ทำบุญแท้ๆ แต่ทำไมเรื่องมากจัง
yol14เรื่องของเรื่องคือพี่เป็นคนที่ซื้อหนังสือบ่อยมากๆและเยอะมากๆๆ พออ่านจบแล้วไม่อยากเก็บไว้ให้เปลืองที่ ก็จะบริจาคไปตาม โรงเรียนบ้าง มูลนิธิบ้าง เรือนจำบ้าง เสียค่าส่งแต่ละครั้ง (ส่งลงทะเบียนธรรมดา) 600 - 700 บาท
ปัญหาเกิดตรงการบริจาคหนังสือ+สิ่งของไปเรือนจำนี่แหละ พี่จด address เรือนจำต่างๆ ไว้ตอนที่มีสมาชิกจีบันมาบอกในเว็บ แล้วเวลาจะส่งไปพี่โทร.ไปถามทางเรือนจำก่อนทุกครั้ง ว่านอกจากหนังสือแล้วอยากได้อะไรอีกหรือไม่ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็หาให้ เช่น พวกถุงดำใส่ขยะ อะไรประมาณนี้ ..... แล้วเวลาส่งก็จะจ่าหน้าไปถึงคนที่เป็นผู้กำกับดูแลที่เป็นของทางราชการ เช่น ถึงผู้บัญชาการเรือนจำบ้าง คณะกรรมการตรวจรับของบริจาคบ้าง สุดแท้แต่ว่าตอนโทรไปเค้าบอกให้จ่าหน้าถึงใคร แล้วตรงชื่อผู้ส่งก็ใส่ชื่อที่อยู่ของตัวเองจนครบ ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร ส่งไปได้จนได้รับหนังสือขอบคุณกลับมาจากผู้บัญชาการเรือนจำต่างๆ มาแล้วหลายฉบับ
มาระยะหลังทางไปรษณีย์ไม่อยากรับของ ( messenger ลองไปแล้วถึง 3 แห่ง คือ ที่ประดิพัทธ์ สามเสนใน แล้วก็ศรีย่าน โดนไปรษณีย์ปฏิเสธ) บอกให้ messenger กลับมาเอาสำเนาบัตรประชาชนผู้ส่งไปให้ด้วย พร้อมการเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง ซึ่งบอกตรงๆ ว่าพี่ไม่ค่อยสบายใจนักที่จะให้ กลัวถูกเอาไปทำอย่างอื่น เช่น พวกบัตรเครดิต หรือ ผ่อนของ ...คือ ก็เข้าใจนะว่าเค้าคงกลัวเราส่งของผิดกฎหมายไป แต่ถ้าพี่ส่งของผิดกฎหมายพี่จะกล้าจ่าหน้าไปหาผู้บัญชาการเรือนจำหรือคณะกรรมการตรวจรับของทางเรือนจำ ซึ่งเป็นคนของทางการมั้ย พี่ไม่ได้ส่งเจาะจงตัวไปหานายคนนั้น นางคนนี้ ที่เป็นผู้ต้องขังสักหน่อย แล้วพี่ก็เปิดเผยตัวตนลงชื่อลงบ้านไปแบบจัดเต็ม (ขาดก็แต่เขียนแผนที่บ้านแนบไปด้วยเท่านั้นแหละ) ...มาวันนี้ก็อีกแล้ว ต้องถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการไปให้ด้วย คราวนี้หลังจากลงสำเนาถูกต้องไปแล้ว พี่เลยเขียนกำกับไปด้วยว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้ติดต่อมาเลย เบอร์โทรศัพท์....
หงุดหงิดมากเลย หนังสือเราก็ดีๆ หลายเล่มก็ตั้งใจซื้อมา และตั้งใจเลือกที่เหมาะกับเค้า อย่างเช่นหนังสือเกี่ยวกับการทำอาชีพอิสระ อาหารงานประดิษฐ์อะไรทำนองนี้เพราะเห็นว่าเค้าออกมาแล้วเค้าทำงานในบริษัทห้างร้านอะไรก็ยาก เสียประวัติไปแล้ว แล้วก็จะเป็นหนังสือธรรมะอะไรพวกนี้จะได้ช่วยในเรื่องการปรับใจไม่ให้เป็นทุกข์ หรือถ้าเป็นเรือนจำหญิงก็เพิ่มพวกนิตยสารไปให้ด้วย ค่าส่งก็ตั้งเยอะ (+ค่าจ้าง messenger อีก) การจ่าหน้ากล่องก็ทำตามระเบียบชัดเจนทุกอย่าง จะเอาอะไรอีก ไปรษณีย์มีหน้าที่ส่งของก็ส่งไปสิ ถึงปลายทาง ทางเรือนจำเค้าก็แกะทุกกล่องออกตรวจอยู่ดี ไม่ใช่เรื่องที่ไปรษณีย์จะต้องมาทำหน้าที่สกัดไม่ให้คนส่งของ... นี่พี่ยังแอบกังวลด้วยเพราะครั้งหลังสุดไม่มีหนังสือตอบรับจากเรือนจำมา ยังกลัวว่า ไปรษณีย์จะตุกติก คือ เงินค่าส่งก็รับ แต่ไม่ส่งให้หรือเปล่า กลัวมากว่าเป็นของผิดกฎหมายก็เลยเอาไปเปิดสำรวจแล้วกลัวความผิดที่แอบเปิดเลยเอาของๆ พี่ไปทิ้งหรือเปล่า บอกตรงๆ นะ นอยด์มาก
ต่อไปคงเลิกบริจาคให้เรือนจำแล้วล่ะ เซ็ง ของวันนี้ 2 กล่อง (มันจัดไว้แล้วและเขียนหน้ากล่องไปแล้ว) เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เรือนจำที่ขาดแคลนหรือต้องการหนังสือ+ของใช้จำเป็น จะได้รับของจากพี่ เอาไปบริจาคที่อื่นดีกว่า
รู้ว่านอกเรื่อง แต่ก็ขอบ่นหน่อยนะ หงุดหงิดค่ะ
ปัญหาเกิดตรงการบริจาคหนังสือ+สิ่งของไปเรือนจำนี่แหละ พี่จด address เรือนจำต่างๆ ไว้ตอนที่มีสมาชิกจีบันมาบอกในเว็บ แล้วเวลาจะส่งไปพี่โทร.ไปถามทางเรือนจำก่อนทุกครั้ง ว่านอกจากหนังสือแล้วอยากได้อะไรอีกหรือไม่ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็หาให้ เช่น พวกถุงดำใส่ขยะ อะไรประมาณนี้ ..... แล้วเวลาส่งก็จะจ่าหน้าไปถึงคนที่เป็นผู้กำกับดูแลที่เป็นของทางราชการ เช่น ถึงผู้บัญชาการเรือนจำบ้าง คณะกรรมการตรวจรับของบริจาคบ้าง สุดแท้แต่ว่าตอนโทรไปเค้าบอกให้จ่าหน้าถึงใคร แล้วตรงชื่อผู้ส่งก็ใส่ชื่อที่อยู่ของตัวเองจนครบ ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร ส่งไปได้จนได้รับหนังสือขอบคุณกลับมาจากผู้บัญชาการเรือนจำต่างๆ มาแล้วหลายฉบับ
มาระยะหลังทางไปรษณีย์ไม่อยากรับของ ( messenger ลองไปแล้วถึง 3 แห่ง คือ ที่ประดิพัทธ์ สามเสนใน แล้วก็ศรีย่าน โดนไปรษณีย์ปฏิเสธ) บอกให้ messenger กลับมาเอาสำเนาบัตรประชาชนผู้ส่งไปให้ด้วย พร้อมการเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง ซึ่งบอกตรงๆ ว่าพี่ไม่ค่อยสบายใจนักที่จะให้ กลัวถูกเอาไปทำอย่างอื่น เช่น พวกบัตรเครดิต หรือ ผ่อนของ ...คือ ก็เข้าใจนะว่าเค้าคงกลัวเราส่งของผิดกฎหมายไป แต่ถ้าพี่ส่งของผิดกฎหมายพี่จะกล้าจ่าหน้าไปหาผู้บัญชาการเรือนจำหรือคณะกรรมการตรวจรับของทางเรือนจำ ซึ่งเป็นคนของทางการมั้ย พี่ไม่ได้ส่งเจาะจงตัวไปหานายคนนั้น นางคนนี้ ที่เป็นผู้ต้องขังสักหน่อย แล้วพี่ก็เปิดเผยตัวตนลงชื่อลงบ้านไปแบบจัดเต็ม (ขาดก็แต่เขียนแผนที่บ้านแนบไปด้วยเท่านั้นแหละ) ...มาวันนี้ก็อีกแล้ว ต้องถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการไปให้ด้วย คราวนี้หลังจากลงสำเนาถูกต้องไปแล้ว พี่เลยเขียนกำกับไปด้วยว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้ติดต่อมาเลย เบอร์โทรศัพท์....
หงุดหงิดมากเลย หนังสือเราก็ดีๆ หลายเล่มก็ตั้งใจซื้อมา และตั้งใจเลือกที่เหมาะกับเค้า อย่างเช่นหนังสือเกี่ยวกับการทำอาชีพอิสระ อาหารงานประดิษฐ์อะไรทำนองนี้เพราะเห็นว่าเค้าออกมาแล้วเค้าทำงานในบริษัทห้างร้านอะไรก็ยาก เสียประวัติไปแล้ว แล้วก็จะเป็นหนังสือธรรมะอะไรพวกนี้จะได้ช่วยในเรื่องการปรับใจไม่ให้เป็นทุกข์ หรือถ้าเป็นเรือนจำหญิงก็เพิ่มพวกนิตยสารไปให้ด้วย ค่าส่งก็ตั้งเยอะ (+ค่าจ้าง messenger อีก) การจ่าหน้ากล่องก็ทำตามระเบียบชัดเจนทุกอย่าง จะเอาอะไรอีก ไปรษณีย์มีหน้าที่ส่งของก็ส่งไปสิ ถึงปลายทาง ทางเรือนจำเค้าก็แกะทุกกล่องออกตรวจอยู่ดี ไม่ใช่เรื่องที่ไปรษณีย์จะต้องมาทำหน้าที่สกัดไม่ให้คนส่งของ... นี่พี่ยังแอบกังวลด้วยเพราะครั้งหลังสุดไม่มีหนังสือตอบรับจากเรือนจำมา ยังกลัวว่า ไปรษณีย์จะตุกติก คือ เงินค่าส่งก็รับ แต่ไม่ส่งให้หรือเปล่า กลัวมากว่าเป็นของผิดกฎหมายก็เลยเอาไปเปิดสำรวจแล้วกลัวความผิดที่แอบเปิดเลยเอาของๆ พี่ไปทิ้งหรือเปล่า บอกตรงๆ นะ นอยด์มาก
ต่อไปคงเลิกบริจาคให้เรือนจำแล้วล่ะ เซ็ง ของวันนี้ 2 กล่อง (มันจัดไว้แล้วและเขียนหน้ากล่องไปแล้ว) เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เรือนจำที่ขาดแคลนหรือต้องการหนังสือ+ของใช้จำเป็น จะได้รับของจากพี่ เอาไปบริจาคที่อื่นดีกว่า
รู้ว่านอกเรื่อง แต่ก็ขอบ่นหน่อยนะ หงุดหงิดค่ะ
Discussion (4)
เเต่คนส่งเเบบลงทะเบียนนิสัยเเย่ที่สุด คนสั่งไปไม่จำเปงว่าคนที่ชื่ออยุ่ในซองต้องมาเซ็นรับ น้องคนที่ชื่ออยุ่หน้าซองไปเรียนบูรุษไปรษณีร์คนนี้ก่อจ้องเเต่บอกให้มาเซ็น จะเซ็นได้ไงเล่าก่อเดกมันไปเรียนเซ็งจริงๆ
บางทีสั่งเครื่องสำอางค์มา เค้าก็จะแปะชื่อยี่ห้อชื่อบริษัทไรมาด้วย ยังจะต้องแกะดูอีกหรอ
แต่ปกติเวลาซองจดหมายเราโดนแกะ เค้าก็ชอบอ้างว่าตรวจสิ่งผิดกฏหมาย ดวกส์มาก