เครียดเรื่องเรียนจังเลยค่ะ


สวัสดีเพื่อนๆชาวจีบันทุกคนนะค่ะ
จขกท.เรียนอยู่มหาลัยตอนนี้จะขึ้นปี3อยู่คณะบริหาร
พึ่งจะมารู้ตัวว่าเรียนไม่ไหวในด้านนี้ค่ะ
คือเรียนแล้วดรอปๆๆๆ สอบได้คะแนนไม่เยอะ ขนาดตัวพื้นฐานก็ยังไม่ผ่าน
เคยคุยกับพ่อแม่ พ่อแม่ไม่ยอมให้ย้ายคณะค่ะ
แต่ตอนนี้รู้สึกตัวเองไม่ไหวแล้วจริงๆ เรียนไปไม่รู้อนาคตจะเป็นไง
พยายามแล้วพยายามอีกก็ไม่ไหวค่ะเหนื่อยมาก

จขกท.เลยคิดว่าจะย้ายคณะโดยที่ไม่บอกพ่อกับแม่ กะจะย้ายเองเลย
แต่ถ้าพ่อแม่รู้ก็กลัวโดนว่าค่ะ เราควรจะทำยังไงดี?
คณะที่เราจะย้ายไปเป็นมนุษอิ้งค่ะ

ตอนนี้ก็คิดแล้วคิดอีกว่าจะย้ายดีมั้ย
เพื่อนก็บอกว่าโตแล้วควรคิดเองได้แล้ว
แต่ก็สองจิตสองใจ
ใจนึงก็กลัวพ่อ อีกใจก็เรียนไม่ไหวแล้วววว ฮือออ ฮืออ

แนะนำจขกท.หน่อยยยยย ย ยยย ยย
 

Discussion (17)

เท่านี้ยังทำไม่ได้เรียน สบายสุดเเล้ว ทำงานลำบากกว่านี้ จะรอดไหม ชีวิตนี้ไม่ได้ดี กลีบกุหลายเสมอไปอีกนะ ชีวิตในโรงเรียนไม่ใช้ชีวิตจริง เรียนจบ ทำงาน เข้าโมดชีวิตจริง รู้เลย โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายด่ายหรอกนะ รุ้ สอนเด็กสอนหลานบ่าง มองโลกความเป็นจริง ไม่ใช้โลกเพ้อฝัน
จขกท ตัดสินใจไปหรือยังครับ? ถ้าเป็นผมอีกแค่ ไม่กี่ปีก็จบ พยายามจบๆ ไป มองหาสิ่งที่ตัวเองชอบทำควบคู่ไปด้วย คำว่า "เวลา" นั้นมีค่ามาก ถ้าชอบสิ่งไหนพยายามต่อ ป.โท เอา ถ้าชอบสิ่งไหนพยายามทำควบคู่เอา วุฒิ ป.ตรีมันก็แค่นั้น เชื่อไหมหลังๆ ผมย้ายงานหลังจากทำงานเฉพาะด้านมา 8 ปี บริษัทส่วนใหญ่ไม่เห็นถามถึง transcript แต่เขายินดีจ้างคุณหลังจากแค่คุณกับคุณเอง ผมเลยมองว่าป.ตรี หรืออะไรก็ตามเป็นแค่ช่วงเวลาของความสุขในชีวิตอย่างนึงเท่านั้นเอง (สำหรับคนเรียนปานกลางถึงเก่ง - ไม่นับรวมพวกหัวกะทิ) ดังนั้นอย่าใช้เวลาเปลือง มีเท่าไรใช้ให้คุ้ม พ่อ แม่ บ้าน น้อง เรียน งานที่ชอบ สิ่งที่ชอบ คนรัก เฮฮา ท่องเที่ยว อยากทำไร รีบทำ เรียนมาก เสียเวลามาก นะครับ ^^ ผมเข้าใจดีเพราะผมเรียบจบ ป.ตรีใช้เวลาตั้ง 6 ปีแน่ะ (น่าเศร้าจัง) จากคนคิดอีกแบบนึง
เราเรียน ผังเมือง มา3ปีแล้ว เกรดเฉลี่ย 3กว่าตลอดเลย แต่มีวิชาเอกตัวนึง ถอนก็แล้ว ลงเรียนแบบตั้งใจก็แล้ว สุดท้าย D+ มันเป็นตัวกำหนดเลยว่าคุณจะทำวิชาชีพนี้ได้เรื่องหรือปล่าว ถ้าครอปไปครั้งหนึ่งก็จะ เลื่อนจบไปปีนึงเลยล่ะ ก็คือเดิมเรียน 5 ปี ก็จะจบ 6 ปีอ่ะ เคยปรึกษาที่บ้านแล้ว ดราม่ากันใหญ่เลย ขอมาตั้งแต่อยู่ปี 2 ไม่ยอมให้ย้าย พอทนจบปี3 ก็ไม่ปรึกษาแล้ว ย้ายเองเลย ปรึกษาไปก็ตีบทเศร้ากันอีก ตอนนี้ก็ย้ายมาเอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว ที่เหลือก็ไว้บอกตอนถึงเวลาล่ะกัน เราขอให้สู้ๆน่ะ ฝึนไปแบบใจไม่รัก ผลก็ออกมาไม่ดีหรอก
เอาตามที่เราคิดได้เลยครับ สะสมความกล้าให้มาก ๆ แล้วเข้าไปพูดโดยตรงเลย ถ้ายังไม่กล้า ให้ลองฟังเรื่องของผมคับ ผมชอบดนตรีมาก ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมเครียดกับทางบ้านมาก พ่อกดดันผมอยู่ตลอดเวลา แม่ก็ไม่ใส่ใจผมคับ รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เป็นเด็กเก็บกดคนนึงเลยครับ จนผมหาทางออกให้ตัวเองได้คับ คือ "ดนตรี" ผมชอบมันมาก ผมเป็นคนที่มีโอกาสน้อยครับ แต่ก็พยายามมองหาโอกาสที่จะเล่นดนตรีอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ ป.3 แต่คุณเชื่อมั้ยคับ ผมเล่นดนตรีตั้งแต่ ป.3 จนจบ ม.6 คุณพ่อคุณแม่ ไม่เคยมาดูการแสดงของผมเลย ไม่ว่าจะเป็นการประกวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ยันการประกวดระดับประเทศ ทั้งดนตรีไทย ดนตรีสากล ผมเล่นหมด .. สุดท้าย ท่านก็บังคับให้ผมเรียนวิศวะครับ ผมบอกท่านแล้วว่าผมไปไม่ไหวหรอก แต่ดันก็ดึงดัน ผมสอบวิศวะไม่ติดด้วยครับ ต้องเรียนภาคพิเศษ ค่าเทอม 35,000 บาทครับ แต่ถ้าเรียนได้ที่ 1 จะมีทุนเรียนฟรี ผมไม่มีทางเลือกครับ ตั้งใจเรียนทั้ง ๆ ที่ปรกติได้เกรดเพียง 1.98 สุดท้ายจนจบ ป.ตรี ไม่เคยได้เสียค่าเทอมเลยครับ เพราะเรียนได้ที่ 1 ตลอด และพ่อก็บังคับให้ผมต่อ ป.โทวิศวะอีก ผมก็บอกแล้วว่าผมไม่ชอบ พ่อก็ไม่ฟังครับ ผมก็เรียนจนจบ ป.โท เรื่องดนตรีลืมไปได้เลยครับ แค่เรียนให้มันได้ที่ 1 ตลอด ผมก็แทบไม่มีเวลาใช้ชีวิตแล้วครับ ตอนนี่ผมจบป.โทแล้ว พ่อก็บังคับให้เรียนป.เอกอีก ผมก็ไม่มีทางเลือกครับ ก็ต้องเรียนอีก (พ่อผมเป็นคนที่รั้นมากครับ ใครเถียงอะไรไม่ได้ ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม คุยดี ๆ ก็ไม่ได้ครับ) ตอนนี้ผมอยู่ ป.เอก ปี 2 แล้วครับ ผมทำงานมาแล้วหลายอย่างโดยเอาวุฒิการศึกษาที่เรียนมาลองไปทำงานดู เชื่อมั้ยครับ ผมไม่ชอบงานเกี่ยวกับวิศวกรรมซักอย่างเลย ไม่ใช่ว่าวิศวะไม่ดีนะครับ เพียงแค่มันไม่ใช่ตัวผมเฉย ๆ ทำมากี่ปี ๆ ก็เวียนว่ายอยู่อย่างนี้ ผมกดดันขึ้นทุก ๆ ที ๆ ก็เลยตัดสินใจไปบอกพ่อเรื่องเรียนครับ ว่าขอไม่เรียนต่อแล้วได้ไหม อยากกลับไปเรียนดนตรีครับ เรียนตั้งแต่ป.ตรีเลย พ่อก็ไม่ให้ครับ ลองหมดทุกวิธีแล้วครับ ตอนนี้ผมเป็นอาจารย์แล้วครับด้วยวุฒิป.โท ผมนั่งเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวนี้ทุกวันเลย .. ผมคิดว่าจะเก็บเงินด้วยตัวเองครับ หางานที่มัน passive income มาก ๆ แล้วผมจะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ กลับไปเริ่มนับ 1 อีกครั้ง ทำงานส่งตัวเองเรียน .. แต่ว่า .. ลองคิดดูสิครับ ตอนนี้ผมอายุ 25 ปีแล้ว กว่าผมจะเก็บเงินเรียนป.ตรี ด้านดนตรี อีกครั้ง ผมต้องใช้เวลากี่ปีครับ ในเมื่อเงินเดือนอาจารย์ตอนนี้ได้แค่ 12,600 บาทเอง ผมต้องเลี้ยงดูแฟน แม่แฟน น้องของแฟนอีก 2 คุณพ่อคุณแม่ผมอีก .. โอกาสของผมริบหรี่มากครับ อยากให้ฟังเป็นอุทาหรณ์นะคับ .. วันนนี้ถ้าทุกคนมีโอกาสเลือกได้ มีโอกาสกลับตัวได้ ให้รีบ ๆ เลยนะครับ อ่านเรื่องราวของผม แล้วจงเพิ่มความกล้าให้กับตัวเองครับ แล้วตัดสินใจให้เฉียบขาดครับ เรื่องของผมเป็นเรื่องจริงครับ ให้คุณพ่อคุณแม่มาอ่านเรื่องนี้ก็ได้ จบป.เอกไป ก็ไม่ได้หางานได้ง่าย ๆครับ เงินเดือนมันสูงครับ ไม่มีใครจ้าง จบไปก็มีคนเก่งกว่าเราเป็นล้านครับ (เป็นล้านจริง ๆ ครับ ผมไม่ได้โกหก) แต่ถ้าเราทำในสิ่งที่เราชอบ แล้วทำมันให้สุด ๆ ผมว่าเราจะสามารถแตกต่างได้ครับ ลองศึกษาผู้ที่ประสบความสำเร็จดูดี ๆ สิครับ เค้าเริ่มจากสิ่งที่เค้าชอบ แล้วทำมันอยู่ทุกวันครับ เคล็ดลับมีแค่นี้จริง ๆ ขอให้โชคดีครับ
สำหรับเรานะค่ะ เคยย้ายคณะเหมือนกัน แต่จบได้มาในเวลา 4 ปีเท่าเดิม

เราจบมนุษอิ้งมา เรารู้สึกว่าจบมาแล้วสายงานกว้างมาก ไม่มีด้านไหนเป็น specialist เลย

เคยทำเกี่ยวกับงานแปล แล้วหน้าเบื่อมาก คิดว่าจบมาแทบไม่ได้อะไรเลยจิงๆนะ

เพื่อนส่วนใหญ่ก็ประมานนี้ เรียนบริหารไม่ไหว ย้ายมามนุษ

แต่เราเรียนเอกชน ส่วนใหญ่บ้านค่อนข้างมีตัง จบมาหางานไม่ได้ก็มีของที่บ้าน

อย่างเพื่อนเราย้ายมา 3 คณะ re-enter มา 3 ครั้ง จบในเวลา 7 ปี ตอนนี้ก็ทำงานที่บ้าน

ส่วนตัวเรานะ เรียน 3 ปี ถือว่ามาไกลพอสมควรนะค่ะ ลองคิดดูให้ดีก่อน

เราจบอิ้งมาไม่ได้อะไรเลย ได้แค่จบอย่างเดียว ตอนนี้ต่อโท คณะที่ชอบแล้วค่ะ

แต่ถ้าไม่ไหวจิงๆ ชอบมนุษมากกว่า โอนวิชาได้มั้ย ทำยังไงก็ได้ให้เสียเวลาน้อยที่สุด

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ