สาวๆที่เก่งภาษาอังกฤษ ช่วยแปลให้หน่อยคะ
Tinkerbee5คือเราส่ง outline eassy เรื่อง footbinding ให้อาจารย์แล้วเค้าส่งกลับมาแบบนี้อะคะ
อ่านแล้วงงมาก เพื่อนๆช่วยแปลให้หน่อยได้มั้ยคะ
Thank you very much for your outline, which I find very interesting. Let me suggest three ways in which you can further improve it as you can continue your work on your essay.
(1) Your outline is already mostly point-based. But you should also give the points you want to make in the introduction and the conclusion.
The introduction must state your thesis and explain to the reader why s/he should be interested in it. To make sure that you actually give your thesis statement, begin the outline with the words:
> In this essay, I want to argue that ...
The thesis must answer your question.
(2) In your outline, you include the sentence:
> They satisfy the needs of men sexual behavior.(Fetishism)
The first part of this sentence is clear enough although it would be good if you explained why foot binding was important in this context. Perhaps the term "fetishism" can help here -- I do not know --, but make sure that you only make points in your essay that you clearly understand yourself. So if you cannot explain the concept of fetishism and what he has to do with your argument, you should not talk about it.
The most important point regards the overall structure of your argument. You have hit upon a central question of human life: the interplay (the connections and mutual influences) of our free will and external pressure. Your outline focuses on the free decision of Han Chinese women to have their feet bound. Then you go on to talk much more briefly about the pressures and indeed coercion they faced. I want you directly to discuss whether or not the women's own free will or the external pressure put upon them was more important for the practice of foot binding.
You have chosen a fascinating topic and already made quite a bit of it. This is good work.
อ่านแล้วงงมาก เพื่อนๆช่วยแปลให้หน่อยได้มั้ยคะ
Thank you very much for your outline, which I find very interesting. Let me suggest three ways in which you can further improve it as you can continue your work on your essay.
(1) Your outline is already mostly point-based. But you should also give the points you want to make in the introduction and the conclusion.
The introduction must state your thesis and explain to the reader why s/he should be interested in it. To make sure that you actually give your thesis statement, begin the outline with the words:
> In this essay, I want to argue that ...
The thesis must answer your question.
(2) In your outline, you include the sentence:
> They satisfy the needs of men sexual behavior.(Fetishism)
The first part of this sentence is clear enough although it would be good if you explained why foot binding was important in this context. Perhaps the term "fetishism" can help here -- I do not know --, but make sure that you only make points in your essay that you clearly understand yourself. So if you cannot explain the concept of fetishism and what he has to do with your argument, you should not talk about it.
The most important point regards the overall structure of your argument. You have hit upon a central question of human life: the interplay (the connections and mutual influences) of our free will and external pressure. Your outline focuses on the free decision of Han Chinese women to have their feet bound. Then you go on to talk much more briefly about the pressures and indeed coercion they faced. I want you directly to discuss whether or not the women's own free will or the external pressure put upon them was more important for the practice of foot binding.
You have chosen a fascinating topic and already made quite a bit of it. This is good work.
Discussion (5)
ขอบคุณทั้งสองคนมากๆเลยนะคะ
1. ในส่วน Introduction จะต้องมี Thesis Statement คะซึ่งมันจะเป็น guideline ให้ผู้อ่านคะว่าคุณจะพูดถึงเรื่องอะไร Thesis ที่ดีคืออ่านแล้วจะต้องรู้ว่าคุณพยายามจะแสดงให้ผู้อ่านเห็นว่าคุณจะ make point เรื่องนี้ๆ thesis statement ก็เหมือนใจความสำคัญของทั้งบทความคะ ในที่นี้ก็คือเรื่อง footbinding คะเพราะฉะนั้นพยายามเขียน thesis ให้ชัดเจนคะ :) ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเราจะพูดเรื่องอะไร
2. อาจารย์บอกว่าคุณใส่ประโยคนี้มา They satisfy the needs of men sexual behavior.(Fetishism) ซึ่งถือเป็น topic sentence ที่ดีคะ แต่อาจารย์อยากให้อธิบายเพิ่มเติมคะว่าทำไม footbinding ถึงเป็นการสนองอารมณ์ผู้ชาย เหมือนเรายกเหตุผลไปคะ อาจารย์แนะนำให้อธิบาย Fetishism ว่ามันคืออะไรเพราะมันเป็นศัพท์เฉพาะคนส่วนน้อยที่จะทราบคะ ถ้าคุณไม่รู้ว่ามันคืออะไรอาจารย์ไม่แนะนำให้ใส่มาคะ ถ้าหา definition มาเราแนะนำให้ใส่ quote ไปเลยคะ
3. เหมือนว่าคุฯจะเน้นพูดเรื่อง Free Will ใช่มั้ยคะ พอคุณเขียนไปสักพักคุณกลับไปเน้นเรื่อง External pressure ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับเรื่องที่คุณเขียนคะ มันไม่เชองคนละประเด็นแต่เหมือนว่าในบทความนี้คุณต้องการจะพูดแค่เรื่อง Free Will ของหญิงชาวฮั่นในยุคนั้นคุณไม่ต้องไปเพิ่มเนื้อหาส่วนอื่นคะ เอามาเป็น back up idea ได้แต่ว่าอย่าให้หลุดไปเป็นอีก topic นึงคะ อาจารย์เลยบอกว่าให้เลือกเอาอย่างใดอย่างนึงว่าจะพูดเรื่อง Free Will หรือ External Pressure คะ
หวังว่าจะช่วยได้นะคะ
2. อาจารย์บอกว่าคุณใส่ประโยคนี้มา They satisfy the needs of men sexual behavior.(Fetishism) ซึ่งถือเป็น topic sentence ที่ดีคะ แต่อาจารย์อยากให้อธิบายเพิ่มเติมคะว่าทำไม footbinding ถึงเป็นการสนองอารมณ์ผู้ชาย เหมือนเรายกเหตุผลไปคะ อาจารย์แนะนำให้อธิบาย Fetishism ว่ามันคืออะไรเพราะมันเป็นศัพท์เฉพาะคนส่วนน้อยที่จะทราบคะ ถ้าคุณไม่รู้ว่ามันคืออะไรอาจารย์ไม่แนะนำให้ใส่มาคะ ถ้าหา definition มาเราแนะนำให้ใส่ quote ไปเลยคะ
3. เหมือนว่าคุฯจะเน้นพูดเรื่อง Free Will ใช่มั้ยคะ พอคุณเขียนไปสักพักคุณกลับไปเน้นเรื่อง External pressure ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับเรื่องที่คุณเขียนคะ มันไม่เชองคนละประเด็นแต่เหมือนว่าในบทความนี้คุณต้องการจะพูดแค่เรื่อง Free Will ของหญิงชาวฮั่นในยุคนั้นคุณไม่ต้องไปเพิ่มเนื้อหาส่วนอื่นคะ เอามาเป็น back up idea ได้แต่ว่าอย่าให้หลุดไปเป็นอีก topic นึงคะ อาจารย์เลยบอกว่าให้เลือกเอาอย่างใดอย่างนึงว่าจะพูดเรื่อง Free Will หรือ External Pressure คะ
หวังว่าจะช่วยได้นะคะ
Thank you very much for your outline, which I find very interesting. Let me suggest three ways in which you can further improve it as you can continue your work on your essay.
ก็เป็นเชิงๆว่า งานของคุณน่าสนใจ แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง อาจารเลยให้คำแนะนำในการปรับปรุงมา 3 ทางน่ะค่ะ
(1) Your outline is already mostly point-based. But you should also give the points you want to make in the introduction and the conclusion.
1. แผนงานมีความถูกต้องเหมาะสมแล้ว แต่ควรใส่หัวข้อหลักในส่วนของคำนำ และสรุป(เอ่อ อาจจะงงๆ สงสัยอาจารบอกให้ใส่คำนำ แล้วก็สรุปลงไปในแผนงานด้วยมั้งคะ -*-)
The introduction must state your thesis and explain to the reader why s/he should be interested in it. To make sure that you actually give your thesis statement, begin the outline with the words:
> In this essay, I want to argue that ...
The thesis must answer your question.
ในส่วนของคำนำ ควรมีหัวข้อของบทความ และอธิบายมาว่า ทำไม s/he ถึงสนใจในเรื่องนี้ (น่าจะหมายความนี้ คุณเขียนเรื่องเนี้ย มีจุดประสงค์อะไร อาจารขี้สงสัยเนอะ -*-) แล้วต้องทำให้แน่ใจว่า ได้ใส่ชื่อของบทความ ในตอนเริ่มเรียงความ เช่น ในบทความนี้ ฉันต้องการจะอ้างถึง........(น่าจะเป็นชื่อบทความนะคะ) ก็คือว่าหัวข้อของบทความจะต้องสามารถตอบข้อสงสัยของเราได้ แหะๆ งงๆ เนอะ แบบว่าเราก็แปลเท่าที่สามารถอ่ะค่ะ >< เด๋วมาต่อน้าา ไปกินข้าวก่องง ^^
ก็เป็นเชิงๆว่า งานของคุณน่าสนใจ แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง อาจารเลยให้คำแนะนำในการปรับปรุงมา 3 ทางน่ะค่ะ
(1) Your outline is already mostly point-based. But you should also give the points you want to make in the introduction and the conclusion.
1. แผนงานมีความถูกต้องเหมาะสมแล้ว แต่ควรใส่หัวข้อหลักในส่วนของคำนำ และสรุป(เอ่อ อาจจะงงๆ สงสัยอาจารบอกให้ใส่คำนำ แล้วก็สรุปลงไปในแผนงานด้วยมั้งคะ -*-)
The introduction must state your thesis and explain to the reader why s/he should be interested in it. To make sure that you actually give your thesis statement, begin the outline with the words:
> In this essay, I want to argue that ...
The thesis must answer your question.
ในส่วนของคำนำ ควรมีหัวข้อของบทความ และอธิบายมาว่า ทำไม s/he ถึงสนใจในเรื่องนี้ (น่าจะหมายความนี้ คุณเขียนเรื่องเนี้ย มีจุดประสงค์อะไร อาจารขี้สงสัยเนอะ -*-) แล้วต้องทำให้แน่ใจว่า ได้ใส่ชื่อของบทความ ในตอนเริ่มเรียงความ เช่น ในบทความนี้ ฉันต้องการจะอ้างถึง........(น่าจะเป็นชื่อบทความนะคะ) ก็คือว่าหัวข้อของบทความจะต้องสามารถตอบข้อสงสัยของเราได้ แหะๆ งงๆ เนอะ แบบว่าเราก็แปลเท่าที่สามารถอ่ะค่ะ >< เด๋วมาต่อน้าา ไปกินข้าวก่องง ^^
เรียนที่ไหนคะนี่ เริศจังเลย