กระทู้เตือนสติ...เอามาจากเฟสพี่สาวค่ะ
yaichompoo 46 34เอามาจากเฟสบุคของพี่สาวค่ะ
เกริ่นก่อนว่า พี่สาวอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง มีสามีเป็นชาวแคนาดา
และมีลูกชาย1ขวบ ตอนนี้เป็นแม่บ้าน และขายของเล็กๆน้อยๆค่ะ
พี่เขียนและโพสไว้นานแล้ว แต่พึ่งมาได้อ่าน
และอยากจะแชร์เพื่อเตือนสติ(ที่เราเองก็มีน้อยมาก55)
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
"ลูกพี่ลูกน้องสามี มาจากแคนาดา มาพักกับเราสองสามวัน แล้วจะไปเซี่ยงไฮ้ต่อ
เค้าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาอยู่มหาลัยที่จีน ปีสุดท้ายแล้วจะจบ
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่า คนนี้อายุ 23 เป็นลูกพี่ลูกน้องกะสามีนะ ไม่ใช่หลาน -_-" เดี่ยวจะงงว่า ไรแว๊ แก่ปูนนี้ไม่ยอมรับว่าเป้นหลาน คือเค้าเป็นลูกของน้องสาวแม่สามี ก็ยังนับเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คนยิวลูกเยอะ คนโตกะคนเล็กสุดจะอายุต่างกันเยอะอยู่ อ้ะต่อๆ
ประเด็นคือ ตอนเจอเค้า เราก็ทักเลย เฮ๊ย แดเนียลคุณดูเหนื่อยมากเลยอ้ะ ไม่ได้นอนเหรอ (แต่งตัวก็มอมแมมนะ อยากถามว่า อาบน้ำมาป่าวเนี่ย อิน้อง) เค้าก็ทำหน้าตกใจ แบบว่าก็ปกตินะ สามีก็เลยพูดกะเค้าว่า เราน่ะไม่ชินกับคนเดินทางเองแบบนี้แหละ ไม่เข้าใจหรอกว่าการแบคแพคเที่ยวมันเป็นยังไง หน้ามันไม่เป๊ะไม่เด้งหรอก แบกกระเป๋าเดินเป็นโลๆ มันเหนื่อยนะยะ หล่อนเที่ยวเป็นแต่นั่งเครื่อง เอ๊ะ อิสามีนี่มาแขวะชั้นทำไมเนี่ย แล้วก็ไปกินข้าวกัน
จากคุยๆกับเค้า เวลาเค้าถามว่าไปไหนมาไหนไปยังไง ค่ารถเท่าไหร ค่ากินเท่าไหร่ แล้วดูจะพยายามจะนั่งรถเมล์ที่มันถูกๆมากกว่าแทกซี่ (ที่อิชั้นโบกขึ้นตร๊อดดด) แล้วแอบได้ยินสามีถามว่า แดเนียล แกมีเงินใช้ป่าวเนี่ย ไม่ต้องเกรงใจนะ ถ้าต้องการเงินสด ให้บอก เค้าก็บอกไม่ต้องๆ
พอเค้ากลับไปhostel เราก็ถามสามีว่า เค้ามีตังค์ใช้ป่าว ดูเป็นห่วงเรื่องเงินนะ ทำไมไม่ให้เงินเค้าล่ะ น่าสงสาร เด็กๆมาเที่ยวไม่มีตังค์ใช้ สามีบอก โอ๊ยบ้านมันรวยเป็นมหาเศรษฐี โคตรจะรวย มีบริษัทใหญ่โต ไม่ต้องให้ตังค์มันหรอก ก็ถามไปงั้นแหละ เราก็ อ้าว แล้วไม มันทำตัวดูจนๆ มอมแมมๆวะ เค้าก็ทำหน้าแบบว่า เราน่ะแหละแปลก แล้วบอกว่า ก็เค้ายังเป็นนักเรียน รายได้มีที่ไหนล่ะ มาเที่ยวก็ต้องใช้ตังค์ที่ทำงานพิเศษมาเอง ก็ต้องประหยัดสิ ไม่ได้มานั่งงอมืองอเท้า ขอพ่อแม่นิ แล้วนี่เค้าก็เพิ่งย้ายมานอนบ้านเราวันนี้ เพราะเพื่อนกลับไปแล้ว ไม่มีคนแชร์ค่าห้อง
แล้วนี่ก็เพิ่งพาเค้าไปขึ้นรถราง เที่ยวเมือง มันก็แบกเป้เดินดุ่มๆออกไป พอดีบ้านเราต้องเนินขึ้นเนินมาไกลพอสมควร ก็บอกเค้าว่า จริงๆมันมีรถเมล์ขึ้นมาถึงตรงนี้นะ แต่จะขึ้นถูกรึเปล่า เค้าบอกว่า ไม่ต้องหรอก แค่นี้เอง เดินได้ คุณไม่รู้หรอกว่าทริปนี้ ชั้นเดินมามากขนาดไหน (แป่ววววว -_-!) เค้ายังถึงขนาดถามว่า จากบ้านเราเดินไปแถว central ได้มะ เราบอก โอ๊ย เกือบชั่วโมงอ้ะ ถ้าเดินจริงๆ เค้าบอก ก็โอเคนะ เราก็ หาาา จะเดินเหรอ ไม่อยากให้มันเดิน เลยบังคับให้ไปขึ้นรถราง มันก็ไป
ประเด็นที่เขียนนี่ก็คือ เค้าทำให้เราเห็นว่า คนเราจะทำตัว ใช้ชีวิตยังไงนั้น มันขึ้นอยู่กับ ค่านิยม การสั่งสอน และสังคม จริงๆ ดูเค้าดิ้ บ้านโคตรรวย (เพราะก็จำได้ว่า เคยไปบ้านพักตากอากาศพ่อแม่เค้าที่แคนาดา ริมทะเลสาป ก็แบบว่าไม่รวยก็ซื้อไม่ได้อ้ะ) มีทุกอย่างพร้อม แต่เค้าไม่ได้ทำตัวง่อยๆ เหมือนเด็กรวยๆบ้านเรา (ที่หลายๆคนก็ไม่ได้รวยเท่าเค้าด้วยมั๊ง) ที่แบบ มีรถขับ มี iphone ipad มันทุกรุ่น ออกใหม่เมื่อไหร่ กูซื้อ (ด้วยตังค์แม่) แบ๊คแพค เป็นงัยเหรอ ไม่รู้จัก ไปเที่ยวก็ พร๊อพเยอะ ท่าแยะ ไม่ได้ไปเพื่อหาประสบการณ์ชีวิต แต่ไปแค่ช๊อปปิ้ง ถ่ายรูป
ทำงานพิเศษ ..ทำทำไมอ้ะ บ้านรวย หาเงินเอง ทำไมอ้ะ พ่อแม่มี อย่าว่าแต่เด็กรวยเลย คนไทยส่วนมาก รายได้หมื่นสอง แต่ถือ iphone สองหมื่นกันทุกคน คนไทยมักจะใช้เงินอนาคต คือ เงินกู้และบัตรเครดิต ฝรั่ง จะใช้เงินก็ต้องเป็นเงินที่เก้บไว้สำหรับใช้จ่าย เงินเก็บส่วนนึง เงินลงทุนอีกส่วน เงินเกษียนต้องมี ไรแบบนี้ (พูดถึงคนส่วนมากนะ ก็มีหรอก หลายๆคนที่ไม่ทำแบบนั้น)
การแต่งงานกับฝรั่งและเข้ามาอยู่ในโลกของเค้า ทำให้เราเห็นว่า ระบบ ระบอบความคิดแบบไทยๆ มันแย่มาก โรงเรียนสอนแต่วิชาความรู้ แต่ไม่สอนให้คิด คนไทย ทำไรทำตามกัน ใครมีไรมีตามกัน แค่นั้น ไม่คิดว่า จริงๆเรามีตังค์พอซื้อ และควรซื้อป่าว สอนเลข เรียนกันหัวโต แต่ไม่รู้จักสอนเรื่องการออม การจัดระเบียบการเงิน คำนี้ไม่เคยได้ยินเลย
ในขณะที่ฝรั่ง ถ้าคุณไม่ได้ต้องการเป็นนักคณิตหรือไปทำอะไที่ใช้มันมากๆ ก็ไม่ต้องเรียน แต่ทุกคนต้องเรียนรู้เรื่องการบริหารเงิน ต้องแบ่งส่วนเงินยังไง เงินได้มา เก็บเท่าไหร่ และเพื่ออะไร และใช้เท่าไหร่ ทำธุรกิจ ก็ต้องมีแผนธุรกิจ เป็นนักเรียน (ที่ไม่ใช่นักเรียนแบบ Paris hilton หรือพวกที่อยู่ bevery hills)
พ่อแม่ส่วนมาก จะสอนให้ลุกรู้จักใช้เงิน ดูหนังฝรั่ง เห็นมั๊ยว่าเค้ามักจะทำงานพิเศษกัน อยากได้อะไร เก็บตังค์ซื้อเองสิ จะใช้เงินแต่ละที คิดเยอะอ้ะ ครอบครัวและญาติๆสามี เป็นอย่างงี้กันหมด ทุกคนรวย ไม่เห็นมีใครซักคนในตระกูลจนเลย ไปบ้านแต่ละคน รวยๆทั้งนั้น แต่เค้าทำตัวพอดีๆ ไม่บ้าวัตถุ สอนลูกได้ดี...ก็แค่บ่นๆ ไปตามเรื่อง อยากเห็นเมืองไทยเปลี่ยนแปลงซะที เราจะได้ทันคนอื่นเค้าบ้าง เวียดนาม ลาว จะเกินหน้าแล้ว ดังนั้น เราจะเริ่มที่บ้านก่อนเลย ไอ้ตัวเล็ก..มามี๊จะงดซื้อของเล่นให้หนูนะ (ที่ตอนนี้มีเต็มบ้าน และยังคงจะมีเพิ่มเรื่อย แบบว่า เพื่อพัฒนาการงัย) ดูสิ ในหลวงท่านยังต่อวิทยุ เล่นเองเลย ดังนั้นก็เอาอย่างนะลูก อิอิ"
ps.ถ้าความเห็นนี้ทำให้ใครไม่พอใจ ต้องขอโทษด้วยนะคะ เจตนาเราแค่อยากจะเตือนสติในการใช้ชีวิตเท่านั้นค่ะ
และภาษาในการเขียนอาจจะรุนแรงไปหน่อย เพราะเค้าเขียนในเฟสบุคของตัวเองเพื่อสื่อสารกับเพื่อนๆค่ะ
อันที่จริง ที่ตั้งกระทู้นี้ เพราะอยากจะเตือนสติน้องๆนักศึกษา เห็นหลายคนใช้ของแพงๆ ซื้อทีละเยอะๆ ซึ่งเราเองทำงานแล้ว ยังไม่กล้าซื้อใช้เลยค่ะ ส่วนใครที่ทำงานหาเงินเอง คงรู้อยู่แล้วว่า เงินกว่าจะได้มามันช่างยากเย็น55 พอทำงานเองปุ๊บ ความงกจะเข้าครอบงำทันทีเลยค่ะ 55
เค้าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาอยู่มหาลัยที่จีน ปีสุดท้ายแล้วจะจบ
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่า คนนี้อายุ 23 เป็นลูกพี่ลูกน้องกะสามีนะ ไม่ใช่หลาน -_-" เดี่ยวจะงงว่า ไรแว๊ แก่ปูนนี้ไม่ยอมรับว่าเป้นหลาน คือเค้าเป็นลูกของน้องสาวแม่สามี ก็ยังนับเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คนยิวลูกเยอะ คนโตกะคนเล็กสุดจะอายุต่างกันเยอะอยู่ อ้ะต่อๆ
ประเด็นคือ ตอนเจอเค้า เราก็ทักเลย เฮ๊ย แดเนียลคุณดูเหนื่อยมากเลยอ้ะ ไม่ได้นอนเหรอ (แต่งตัวก็มอมแมมนะ อยากถามว่า อาบน้ำมาป่าวเนี่ย อิน้อง) เค้าก็ทำหน้าตกใจ แบบว่าก็ปกตินะ สามีก็เลยพูดกะเค้าว่า เราน่ะไม่ชินกับคนเดินทางเองแบบนี้แหละ ไม่เข้าใจหรอกว่าการแบคแพคเที่ยวมันเป็นยังไง หน้ามันไม่เป๊ะไม่เด้งหรอก แบกกระเป๋าเดินเป็นโลๆ มันเหนื่อยนะยะ หล่อนเที่ยวเป็นแต่นั่งเครื่อง เอ๊ะ อิสามีนี่มาแขวะชั้นทำไมเนี่ย แล้วก็ไปกินข้าวกัน
จากคุยๆกับเค้า เวลาเค้าถามว่าไปไหนมาไหนไปยังไง ค่ารถเท่าไหร ค่ากินเท่าไหร่ แล้วดูจะพยายามจะนั่งรถเมล์ที่มันถูกๆมากกว่าแทกซี่ (ที่อิชั้นโบกขึ้นตร๊อดดด) แล้วแอบได้ยินสามีถามว่า แดเนียล แกมีเงินใช้ป่าวเนี่ย ไม่ต้องเกรงใจนะ ถ้าต้องการเงินสด ให้บอก เค้าก็บอกไม่ต้องๆ
พอเค้ากลับไปhostel เราก็ถามสามีว่า เค้ามีตังค์ใช้ป่าว ดูเป็นห่วงเรื่องเงินนะ ทำไมไม่ให้เงินเค้าล่ะ น่าสงสาร เด็กๆมาเที่ยวไม่มีตังค์ใช้ สามีบอก โอ๊ยบ้านมันรวยเป็นมหาเศรษฐี โคตรจะรวย มีบริษัทใหญ่โต ไม่ต้องให้ตังค์มันหรอก ก็ถามไปงั้นแหละ เราก็ อ้าว แล้วไม มันทำตัวดูจนๆ มอมแมมๆวะ เค้าก็ทำหน้าแบบว่า เราน่ะแหละแปลก แล้วบอกว่า ก็เค้ายังเป็นนักเรียน รายได้มีที่ไหนล่ะ มาเที่ยวก็ต้องใช้ตังค์ที่ทำงานพิเศษมาเอง ก็ต้องประหยัดสิ ไม่ได้มานั่งงอมืองอเท้า ขอพ่อแม่นิ แล้วนี่เค้าก็เพิ่งย้ายมานอนบ้านเราวันนี้ เพราะเพื่อนกลับไปแล้ว ไม่มีคนแชร์ค่าห้อง
แล้วนี่ก็เพิ่งพาเค้าไปขึ้นรถราง เที่ยวเมือง มันก็แบกเป้เดินดุ่มๆออกไป พอดีบ้านเราต้องเนินขึ้นเนินมาไกลพอสมควร ก็บอกเค้าว่า จริงๆมันมีรถเมล์ขึ้นมาถึงตรงนี้นะ แต่จะขึ้นถูกรึเปล่า เค้าบอกว่า ไม่ต้องหรอก แค่นี้เอง เดินได้ คุณไม่รู้หรอกว่าทริปนี้ ชั้นเดินมามากขนาดไหน (แป่ววววว -_-!) เค้ายังถึงขนาดถามว่า จากบ้านเราเดินไปแถว central ได้มะ เราบอก โอ๊ย เกือบชั่วโมงอ้ะ ถ้าเดินจริงๆ เค้าบอก ก็โอเคนะ เราก็ หาาา จะเดินเหรอ ไม่อยากให้มันเดิน เลยบังคับให้ไปขึ้นรถราง มันก็ไป
ประเด็นที่เขียนนี่ก็คือ เค้าทำให้เราเห็นว่า คนเราจะทำตัว ใช้ชีวิตยังไงนั้น มันขึ้นอยู่กับ ค่านิยม การสั่งสอน และสังคม จริงๆ ดูเค้าดิ้ บ้านโคตรรวย (เพราะก็จำได้ว่า เคยไปบ้านพักตากอากาศพ่อแม่เค้าที่แคนาดา ริมทะเลสาป ก็แบบว่าไม่รวยก็ซื้อไม่ได้อ้ะ) มีทุกอย่างพร้อม แต่เค้าไม่ได้ทำตัวง่อยๆ เหมือนเด็กรวยๆบ้านเรา (ที่หลายๆคนก็ไม่ได้รวยเท่าเค้าด้วยมั๊ง) ที่แบบ มีรถขับ มี iphone ipad มันทุกรุ่น ออกใหม่เมื่อไหร่ กูซื้อ (ด้วยตังค์แม่) แบ๊คแพค เป็นงัยเหรอ ไม่รู้จัก ไปเที่ยวก็ พร๊อพเยอะ ท่าแยะ ไม่ได้ไปเพื่อหาประสบการณ์ชีวิต แต่ไปแค่ช๊อปปิ้ง ถ่ายรูป
ทำงานพิเศษ ..ทำทำไมอ้ะ บ้านรวย หาเงินเอง ทำไมอ้ะ พ่อแม่มี อย่าว่าแต่เด็กรวยเลย คนไทยส่วนมาก รายได้หมื่นสอง แต่ถือ iphone สองหมื่นกันทุกคน คนไทยมักจะใช้เงินอนาคต คือ เงินกู้และบัตรเครดิต ฝรั่ง จะใช้เงินก็ต้องเป็นเงินที่เก้บไว้สำหรับใช้จ่าย เงินเก็บส่วนนึง เงินลงทุนอีกส่วน เงินเกษียนต้องมี ไรแบบนี้ (พูดถึงคนส่วนมากนะ ก็มีหรอก หลายๆคนที่ไม่ทำแบบนั้น)
การแต่งงานกับฝรั่งและเข้ามาอยู่ในโลกของเค้า ทำให้เราเห็นว่า ระบบ ระบอบความคิดแบบไทยๆ มันแย่มาก โรงเรียนสอนแต่วิชาความรู้ แต่ไม่สอนให้คิด คนไทย ทำไรทำตามกัน ใครมีไรมีตามกัน แค่นั้น ไม่คิดว่า จริงๆเรามีตังค์พอซื้อ และควรซื้อป่าว สอนเลข เรียนกันหัวโต แต่ไม่รู้จักสอนเรื่องการออม การจัดระเบียบการเงิน คำนี้ไม่เคยได้ยินเลย
ในขณะที่ฝรั่ง ถ้าคุณไม่ได้ต้องการเป็นนักคณิตหรือไปทำอะไที่ใช้มันมากๆ ก็ไม่ต้องเรียน แต่ทุกคนต้องเรียนรู้เรื่องการบริหารเงิน ต้องแบ่งส่วนเงินยังไง เงินได้มา เก็บเท่าไหร่ และเพื่ออะไร และใช้เท่าไหร่ ทำธุรกิจ ก็ต้องมีแผนธุรกิจ เป็นนักเรียน (ที่ไม่ใช่นักเรียนแบบ Paris hilton หรือพวกที่อยู่ bevery hills)
พ่อแม่ส่วนมาก จะสอนให้ลุกรู้จักใช้เงิน ดูหนังฝรั่ง เห็นมั๊ยว่าเค้ามักจะทำงานพิเศษกัน อยากได้อะไร เก็บตังค์ซื้อเองสิ จะใช้เงินแต่ละที คิดเยอะอ้ะ ครอบครัวและญาติๆสามี เป็นอย่างงี้กันหมด ทุกคนรวย ไม่เห็นมีใครซักคนในตระกูลจนเลย ไปบ้านแต่ละคน รวยๆทั้งนั้น แต่เค้าทำตัวพอดีๆ ไม่บ้าวัตถุ สอนลูกได้ดี...ก็แค่บ่นๆ ไปตามเรื่อง อยากเห็นเมืองไทยเปลี่ยนแปลงซะที เราจะได้ทันคนอื่นเค้าบ้าง เวียดนาม ลาว จะเกินหน้าแล้ว ดังนั้น เราจะเริ่มที่บ้านก่อนเลย ไอ้ตัวเล็ก..มามี๊จะงดซื้อของเล่นให้หนูนะ (ที่ตอนนี้มีเต็มบ้าน และยังคงจะมีเพิ่มเรื่อย แบบว่า เพื่อพัฒนาการงัย) ดูสิ ในหลวงท่านยังต่อวิทยุ เล่นเองเลย ดังนั้นก็เอาอย่างนะลูก อิอิ"
ps.ถ้าความเห็นนี้ทำให้ใครไม่พอใจ ต้องขอโทษด้วยนะคะ เจตนาเราแค่อยากจะเตือนสติในการใช้ชีวิตเท่านั้นค่ะ
และภาษาในการเขียนอาจจะรุนแรงไปหน่อย เพราะเค้าเขียนในเฟสบุคของตัวเองเพื่อสื่อสารกับเพื่อนๆค่ะ
อันที่จริง ที่ตั้งกระทู้นี้ เพราะอยากจะเตือนสติน้องๆนักศึกษา เห็นหลายคนใช้ของแพงๆ ซื้อทีละเยอะๆ ซึ่งเราเองทำงานแล้ว ยังไม่กล้าซื้อใช้เลยค่ะ ส่วนใครที่ทำงานหาเงินเอง คงรู้อยู่แล้วว่า เงินกว่าจะได้มามันช่างยากเย็น55 พอทำงานเองปุ๊บ ความงกจะเข้าครอบงำทันทีเลยค่ะ 55