มีใครบ้างไหม ที่ไม่รักแม่
naughtyz 15 26
* ยาวหน่อยนะคะ
เมื่อก่อนเราไม่รักแม่ แม่จะกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างเพราะเป็นพยาบาลต้องเข้าเวรต่างๆกันไปแต่ละวันและทำงานคนละจังหวัดกับบ้านเราด้วย ด้วยความเป็นเด็กก็รู้สึกว่าอยู่กับพ่อสนุกกว่า สบายใจกว่า พ่อใจดี ขี้เล่น (ถึงแม้เวลาโมโหจะแอบน่ากลัวนิงนึง ><") แม่เจ้าระเบียบและขี้บ่นมาก ดุอีกต่างหาก กระดิกตัวแทบไม่ได้ บางทีเครียดจากงาน(แม่เป็นพยาบาลตรวจการ เรื่องเครียดๆมาหาทุกวัน)กลับมาก็มีอารมณ์ค้างๆมาบ้างเหมือนกัน เรารู้สึกอึดอัดทุกครั้งเวลาที่แม่กลับบ้าน
พอเข้ามหาลัยใน กทม ดีใจมากได้อยู่หอ เราอยู่คนเดียว เป็นอิสระ มีโลกส่วนตัว ไม่มีแม่มาคอยบ่น เราแทบไม่กลับบ้านเลย อ้างว่างานเยอะ ติดนู่นติดนี่ตลอด แม่ก็จะคอยแวะมาหาบ้างประมาณเดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้ง แต่ก็ยังดีไม่ใช่เจอเกือบทุกวันเหมือนตอนอยู่บ้าน
เรารู้สึกแฮปปี้มาตลอดจนกระทั่ง...วันที่เราป่วย อาการค่อนข้างหนักเลย ไม่มีเรี่ยวแรง รู้สึกราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆชีวิตจะจบลงในวันนั้น ตอนนั้นเองแม่ก็โทรมาหาเรา เสียงและคำพูดของแม่ทำให้เราน้ำตาไหล "อ้าว..ป่วยหรอ เป็นไงบ้างลูก ไหวมั้ย กินอะไรรึยัง เสียดายถ้าแม่อยู่แม่จะต้มข้าวต้มให้หนูกิน กินยารึยัง ยาที่แม่เคยเอาไปวางไว้ให้ที่หอลูก(แอบมาวางไว้ตอนไหน - -a) เม็ดสีขาวกับสีชมพู ต้องกิน ไม่กินไม่ได้นะ(เราไม่ชอบกินยา) กินซะแล้วพักผ่อนเยอะๆ กินน้ำบ้างนะ หนูกินน้ำน้อย เดี๋ยวแม่ลงเวรแล้วจะรีบไปหานะลูกนะ มีอะไรโทรหาแม่ได้ตลอดนะ แม่จะรีบไป" ทุกคำพูดของแม่ น้ำเสียงของแม่แสดงถึงความห่วงใยที่มีให้เราอย่างเปี่ยมล้น แม่พยายามแลกเวรเพื่อขับรถฝ่ารถติดใน กทม ทุลักทุเลจาก ตจว.เพียงเพื่อมาดูแลเรา
หลังจากวางสาย เราก็มานั่งคิดทบทวน ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่ทุ่มเทอะไรหลายๆอย่างให้เรามาทั้งชีวิต โดยที่เรามองข้ามไป ท่านจดจำทุกรายละเอียดของเราได้เสมอ เช่น ขนมอะไรบ้างที่เราชอบกิน วันนี่เราต้องไปไหน ไปทำอะไรกับใคร เรามีนัดไปไหนวันไหน ขาดเหลืออะไร ของใช้อะไรหมด เป็นแผลโดนอะไรที่ไหนมานานไม่นานยังไง แม่จะคอยใส่ใจดูแลและจำได้ตลอด ทั้งที่เราเองยังหลงๆลืมๆอยู่เลย แม่พยายาม แม่เหนื่อย ขึ้นเวรมากขึ้นแบบแทบไม่พัก นอนไม่เป็นเวลา ไปสอนที่โรงเรียนผู้ช่วยพยาบาลอีก เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมมหาโหดของเรา ทำทุกอย่างให้เราสุขสบาย
นั่งคิดน้ำตาก็ไหลไม่หยุด นึกโกรธตัวเองที่คิดเมินเฉย ไม่สนใจท่าน ราวกับอยากจะตัดท่านออกจากชีวิต มัวไปสนใจแฟน สนใจเพื่อน เวลาว่างก็ช็อปปิ้งบ้าง เดทกะแฟนบ้าง โทรหาแม่แค่อาทิดละครั้งแต่นั่นก็เพราะคำสั่งจากแม่ ไม่งั้นเราก็คงไม่อยากจะโทรเพราะขี้เกียจฟังแม่บ่น
ก่อนที่เราจะเข้ามหาลัย แม่ก็ถามๆว่า ถ้าไปอยู่หอ ลูกจะเหงามั้ย จะคิดถึงบ้านมั้ย เราก็คิดในใจ "เหอะๆ หนูดีใจต่างหากล่ะคะแม่"
แต่แล้วทุกวันนี้...เราอยากกลับบ้านมากๆ คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงบรรยากาศที่บ้าน ที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน แต่มันหาโอกาสแบบนั้นยากแล้วจริงๆ เราก็ต้องทำงาน น้องชายก็เรียนมหาลัยมีโปรเจคว่างบ้างไม่ว่างบ้าง แม่ก็ทำงานเวรไม่แน่นอน วันธรรมดาพ่อสอน รร.มัธยม วันอาทิตย์พ่อก็ต้องไปสอน กศน.อีก หาวันที่เราจะมีโอกาสรวมตัวกัน ไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนตอนเรายังเด็กยากมากๆเลย
วันที่เราไปสอบใบ กส. หรือวันสำคัญๆของเราแม่ก็จะส่ง sms มาอวยพรเสมอ วันรับปริญญาเรากลัวแม่เหนื่อยแม่ร้อน บอกท่านว่าไม่ต้องมา เดี๋ยวไปถ่ายรูปกันวันอื่นก็ได้ แต่ท่านก็จะมาให้ได้
ทุกวันนี้เราโทรหาแม่บ่อยขึ้น พูดคุยสารทุกสุขดิบกัน ถ้าวันไหนแม่เครียดๆ เราจะพยายามพูดให้แม่สบายใจและผ่อนคลายขึ้น เราไม่อยากให้แม่เครียดอีกแล้ว แม่อายุมากแล้ว สุขภาพก็เริ่มไม่ค่อยดี พักผ่อนน้อย เป็นความดันด้วย
ยิ่งโตเรายิ่งรู้ซึ้งถึงความรักที่แม่มีให้กับเรา มันมากซะจนหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ เราเข้าใจทุกอย่างที่แม่ทำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเราคิดว่าถ้าวันนึงเรามีลูก เราก็คงจะรู้ซึ้งมากกว่านี้อีกเป็น 10 เป็น 100 เท่า
ทุกวันนี้เราพูดได้เต็มปากว่า......."รักแม่มากค่ะ"
เมื่อก่อนเราไม่รักแม่ แม่จะกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างเพราะเป็นพยาบาลต้องเข้าเวรต่างๆกันไปแต่ละวันและทำงานคนละจังหวัดกับบ้านเราด้วย ด้วยความเป็นเด็กก็รู้สึกว่าอยู่กับพ่อสนุกกว่า สบายใจกว่า พ่อใจดี ขี้เล่น (ถึงแม้เวลาโมโหจะแอบน่ากลัวนิงนึง ><") แม่เจ้าระเบียบและขี้บ่นมาก ดุอีกต่างหาก กระดิกตัวแทบไม่ได้ บางทีเครียดจากงาน(แม่เป็นพยาบาลตรวจการ เรื่องเครียดๆมาหาทุกวัน)กลับมาก็มีอารมณ์ค้างๆมาบ้างเหมือนกัน เรารู้สึกอึดอัดทุกครั้งเวลาที่แม่กลับบ้าน
พอเข้ามหาลัยใน กทม ดีใจมากได้อยู่หอ เราอยู่คนเดียว เป็นอิสระ มีโลกส่วนตัว ไม่มีแม่มาคอยบ่น เราแทบไม่กลับบ้านเลย อ้างว่างานเยอะ ติดนู่นติดนี่ตลอด แม่ก็จะคอยแวะมาหาบ้างประมาณเดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้ง แต่ก็ยังดีไม่ใช่เจอเกือบทุกวันเหมือนตอนอยู่บ้าน
เรารู้สึกแฮปปี้มาตลอดจนกระทั่ง...วันที่เราป่วย อาการค่อนข้างหนักเลย ไม่มีเรี่ยวแรง รู้สึกราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆชีวิตจะจบลงในวันนั้น ตอนนั้นเองแม่ก็โทรมาหาเรา เสียงและคำพูดของแม่ทำให้เราน้ำตาไหล "อ้าว..ป่วยหรอ เป็นไงบ้างลูก ไหวมั้ย กินอะไรรึยัง เสียดายถ้าแม่อยู่แม่จะต้มข้าวต้มให้หนูกิน กินยารึยัง ยาที่แม่เคยเอาไปวางไว้ให้ที่หอลูก(แอบมาวางไว้ตอนไหน - -a) เม็ดสีขาวกับสีชมพู ต้องกิน ไม่กินไม่ได้นะ(เราไม่ชอบกินยา) กินซะแล้วพักผ่อนเยอะๆ กินน้ำบ้างนะ หนูกินน้ำน้อย เดี๋ยวแม่ลงเวรแล้วจะรีบไปหานะลูกนะ มีอะไรโทรหาแม่ได้ตลอดนะ แม่จะรีบไป" ทุกคำพูดของแม่ น้ำเสียงของแม่แสดงถึงความห่วงใยที่มีให้เราอย่างเปี่ยมล้น แม่พยายามแลกเวรเพื่อขับรถฝ่ารถติดใน กทม ทุลักทุเลจาก ตจว.เพียงเพื่อมาดูแลเรา
หลังจากวางสาย เราก็มานั่งคิดทบทวน ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่ทุ่มเทอะไรหลายๆอย่างให้เรามาทั้งชีวิต โดยที่เรามองข้ามไป ท่านจดจำทุกรายละเอียดของเราได้เสมอ เช่น ขนมอะไรบ้างที่เราชอบกิน วันนี่เราต้องไปไหน ไปทำอะไรกับใคร เรามีนัดไปไหนวันไหน ขาดเหลืออะไร ของใช้อะไรหมด เป็นแผลโดนอะไรที่ไหนมานานไม่นานยังไง แม่จะคอยใส่ใจดูแลและจำได้ตลอด ทั้งที่เราเองยังหลงๆลืมๆอยู่เลย แม่พยายาม แม่เหนื่อย ขึ้นเวรมากขึ้นแบบแทบไม่พัก นอนไม่เป็นเวลา ไปสอนที่โรงเรียนผู้ช่วยพยาบาลอีก เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมมหาโหดของเรา ทำทุกอย่างให้เราสุขสบาย
นั่งคิดน้ำตาก็ไหลไม่หยุด นึกโกรธตัวเองที่คิดเมินเฉย ไม่สนใจท่าน ราวกับอยากจะตัดท่านออกจากชีวิต มัวไปสนใจแฟน สนใจเพื่อน เวลาว่างก็ช็อปปิ้งบ้าง เดทกะแฟนบ้าง โทรหาแม่แค่อาทิดละครั้งแต่นั่นก็เพราะคำสั่งจากแม่ ไม่งั้นเราก็คงไม่อยากจะโทรเพราะขี้เกียจฟังแม่บ่น
ก่อนที่เราจะเข้ามหาลัย แม่ก็ถามๆว่า ถ้าไปอยู่หอ ลูกจะเหงามั้ย จะคิดถึงบ้านมั้ย เราก็คิดในใจ "เหอะๆ หนูดีใจต่างหากล่ะคะแม่"
แต่แล้วทุกวันนี้...เราอยากกลับบ้านมากๆ คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงบรรยากาศที่บ้าน ที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน แต่มันหาโอกาสแบบนั้นยากแล้วจริงๆ เราก็ต้องทำงาน น้องชายก็เรียนมหาลัยมีโปรเจคว่างบ้างไม่ว่างบ้าง แม่ก็ทำงานเวรไม่แน่นอน วันธรรมดาพ่อสอน รร.มัธยม วันอาทิตย์พ่อก็ต้องไปสอน กศน.อีก หาวันที่เราจะมีโอกาสรวมตัวกัน ไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนตอนเรายังเด็กยากมากๆเลย
วันที่เราไปสอบใบ กส. หรือวันสำคัญๆของเราแม่ก็จะส่ง sms มาอวยพรเสมอ วันรับปริญญาเรากลัวแม่เหนื่อยแม่ร้อน บอกท่านว่าไม่ต้องมา เดี๋ยวไปถ่ายรูปกันวันอื่นก็ได้ แต่ท่านก็จะมาให้ได้
ทุกวันนี้เราโทรหาแม่บ่อยขึ้น พูดคุยสารทุกสุขดิบกัน ถ้าวันไหนแม่เครียดๆ เราจะพยายามพูดให้แม่สบายใจและผ่อนคลายขึ้น เราไม่อยากให้แม่เครียดอีกแล้ว แม่อายุมากแล้ว สุขภาพก็เริ่มไม่ค่อยดี พักผ่อนน้อย เป็นความดันด้วย
ยิ่งโตเรายิ่งรู้ซึ้งถึงความรักที่แม่มีให้กับเรา มันมากซะจนหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ เราเข้าใจทุกอย่างที่แม่ทำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเราคิดว่าถ้าวันนึงเรามีลูก เราก็คงจะรู้ซึ้งมากกว่านี้อีกเป็น 10 เป็น 100 เท่า
ทุกวันนี้เราพูดได้เต็มปากว่า......."รักแม่มากค่ะ"