My Heart and My Seoul ตอนที่ 1: พาเที่ยวตะลุยเดี่ยวแดนกิมจิ จ้า....

30 21

สวัสดีค่า สาวๆ กลับมาแบบมีชนักปักหลัง 5555  คิดค้างกระทู้การเงินตอนต่อ ที่ยังไม่ได้เขียนเยยย แฮร่ มัวแต่งานยุ่งๆๆๆๆ แต่วันนี้แวะมาขอคั่นเวลาพาไปเที่ยวประเทศเกาหลี แบบชีลๆ นะคะ  ทริปนี้ เดินทางคนเดียว เที่ยวคนเดียว  ขอบอกว่าหนุกมากกกกกกกกกก ฟิน ~    เกาหลีเป็นประเทศที่ไปไม่ยาก เที่ยวไม่ยาก ไม่น่ากลัวเลยนะคะ ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว (พยายามอย่าเอาตัวเองไปอยู่ที่อโคจรแล้วกัน ฮ่า) สามารถเดินทางเองได้โดยไม่ต้องง้อทัวร์ชะโงก

 

จริงๆ แล้วประเทศเกาหลี มีอีกหลายแง่มุม อีกหลายสถานที่ ที่เราอยากไป อยากบอกต่อ แนะนำให้ไป ถึงแม้จะไม่ใช่คนอินกับซีรีย์เกาหลี เครื่องสำอางเกาหลี ดาราเกาหลี มามะ เดี๋ยวจะพาไปดู

 

เริ่มจาก ฝ่าด่าน ตม. สาวๆ อาจจะเคยได้ยินเรื่อง ผู้หญิงไทยที่เดินทางคนเดียว โดนกักเข้าห้องเย็น จากการสอบถามข้อมูลไกด์ (ที่เคยไปคราวก่อน) และ ปสก.เดินทางคนเดียว ถ้าหน้าตาเราปรกติ แต่งกายสะอาดสะอ้าน ชื่อนามสกุล ไม่ออกไปทางอีสานบ้านเฮา(ไม่ได้ว่าคนอีสานนะคะ แต่ มักจะไม่มีปัญหาอะไร ไกด์เคยบอกว่า เขาจะสังเกตคนที่ชื่อสกุลสั้นๆ  ประกอบกับดูท่าทางด้วย ถ้าหน้าตา ชื่อสกุลก่ำกึ่งส่อแววจะโดน อาจจะต้องเตรียมตอบคำถามและเอกสารเพิ่มเติมเอาไว้ด้วย เช่น แผนการท่องเที่ยว สถานที่พัก หนังสือรับรองบริษัทที่ทำงาน หรือ มหาวิทยาลัย พกไปเผื่อด้วยแล้วกันนะคะ   

 

เริ่มต้นวางแผนไว้ล่วงหน้าจองตั๋วทิ้งไว้แรมปี หาหนังสือมาอ่านขำๆ พอใกล้วันจริงงานยุ่ง ไฟลน ยิ่งไปคนเดียวถ้าไม่วางแผนเที่ยวดีๆ คงจะมึนไม่ใช่น้อย

 

 

 

 

ข้อมูลเบื้องต้น : ช่วง 1-2 ปีมานี้ เกาหลีสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างมาก เป็น Visit Korea Year มีคูปองส่วนลด บัตรสมาชิกรับส่วนลด ต่างๆ โควต้ารถไฟต่างเมืองฟรีสำหรับคนต่างชาติ(โดนจองเต็มหมดแล้ว อันนี้ รูมเมทไต้หวันบอกมา)   หนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี สามารถไปเอาได้ที่ Korea Plaza ชั้น 1  เอสพลานาด 

 

https://www.kto.or.th/

 

 หนังสือที่ใช้...เล่มของโปรวิชชั่นก็เวริคดี ตะลอนเที่ยว เล่มเดียวเอาอยู่ มีแผนที่ให้ด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนการเที่ยวแบบละเอียด เห็นภาพ มีข้อมูลทั้งในโซล และในต่างจังหวัดรอบนอก แบ่งเป็นย่านต่างๆ บอกข้อมูลวิธีการเดินทางละเอียดใช้ได้ วันเวลาเปิดปิด ค่าเข้าชมต่างๆ เสียแต่ว่า ไม่ค่อยมีแนะนำที่กิน กับที่เที่ยวฮิบๆ ร้านที่ห้ามพลาด หรือไรแบบนี้ มีแค่พอกรุบกริบ ส่วนเล่ม กินจัง เที่ยวดะ ก็พอใช้ได้ ข้อมูลคล้ายๆ กัน ละเอียดน้อยกว่า ไม่มีแผนที่  บางจุดมีรายละเอียดเล็กๆ เช่นร้านของกิน แหล่งฮิปๆ มากกว่านิดนึง สุดท้ายถ้าต้องเลือกพกแค่ 1 เล่ม ดิชั้นจึงเลือกเล่มแรก เพราะมีแผนที่ 

 

 สายการบิน ตอนนั้นมีโปรของ Jinair Low cost ของเกาหลี จัดว่าคุณภาพใช้ได้ บินกลางคืน ถึงเช้า กลับเย็น ถึงดึก เวลากำลังดี ไม่เหนื่อยมาก ได้มาในราคาไม่ถูกไม่แพง ประมาณ 11,000  บาท หลายคนบอก แคบกว่าบิสซิเนสแอร์ ขอเถียง ว่า แม่งแคบพอกัน แต่จินแอร์ อาหารน่ากินกว่า แอร์ดูน่ารักน่าเอ็นดู เครื่องแบบใส่คาดิแกน กางเกงยีนส์ หมวกแก๊บ และ คอนเวริส คุมธีมสีโลโก้ เขียว แดงเลือดหมูได้อย่างลงตัว ช่างน่าเป็นที่อิจฉาของสายการบินอื่น ไม่ต้องใส่ส้นสูง ส่วนเวลาการบิน ก็ตรงเวลาตามกำหนดใช้ได้

 

ที่พัก หลังจากหาข้อมูลอยู่นานมากกกกกก เยอะมากกกกก ลังเล เปลี่ยนใจ จดๆ จ้องๆ หลายที่ เลือกไม่ถูก ที่พักเกาหลี ราคาไม่แพง พอๆ กับประเทศไทยด้วยซ้ำ หลายที่ ตกแต่งน่ารักน่าเอ็นดูมากกกก ถ้าไป 2-4 คน บางที เช่าเซอร์วิสอพาร์ทเม้น หรือ เลือก รร.ที่มี family room หารกันแล้วเข้าขั้นถูกมากก เราอีเมล์ไปหาหลายที่ ที่ทีชอบ น่ารักๆ..ไม่ตอบเมล์บ้าง อยากได้ห้องเดี่ยว เพราะจะได้นอนแอ้งแม้งสลบ วางของได้ระเกะระกะไม่ต้องรบกวนคนอื่น สุดท้าย เอาวะ เดินทางคนเดียว สบายๆ ไม่ต้องอะไรมาก ด้วยความปลง มีเกสเฮ้าส์อันนึงตอบเมล์กลับมารวดเร็ว สนทนาภาษาอังกฤษพอโอเค โลเคชั่นจัดว่าดีมาก แต่ได้ห้องรวมนะ Female Dorm สนนราคาคืนละ 22,000 W.  นอนทั้งสิ้น 4 คืน รวม 88,000 W ตกประมาณ 2,640 บาท เท่านั้น ด้วยความงกอะ ลองดูก็ได้ (จริงๆ ถ้าเดินทาง 2 คน+ หาที่พักสวยๆ เพิ่มเงินอีกหน่อยก็จะได้ห้องเดี่ยวห้องน้ำในตัวละนะ เฉลี่ยราคาอยูที 1200-2000++  บาท/ห้อง ขึ้นกับโลเคชั่น) 

 

ที่พัก : https://www.jinguesthouse.com/

 

Application ที่แนะนำ สำหรับเที่ยวเกาหลี
ก่อนอื่น proudly present app ที่ใช้บันทึกค่าใช้จ่ายอยู่เป็นประจำที่โฆษณาไปหลายหน นั่นคือ iXpenseIT จากคราวก่อนที่ไปฮ่องกง ถึงจะมีแอ๊บนี้อยู่ได้ไม่ได้งัดมาใช้ เพราะคิดว่า ยุ่งยาก ใช้วิธีการเก็บใบเสร็จมาลงบันทึก คราวนี้ เอะใจว่า ลองดูดีกว่า ถ้าเราแยก account เป็น account เฉพาะสำหรับทริปนี้ ว่าใช้เงินไปเท่าไหร่ กับอะไรยังไงบ้าง จะเป็นยังไงนะ
การบันทึก เท่าที่ลอง ก่อนอื่น เราต้องเพิ่มหน่วยเงินตราที่เราใช้ นอกจากเงินบาท ให้มีเงินวอนด้วย (ที่หน้าเครื่องคิดเลข ไว้พิมพ์จำนวนเงิน กดตรงหน่วยค่าเงิน แล้วเลือกเพิ่ม)  ส่วนการบันทึกทำได้ 2 แบบ คือ เซ็ท default เป็นเงินบาท  ทุกครั้งที่เราบันทึก คชจ.ที่เราใช้ไป ว่ากี่พัน กี่หมื่นวอน 
Application จะทำการคำนวณให้เองเสร็จสรรพ พร้อม exchange rate ณ วันนั้น (เดาว่า คงต้องออนไลน์ได้ด้วย) ออกมาเป็นเงินบาทให้เสร็จ ป๊าดดดด เจ๋งมั่ก


ก่อนไปเราแลกเงินสดไปไม่เยอะมาก เพราะถ้าเงินเหลือแลกกลับจะขาดทุน แลกเกินมากไป ความรู้สึกลึกๆ มักจะบอกว่าใช้ให้หมดสิ จะเอาเงินกลับไปทำไม เอากลับไปก็ไม่ได้ใช้ เงินจม ใช้ๆ ไปซะ (เป็นความคิดที่มารผจญความรวยโคดๆ)  

 

ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะควบคุมค่าใช้จ่าย จึงต้องบันทึกอย่างจริงจัง ว่าเราใช้เงินสดไปเท่าไหร่ รูดไปเท่าไหร่สำหรับทริปนี้ เพื่อไม่ป้องกันอาการหน้ามืดช็อบแหลก เราจึงสร้าง account สำหรับทริปนี้ขึ้นมาอย่างที่บอก จากนั้น set default เป็น account นี้ พร้อมทั้ง default เป็นค่าเงินวอนด้วย
เวลาใช้อะไร ไปเท่าไหร่ ก็จดบันทึก เป็นเงินวอนได้เลย จะได้ไม่เกิดอาการหน้ามืดใช้เงินสดจนหมดเนื้อหมดตัว ปรากวันสุดท้าย ต้องรูปบัตรอย่างเดียว หรือไม่มีแม้แต่ตังค์จะกินข้าว ขึ้นรถไปสนามบิน (เคยมาแล้ว ขอบอก 5555)  และตังค์ไปสองหมื่นกว่าบาทเอ๊ง....รูดการ์ดไปพอหอมปากหอมคอ ทำให้มีเงินสดเหลือกลับบ้านอีกเป็นแสนวอนเยย....ฟินมากที่ control ตัวเองอยู่ด้วยคาถา เงินเหลือไม่เน่า เงินเหลือไม่เน่า ท่องไว้ๆๆๆ เพราะถึงยังไง คงได้กลับมาเกาหลีในเร็ววันอีกอย่างแน่นอน

 



 

อีก app นึงที่ขาดไม่ได้ คือ app สำหรับดูเส้นทางรถไฟใต้ดิน 
ความเจ๋งมันอยู่ที่ เราสามารถใส่สถานนีต้นทาง ปลายทาง และมันจะคำนวณระยะเวลาเดินทางให้เราเสร็จสรรพ แม่นยำมาก ชนิดที่เรียกว่า นั่งกดอยู่ในสถานนี แอ๊บบอกว่า รถขบวนต่อไปที่จะถึง กี่โมงๆ ณ จุดที่มันบอก รถไฟวิ่งมาจอดตรงหน้าตามเวลาเป๊ะ!!! รวมไปถึงหาสถานนีใกล้เคียงกับพิกัดที่เราอยู่ได้ด้วย บอกว่า ต้องต่อรถที่ไหน ตรงไหนยังไงบ้าง จ๊าบมาก 

 

 

สำหรับรถเมล์ มีแอ๊บชื่อ Seoul bus ส่วนใหญ่เป็นภาษาเกาหลีเลยไม่ได้ใช้งานจริง เพิ่งเห็นเหมือนกันว่า มันมีบอกป้ายรถเมล์ สายรถเมล์ จุดที่จอดอย่างละเอียดมาก โหลดไว้ยามจำเป็นเดาแผนที่ เดาเอาพอได้อยู่นะ App สนับสนุนการท่องเที่ยวเกาหลี จริงๆ มีแยกย่อยเยอะแยะ และทำดีมากมาย ยกตัวอย่างเช่นอันนี้ เผื่อจะโหลดมาอ่านเล่นๆ ในช่วงเตรียมตัว มีรายละเอียดที่จำเป็นมากมาย อ่านง่าย สั้น จบเข้าใจ นำไปใช้ได้จริง 

 

สำหรับการโทรหาคนที่บ้าน ถ้ามี app smartphone ด้วยกัน ก็ดีไป จะโทรผ่าน tango/skype หรืออื่นๆ ไม่เสียเงิน  สำหรับบ้านเรา คุณยายใช้มือถือราคาไม่เกินเครื่องละพันบาท จึงใช้วิธีนี้แทน ไม่รู้เป็นแอ๊บที่ดีหรือเปล่า เพิ่งเคยลองใช้ เห็นคนให้เรทติ้งใช้ได้

เมื่อโหลดมาใช้งานครั้งแรก จะให้เครดิตโทรฟรี เข้าเบอร์บ้าน เบอร์มือถือ เบอร์อะไรก็ได้ 5 นาที ทั่วโลก ต่อจากนั้น ต้องซื้อเครดิตเวลา ตามที่เห็น ซึ่ง 3.99 มันก็ร้อยกว่าบาท โทรได้ร้อยนาที ดูแล้วสามารถโทรไปโซนประเทศที่จำเป็นได้ครบถ้วน เช่น จีน แคนาดา มาเล ฮ่องกง เกาหลี ไทย 
จากการทดลองใช้ โทรกลับมาบ้าน ก็ โทรได้ชัดเจนดีนะ

 


App ของ jinair ใช้การได้ดี 


ส่วน app lonely planet จากที่เคยเป็นแอ๊บที่ดีมาก ด้วยสนนราคา 5 เหรียญ ดีกว่าต้องแบกหนังสือทั้งเล่ม เมื่อครั้งใช้ไปฮ่องกง หลังจากปรับเวอร์ชั่นใหม่ เกาหลีที่โหลดมา ดูเหมือนจะเอ๋อๆ แผนที่ไม่ขึ้นรายละเอียดสถานที่เลย ถึงแม้จะซูมเข้าไปใกล้ๆ  การเลือกสถานที่ในหมวดต่างๆ ดันตั้ง default เป็น เลือกทั้งหมด พอจะเลือกแค่บางที่ เช่น แหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร ต้องมานั่งติ๊กเอาอันที่ไม่สนใจออกไปทีละอัน ซึ่งมีมากกว่าสิ่งที่สนใจ (ในขณะที่เวอร์ชั่นเดิม ใช้วิธี เหมือนปิด เปิดเป็นเลเยอร์ ซ้อนๆ กันไป ซึ่ง  UI friendly กว่ากันมาก) ถ้ายังไม่ปรับปรุง สงสัยจะไม่ได้อุดหนุนกันอีกต่อไป 

 

 

Plan เที่ยว 5  วัน 4 คืน ในฤดูใบไม้ร่วง อากาศอยู่ที่ 10++ กลางคืนต่ำกว่า 10 ไม่ถึงกับหนาวมากจนเกินไปนัก แต่!! ตุลาคมของปีนี้ โซลยังมีฝนตกประปราย สลับกับท้องฟ้ามีเมฆครึ้มบ้างบางวัน
ความยากในการจัดแพลนอยู่ที่ ไปวัน จันทร์ กลับวันศุกร์...ซึ่ง วันจันทร์ พิพิธภัณฑ์​ วัด วัง หลายแห่ง ปิด ทงแดมุน หลายห้างปิด ในขณะที่แหล่งท่องเที่ยวบางที่ จะคึกคักช่วงเสาร์อาทิตย์...เสียดายจัง 
โปรแกรมเที่ยวเราจึงคลอดออกมาเป็นประมาณนี้ คร่าวๆ ไม่ fix เวลา เดินเรื่อยเปื่อยตามสถานที่ที่อยากจะไป โดยไม่อ้อมวกไปมามากนัก ไม่เร่งรีบ แล้วแต่อารมณ์ ณ ตอนนั้น 55555

 

วันแรก
แผน 1 เช็คอิน รร. เก็บของ ออกไปเดิน  Insadong/Samseongdong/Bukchon/อีฮวา/ฮงอิก  ถึงแม้ วังชางด็อก และอื่นๆ จะอยู่ในละแวกใกล้กันมาก แต่ปิด T_T
แผน 2 หลังจากเช็คพยากรณ์อากาศ ทุกสื่อบอกตรงกันว่า แนวโน้มฝนตก shower ทั้งวัน ทำให้ต้องจัดแผนสำรองเร่งด่วนแบบมึนๆ เลือกหาที่ไหนก็ได้ ที่ ห้างติดหรือใกล้กับสถานนีรถไฟใต้ดินมากที่สุด ชนิดว่า ดำดินกันทั้งวันไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน
เคียวโบ/ COEX mall/ วัดพงอึนซา/ ช็อปปิ้งใต้ดินกังนัม 

 

วันที่ 2 พระราชวังถ็อกซูกุง/เดินเล่นถนนเลียบกำแพงหิน ติดกับวัง Jeongdong Gil อ้อยอิ่งดู art museum/ นัมแดมุน รึ คาโรซกกีล เดินเล่นชีลๆ หรือ เย็นๆ เดินเล่นท่าเรือยออึยโด หรือ เมียงดง หรือ ทงแดมุน 
วันที่ 3 พาจู Heyri Art Village/ Namisom (ข้ามโลกกันเลยทีเดียว เหมือน เที่ยวสมุทรสงครามตอนเช้าและบ่ายไปสมุทรปราการ ไรประมาณนั้น) เย็นๆ ไปเดินช็อบเมียงดง รึ ถ้าไม่ได้ไปนามิ ก็ไปเดินเล่นที่ท่าเรือ ยออึยโด หรือ เมียงดง หรือ ทงแดมุน   

จริงๆ  Heyri art village บริเวณใกล้เคียงมี English village และสถานที่น่าเที่ยวอีกหลายที่ สามารถใช้เวลาทั้งวัน เดินชีลๆ ได้ พอนึกถึงพาลิโอ หรือซานโตรินี่ ที่มีฉากปลอมๆ ไว้ให้ดู ถึงแม้มันจะสวยดี ดิชั้นก็คิดว่า มันก็ใช่ที่แฮะ จึงไม่ได้ไป 
วันที่ 4 ซูวอนFolk Village/ ป้อมพัลแดมุน และพระราชวังฮวาซอง ครึ่งวัน จากนั้น กลับโซลมาซ้ำ ฮงอิก รึอีฮวา รึทงแดมุน 
วันที่ 5พระราชวังชางด็อกกุง ศาลเจ้าจงเมียว บ่ายโมง ออกเดินทางไปสนามบิน (ไฟลท์ 17.20)

การเดินทางจากสนามบินไปที่พัก ใช้ Airport Limousine สะดวกสบายอยู่นะ ค่ารถ 10000 วอน เช็คเส้นทาง สายรถได้จาก https://airportlimousine.co.kr/

 พนักงานจะช่วยเก็บกระเป๋าใส่ใต้ท้องรถ พร้อมให้คูปองเบอร์กระเป๋ามาด้วย เวลาลงก็ยื่นให้เค้า คนขับนอกจากขับรถแล้วยังช่วยยกกระเป๋า สารพัดประโยชน์จริงๆ


เดินจากป้ายรถเมล์ มาไม่ไกล จะถึงที่พัก วันที่ไปถึงฝนตกฟ้ารั่ว รูปนี้ถ่ายวันหลังๆ ละจ้า


ด้านล่างเป็นร้านดอกไม้น่ารักๆ ส่วนที่พักอยู่ชั้น 2-3 ต้องแบกเป๋าขึ้นบันได (ไม่อยากจะคิดสภาพช็อบเยอะๆ แล้วต้องกลิ้งลงบันไดขากลับเหอะ)


ด้านใน มีห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ (2 ห้อง แยกเป็นห้องผู้หญิง กะห้องรวม แต่ละห้องมี shower 2 ห้อง)  ห้องสุขา อีก 4  ผ้าเช็ดตัว ไดร์ส่วนกลางไว้ให้ใช้
 
ห้องน้ำ ควรเตรียมพร้อม หาถุง หากระเป๋า ที่แขวนได้ เพื่อที่จะสะดวก ห้องน้ำไม่มีประตูมิดชิดมากนัก จะล็อคประตูด้านนอกก็เกรงใจ เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาอาบไม่ได้ ครั้นจะอาบน้ำอยู่มีม่านกัน ละมีคนเปิดเข้ามาก็หวิวๆ เหมือนกันนะ  แต่ไม่มีไรจะเสีย 5555
ห้องนอน female dorm มี 4 เตียง มีตู้เย็น ที่แขวนเสื้อ ไม่มีที่เก็บกระเป๋านะ ก็วางๆ เอาไว้ ทรัพย์สินมีค่าก็ดูแลกันตามยถากรรม มีปลั๊กพ่วงให้ หลายรู แต่ทางที่ดี ขนหัวแปลงและปลั๊กพ่วงมาเองด้วยจะสะดวกกว่ามาก 
ใครจะได้เตียงบน เตียงล่าง ก็แล้วแต่ดวง เลือกไม่ได้จ้า (เตียงบนก็ไม่อึดอึดนะ แต่ต้องปีน ตอนเราไป มีแค่รูมเมทเป็นไต้หวัน 1 คนเท่านั้น เลยเลือกนอนเตียงล่างกันทั้งคู่)
บริเวณรอบๆ ที่พัก อุดมสมบูรณ์ มีสตาร์บัค ร้านของกิน 24 ชม เซเว่น และมินิมาร์ท มีร้านค้าร้านอาหารบริเวณรอบๆ เพียบบบบบ กลางคืนไม่เงียบเหงา แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ชุมชนมากจนเสียงดัง เดินห่างจากสถานนีรถไฟ Chungmuro ไม่ถึงร้อยเมตร ซึ่งเป็นสถานนี้นี้ interchange ระหว่างสายสีฟ้า (เมียงดง ทงแดมุน) และส้ม (Ankuk/Eujiro 3 ga หรือจะลงไปทางทิศใต้ อย่างย่านกังนัม ก็ใช้รถไฟฟ้าสีนี้) จัดว่าสะดวกมาก โดยภายในสถานนีจะเปลี่ยนสายรถไฟ ก็เดินไม่ไกลมากก ขาลากเหมือนบางสถานนีที่เป็น hub ใหญ่ๆ สถานนีซ้อนกันหลายสาย ถึงจะสะดวก แต่เดินจนเมื่อย


วันแรก ฝนตกตลอดทั้งวัน แผนการณ์จะเที่ยว outdoor เป็นอันพับเก็บไป ถือโอกาสช็อบปิ้ง รูปไรไม่ได้ถ่าย  เป้าหมายแรกเคียวโบ ต่อด้วยห้างใต้ดิน(จำชื่อไม่ได้) ที่ต่อกับสถานนีรถไฟ exchange bus terminal แถวกังนัม เลือกที่ที่ไม่ต้องออกไปเดินข้างนอกให้เปียกฝน เพราะเป็น indoor ช็อปปิ้งที่ยาวมากกกกกกกกก มีเสื้อผ้าราคาไม่แพงให้เลือกซื้อมากมาย(ถึงแม้ไซส์ใหญ่ ขนาดจะประมาณ M ของไทย กางเกงตัวเล็ก ขาเล็กมากกกกกก สาวไซส์มินิ และไซส์ M  คงจะฟินสุดๆ) ของจะคล้ายเดินจตุจักร รึสยามติดแอร์ ราคา 5000-10000 วอน  ถึงของอาจจะโหลๆ หน่อย แต่ก็ยังไม่โหลเท่าทงแดมุน (ถือว่าคัดมาให้แล้วระดับนึง) 
เป็นอีกที่ ที่ให้สาวๆ ช็อบกันได้เพลิดเพลิน สบายกระเป๋า เดินแค่นี้ก็ขาลากยัน 6 โมงเย็น สะโล๋สะเล๋ ง่วงนอน ลืมตาไม่ขึ้น กลับไปที่พัก หอบกระเป๋าเข้าห้อง ยืดแข้งยืดขา หลับคร่อกกกก ตื่นมา 2 ทุ่ม ฝนหยุดตกได้เวลาเริงร่า ออกไปหาข้าวกินและเดินเมียงดง เหมา Kosney  หมดตัวกันตั้งแต่วันแรก...โฮววว...


การเดินทางไปมาแต่ละสถานนีรถไฟฟ้าใต้ดิน มีป้ายบอกทางค่อนข้างละเอียด แต่!! จำเป็นต้องอ่านตล๊อดๆ นะจ๊ะ ไม่งั้น หลงเดินขึ้นเดินลง ขึ้นรถไฟผิดด้านนะ เพราะบางสถานนี ไป เหนือ ใต้ ออก ตก สามารถลงไปเจอกัน รอรถสองฝั่งซ้ายขวาได้แบบสยาม แต่ บางสถานนี จะต้องลงคนละด้าน ถ้าลงผิด ต้องไต่บันไดขึ้นมา ย้ายฝั่ง  เมื่อยนักแล

วันแรกจบไปแบบหนาวยะเยือก ปลาย่างบนขวา เป็นร้านแถวที่พัก...มื้อนี้ 7000 วอน ถูกกว่าโอโตยะอีกอะ น้ำเปล่า ฟรีตล๊อดๆ เดินผ่านตอนกลางวันคนทำงานมากินเต็มร้านเยย
 
 อะ อะ แบ่ง แบ่ง อ๊ามมมมมมมมมมมม
 


กุ๊ดจัง

กุ๊ดจัง

FULL PROFILE