ระบาย + เตือนสาวๆที่ถือกระเป๋าแบรนเนมด์ค่ะ

ยาวไปหน่อยแต่ทนอ่านทีค่ะ ไม่รู้จะไปบ่นกับใคร

เหตุเกิดวันลองกระธงที่ผ่านมาเนื่องจากจะไปลอยกระธงแล้วรถติดม๊ากมาก
จำให้ต้องเข้าไปกินอาหารร้านหนึ่ง ตัวย่อว่า
__

วันนี้ร้านนี้คนเยอะมาก ที่จอดรถไม่พอ เราก็เลยต้องจอดรถข้างๆร้าน ซึ่งน่าจะเป็นอู่หรืออะไรซักอย่าง มันมืดๆ เราก็เลยตัดสินใจนำกระเป๋าเข้าไปด้วยดีกว่า ไม่อยากเสี่ยงไว้ในรถ ปกติถ้าเราไปทานอาหารนอกบ้านแล้วเอากระเป๋าไป เราจะไว้ในรถ เพราะเห็นว่าที่จอดรถร้านอาหารก็มีคนพลุกพล่าน แต่ครั้งนี้มันดูมืดเหลือเกิน แล้วเพื่อนพี่สาวก็เคยวางกระเป๋าไว้ในรถแล้วโดนทุบกระจกรถขโมยกระเป๋าไป เราเลยตัดสินใจเอากระเป๋าเข้าไปในร้านด้วย


เมื่อเราสั่งอาหารเสร็จ เราก็นำกระเป๋าเราวางไว้ที่เก้าอี้อีกตัวหนึ่ง แล้วลากเข้ามาติดตัวเรากับโต๊ะอาหาร เพื่อที่จะให้พนักงานเดินสะดวก แต่ว่าระหว่างที่เรานั่งรออาหารนั้น พนักงานเสิร์ฟอาหารที่เดินผ่านหลังเราไปนั้น กลับมีอาการเซๆ เพราะพี่แกดันถือถาดอาหารแค่มือเดียว ไอเราก็นั่งหันหลัง แฟนเราก็ดันเตือนไม่ทัน แล้วพนักงานก็เซจนน้ำจิ้ม ( น่าจะน้ำจิ้มซีฟู้ด เพราะกลิ่นเปรี้ยวๆ มีพริก ) ที่อยู่ในถาดก็หกมาจนได้ เฉียดเราไปนิดนึง ดีนะที่ไม่เป็นหม้อแกงส้มที่อยู่ในถาด ไม่อย่างนั้นคงจะร้อนน่าดู


เราตกใจมาก แต่โชคดีที่ไม่โดนตัวเรา แต่ มัน ดันโดนกระเป๋าของเราค่ะ เราแทบช๊อค เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดกับเรามาแล้วครั้งนึงที่ร้าน ปิ้งย่างแห่งหนึ่งในห้าง แล้ววันนี้มันยังเกิดขึ้นกับเราซ้ำสอง แถมยังเป็นกระเป๋าใบเดิม คือ Coach ใบผ้าลายซิกเนเจอร์ ไม่รู้ว่ามันเป็นกระเป๋าอาถรรพ์หรือไงเนี่ย

จากนั้นเราก็รีบซับๆน้ำจิ้มออกจากกระเป๋าเรา T____T พนักงานคนที่ทำหกก็ขอโทดแล้
วรับเช็ดๆกระเป๋าเราเช่นกัน ซึ่งเราบอกว่าไม่ต้องค่ะเดี๋ยวเช็ดเอง แต่เค้าก็ยังเช็ดอีก โดยการปาดๆๆๆ ซึ่งมันก็เลยทำให้กระเป๋าเปื้อนหนักกว่าเดิม ฮืออออ

จากนั้นเราก็เรียกผู้จัดการมาเคลีย แต่ก็กว่าจะมา รอแบบ 15 นาที ไม่ได้ใส่ใจอะไรเราเลย พอมาถึงกระเป๋ามันก็แห้งละค่ะ รอยก็จางไปซะแล้ว เหลือแต่กลิ่นและรอยอ่อนๆ ยังคุยไปทันเสร็จพี่แกก็ไปอีกแล้ว บอกเดี๋ยวมา อย่างนี้ประมาณ 3 รอบ เราอารมณ์เสียมาก ดูเค้าไม่ได้ใส่ใจเราเลย แถมยังจะขอรับผิดชอบแค่ค่าอาหาร พูดแต่ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ หยวนๆกันหน่อย เราก็เลยบอกว่างั้นคุณช่วยออกค่าซักได้ไหม แต่เค้ากลับบอกว่าเค้ารับผิดชอบไม่ไหว ให้ได้อย่างมากก็ค่าอาหารวันนี้

ถามทีเถอะค่ะ ว่ามันใช่ความผิดเราเหรอ ทำเราก็ไม่ได้ทำ ระวังก็ระวังแล้ว แถมยังต้องไปเสียเงินค่าซักกระเป๋าอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าซักแล้วจะเหมือนเดิมไหม จะด่างหรือสีตกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วกระเป๋าพวกนี้ซักทีก็ไม่ได้ถูกๆ แต่คุณกลับบอกว่าคุณรับผิดชอบไม่ไหว เราเข้าใจค่ะ ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่คุณก็ไม่ควรปัดความรับผิดชอบอะไรแบบนี้ แถมคุณยังไม่ใส่ใจเราเลย เมื่อตอนที่เราเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งที่แล้วที่ร้านปิ้งย่างในห้างนั้น เค้ารับผิดชอบเต็มที่ แล้วขอโทดอะไรอย่างดี แถมยังจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เราอีกต่างหาก เรารับได้ค่ะ แต่นี่คุณกลับไม่ค่ะ สุดท้ายเหมือนเค้าจะรำคานเรา เค้าเลยให้ค่าซักมาครึ่งนึง แล้วไม่พูดอะไรเลย เดินไปเลย ซะงั้น

เราผิดหวังสุดๆค่ะ ที่เราได้ไปทานอาหารร้านคุณ คุณลองคิดดูว่าถ้าวันนั้นที่หกมาไม่ใช่น้ำจิ้ม แต่เป็นหม้อแกงส้มที่จุดไฟเดือดๆหกมาแทนล่ะค่ะ แล้วไม่ทราบว่าพนักงานทำไมไม่ถือ 2 มือ ถือมือเดียวมันจะมั่นคงไม๊ล่ะคะ แต่ที่โมโหสุดๆก็คือคุณไม่ใส่ใจเราเลยค่ะ กลายเป็นว่าวันนั้นว่าจะลอยกระธงด้วยความสุขกลับเซงสุดๆ

สุดท้ายนี้ก็ฝากเตือนสาวๆที่ชอบหิ้วกระเป๋าแบรนเนมด์ราคาแพงเข้าร้านอาหารค่ะ อย่าได้เจอแบบเราเลย ส่วนเรา หลังจากซักกระเป๋า เราคิดว่าจะไม่นำกระเป๋าใบนี้ไปเข้าร้านอาหารด้วยอีกแล้วค่ะ กลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำ 3 ค่ะ

Discussion (16)

ถือซะว่าฟาดเคราะห์ดีกว่าค่ะ
ไม่ก็ทำบุญทำทานน่ะค่ะ
เพราะว่าถ้าเรียกเงินจริงๆ เค้าก็ต้องเก็บจากพนักงานคนนั้นแหละค่ะ
ซึ่งก็น่าจะเดาได้นะคะว่าเด็กที่ทำงานตามร้านแบบนั้นจะได้เงินค่าจ้างมากแค่ไหน
ถือว่าเรามีมากกว่า อะไรอภัยได้ ออกเองได้ก็เอาเถอะค่ะ ถือว่าเห็นใจเขาละกันค่ะ
 
แย่จังเลยนะคะ ยังไงถือว่าฟาดเคราะห์ละกันค่ะ ^^
เราว่าเวลาออกไปเที่ยวช่วงเทศกาลที่มีคนเยอะ หรือดูวุ่นวาย ไม่ควรพกของมีค่าไปนะเพราะอันตราย
นี่ยังดีนะคะแค่น้ำจิ้มหก ถ้าโดนกระชาก หรือวิ่งราวไป เสียดายแย่เลยค่ะ
ลองคิดอีกแง่นึงนะคะ ถ้าจะให้หาใครรับผิดชอบจริงๆก็ต้องเป็นพนักงานเสิร์ฟค่ะ
แล้วพนักงานเสิร์ฟเงินเดือนเค้าก็น้อยอยู่แล้วถ้าให้เค้ามารับผิดชอบจ่ายค่าซักกระเป๋าอีกคงไม่เหลือพอใช้

ส่วนผู้จัดการเค้าย่อมต้องจัดการให้ร้านตัวเองเสียผลประโยชน์น้อยที่สุดอยู่แล้วค่ะ
และคงไม่มีใครยอมควักเงินตัวเองออกมาจ่ายเราว่าสุดท้ายก็ต้องไปหักเงินพนักงานเสิร์ฟคนนั้นอยู่ดี
เพราะเจ้าของร้านคงไม่ยอมเสียรายได้ไป

เราเห็นใจเจ้าของกระทู้ค่ะ ใจเย็นๆนะคะ ถือซะว่าอย่างน้อยก็ช่วยคนๆนึงทางอ้อมอ่ะค่ะได้บุญ
 อ้อ ส่วนเรื่องค่าอาหารเนี่ย เราออกเองค่ะ เพราะเราขี้เกียจคุยต่อ บวก รอ แล้ว วันนั้นเราไปรอมาเกือบชั่วโมงได้ค่ะ