10 แอปเด็ด มีติดเครื่องไว้เหอะ สาวแอนดรอยด์

18 16

คราวก่อนโน้น เคยเขียนแนะนำแอนดรอยด์เบื้องต้นไว้ แล้วหายไปนานเลย คราวนี้โผล่กลับมาใหม่ พร้อมแอนดรอยด์เครื่องใหม่จ้า

สิ่งนั้นคือ.... Galaxy S4 จริงๆ ก็ไม่ได้ใหม่หมาดๆ วางตลาดมาพักนึงแล้ว เอามาลองใช้สักพักใหญ่แล้วค่อยโม้สรรพคุณ ทั้งขนาดที่กำลังดี และเครื่องที่เร็วปรี๊ด ชอบหลายฟังก์ชั่นมาก โดยเฉพาะสารพัดการถ่ายภาพ ขอบอกว่าถูกใจหญิงมาก...กกกก 


แต่ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือ Smart Scroll ฟังก์ชั่นนี้เก๋มากๆ เปิดเบราวเซอร์ขึ้นมา รอไอคอนรูปตาขึ้นมาให้ประทับตำแหน่งสายตานิดนึง เท่านั้นแหละสิ่งที่เราอ่านอยู่มันก็จะเลื่อนขึ้นเลื่อนลงไปในทิศเดียวกับหน้าของเรา ไม่ต้องยกมือขึ้นมาลาก ซึ่งแม้ส่วนใหญ่เราจะถนัดใช้มือลากเวลาอ่าน แต่มีฟีเจอร์นี้มาช่วยในบางครั้ง ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ และทำเป็นเล่นมายากลอวดเพื่อนได้อีกด้วย (ให้แอบจิ้มไปอ่าน... สาวออฟฟิซชีวิตเรื่องเยอะๆ มี Galaxy S4 เครื่องเดียว 'จบ')


สนุกกับฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นต่างๆ นานาของ Galaxy S4 ไปพักนึง ก็ต้องหาแอปมาเติมเพิ่มความสะดวกให้กับชีวิต … สาวนักโหลด(แอป) อย่างอิฉันจึงเริ่มทำงาน ค้นหาสิ่งดีๆ ที่ถูกจริตใน Google Play Store


นอกจากแอปสามัญประจำเครื่องที่เคยแนะนำไว้ในภาคก่อนโน้นแล้ว ("แอนดรอยด์" (Android) ใครว่าใช้ยาก) มาคราวนี้เราจะแนะนำพวกที่ใช้ประจำๆ คู่ชีพหลายตัว (อ่อ ไม่นับพวกโซเซียลและแชททั้งหลายนะ … อันนั้นเป็นของตาย... ใช้กันจนตายไปข้าง -_-") 

แอปบางอันช่วยชีวิตเราได้เลย ขณะที่บางอันมีไว้อุ่นใจ บางอันมีไว้เพิ่มความสวย (ได้ด้วย) ตัดใจเลือกมาอวดแค่ 10 แอป แบบว่า สาวๆ ดาวน์โหลดมาใช้กันเหอะ... 



(ถ้าอ่านไป แล้วเกิดสนใจแอปไหน กดที่ภาพไอคอนแอป ก็เด้งไปที่ Play Store พร้อมให้ดาวน์โหลดกันเลยนะ)
 

1. Sleep If You Can (Alarms)

ตั้งแต่มีโทรศัพท์มือถือ ใครๆ ก็เอามาใช้เป็นนาฬิกาปลุกกันถ้วนหน้า เพราะว่ามันตั้งเตือนได้แบบว่า เตือนแล้วเตือนเล่า (แต่เราก็ยังไม่ตื่นอยู่ดี) ซึ่งเราก็ลองมาแล้วสารพัดแอป ก็หาได้ขจัดนิสัยไม่อยากลุกจากที่นอนออกไปได้


ปัญหานี้ซาร่าหาทางออกพบแล้วด้วยแอปตัวนี้เลย Sleep if You Can แค่ชื่อแอปก็แบบว่า เอาซี้.... ยังจะหลับได้อีกหรอ เป็นแอปที่ไม่มีปุ่ม Snooze แถมยังปลุกด้วยฟังก์ชั่นที่ท้ายทาย นั่นก็คือให้เราถ่ายภาพอะไรสักสิ่งไว้ พอถึงเช้า เสียงที่ตั้งปลุกจะไม่เงียบ จนกว่าเราจะถ่ายภาพนั้นซ้ำ

แปะวิดิโอสาธิตจากผู้พัฒนากันเลยดีกว่า … เค้าชวนให้ไปตั้งภาพปลุกเป็นอะไรสักอย่างในห้องน้ำ ตื่นมาจะได้ตรงไปปฏิบัติภารกิจเลย​ 



ไงล่ะเจ๋งจริง สื่อหลายสำนักบอกว่า เป็น World's Most Annoying Alarm App จริงๆ มันก็เป็นเทคนิคเดียวกับที่เคยพยายามเอานาฬิกาไปวางไว้อีกมุมห้อง เพื่อจะกระเด้งออกจากเตียงขึ้นมาปิด เพราะความขี้เซาไม่เข้าใครออกใคร แล้วทำแบบนี้ตื่นกันป่ะล่ะ ?

 


2. Google Keep

สาว multi-tasking อย่างเรา ทั้งงานหลวงงานราษฎร์ไม่อยากขาดไม่อยากเว้น แถมมีข้อมูลต่างๆ นานาผ่านเข้าออกหัวมากมาย จำไม่หวาดไม่ไหว (จริงๆ ความจำสั้น 
) พวกแอป Reminder จดบันทึก จำข้อมูลต่างๆ เลยจำเป็นยิ่งนัก 


ตอนนี้กำลังแอบชอบ Google Keep อยู่ค่ะ เพราะเหมือนเป็นโพสต์อิท แปะลงไปบนหน้าจอ ใส่ได้ทั้งตัวอักษร ภาพ และบันทึกเสียงได้อีกต่างหาก 

Google Keep นี้จะเขียนข้อความ หรือทำพวก To Do List เป็น Check List ก็ได้เลย ภารกิจไหนทำเสร็จแล้วก็ติ๊กลงไป งานนั้นๆ ก็จะเคลียร์ออกไปจากโน๊ต หรือใช้เวลาลิสต์อยากซื้อของอะไร ซื้อแล้วก็ติ๊ก จบ เคลียร์ ไม่ต้องซื้อซ้ำ จะแนบเสียงลงไปในแต่ละโน๊ต เวลาฟังแค่กดปุ่มเพลย์ แถมยังเลือกสีของแต่ละโน๊ต ให้จัดหมวดหมู่และความสำคัญได้อีก 


​ความเก๋อีกอย่างคือ ทำเป็น widget มาโชว์ที่หน้าจอ ขยับไซส์ตามต้องการ จะได้เห็นสิ่งที่เราโน๊ตไว้ หน้าจอเราก็จะมีข้อความต่างๆ นานาโชว์อย่างมีสีสันไม่น่าเบื่อ

แต่ที่ทำให้ชอบใช้ Google Keep นี้ เพราะถ้าใครใช้ Chrome เป็นเบราวเซอร์หลักบนคอมพิวเตอร์ ก็สามารถใช้งาน Google Keep ได้ด้วย โดยไปที่ Chrome Extension บนจอคอมพิวเตอร์ แล้วจัดการ Install ลงไปซะ จากนี้จะแปะโน๊ตจากคอม หรือ ก็อปข้อความจากมือถือมาใช้งาน ก็ซิงค์กันสะดวกเลย

 

หน้าตา Google Keep บน Google Chrome ไม่ว่าจะพิมพ์จากสมาร์ทโฟน หรือ เบราวเซอร์ ถ้าต่อเน็ตด้วย อัพเดทระหว่างกันเร็วมาก ไม่ต้องกังวลว่า บนมือถือจะได้ข้อความมา Keep อย่างที่ต้องการหรือเปล่า แอปนี้ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน สีสันกำลังดี ชอบจริงๆ ค่ะ



3. Evernote food

ตั้งแต่ได้ Galaxy S4 มาไว้ในครอบครองนี่ ชอบถ่ายรูปขึ้นอีกเป็นกอง โดยเฉพาะ "อาหาร" กลายเป็นธรรมเนียมประจำตัวไปแล้วว่า แทบทุกมื้อก่อนลงมือ ก็จะต้องถ่ายเก็บไว้ (ถ่ายละเอียดแบบหลายมุม หลายจาน) กว่าจะได้กินก็ยอม...มมม


ก็มันอยากเก็บไว้เลยถ่ายไปเพียบ แต่ถ้าจะแชร์ผ่าน Social Network ต่างๆ นานาก็กลัวจะเยอะเกิน บางมื้อ (ที่ทำเองเฟลๆ) ก็อยากเก็บไว้ดูกันเองกับคนรอบตัว Evernote Food นี้ช่วยได้ดีเลย มื้อนึงเก็บอาหารได้หลายภาพ ระบุรายละเอียดต่างๆ พร้อมทั้งตั้งร้านได้อีกด้วย 



เวลาไปทานอาหาร หรือ ทำกินเอง เราก็จะชอบถ่ายเก็บไว้ ค้นหาพิกัดและชื่อร้าน ใส่รายละเอียดแต่ละภาพลงไป ตอนนี้มีฟังก์ชั่นน่าสนใจเพิ่มมาอีก นอกจากจะบันทึกอาหารแต่ละมื้อของเราแล้ว ก็ยังช่วยหาร้านละแวกใกล้เคียง มีภาพและสูตรอาหารที่น่าสนใจ (และสวยๆ) มายั่วยวนเราให้อยากทำตาม

Evernote Food เป็นแอปลูกของ Evernote ค่ะ จริงๆ เราเป็นสาวก Evernote อยู่ด้วย เพราะชอบจด ชอบบันทึก แล้วมันซิงค์ไปมากับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างเริดเลอ ซึ่ง Evernote Food นี่ก็เป็นแอปที่ติดใจเป็นอันดับถัดมาจากค่ายนี้ เพราะช่วยเราบันทึกเรื่องราว อาหารที่เราไปกินในแต่ละมื้อ

นอกจากจะเป็นไดอารี่ด้านการกินส่วนตัวแล้ว เวลาท้องเสียมีปัญหากับระบบย่อยอาหาร ไปหาหมอพร้อมข้อมูลกองนี้ ... ช่วยได้เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ !!
 

กินอาหารกันไปแล้ว เราก็ต้องดื่มน้ำกันให้เยอะๆ ด้วยนะคะ (ยังคงวุ่นวายอยู่กับการกิน 555) วันๆ นึงเราต้องดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้ว แล้วถ้าดื่มน้ำไม่พอจะเป็นยังไง … ร่างกายขาดน้ำ และผิวก็จะเหี่ยว หน้าก็จะมัน โอย…ยยย ไม่ยอม...มมม

บางทีถึงขนาดเอาแก้วน้ำ ขวดน้ำมาวางไว้ตรงหน้าแล้ว แต่อยู่หน้าจอเพลินๆ มารู้ตัวอีกทีผ่านไปหลายชั่วโมง ไม่ได้ดื่มน้ำสักนิดเดียว

แอปนี้แหละ จะช่วยเตือนให้เราดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่พอเพียง



แอปนี้ไม่ซับซ้อน ใช้ง่ายๆ (ภาพตัวอย่างเอามาจาก Google Play นะคะ ไม่อยากโชว์ข้อมูลน้ำหนักของตัวเองอ่าาาา เขิลลล 
) แรกเริ่มเลยก็ให้ใส่น้ำหนักของเราลงไป (กดที่ปุ่มไขควงมุมซ้ายบน) แล้วแอปจะแนะนำปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวัน วัดจากค่าน้ำหนักตัว 

สมมติเราใส่ว่า 55 กิโลฯ แอปจะบอกว่า เราควรดื่มน้ำวันละ 1,815 ml. เวลาเราดื่มน้ำ เราก็เลือกชนิดของภาชนะ (จริงๆ มันคือปริมาณน้ำที่เราดื่ม) จะแบบขวด แบบแก้ว หรือถ้วยชาน้อยๆ แอปก็จะบันทึกปริมาณไว้ให้ว่าดื่มไปเท่าไหร่แล้ว และยังมีเป็น widget ให้ตั้งที่หน้าจอได้อีกนะคะ ว่าเราดื่มน้ำไปกี่เปอร์เซ็นต์ของที่ต้องการในวันนี้แล้ว และแอปก็จะส่งเสียงเตือน หากในช่วง 1 ชั่วโมงนั้นๆ เราไม่ใส่ข้อมูลลงไป

ตอนแรกๆ ที่แอปส่งเสียงเตือน ก็ยอมรับว่าเขินเพื่อนๆ รอบตัว แต่อยากผิวสวย หน้าผ่องอ่ะ ก็เปิดเสียงไว้ และมันก็เตือนตลอด เลยรู้พฤติกรรมตัวเองว่ากินน้ำน้อยมาก พอแอปเตือนปุ๊บก็ขยับร่างออกจากโต๊ะไปหาน้ำดื่มปั๊บ ดีนะคะ นอกจากจะได้ดื่มน้ำให้เพียงพอแล้ว ยังชวนให้เราขยับร่างกายด้วย (นั่งนานไปแล้วล่ะ)

ตอนนี้พอแอปเตือน เพื่อนๆ ก็พลอยขยับกินน้ำตามกันไปด้วย อย่างงี้เรียกว่า พากันสวย เป็นแอปเพื่อนช่วยเพื่อนได้เลยทีเดียว ^^/



5. Period Calendar/ Tracker

เป็นผู้หญิงก็ต้องดูแลตัวเองหลายสิ่งค่ะ อย่างเรื่อง "วันนั้นของเดือน" ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราๆ การบันทึกรอบเดือน ความผิดปกติต่างๆ นี่สำคัญมาก ยิ่งละเอียดยิ่งมีประโยชน์ทีเดียว


แต่แหม...มมม ชีวิตมีแต่การบันทึกโน่นนี่นั่น บางครั้งก็เพลียนะ ตกดึกก่อนนอน สิ่งที่ต้องทำคือนั่งก้มหน้าสักการะมือถือ บันทึกรายรับรายจ่าย (จะได้รู้ว่ามีตังค์เหลือให้ช้อปอีกมั้ย) บันทึกรายการอาหารที่กินไป การออกกำลังกาย (พี่แคลอรี่นี่เราต้องดูแลอย่างดี อย่าให้มาเยี่ยมเยอะเกิน) และยังจะต้องบันทึกอะไรอีกสารพัดจะบันทึก 

แต่พอมาเจอแอปน่ารักๆ ใช้ง่าย และมีให้บันทึกสิ่งที่ผู้หญิงตัวน้อยๆ อย่างเราต้องการครบถ้วน ในช่วงวันนั้น จะรออะไร


Period Calendar/ Tracker ตัวนี้ล่ะ .... ใช้เพลินเลยขอบอก ไอคอน สีสันต่างๆ นานาน่ารักมาก แอดข้อมูลไปก็รู้สึก สนุก รีแลกซ์ไป ยิ่งช่วงวันนั้นของเดือนที่แสนหงุดหงิดง่าย พอมาเจอภาพน่ารักๆ ก็โอเคนะ อยากใช้

หลักๆ ของแอปนี้ก็คือการบันทึกรอบเดือนของเรา และเมื่อแอปได้ข้อมูลรอบเดือนเราไปสัก 2-3 รอบ ก็จะทำนายใดๆ ได้หลายสิ่ง ทั้งช่วงวันที่จะแดงเดือด วันไข่ตก (สำหรับคนที่ต้องการมีตัวน้อยก็ช่วงนี้แหละ หรือใครที่ยังไม่พร้อมก็ทำสนธิสัญญากับคุณผู้ชายไว้) 

ความน่ารักของแอปคือ จะมีน้องแมว หมา กระต่าย (ใครชอบตัวไหนก็เลือกเอา) มาทำหน้าแบ๊วๆ ให้กดถ้าถึงวันนั้นของเดือน และ หมดช่วงแดงเดือดก็กดอีกที จะเล่นง่ายๆ แค่นี้จบก็ได้

แต่แอปมีความสนุกกว่านั้น.... ตรงที่แต่ละวันเราสามารถใส่ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปอีก เช่น อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ให้ดาวกันไปเลย ดาวมากเป็นมาก สารพัดจะอาการในวันนั้น พอใส่อาการเสร็จ ก็ใส่อารมณ์ลงไปได้ ซึ่งไอคอนอารมณ์จะน่ารักไปไหน แค่นั่งจิ้ม 2 ฟังก์ชั่นนี้ก็ฟินแล้ว หรือจะเพิ่ม Note​ เขียนรำพัน​ บันทึกสภาวะผู้หญิงแดงเดือดลงไปบ้าง ก็ระบายลงไปเล้ย


เมื่อใส่ข้อมูลต่างๆ นานาเสร็จ เรามาดูย้อนหลังจะเห็นความลำบากยากแค้นของการเกิดเป็นหญิงในช่วงวันนั้น (ฮ่า เขียนเอาขำนะ จริงๆ ไม่ลำบากขนาดนั้นหรอก) เราจะได้สังเกตอาการตัวเอง ว่าเป็นไง แล้วจะได้รับมือถูก บางทีโทษฮอร์โมนบ่อยไปก็ไม่ไหวนะเธอ ... เห็นใจคนข้างๆ บ้าง (โดยเฉพาะคุณผู้ชายข้างกาย)

จริงๆ แอปนี้ก็มีประโยชน์มากมายสำหรับสาวๆ เลยนะ คือ การเก็บข้อมูลพวกนี้ ช่วยให้เรากับคุณหมอ(สูติ) คุยกันถูกคอมากขึ้น ไหนๆ ก็ต้องตรวจภายในปีละ 1-2 ครั้ง เวลาหมอสัมภาษณ์อ่ะ เปิดชาร์ตให้ดูเลย มันมีบันทึกน้ำหนัก อุณหภูมิ และการกินยาด้วย เราแทบไม่รู้ว่า ยาต่างๆ เกี่ยวข้องกับความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นยังไง พอคุณหมอเห็น ก็วินิจฉัยได้แม่นยำมากขึ้น เพราะข้อมูลคนไข้อลังการมาก... จากนี้ก็ไม่ต้องกังวลใจกับโรคภัยบางสิ่งของคุณผู้หญิงแล้วเลยค่ะ 
 


 6.ยาแอนด์ยู

อ้างถึงเรื่องการใช้ยา จากแอป Period ไป ก็เลยคิดได้ว่า ในหลายกรณีที่เราเป็นอะไร เราก็เลือกยาใช้เอง ทั้งปวดท้อง ปวดหัว หรือบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ปฐมพยาบาลกันก่อน หนักแล้วค่อยดั้นด้นไปหาหมอ

การเลือกใช้ยาเอง หรือ การปรึกษาเภสัชกรปากซอยบ้าน บางครั้งก็ไม่มั่นใจว่า จะถูกกับโรคหรือถูกกับเราหรือเปล่า ครั้นจะอ่านฉลากข้างซองก็ไม่เข้าใจอ่ะ หรือร้านขายยาก็เขียนชื่อยามาให้เราพึ่งอากู๋อย่างเดียว หลายครั้งก็ลำบากใจที่จะกิน แต่จำเป็น... ทำไงดี

"ยา แอนด์ ยู" นี่เลยค่ะ แต่ก่อนใช้บริการบ่อยบนเว็บไซต์ ตอนนี้แปลงร่างเป็นแอปแล้ว มีพกติดเครื่องไว้เลย เวลาไม่สบาย หรือต้องช่วยคนรอบข้างตัดสินใจใช้ยา ก็เปิดหาชื่อยาได้ทันใจ
 

 


ยาแอนด์ยูพัฒนาโดยเนคเทคและมูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา มีความน่าเชื่อถือด้านข้อมูล แต่หน้าตาแอปก็... สามัญธรรมดา (บอกแล้วว่าเน้นที่ข้อมูล) ค้นได้ทั้งชื่อยาจากยี่ห้อ (ยาทางการค้า) และยาสามัญ นึกชื่อยาแบบไหนออก ก็พิมพ์ค้นได้เลย แล้วเราจะเห็นทั้งชื่อสามัญ และชื่อที่เรียกติดปาก (คือถ้าไม่ถูกกับยี่ห้อนี้ก็ลองหาชื่อสามัญดู ก็จะปรากฎอีกหลายยี่ห้อให้พิจารณา)

ข้อมูลของยาแต่ละตัวมีรายละเอียดเยอะ โดยเฉพาะวิธีการใช้ ใช้ทำไม ใช้แล้วจะเป็นไง ซึ่งเค้าระบุอาการข้างเคียง ตั้งแต่ระดับเบาๆ ยันรุนแรง อ่านแล้วอาจจะไม่กล้าใช้ยาบางตัวไปเลย แซึ่งบางทียาที่ใช้อยู่ประจำ (ด้วยความเคยชิน) ก็อาจจะมีผลข้างเคียงมากกว่าที่เราคิด

แอปนี้ช่วยการปฐมพยาบาลเฉพาะหน้า และเพิ่มความเข้าใจยาต่างๆ ที่หมอสั่งมา ท้ายที่สุดแล้วจะกินยาอะไรยังไง ก็ควรจะให้หมอสั่งอยู่ดีนะคะ ... ถึงเราจะไม่ได้เป็นหม่อมของคุณชายหมอ แต่สาวๆ อย่างเราจะต้องเรียนรู้ไว้ เพื่อคอยบอกคนรอบตัว ก็แหมใครป่วยทีไร ก็ต้องหันมาทางเราๆ หวังจะให้พยาบาลใช่มั้ยล่ะ






หลายคนเห็นข่าวอาชญากรรมถี่ๆ แล้วก็แอบบ่นว่าสังคมสมัยนี้อยู่ยาก การใช้ชีวิตสำหรับผู้หญิงน่ารักๆ อย่างเราๆ ก็เหมือนการเสี่ยงดวง ออกไปนอกบ้าน จะนั่งแท็กซี่ นั่งรถเมล์ หรือ เดินตามถนน อาจจะกลายเป็นคนนึงที่โชคร้าย ประสบภัยแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

แอปนี้ค่ะ Circle Of 6 ไม่ได้ช่วย 100% แต่สร้างความอุ่นใจให้เราว่า ถ้าเกิดสถานการณ์จวนตัว เราจะสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากคนสนิทของเราได้พร้อมๆ กันถึง 6 คนเลย ด้วย 2 คลิกเท่านั้น !! 

 


ก่อนใช้แอปก็จัดการเซ็ตค่า แอดเพื่อนสนิท คุณพ่อคุณแม่ คุณแฟนใครก็ตามที่เราคิดจะโทรหาได้ทุกเมื่อยามฉุกเฉิน กดบวกเพื่อไปเลือกรายชื่อเพื่อน (ที่มีเบอร์โทร) จาก contact list ของเรา จนได้ 6 คนครบ Circle Of 6 จากนั้นแอปก็จะขออนุญาตเราส่งข้อความหาทั้ง 6 คนว่า ได้รับเลือกแล้วนะ ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินอย่าลืมตอบสนอง (แต่จะให้ดีควรโทรบอกคนสนิททั้ง 6 ไว้ด้วยก็ดีนะคะ เดี๋ยวเค้านึกว่าสแปม)



วิธีการใช้แอปนี้ก็คือ จะมีตัวเลือก 3 กรณี เมื่อเลือกสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง แอปจะส่งเป็น SMS ไปให้ทั้ง 6 คนที่เราแอดไว้ค่ะ อย่าง รูปรถยนต์ คือ ต้องการให้มารับ ตัว SMS ที่ส่งไป จะแนบลิงค์พิกัดจาก Google Map ให้เลย แต่เป็นระยะประมาณนะคะ อย่างน้อยก็ทำให้เพื่อนของเราเข้าใกล้บริเวณที่เราประสบเหตุมากขึ้น แล้วโทรหาเราเพื่อพาออกจากที่ตรงนั้น

รูปโทรศัพท์ คือ เราต้องการให้เพื่อนโทรหา ขอแค่โทรมาเอง เพราะตอนนี้โดนรบกวน เหตุแบบนี้หลายคนคงเป็น แค่ใครสักคนโทรหาเรา เราก็สามารถหลุดออกจากสถานการณ์ที่ไม่ต้องการได้แล้ว

ส่วนสัญลักษณ์ข้อความคือการส่งข้อความไปสอบถาม เพื่อกระชับถึงความสัมพันธ์ระหว่างกัน ไม่ได้ให้ช่วยเหลือเรื่องฉุกเฉินแต่อย่างใด (เป็นการเชิญชวนให้เยี่ยมเว็บของเค้า ที่รณรงค์ให้รักเคารพกัน และลดความรุนแรงกับผู้หญิง) 

สำหรับเครื่องหมายตกใจสีเหลืองๆ คือเบอร์โทร Hotline พวกสายด่วนที่จะช่วยเหลือ ในกรณีถูกคุกคามทางเพศ หรือ รักกันแต่แรงไปนะ​ ซึ่งเป็นเบอร์องค์กรนานาชาติ เค้าบอกว่าโทรฟรี แต่ไม่รู้สำหรับประเทศไทยต้องเสียค่าโทรหรือเปล่า เอาเป็นว่าใช้แค่ 2-3 ฟังก์ชั่น ที่ติดต่อเพื่อนเราละกัน

Circle Of 6 ได้รางวัลมากมาย มีทั้งแอนดรอยด์ และ iOS แต่สำหรับแอนดรอยด์จะใช้ง่ายกว่า เพราะตอนกดส่งขอความช่วยเหลือสามารถยิงข้อความตรงจากแอปได้เลย ส่วนใน iOS จะต้องเด้งไปที่ข้อความ และกดส่งข้อความอีกต่อ แต่แอบเสียดายนิด ที่เค้ายังไม่ทำ widget ถ้าได้แปะที่หน้าจอ แล้วกดขอความช่วยเหลือตรงๆ ทีเดียวไม่ต้องกดไอคอนเปิดแอปขึ้นมา ก็จะเยี่ยมมาก รอลุ้นให้เค้าพัฒนาต่อไป ซึ่งแอปนี้เกิดมาเพื่อผู้หญิงจริงๆ 



8.Thai Showtime

ผ่านมา 7 แอป แอบหนักไปหรือเปล่าเนี่ย... โลกมันไม่ได้อยู่ยากอย่างที่คิด ช่วงเวลาดีๆ ก็มีอยู่เยอะค่ะ ความบันเทิงหาได้รอบตัว ว่างๆ ก็ออกไปดูหนังสักเรื่อง จะเช็ครอบยังไงดี


แต่ก่อนเข้าแอปโรงหนังเปิดค่ายโน้นเวลาไม่พอดี มาเปิดแอปค่ายนี้อีกไม่แน่ใจ กลับไปค่ายโน้น กว่าจะเลือกรอบ เลือกโรงเสร็จ แอบเหนื่อย... จนมาเจอ Thai Showtime นี่แหละมันดีตรงที่เข้าไปดูแอปเดียว แล้วเห็นโรงหนังทุกเครือเลย ชอบโรงไหนพิเศษ ก็ Bookmark ไว้ได้ แค่กดดาวที่มุมขวาล่าง 



แอปนี้เข้าใจง่ายๆ ใช้ง่าย เลือกโรงหนัง เลือกสาขา ก็จะเห็นรายชื่อหนังและเวลาฉายของโรงนั้นๆ ไว้สำหรับชี้ชมชวนคนที่จะไปดูด้วยตัดสินใจ ว่าเรื่องไหน โรงใด เมื่อไหร่ดีจ๊ะ ถ้าเรื่องไหนฮ็อตฮิตไม่อยากรอคิว ก็โทรจอง หรือจะจองผ่านแอปของ Major , SF ที่เค้าทำไว้ก็ได้ ... น่าเสียดายที่ยังจองตรงจากแอปนี้ไม่ได้ แต่ก็เช็คผ่านแอปนี้ประจำ​ เพราะบ่อยครั้งก็อยากดูหนังลิโด้ สยามบ้างอะไรบ้าง (ตั๋ว 100 บาท ทุกเรื่องทุกวัน รักกันก็ตรงนี้)



9. Samsung Showtime

เป็นกันไหมคะ... บางครั้งก็อยากนอนเอ้งเม้ง ริมทะเล ป่าเขา ตากอากาศเก๋ๆ แต่... ละครอ่ะ คืนนี้ !! ยิ่งช่วง "คุณชายจุฑาเทพ"​ แล้ว ยิ่งเสียจริตไม่อยากออกจากบ้านไปไหน นี่จบไปแล้ว ไม่รู้จะติด "ดาวเรือง" กับคุณปลัดอีกหรือเปล่า จะซื้อโทรศัพท์รุ่นมีเสาอากาศก็ไม่ใช่เรา -_-"


ขอบคุณ Galaxy Showtime ที่ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ได้นั่งดูละครริมทะเล เย้เย! 



นอกจากจะ Live ช่องยอดฮิตแล้ว ยังมีช่องอื่นๆ อีก และที่สำคัญมีหนังและซีรีย์เกาหลีด้วย... กรีซซซซ (มีของญี่ปุ่น อเมริกาด้วยนะ ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง) ดูผ่าน Galaxy S4 ภาพคมชัดจริง (ต่อไวไฟ สะดวกใจกว่า 3G ในบางครั้งนะ) ดูกันไปเพลินๆ ยามเบื่อ หรือ ไปในทีที่ไม่มีทีวี ทำกิจกรรมมากมายแล้ว อยากพักร่างบ้าง ก็นี่แหละ ตัวเลือกอันแสนดี

แต่... Galaxy Showtime นี้เป็นช่วงพิเศษ ที่ปล่อยให้ชาว Samsung Galaxy ดูหนัง ทั้งไทยและเทศฟรีๆ มากกว่า 600 เรื่อง ถึงสิ้นเดือนนี้ (31 ก.ค. 56) เสียดาย ... ต้องรีบดูแล้วสิ ... แต่ยังไงก็ขอให้ขยายเวลาต่อด้วยเถิดเพี้ยงงงงง



 

อวดทำไม ใครๆ ก็รู้จัก ก็อวดให้คนที่ไม่ได้ใช้ Samsung Galaxy อิจฉาไง 
 แล้วก็เผื่อใครที่มี Galaxy ไว้ในครอบครอง แต่ยังไม่ทันสังเกตเห็นขุมทรัพย์แหล่งนี้ เพราะเป็นแอปที่ลงมาให้กับเครื่อง

 Galaxy Gift จัดส่วนลดไว้มากมาย สารพัดประเภทตั้งแต่กิน เที่ยว ช้อป รวมไปถึง gadget ต่างๆ ไม่ได้เอาใจสาวๆ อย่างเดียวระคะ มีของแมนๆ ด้วย (เราก็ส่องไว้ซื้อให้คุณผู้ชายไง ประหยัดคุ้มเลยนะ)



อย่างที่บอกว่า คงไม่มีใครไม่รู้จักแอปนี้ แต่... เราก็เพิ่งมาสังเกตเห็น My Point ที่ด้านขวาบนของแอปค่ะ ว่าได้มายังไง (ก็ไม่รู้) แต่รู้ว่า เวลาใช้สิทธิ์แต่ละครั้งคะแนนมันจะหายไปไม่เท่ากัน ใช้บ่อยๆ ก็หมดล่ะสิ T__T

จริงๆ ถ้าไม่มัวแต่มึน (อย่างเรา) แล้วกดตรง My Point ก็จะมีคำอธิบายไว้ว่า คะแนนนั้นท่านได้แต่ใดมา ก็เกิดจากการเข้ามามีส่วนร่วมกับแอปนี้นี่เอง คลิกไลค์ คอมเม็นต์ก็จะได้ 1-2 แต้ม แต่ถ้าล็อกอินเข้าทุกวีค ก็ได้ไปเลยครั้งละ 250 แต้ม โอเยอะแบบนี้ไม่ต้องกลัวหมดแล้วล่ะสิ แลกสบายใจไปเลย ^^ 
 


ว่าจะเล่าสั้นๆ แต่อิชั้นเป็นคนขี้โม้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย... ดีแล้วที่ตัดใจเลือกมาแค่ 10 แอป เพราะจริงๆ ใน Galaxy S4 ที่ถืออยู่ในมือ มีแอปอีกเพียบ คือ เครื่องเร็วมาก เลยลงกระหน่ำ ใครแนะนำแอปไหนน่าใช้ก็ลองลงดูเรื่อยๆ ค่ะ เป็นคนชอบลองของ เลยเจอแอปคู่ชีพ ถูกใจอยู่หลายตัว

ส่วนทั้ง 10 แอปที่เลือกมาเล่านี้ เพราะใช้ดีจึงบอกต่อ ... ถ้ามีโอกาสจะเอาแอปมาอวดอีกนะคะ แล้วสาวๆ มีแอปคู่ชีพอะไรมาโชว์ ก็แชร์กันได้นะคะ ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากลองเล่นแอปเดียวกับเพื่อนๆ บ้าง ^^