ใครถูก ใครผิด?? เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย Cannes ปะทะแขกเซเลบ

ดราม่าจากพรมแดงเทศกาลหนังเมือง Cannes ที่ดำเนินต่อเนื่องกันหลายวันได้ดึงดูดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางปฏิบัติต่อต่อแขกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมการฉายหนังรอบปฐมทัศน์ จากท่าทางเข้มงวดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหญิงที่เร่งรัดให้คนดังรีบเดินขึ้นบันไดเข้าสู่งานในระหว่างที่พวกเค้ากำลังโพสสวยหน้ากล้องและโบกมือทักทายผู้คน ส่งผลให้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยการยิ้มแย้มเปลี่ยนมาเป็นความบาดหมางคุกรุ่น แขกเซเลบบางคนไม่สามารถทำใจยอมรับวิธีปฏิบัติเช่นนี้ได้ ถึงขนาดที่มีผู้ที่โกรธเกรี้ยวใช้กำลังผลักไสเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว กลายเป็นภาพการทะเลาะเบาะแว้งกลางพรมแดงที่ไม่น่าดูนัก

ท่ามกลางกระแสโจมตีว่า เจ้าหน้าที่บนพรมแดง Cannes สอบตกเรื่องมารยาทและละเลยหลักการให้เกียรติผู้ร่วมงาน แต่เพื่อนร่วมงานของเจ้าหน้าที่ต้นเรื่องได้โต้ตอบผ่านสื่อว่า นี่ไม่ใช่พฤติกรรมล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎเกณฑ์ที่แม้แต่แขกเซเลบที่เป็นดาวเด่นของงานก็จะฝ่าฝืนไม่ได้

ใครเป็นฝ่ายกระทำผิดกันแน่? งานนี้เรามาเจาะรายละเอียดกันเลยค่ะ

จุดเริ่มต้นที่จุดประเด็นข้อถกเถียงในสังคมออนไลน์เกิดขึ้นระหว่างงานฉายหนัง Marcello Mio รอบปฐมทัศน์ จากโมเมนท์ที่ Kelly Rowland ศิลปินสาวสมาชิกวง Destiny's Child เพื่อนสาวสุดซี้ของ Beyonce กำลังโพสและโบกมือให้กับผู้คนบนพรมแดง แต่จู่ๆก็เกิดเรื่องบางอย่างที่ทำให้เธอยกนิ้วชี้หน้าตำหนิเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหญิงด้วยกิริยาหัวร้อน

ในช่วงแรกที่สื่อได้เผยแพร่ภาพนิ่งจากเหตุการณ์นี้ ก็มีการสันนิษฐานถึงต้นเหตุที่ trigger นักร้องสาวถึงขนาดต้องฉะคู่กรณีท่ามกลางสายตาผู้คน บางคนเดาว่า เธออาจจะน็อตหลุดเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้โพสต่อ หนำซ้ำยังเหยียบชายเดรสสีแดงหรูเริ่ด ทั้งยังมีผู้เรียกร้องให้ช่วยกันอ่านริมฝีปากเพื่อจะได้รู้แน่ชัดว่า เหตุใดเธอจึงโมโหโกรธาถึงเพียงนี้

หลังจากที่มีการแชร์วีดีโอของเหตุการณ์นี้ชัดๆ ปรากฏว่า Kelly ที่ยิ้มแย้มมาตลอดต้องเสียมู้ดไปสิ้นเชิงเมื่อเธอถูกเจ้าหน้าที่เร่งให้เดินขึ้นบันไดเข้าอาคารไป  ซึ่งก่อนหน้านั้น มีเจ้าหน้าที่คนอื่นได้ผายมือนำทางเธอต่อกันเป็นทอดๆ แต่ Kelly ก็ยังส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร ไม่ได้แสดงท่าทีหงุดหงิดใส่ใคร จนกระทั่งคู่กรณีเข้ามาประชิดตัวแล้วยกมือบล็อคจากด้านหลังเป็นสัญญาณให้ Kelly หยุดโพสจนเธอไม่สามารถโพสให้ตากล้องเก็บภาพ clean shot บนบันไดได้  และดูเหมือนว่า คำพูดบางอย่างจากเจ้าหน้าที่หญิงได้สร้างความขุ่นเคืองให้เธอจนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที  

ในเวลาต่อมา สื่อบันเทิงชื่อดังก็ได้เรียกตัวผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านริมฝีปากมาช่วยตีความถ้อยคำจากปาก Kelly ได้ดังนี้

"จะมาพูดกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ คุณไม่ใช่แม่ฉันสักหน่อย ฉันบอกไปแล้วไงว่าคุณจะพูดจาแบบนี้ไม่ได้"

ต่อมา นักร้องสาวเสียงดีได้เปิดใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์บนพรมแดง amfAR Cannes Gala แม้จะไม่ได้อธิบายถึงสาเหตุความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน แต่เธอก็ได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า มันอาจจะเกิดจากการเลือกปฏิบัติเพราะสีผิวของเธอ

"เธอคนนั้นรู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันก็รู้เช่นกัน ฉันได้กำหนดขอบเขตพื้นที่ส่วนตัวไว้ และยืนหยัดปกป้องเส้นแบ่งของตัวเอง เรื่องราวก็มีเท่านี้ มีผู้หญิงคนอื่นเข้าร่วมเดินพรมแดง ซึ่งพวกเธอไม่ได้มีรูปลักษณ์แบบเดียวกันฉัน แต่พวกเธอไม่ต้องเจอกับการตำหนิ ไม่ถูกผลักไส ไม่มีคนมาบอกให้รีบไปซะ ฉันยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง ส่วนเธอก็ยืนกรานกับความคิดของเธอ แต่ฉันจะรักษาจุดยืนไว้ไม่เปลี่ยน"

เมื่อ Kelly ได้บอกเป็นนัยๆว่า เจ้าหน้าที่อาจจะล้ำเส้นเธอเนื่องจากการเลือกปฏิบัติกับคนผิวดำเชื้อสาย African ก็ทำให้โลกออกไลน์เสียงแตกทันที หลายคนแสดงท่าทีไม่เชื่อถือ กล่าวหาว่าเธอหงายการ์ดถูกเหยียดสีผิวและโจมตีว่าเธอโวยวายใส่สต๊าฟที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ซึ่งดูเป็นพฤติกรรมดิว่าจอมหยิ่งยโสมากกว่าเหยื่อที่ถูกเหยียดสีผิว แต่ยังมีอีกหลายคนที่ฟันธงว่า Kelly ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจริงๆ และชี้ว่า สต๊าฟควรสื่อสารด้วยความละมุนละม่อม มิใช่ฝืนใจแขกให้รีบเดินออกจากพรมแดง พวกเค้าได้เรียกร้องให้ผู้จัดงานแสดงความเสียใจและขอโทษ Kelly อย่างเป็นทางการ

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ชี้ถึงวิธีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หญิงรายนี้ คือโมเมนท์บนบันไดของนางเอกเกาหลีชื่อดัง อิม ยุน-อา เธอได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมพรมแดงงานฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง Horizon: An American Saga แล้วได้พบเหตุการณ์คล้ายกับ Kelly Rowland แม้ว่าเธอจะไม่ได้ชักสีหน้าหรือออกท่าทางอึดอัดใจจากกิริยาท่าทางของเจ้าหน้าที่หญิงที่เร่งให้เธอเดินขึ้นบันไดไป แต่เมื่อยุน-อาก้าวไปถึงขั้นบนสุดแล้วหันกลับมาโบกมือส่งท้ายแล้วเจอมือของเจ้าหน้าที่คนเดิมบล็อคไว้ เธอก็ดูผงะไปเล็กน้อย เธอยังรักษาสีหน้ายิ้มแย้มและคล้ายกับจะต่อรองว่า ขออีกสักนิดนึง โดยที่ผู้ช่วยของเธอรีบเข้ามาแตะแขนเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเจรจา เรื่องจบที่ต่างฝ่ายต่างส่งยิ้มให้กันตามมารยาท

แต่เมื่อแฟนๆได้เห็นคลิปนี้ ก็เกิดความหงุดหงิดใจแทนยุน-อาจนต้องออกมาประนามเจ้าหน้าที่รายนี้ว่า เลือกปฏิบัติอย่างน่าเกลียดและสมควรจะถูกไล่ออกไปซะ บางส่วนก็เห็นพ้องกับคำพูดของ Kelly ว่า แขกต่างเชื้อชาติต้องมาถูกกีดกันบนพรมแดง เพราะสต๊าฟเอาแต่กดดันเร่งเร้าและดูไม่ให้เกียรติกัน แตกต่างจากแขกคนดังผิวขาวที่สามารถใช้เวลาโพสสวยๆจนสามารถมีภาพ clean shot บนขั้นบันได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่ล้อมหน้าล้อมหลังให้รีบเดินเข้าอาคาร

สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ทปักใจว่า นี่เป็นการทำงานแบบเลือกปฏิบัติคือ ข้อเปรียบเทียบระหว่างแขกคนดังผิวขาวที่ไม่ได้ถูกบล็อคหรือกดดันให้รีบเดิน ดังที่ได้เห็นจาก story ของ Yvette Noel-Schure นักประชาสัมพันธ์ของ Beyonce ซึ่งได้แชร์ภาพนางแบบดัง Heidi Klum ระหว่างที่เดินพรมแดงงานเดียวกันกับ Kelly โดยไม่ต้องถูกขัดจังหวะหรือเร่งให้รีบเดินออกจากพรมแดง นักประชาสัมพันธ์ดังบรรยายความรู้สึกว่า แค่เห็นภาพนี้ก็รู้แล้วว่าจุดยืนเป็นอย่างไร

ดราม่า security บานปลายไปถึงขั้นการลงไม้ลงมือจนดูวุ่นวายไปหมด เมื่อเจ้าหน้าที่หญิงคนเดิมพยายามหยุดยั้งไม่ให้ Massiel Taveras นักแสดงและอดีต Miss Universe Dominican ที่กำลังจัดท่าทางเพื่ออวดลุคโดดเด่นจาก artwork พระเยซูไซส์ใหญ่ยักษ์บนตัวเดรสยาวที่ขั้นบันได แต่ไม่ว่าจะต่อรองเช่นไรก็ดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะไม่ยอมให้เธอหยุดโพสโชว์ชุดอลังการ เข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังกดดันให้รีบเดินเข้าตัวอาคารไปซะ เจ้าตัวพยายามดึงดันจนมีโอกาสสุดท้ายที่จะโชว์ดีไซน์อลังการการที่จุดบนสุด แต่เจ้าหน้าที่คนเดิมก็ยกมือมาบล็อคแบบประชิดตัวจนเธอเดือดจัด ผลักคู่กรณีจนถอยกรูด
การระเบิดอารมณ์ของแขกบนพรมแดงครั้งนี้เรียกยอดเข้าชมคลิปนี้ทาง X พุ่งไปมากกว่า 37.7ล้านครั้ง!

เมื่อชาวเน็ทหันมาโจมตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหญิงคนนี้ว่า มีพฤติกรรมแบ่งแยกทางเชื้อชาติ เพื่อนร่วมงานของเธอก็ได้ขอให้สังคมรับฟังความอีกข้างและยืนกรานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากอคติแอบแฝง แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความเรียบร้อยของอีเวนท์อย่างแข็งขัน

เจ้าหน้ารายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับ Daily Mail เพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานว่า

"เธอมีหน้าที่ผู้นำทางเข้างานให้กับแขกเหรื่อ ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานภายใต้แรงกดดันเพื่อคุมฝูงชนบนพรมแดงเคลื่อนตัวไปได้ ไม่ให้เกิดการกระจุกตัวจนหนาแน่น หาได้มีการผลักไสหรือพูดจาตำหนิแต่อย่างใด การรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆและต้องดำเนินการตามตารางเวลาอันเคร่งครัด มันเป็นสิ่งที่ตกลงกันในสัญญาการทำงาน แม้กระทั่งคนดังก็ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์"

"มีพนักงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำทางอยู่มากมายหลายคน และพวกเค้าต่างทำงานอย่างเป็นมืออาชีพและแสดงออกด้วยความสุภาพ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอก็แค่ปฏิบัติหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ ไม่ได้ทำอะไรผิดตรงไหนเลย"

ศิลปะการสร้างหนังชั้นยอดคือหัวใจของเทศกาลภาพยนตร์อันมีชื่อเลื่องลือระดับโลก แต่มหกรรมบันเทิงแห่งนี้ยังมีพลังสนับสนุนจากอุตสาหกรรมแฟชั่นและการร่วมงานในรูปแบบของ sponsorship ผู้มีชื่อเสียงจากหลายมุมโลกที่ได้รับเชิญมาอวดโฉมในอีเวนท์เลิศหรูนั้นเป็นการทำงานในรูปแบบการทำสัญญาในการประชาสัมพันธ์สินค้าอาภรณ์เครื่องประดับระดับ high-end บนพรมแดง

เพื่อจะกระตุ้นความสนใจจากผู้ซื้อ การสร้างช็อทสวยเริ่ดบนพรมแดงจึงมีความสำคัญในการสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ คนดังเหล่านี้ล้วนเคยชินกับบรรยากาศบนพรมแดงอันอึกทึก แสงแฟลชที่สาดสะท้อนและความคาดหวังถึงการปฏิบัติที่สุภาพนุ่มนวลจากเจ้าหน้าที่ในอีเวนท์ แต่เมื่อได้พบกับสถานการณ์ขัดอกขัดใจจากแนวทางการรักษากฎเกณฑ์ที่ไม่ผ่อนปรน ก็นำมาซึ่งภาพความขัดแย้งซึ่งอาจจะกระทบกับภาพลักษณ์ของเทศกาลหนังเมือง Cannes มันได้สร้างคำถามถึงเส้นแบ่งอันเหมาะสมซึ่งคั่นอยู่ระหว่างการปฏิบัติงานแบบมืออาชีพของเจ้าหน้าที่และวิธีแสดงออกที่ให้เกียรติผู้รับเชิญบนพรมแดง

แล้วคุณคิดเช่นไรต่อดราม่า Cannes คราวนี้...

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้ำเส้นคนดังจนผู้จัดงานสมควรต้องออกมาแสดงความเสียใจหรือไม่?