแผ่น แคร์ฟรี อ่ะ แต่ก็ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร เพราะถามใครต่อใครเค้าก็บอกว่า บางคนก็ออกเป็นเดือน จนเมื่อวันที่ 30 พย. 52 เราก็เริ่มรู้สึกว่า เลือดมันจะไม่หยุดไหล เราก็เลยไปหาหมอ เพราะเรารู้สึกว่ามันผิดปกติ หมอบอกว่าโดยทั่วไป เลือดจะหยุดไหล ภายใน 7 วัน แต่กรณีของเราคงผิดปกติ อะไรซักอย่าง ก็ ตรวจไป หมอบอกว่า น่าจะเกี่ยวกับฮอร์โมน ก็ให้ยา ปรับฮอร์โมน เรามากิน เพื่อจะให้เลือดมันหยุดไหล เรากิน ยา มา 2 วัน วันที่ 2 นี่เอง เรารู้สึกว่า เลือดมันไหลเยอะกว่าเดิม แดงกว่าเดิม และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย และ อาการที่เกิดขึ้น จะเป็นอย่างไร เกิดจากอะไร มีวิธีการรักษาอย่างไร เย็นนี้เราคงต้องไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อหาคำตอบ
ได้ผลยังไง จะมา เขียนแชร์ประสบการณ์ ต่อเนอะ
มีใคร มีอาการใกล้เคียง หรือคล้าย ๆ กัน ก็ มาแชร์กันนะคะ
ขอให้ทุกคนโชคดี...ขอบคุณค่ะ ที่เสียสละเวลามาอ่านแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้
เวลาผ่านไป เราก็ ทำงานตามปกติ จนกระทั่ง 3 อาทิตย์ผ่านไป อายุครรภ์ ก็ ประมาณ 9 สัปดาห์ ปรากฎว่า เลือดไหลอีกแล้ว คราวนี้ เรา ไปโรงพยาบาลเลย เล่าอาการให้ฟัง หมอก็ฟังเสียงหัวใจเด็ก แต่ไม่ได้ยิน ก็เลย สั่งตรวจอัลตร้าซาวด์ ก็ปรากฎว่า ขนาดของ SAC หรือถุงการตั้งครรภ์ จากครั้งที่เราเคยตรวจ กับครั้ง นี้ มัน "เล็กลง" ซึ่ง ในรายปกติ SAC จะโตขึ้น วันละ 1 มม. ตามการเจริญเติบโตปกติของทารกในครรภ์ ในกรณีของเรา ก็แปลความได้ว่า ไข่ฝ่อ ไปแล้ว ด้วยเหตุผลใด แพทย์ก็ไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจน
หมอก็นัดเราทำการ "ขูดมดลูก" ในวันนั้นเลย แต่ด้วยความที่คิวห้องผ่าตัดไม่ว่าง เราก็ต้องนอนรอ 1 คืน เพื่อจะเข้าทำการดังกล่าวในเช้าวันถัดมา
เช้าวันต่อมาเวลาประมาณ 6 โมงกว่า ๆ พยาบาลเอายาเม็ด เราไม่เห็นว่าสีอะไร ขนาดไหน มาสอดเข้าไปในช่องคลอดให้ แล้วหลังจากนั้นประมาณ ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็ เริ่ม ปวดท้อง และมีเลือดออกมากกว่าเดิม จนกระทั้่งเวลา 9 โมง พยาบาลก็มารับเพื่อไปห้องผ่าตัด ก็เตรียมตัวไป พอเข้าห้องผ่าตัดไป เค้าก็จะ ให้ยาสลบ เราไม่แน่ใจว่าด้วยวิธีการใด แพทย์แจ้งว่า จะใช้ยาฉีด แต่ก่อนที่จะสลบ เค้าจะให้ ออกซิเจน ซึ่งเรารู้สึกว่ากลิ่นมันแปลก ๆ แล้วก็หลับไป ขณะนั้นเวลาประมาณ 9.30 น. ตื่นมาอีกที ก็ เวลาประมาณ 11.30 น. แล้ว เรานอนอยู่ที่ห้องพักฟื้น รู้สึกปวดท้องมาก เจ็บบอกไม่ถูก และมีเลือดไหล ซึ่งเราได้ยินพยาบาลพูดกันว่า "อ้าวมีเลือดด้วยเหรอ" ประมาณว่า ในรายอื่นเค้าไม่มีกันหรืออย่างไร เราก็ไม่ได้ ถาม เพราะกำลัง มึน ๆ เบลอ ๆ เค้าก็พาเรากลับห้องพัก และใส่ผ้าอนามัยให้ ตอนนี้เจ็บท้องตลอดเลยนะ
แล้วเราก็หลับไปอีก ค่ำวันนั้น หมอก็สั่งให้กลับบ้านได้ แล้วก็ให้ยาแก้ปวดมาเท่านั้นเอง และก็นัดไปฟังผลมะเร็ง ในอีก 7 วันถัดไป เนื่องจาก การขูดมดลูก นั้นเค้าจะ นำชิ้นเนื้อ ที่ขูดได้บางส่วนไปตรวจเพื่อหาเชื้อมะเร็ง แต่เราไม่ได้ไปฟังผล เพราะคิดว่าตัวเองไม่เป็นแน่นอน
เวลาผ่านเดือนกว่า ตลอดเวลาเดือนกว่า ตั้งแต่ ขูดมดลูกแล้ว เรามีเลือดออกตลอดนะ บางวันก็ นิดหน่อย แต่ถ้าวันไหนมาก ก็เต็มแผ่น แคร์ฟรี อ่ะ แต่ก็ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร เพราะถามใครต่อใครเค้าก็บอกว่า บางคนก็ออกเป็นเดือน จนเมื่อวันที่ 30 พย. 52 เราก็เริ่มรู้สึกว่า เลือดมันจะไม่หยุดไหล เราก็เลยไปหาหมอ เพราะเรารู้สึกว่ามันผิดปกติ หมอบอกว่าโดยทั่วไป เลือดจะหยุดไหล ภายใน 7 วัน แต่กรณีของเราคงผิดปกติ อะไรซักอย่าง ก็ ตรวจไป หมอบอกว่า น่าจะเกี่ยวกับฮอร์โมน ก็ให้ยา ปรับฮอร์โมน เรามากิน เพื่อจะให้เลือดมันหยุดไหล เรากิน ยา มา 2 วัน วันที่ 2 นี่เอง เรารู้สึกว่า เลือดมันไหลเยอะกว่าเดิม แดงกว่าเดิม และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย และ อาการที่เกิดขึ้น จะเป็นอย่างไร เกิดจากอะไร มีวิธีการรักษาอย่างไร เย็นนี้เราคงต้องไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อหาคำตอบ
ได้ผลยังไง จะมา เขียนแชร์ประสบการณ์ ต่อเนอะ
มีใคร มีอาการใกล้เคียง หรือคล้าย ๆ กัน ก็ มาแชร์กันนะคะ
ขอให้ทุกคนโชคดี...ขอบคุณค่ะ ที่เสียสละเวลามาอ่านแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้